บทสรุปการประชุม FOMC เดือนธันวาคม: เวลาเผยแพร่และสัญญาณสำคัญที่ตลาดต้องจับตา
简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

บทสรุปการประชุม FOMC เดือนธันวาคม: เวลาเผยแพร่และสัญญาณสำคัญที่ตลาดต้องจับตา

ผู้เขียน: Rylan Chase

เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-29

ธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) มีกำหนดเผยแพร่รายงานการประชุม FOMC สำหรับการประชุมวันที่ 9–10 ธันวาคม ในวันอังคารที่ 30 ธันวาคม 2025 เวลา 14:00 น. ตามเวลา Eastern Time (ET)


รายงานการประชุม FOMC มักถูกมองว่าเป็น “การตัดสินใจครั้งที่สอง” ของตลาด โดยแถลงการณ์นโยบายจะให้ภาพรวมในระดับพาดหัวข่าว ขณะที่รายงานการประชุมจะเปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับมุมมอง การถกเถียง และความกังวลของคณะกรรมการ ทั้งนี้ FOMC Minutes จะเผยแพร่ตามปกติประมาณสามสัปดาห์หลังการตัดสินใจด้านนโยบาย ซึ่งสอดคล้องกับตารางมาตรฐานของเฟด


สำหรับเดือนธันวาคม สถานการณ์มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ เนื่องจากการประชุม FOMC เมื่อวันที่ 9–10 ธันวาคม 2025 มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐาน (basis points) สู่กรอบเป้าหมาย 3.50%–3.75% ขณะเดียวกัน นักลงทุนกำลังพยายามประเมินทิศทางและความเร็วของการผ่อนคลายนโยบายการเงินในปี 2026 โดยต้องระมัดระวังไม่ให้ตีความข้อมูลเงินเฟ้อหรือตลาดแรงงานที่ผันผวนเพียงครั้งเดียวมากเกินไป


กำหนดเวลาเผยแพร่รายงานการประชุม FOMC เดือนธันวาคม

ตามที่กล่าวข้างต้น รายงานการประชุม FOMC จากการประชุมวันที่ 9–10 ธันวาคม 2025 จะเผยแพร่ในวันอังคารที่ 30 ธันวาคม 2025 เวลา 14:00 น. (ET)


เวลาเผยแพร่รายงานการประชุม FOMC ตามเขตเวลาต่างๆ

ที่ตั้ง เวลาท้องถิ่น วันที่
นิวยอร์ก (ET) 14:00 น. อังคารที่ 30 ธันวาคม 2025
ลอนดอน (GMT) 19:00 น. อังคารที่ 30 ธันวาคม 2025
โตเกียว (JST) 04:00 น. วันพุธที่ 31 ธันวาคม 2025


ทำไมรายงานการประชุม FOMC เดือนธันวาคมจึงมีความสำคัญสำหรับต่อปี 2026?

รายงานการประชุม FOMC

รายงานการประชุม FOMC เดือนธันวาคม ไม่ใช่การประชุมที่เงียบสงบ คณะกรรมการมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐาน และกำหนดกรอบเป้าหมายของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (federal funds rate) ไว้ที่ 3.50%–3.75%


ในแถลงการณ์ เฟดยังระบุด้วยว่า อัตราเงินเฟ้อปรับสูงขึ้นตั้งแต่ต้นปีและยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นถ้อยคำที่ไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนักในช่วงที่ตลาดคาดว่าการลดดอกเบี้ยจะดำเนินไปอย่างราบรื่นโดยอัตโนมัติ


ประเด็นสำคัญที่แท้จริงซึ่งอาจถูกมองข้าม คือ ผลการลงคะแนนที่ไม่เป็นเอกฉันท์ เพราะสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการถกเถียงภายในคณะกรรมการได้ขยายตัวมากเพียงใด


จุดยืนในการลงคะแนน จำนวนเสียง สิ่งที่สะท้อนให้เห็น
สนับสนุนการปรับลดดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐาน 9 คณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นพ้องว่า ดุลยภาพของความเสี่ยงได้เปลี่ยนไปแล้ว
ต้องการปรับลดดอกเบี้ยมากกว่านั้นที่ 50 จุดพื้นฐาน 1 อย่างน้อยหนึ่งเสียงมองว่า ความเสี่ยงด้านตลาดแรงงานกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ต้องการคงอัตราดอกเบี้ยเดิม 2 กลุ่มส่วนน้อยที่มีนัยสำคัญยังคง ให้ความสำคัญกับความระมัดระวังต่อเงินเฟ้อ


รายงานการประชุม FOMC จะมีความสำคัญมากที่สุดในช่วงที่คณะกรรมการมีความเห็นแตกต่างกัน เพราะตลาดต้องการทราบว่า ความเห็นที่แตกต่างนั้นเกิดจากจังหวะเวลา ข้อมูลเศรษฐกิจระยะสั้น หรือทิศทางเชิงนโยบายระยะยาวสำหรับปี 2026


สัญญาณสำคัญที่ควรจับตาในรายงานการประชุม FOMC

รายงานการประชุม FOMC

1) เฟดมองเงินเฟ้อว่า “ติดค้าง” หรือ “กำลังทรงตัวลดลง”

แถลงการณ์เดือนธันวาคมไม่ได้สะท้อนว่าเงินเฟ้อกำลังปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยเน้นว่า อัตราเงินเฟ้อปรับสูงขึ้นและยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง


ในรายงานการประชุม นักเทรดควรจับตาว่า มีคณะกรรมการกี่รายที่มองแรงกดดันเงินเฟ้อเป็นเพียงชั่วคราว เทียบกับมองว่าเป็นปัญหาที่ฝังตัวและยืดเยื้อ


จุดที่ต้องสังเกตจากถ้อยคำ

  • หากรายงานยังใช้คำว่า “อยู่ในระดับสูง” แต่เพิ่มรายละเอียดว่าทำไมเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอลงได้ มักถูกตีความว่า เอื้อต่อสินทรัพย์เสี่ยงเล็กน้อย

  • หากรายงานอธิบายว่าเงินเฟ้อเริ่มกระจายตัว กดดันต่อเนื่อง หรือเชื่อมโยงกับความคาดหวังเงินเฟ้อ น้ำเสียงจะออกมาในเชิง เข้มงวดมากขึ้นอย่างรวดเร็ว


2) มุมมองของคณะกรรมการต่อ “ความเสี่ยงด้านขาลงของตลาดแรงงาน”

แถลงการณ์ระบุว่า ความเสี่ยงเชิงลบต่อการจ้างงานเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนจุดโฟกัสที่มีนัยสำคัญ


รายงานการประชุมควรช่วยอธิบายว่า อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดมุมมองนี้ และเป็นฉันทามติของคณะกรรมการส่วนใหญ่ หรือเป็นเพียงความกังวลของกรรมการบางรายเท่านั้น


สัญญาณเชิงปฏิบัติ

  • หากระบุว่า “คณะกรรมการจำนวนมาก” กังวลต่อความอ่อนแอของตลาดแรงงาน ตลาดจะตีความว่า เงื่อนไขสำหรับการลดดอกเบี้ยในอนาคตต่ำลง

  • หากเป็นเพียง “คณะกรรมการบางส่วน” ตลาดจะมองว่า เฟดยังสามารถหยุดพักนโยบายได้


3) การลดดอกเบี้ยเดือนธันวาคมเป็น “ประกันความเสี่ยง” หรือจุดเริ่มต้นของวัฏจักรใหม่

การลดดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐาน อาจมีความหมายได้สองแบบที่แตกต่างกันอย่างมาก:

  • เป็นมาตรการป้องกันความเสี่ยง เพื่อพยุงการเติบโต ขณะที่เฟดยังจับตาเงินเฟ้อ

  • หรือเป็นก้าวแรกของการลดดอกเบี้ยต่อเนื่องที่อาจยืดไปถึงปี 2026


รายงานการประชุมควรสะท้อนว่าแนวคิดใดได้รับการสนับสนุนมากกว่า โดยเฉพาะในกลุ่มกรรมการที่โหวตสนับสนุนการลดดอกเบี้ย


4) นโยบายการเงินเข้าใกล้ระดับ “เป็นกลาง (Neutral)” แค่ไหน

คำถามที่ตลาดให้ความสำคัญมากที่สุดคือ เฟดมองว่านโยบายการเงินยังตึงตัวเพียงใด


  • หากรายงานชี้ว่า อัตราดอกเบี้ยยังคงตึงตัวอย่างมีนัยสำคัญ การลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมจะอธิบายได้ง่ายขึ้น

  • หากระบุว่านโยบาย เข้าใกล้ระดับเป็นกลางแล้ว โอกาสในการหยุดพักนโยบาย จะเพิ่มสูงขึ้น


5) ขนาดของกลุ่มที่สนับสนุน “การหยุดพักนโยบาย”

มีกรรมการ 2 เสียงที่โหวตให้คงอัตราดอกเบี้ยเดิม ซึ่งมีความสำคัญ เพราะสะท้อนว่ามีกลุ่มที่กังวลต่อการผ่อนคลายนโยบายเร็วเกินไปจริง


รายงานการประชุมจะช่วยตอบว่า ความกังวลนี้มีผู้เห็นด้วยอย่างเงียบ ๆ มากกว่านั้นหรือไม่ แม้จะโหวตสนับสนุนการลดดอกเบี้ยก็ตาม


นี่คือหนึ่งในสัญญาณที่ใช้เทรดได้ชัดเจนที่สุด

โดยทั่วไปแล้ว กลุ่มที่สนับสนุนการหยุดพักขนาดใหญ่ มักหนุนค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนระยะสั้น เพราะตลาดจะปรับคาดการณ์การลดดอกเบี้ยให้น้อยลง


6) การหารือเกี่ยวกับงบดุลและระดับสภาพคล่อง (Reserves)

แถลงการณ์เดือนธันวาคมมีประโยคที่ตลาดให้ความสนใจ โดยระบุว่า ระดับเงินสำรองลดลงสู่ระดับที่เพียงพอแล้ว และเฟดจะเริ่มซื้อพันธบัตรรัฐบาลอายุสั้นหากจำเป็น เพื่อรักษาสภาพคล่องให้เพียงพอ


แม้จะไม่ใช่การเริ่มต้นวัฏจักรผ่อนคลายนโยบายใหม่ แต่ก็มีความสำคัญต่อภาวะตลาดเงินและสภาพคล่องระยะสั้น


ในรายงานการประชุม ควรจับตา:

  • เฟดกังวลเรื่องการขาดแคลนเงินสำรองจริงจังเพียงใด

  • คณะกรรมการมองเห็นความเสี่ยงต่อการทำงานของตลาดหรือไม่

  • ประเด็นนี้เชื่อมโยงกับแผนการจัดการงบดุลอย่างไร


7) มุมมองของเฟดต่อภาวะการเงินและราคาสินทรัพย์

รายงานการประชุมมักมีการกล่าวถึงตลาดหุ้น สเปรดเครดิต ค่าเงินดอลลาร์ และภาวะการเงินโดยรวม แม้แถลงการณ์จะใช้ถ้อยคำทั่วไปก็ตาม


หากรายงานบ่งชี้ว่า ภาวะการเงินผ่อนคลายมากเกินไป เฟดสามารถส่งสัญญาณถ่วงดุลความคึกคักของตลาดได้ โดยไม่จำเป็นต้องปรับอัตราดอกเบี้ย


8) วิธีที่เฟดรับมือกับ “ความไม่แน่นอนของข้อมูลเศรษฐกิจ”

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ข้อมูลเศรษฐกิจมีความผันผวนสูง และรายงานการประชุมก่อนหน้านี้ชี้ว่าเฟดให้ความสำคัญกับ ความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการประเมินว่าตลาดกำลังตั้งราคานโยบายในอนาคตอย่างไร


หากรายงานเน้นเรื่อง ความไม่แน่นอนและความอดทน ตลาดมักตีความว่า “ลดดอกเบี้ยน้อยลง และช้าลง”


สรุปง่าย ๆ: Cheat Sheet โทน Hawkish – Dovish จากการประชุม FOMC

สิ่งที่เห็นในรายงานการประชุม ความหมายโดยทั่วไป ปฏิกิริยาแรกของตลาดที่มักเกิดขึ้น
ระบุว่า “กรรมการจำนวนมาก” ต้องการอดทนต่อไปเพราะเงินเฟ้อ กลุ่มที่สนับสนุนการหยุดพักนโยบายมีน้ำหนักสูง ดอลลาร์แข็งค่า, อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้น, ทองคำอ่อนตัว
ระบุว่า “กรรมการจำนวนมาก” กังวลต่อความเสี่ยงขาลงของตลาดแรงงาน แนวทางการลดดอกเบี้ยยังคงเปิดอยู่ ดอลลาร์อ่อนค่า, อัตราผลตอบแทนลดลง, ตลาดหุ้นทรงตัว
อธิบายเงินเฟ้อว่า กระจายตัวกว้าง หรือมีความฝังตัวสูง เฟดยังไม่สบายใจกับทิศทางเงินเฟ้อ ความผันผวนเพิ่มขึ้น, บรรยากาศการลงทุนเสี่ยงแย่ลง
แสดงความมั่นใจชัดเจนว่า เงินเฟ้อจะชะลอลง เฟดสามารถผ่อนคลายนโยบายต่อไปในภายหลัง โหมด Risk-on ยังคงอยู่, ดอลลาร์อ่อนค่า
เน้นความกังวลด้าน เงินสำรองและสภาพคล่องในระบบ ประเด็นสภาพคล่องมีความสำคัญมากขึ้น ความผันผวนชัดเจนในอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นและตลาดเงิน


แนวโน้มเหล่านี้ไม่ใช่กฎตายตัว แต่ช่วยให้คุณตอบสนองต่อข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ โดยไม่ต้องคาดเดาเกินความจำเป็น


สิ่งที่ต้องจับตาต่อไปหลังการเผยแพร่การประชุม FOMC

กำหนดการประชุมเฟด ปี 2026

รายงานการประชุม FOMC ไม่ใช่บทสรุปสุดท้ายของนโยบายการเงิน แต่เป็นแนวทางที่สะท้อนว่า เฟดมีมุมมองอย่างไรเมื่อประมาณสามสัปดาห์ก่อน


หลังการเผยแพร่ รายงานนี้มักทำให้ตลาดหันไปโฟกัสทันทีที่:

  1. ชุดข้อมูลเงินเฟ้อและตลาดแรงงานรอบถัดไป

  2. ความเห็นจากเจ้าหน้าที่เฟด ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ ซึ่งอาจยืนยันหรือขัดแย้ง กับเนื้อหาในรายงานการประชุม

  3. การจัดสถานะการลงทุน (Positioning) ก่อนการประชุม FOMC วันที่ 27–28 มกราคม


หากรายงานการประชุมสะท้อนว่า คณะกรรมการมีความเห็นแตกต่างและยังไม่มั่นใจ นักเทรดควรเตรียมรับมือกับความผันผวนสองทิศทาง ที่อาจดำเนินต่อไปจนถึงช่วงต้นปี 2026


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. รายงานการประชุม FOMC เดือนธันวาคมเผยแพร่กี่โมง?

รายงานการประชุมจากการประชุมวันที่ 9–10 ธันวาคม มีกำหนดเผยแพร่เวลา 14:00 น. ตามเวลา ET ในวันอังคารที่ 30 ธันวาคม 2025


2. รายงานการประชุม FOMC เดือนธันวาคมครอบคลุมการประชุมใด?

ครอบคลุมการประชุม FOMC วันที่ 9–10 ธันวาคม 2025 ซึ่งคณะกรรมการมีมติ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐาน


3. เหตุใดรายงานการประชุม FOMC จึงยังส่งผลต่อตลาด ทั้งที่การตัดสินใจผ่านมาแล้ว?

เพราะรายงานเผยให้เห็น เบื้องหลังการถกเถียงในการตัดสินใจ รวมถึงระดับความเชื่อมั่นหรือความเห็นที่แตกต่างกันของผู้กำหนดนโยบาย และ ความเสี่ยงที่เฟดให้ความสำคัญ


4. ตลาดใดมักตอบสนองเป็นอันดับแรก?

ตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยเฉพาะพันธบัตรอายุ 2 ปี มักตอบสนองก่อน เนื่องจากรายงานการประชุมส่งผลโดยตรงต่อการคาดการณ์เส้นทางนโยบายดอกเบี้ย


5. การประชุมเฟดครั้งถัดไปหลังรายงานการประชุมคือเมื่อใด?

การประชุมครั้งถัดไปมีกำหนดในวันที่ 27–28 มกราคม 2026 โดยผลการตัดสินใจนโยบายจะประกาศในวันที่ 28 มกราคม


บทสรุป

โดยสรุปแล้ว รายงานการประชุม FOMC เดือนธันวาคม ไม่ได้เป็นเพียงการทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมา แต่เป็น บททดสอบสำคัญของเรื่องเล่านโยบายการเงินในปี 2026


หากรายงานชี้ว่า กลุ่มที่สนับสนุนการหยุดพักนโยบายมีขนาดใหญ่กว่าที่ตลาดคาด ค่าเงินดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น แต่หากรายงานให้น้ำหนักกับ ความเสี่ยงด้านตลาดแรงงานมากขึ้น ตลาดจะปรับคาดการณ์ไปสู่ การลดดอกเบี้ยมากขึ้นในปี 2026


แนวทางที่ชาญฉลาดที่สุดนั้นง่ายมาก: เลือกสัญญาณที่คุณเชื่อถือมากที่สุด แล้วกำหนดขนาดการลงทุนให้สามารถรับมือกับความผันผวนช่วงปลายปีได้


ข้อสงวนสิทธิ์: เนื้อหานี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนาให้เป็น (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรนำไปใช้เป็นหลักในการตัดสินใจ ความเห็นใดๆ ที่ปรากฏในเนื้อหานี้ไม่ได้เป็นการแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่าการลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือกลยุทธ์การลงทุนใดๆ เหมาะสมสำหรับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
การกล่าวของประธาน Fed Bowman วันนี้: มีสัญญาณเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและกฎระเบียบธนาคารหรือไม่?
ประชุมเฟดครั้งต่อไปเมื่อไร? การประชุมครั้งสุดท้ายของปี 2025 และวันประชุมปี 2026
เงินเยนจะกลับมาแข็งค่าจากจุดต่ำสุดในปี 2025 แล้วหรือยัง? ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตาในคู่เงิน USD/JPY
ดอลลาร์สหรัฐวันนี้เผชิญแรงขาย หลังเฟดลดดอกเบี้ย ดัน DXY ร่วงต่อเนื่อง
การประชุม OPEC ครั้งต่อไปคือเมื่อไร? กำหนดการและผลกระทบในปี 2026