ทองคำและเงินทำจุดสูงสุดใหม่ หลังแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยไหลเข้าตลาด
简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

ทองคำและเงินทำจุดสูงสุดใหม่ หลังแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยไหลเข้าตลาด

ผู้เขียน: Rylan Chase

เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-22

ทองคำและเงินไม่ได้ค่อย ๆ ปรับตัวขึ้น แต่กำลังทุบสถิติใหม่ในลักษณะที่บีบให้ผู้จัดการพอร์ตทุกคนต้องตัดสินใจ


วันนี้ ราคาทองคำสปอตพุ่งทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 4,420 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาเงินสปอตทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 69.44 ดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และกระแสความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยระลอกใหม่ ซึ่งเชื่อมโยงกับความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์และการค้า


การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ใช่แค่พาดหัวข่าวจากแรงโมเมนตัมเท่านั้น แต่คือการที่ตลาดกำลัง "ประเมินราคาใหม่" จากแรงขับเคลื่อนสามด้านที่เกิดขึ้นพร้อมกัน ได้แก่

  1. กระแสความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่กลับมาอีกครั้ง

  2. เส้นทางที่ชัดเจนขึ้นสู่ทิศทางนโยบายการเงินสหรัฐที่ผ่อนคลายมากขึ้นในปี 2026

  3. ภาวะอุปทานของเงินแท่งที่ตึงตัวขึ้น ซึ่งกำลังขยายแรงกระเพื่อมจากปัจจัยมหภาคทุกด้านให้รุนแรงยิ่งขึ้น


ราคาทองคำและเงินวันนี้เปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง?

ราคาทองคำพุ่งสูงถึง 4420 ดอลลาร์

ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับตลาด (22 ธันวาคม 2025):

  • ทองคำ (สปอต): ราคาพุ่งทำสถิติใหม่ที่ 4,420 ดอลลาร์ ก่อนจะเคลื่อนไหวอยู่แถว 4,410 ดอลลาร์

  • เงิน (สปอต): ราคาทะยานขึ้นทำจุดสูงสุดตลอดกาลใกล้ระดับ 69.44 ดอลลาร์

  • ข้อมูลประกอบด้านผลการดำเนินงาน: ราคาทองคำเพิ่มขึ้นประมาณ 67% ในปีนี้ ขณะที่ราคาเงินเพิ่มขึ้นประมาณ 138% นับตั้งแต่ต้นปี


ปัจจัยกระตุ้นในระยะสั้น

ราคาเงิน $69

  • การถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ท่ามกลางความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์และการค้าที่อยู่ในระดับสูง

  • ความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2026 มีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งมีความสำคัญต่อโลหะมีค่า เนื่องจากดอกเบี้ยที่ต่ำลงช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสของการถือครองสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

  • ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ทำให้โลหะมีค่ามีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับนักลงทุนที่อยู่นอกสหรัฐฯ และช่วยหนุนแรงซื้อจากกระแสโมเมนตัมในตลาด


ทำไมความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยรอบนี้ถึง “แตกต่าง”?

รทองคำและเงินทำสถิติสูงสุดตลอดกาล

โดยปกติแล้ว การปรับขึ้นของสินทรัพย์ปลอดภัยมักจะจบลงอย่างรวดเร็วเมื่อเรื่องราวทางมหภาคเหลือเพียงปัจจัยเดียวให้ตลาดโฟกัส แต่การพุ่งขึ้นในครั้งนี้มีมิติมากกว่าเดิม เพราะทั้งภาวะการเงินและอุปสงค์เชิงโครงสร้างกำลังเสริมแรงซึ่งกันและกัน


1) การป้องกันความเสี่ยงกลับมาเป็นกระแสหลักอีกครั้ง

เมื่อข่าวสารมีความผันผวนและคาดเดาได้ยาก นักลงทุนมักให้ความสำคัญกับสภาพคล่องและความสะดวกในการถือครอง ซึ่งโลหะมีค่าอย่างทองคำและเงินจัดอยู่ในอันดับต้น ๆ


ดังนั้น การเบรกจุดสูงสุดของทองคำและเงินในวันนี้จึงเชื่อมโยงโดยตรงกับความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น ท่ามกลางความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์และการค้า


รายงานบางส่วนยังชี้ไปที่จุดเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์เฉพาะด้านที่เพิ่มความไม่แน่นอนในระยะสั้น แม้พาดหัวข่าวเหล่านั้นจะคลี่คลายลง ตลาดก็แสดงให้เห็นแล้วว่า การย่อตัวของราคาไม่ได้ถูกมองเป็นสัญญาณขายออก แต่เป็นโอกาสในการสะสมเพิ่ม


2) ตลาดกำลังตั้งราคานโยบายการเงินที่ผ่อนคลายขึ้น ไม่ใช่แค่ “เงินเฟ้อต่ำลง”

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญกว่านั้นคือ นักลงทุนไม่ได้ถกเถียงกันอีกต่อไปว่า อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับตึงตัวหรือไม่ แต่เริ่มตั้งคำถามว่า นโยบายการเงินจะผ่อนคลายลงเร็วแค่ไหนในปี 2026 ตลาดกำลังคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2026 ซึ่งสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางมหภาคที่เอื้อต่อโลหะมีค่า


วิธีหนึ่งที่จะเห็นความสำคัญของประเด็นนี้ คือการดูระดับอัตราผลตอบแทนพันธบัตร โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 4.1% จากข้อมูลวันทำการล่าสุด ซึ่งทำให้ช่องทางของอัตราดอกเบี้ยยังคงมีอิทธิพลต่อการกำหนดราคาทองคำและเงินในแต่ละวันอย่างมาก


3) ค่าเงินดอลลาร์ไม่ได้เป็นแรงต้านอีกต่อไป

ทองคำและเงินสามารถปรับตัวขึ้นได้แม้ในช่วงที่ดอลลาร์แข็งค่า แต่การรักษาโมเมนตัมจะทำได้ยากกว่า อย่างไรก็ตาม ในรอบนี้ ดอลลาร์ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นแรงกดดันต่อราคา


ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) อยู่ราว 98.59 ณ วันที่ 22 ธันวาคม 2025 ต่ำกว่าระดับสูงสุดก่อนหน้าเล็กน้อย


ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงส่งผลพร้อมกันสองด้าน คือ

  • ทำให้โลหะมีค่ามีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับนักลงทุนที่อยู่นอกสหรัฐฯ

  • สนับสนุนการลงทุนตามแนวโน้มในสินค้าโภคภัณฑ์ เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการถือครอง


4) ธนาคารกลางและนักลงทุนยังคงซื้ออย่างต่อเนื่อง

สภาทองคำโลก (World Gold Council) รายงานว่า การซื้อสุทธิของธนาคารกลางรวม 53 ตันในเดือนตุลาคม ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบรายเดือน


นอกจากนี้ สภาทองคำโลกยังเน้นย้ำถึงความสนใจด้านการลงทุนที่โดดเด่นในปี 2025 โดยมีเงินไหลเข้า ETF ทองคำสุทธิ +222 ตันในไตรมาส 3 ปี 2025 ควบคู่ไปกับความต้องการทองคำแท่งและเหรียญที่ยังคงสม่ำเสมอ


เรื่องราวเฉพาะของเงิน: อุปทานตึงตัว + อุปสงค์ภาคอุตสาหกรรม

เงินกำลังเคลื่อนไหวราวกับเป็น “เวอร์ชันเบตาสูงของทองคำ” ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมปกติในช่วงปลายของรอบการปรับขึ้นของโลหะมีค่า ความแตกต่างในปี 2025 คือ เงินมีปัจจัยพื้นฐานด้านกายภาพที่แข็งแกร่งรองรับอยู่ใต้แรงโมเมนตัมของราคา


นี่คือภาวะ “พายุสมบูรณ์แบบ” ที่เกิดจากการผสานกันของอุปสงค์ด้านการลงทุนที่แข็งแรง แรงเก็งกำไรที่เร่งตัว และภาวะอุปทานขาดดุลต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน อุปสงค์จากภาคอุตสาหกรรมยังเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น ศูนย์ข้อมูล AI พลังงานแสงอาทิตย์ และยานยนต์ไฟฟ้า


นอกจากนี้ การที่เงินถูกบรรจุเพิ่มเข้าไปในรายชื่อแร่ธาตุสำคัญของสหรัฐฯ ยังช่วยสนับสนุนความแข็งแกร่งของราคา และอาจกำหนดมุมมองระยะยาวของตลาดต่ออุปทานเชิงยุทธศาสตร์


สิ่งที่นักลงทุนกำลัง “ตั้งราคา” อยู่จริงในตอนนี้

วิธีที่เข้าใจง่ายที่สุดในการอธิบายการเบรกเอาต์ในวันนี้ คือการแยกการเคลื่อนไหวออกเป็นสองชั้น


ชั้นที่ 1: การปรับราคาในระดับมหภาค

  • ความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2026 หนุนสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

  • ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ช่วยลดแรงกดดันสำคัญที่มักถ่วงราคา

  • ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์และการค้า เพิ่ม “เบี้ยประกันความเสี่ยง” ให้กับตลาด


ชั้นที่ 2: โครงสร้างจุลภาคของตลาด

  • ทองคำอยู่ในช่วงของการค้นหาราคา (price discovery) เหนือระดับจิตวิทยาสำคัญที่ 4,400 ดอลลาร์ ซึ่งดึงดูดระบบเทรดตามแนวโน้ม และบีบให้เกิดการป้องกันความเสี่ยงในช่วงท้าย

  • เงินมีการตอบสนองที่รุนแรงกว่า เนื่องจากราคาถูกยืดออกมาแล้ว และความผันผวนถือเป็นส่วนหนึ่งของลักษณะสินค้าอยู่แล้ว


การวิเคราะห์ทางเทคนิคทองคำและเงิน

อินดิเคเตอร์ (รายวัน) ทอง เงิน ความหมาย
RSI (14) 77.975 (Overbought) 67.38 (Buy) ทองคำยืดตัวค่อนข้างมาก ขณะที่เงินยังแข็งแกร่งแต่ยังไม่ตึงเท่า
MACD (12,26) 20.23 (Buy) 0.769 (Buy) โมเมนตัมยังเป็นบวกในทั้งสองตลาด
ADX (14) 58.134 (Buy) 57.884 (Buy) ความแข็งแกร่งของแนวโน้มอยู่ในระดับสูง ซึ่งมักทำให้การย่อตัวตื้น
Stochastic (9,6) 78.158 (Buy) 81.473 (Overbought) ทั้งสองอยู่ในระดับสูง โดยเงินใกล้ภาวะอ่อนแรงระยะสั้นมากกว่า
สรุปทางเทคนิค Strong Buy Strong Buy แนวโน้มยังคงเป็นขาขึ้นจนกว่าราคาจะทะลุโครงสร้าง


ภาพรวมทางเทคนิคยังเป็นเชิงบวกสำหรับโลหะมีค่าทั้งสองชนิด แม้ว่าทองคำจะเริ่มแสดงสัญญาณซื้อมากเกินไปจากหลายตัวชี้วัดแล้วก็ตาม


ระดับสำคัญที่ต้องจับตา (โฟกัสราคาสปอต)

เนื่องจากทองคำกำลังทำจุดสูงสุดใหม่ จึงแทบไม่มีแนวต้านทางประวัติศาสตร์อยู่ด้านบน เทรดเดอร์มักหันไปใช้ระดับจิตวิทยาและโซนย่อตัวเป็นหลัก


ทองคำ (XAUUSD)

  • แนวต้าน : 4,400 ดอลลาร์ (โซนทำสถิติ), ถัดไป 4,430 ดอลลาร์ (ระดับอ้างอิงฟิวเจอร์สระยะสั้น)

  • แนวรับ : 4,350–4,360 ดอลลาร์ (จุดหมุนระยะสั้น), ถัดไป 4,300 ดอลลาร์ (โซนสวิงก่อนหน้าอ้างอิงจากการเคลื่อนไหวล่าสุด)


เงิน (XAGUSD)

  • แนวต้าน : 69.44 ดอลลาร์ (สถิติ), ถัดไป 70 ดอลลาร์ (ระดับจิตวิทยา)

  • แนวรับ : 66–67 ดอลลาร์ (บริเวณสถิติเดิมเมื่อสัปดาห์ก่อน), ถัดไป 65 ดอลลาร์ (แนวรับตัวเลขกลม)


สิ่งที่ต้องติดตามต่อไป: ปัจจัยที่อาจพลิกทิศทางเรื่องราว

  1. การสื่อสารของ Fed และเส้นทางการลดดอกเบี้ยในปี 2026

  2. แนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ

  3. ข่าวด้านภูมิรัฐศาสตร์และนโยบายการค้า

  4. ภาวะอุปทานตึงตัวของเงิน


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1) วันนี้ทองคำทำจุดสูงสุดตลอดกาลหรือไม่?

ใช่ ราคาทองคำสปอตปรับตัวขึ้นไปแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ประมาณ 4,420 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2025


2) ราคาเงินก็ทำจุดสูงสุดตลอดกาลด้วยหรือไม่?

ใช่ ราคาเงินสปอตขึ้นไปแตะจุดสูงสุดตลอดกาลที่ราว 69.44 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในวันนี้


3) ทำไมเงินถึงให้ผลตอบแทนดีกว่าทองคำในปี 2025?

เงินได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ด้านการลงทุนและภาวะอุปทานกายภาพที่ตึงตัวมากขึ้น อีกทั้งตลาดเงินมีขนาดเล็กและสภาพคล่องต่ำกว่า จึงไวต่อกระแสโมเมนตัมมากกว่าทองคำ


4) หลังทำสถิติใหม่ มีโอกาสเกิดแรงขายทำกำไรหรือไม่?

มีความเป็นไปได้ โดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่ปริมาณการซื้อขายเริ่มเบาบาง ความเสี่ยงจากการขายทำกำไรยังคงอยู่ ซึ่งแม้จะไม่ทำให้แนวโน้มหลักสิ้นสุดลงทันที แต่สามารถก่อให้เกิดการย่อตัวที่รุนแรงได้


บทสรุป

โดยสรุป การที่ทองคำทะลุระดับ 4,420 ดอลลาร์ และเงินพุ่งขึ้นถึง 69.44 ดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดกำลังกลับมา “ยอมจ่ายเพื่อการประกันความเสี่ยง” อีกครั้ง พร้อม ๆ กับการให้น้ำหนักกับสภาพแวดล้อมด้านอัตราดอกเบี้ยที่เอื้ออำนวยมากขึ้นในปี 2026


จากจุดนี้ คำถามที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ว่า สถิติใหม่จะไปต่อได้หรือไม่ แต่คือ การย่อตัวของราคาจะได้รับแรงซื้อจริงเข้ามารองรับหรือเปล่า หากทองคำสามารถยืนเหนือโซนเบรกเอาต์ได้ และค่าเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่า แนวโน้มขาขึ้นก็มีโอกาสไต่ระดับต่อไปได้


อย่างไรก็ตาม หากแรงขายทำกำไรที่ขับเคลื่อนด้วยสภาพคล่องกดดันจนราคาหลุดแนวรับสำคัญ แม้โครงสร้างระยะยาวอาจยังเป็นขาขึ้น แต่สถานะที่เข้าซื้อช้าและใช้เลเวอเรจสูงมีแนวโน้มจะถูกกระทบก่อนเป็นลำดับแรก


ข้อสงวนสิทธิ์: เนื้อหานี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนาให้เป็น (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรนำไปใช้เป็นหลักในการตัดสินใจ ความเห็นใดๆ ที่ปรากฏในเนื้อหานี้ไม่ได้เป็นการแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่าการลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือกลยุทธ์การลงทุนใดๆ เหมาะสมสำหรับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ผันผวน เงิน–ทองพุ่ง ส่วนน้ำมันอ่อนแรง
ปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์และธนาคารกลาง ผลักดันราคาทองคำพุ่งสูง
ราคาซิลเวอร์ทำสถิติสูงสุด: ควรซื้อ เพิ่มถือ หรือถึงเวลาทำกำไร?
ดอลลาร์สหรัฐวันนี้เผชิญแรงขาย หลังเฟดลดดอกเบี้ย ดัน DXY ร่วงต่อเนื่อง
ราคาทองคำและโลหะเงินทุบสถิติใหม่! เจาะลึกแนวโน้มปี 2026 และโอกาสทำกำไรที่คุณไม่ควรพลาด