รายงานผลประกอบการประจำสัปดาห์นี้: PLTR, AMD, SMCI และหุ้นเด่น
简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

รายงานผลประกอบการประจำสัปดาห์นี้: PLTR, AMD, SMCI และหุ้นเด่น

เผยแพร่เมื่อ: 2025-11-03

ท่ามกลางฤดูกาลประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2025 ที่กำลังดำเนินไป นักลงทุนกำลังเตรียมพร้อมรับสัปดาห์สำคัญซึ่งเต็มไปด้วยรายงานจากบริษัทเทคโนโลยีและองค์กรขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อทิศทางตลาด


Palantir (PLTR) จะเริ่มต้นสัปดาห์ในวันที่ 3 พฤศจิกายน หลังปิดตลาด โดยตลาดจับตาพัฒนาการด้านการสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์ AI และสัญญาภาครัฐขนาดใหญ่ ส่วน AMD จะรายงานผลในวันที่ 4 พฤศจิกายน หลังปิดตลาด ซึ่งถูกมองว่าเป็นมาตรวัดความต้องการชิปกึ่งตัวนำและเซิร์ฟเวอร์ AI ขณะที่ Super Micro (SMCI) จะประกาศผลในช่วงค่ำของวันเดียวกัน โดยความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังคงระมัดระวัง หลังมีการปรับประมาณการลงและแนวโน้มคำแนะนำที่ค่อนข้างผสมผสานในช่วงที่ผ่านมา


นอกเหนือจากทั้งสามบริษัทนี้แล้ว ยังมีผลประกอบการสำคัญจากบริษัทเมกะแคปและกลุ่มวัฏจักรเศรษฐกิจ ซึ่งอาจส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนโดยรวม นักลงทุนควรเตรียมรับความผันผวนและปฏิกิริยาตลาดที่อาจเกิดขึ้นในหลากหลายสินทรัพย์


สรุปภาพรวม: เหตุการณ์สำคัญในสัปดาห์วันที่ 27–31 ตุลาคม 2025


ก่อนเข้าสู่การวิเคราะห์บริษัทในสัปดาห์นี้ ควรย้อนทบทวนประเด็นสำคัญจากช่วงรายงานผลประกอบการสัปดาห์ก่อน (27–31 ตุลาคม) ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อบรรยากาศการลงทุนและเป็นพื้นฐานสำหรับการประเมินผลประกอบการรอบใหม่


1. กลุ่ม Big Tech (หรือกลุ่ม “Magnificent Seven”) ขับเคลื่อนความเชื่อมั่นตลาด

บริษัท รายได้ไตรมาส 3/2025 การเติบโตแบบปีต่อปี การเติบโตของกำไร/EPS ประเด็นสำคัญ
Amazon (AMZN) ~180.2 พันล้านดอลลาร์ +13% ~1.95 EPS รายได้ AWS โต ~20% แตะ ~33 พันล้านดอลลาร์
Alphabet (GOOGL) >100 พันล้านดอลลาร์ +16% ~+35.4% EPS ประสิทธิภาพโฆษณาและ Cloud เติบโตแข็งแกร่ง
Microsoft (MSFT) (ประมาณ +18%) +18% ~+23% (Non-GAAP EPS) Azure โต ~39% แบบค่าเงินคงที่
Nvidia (NVDA) - - - มูลค่าบริษัทเฉียด 5 ล้านล้านดอลลาร์ มี GPU ค้างอยู่จำนวนมาก


สรุป: กลุ่ม “Magnificent Seven” ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของตลาด โดยเฉพาะธุรกิจ Cloud, AI และโฆษณาที่สนับสนุนการเติบโตของผลประกอบการอย่างโดดเด่น


2. ฮาร์ดแวร์ พื้นที่จัดเก็บ และโครงสร้างพื้นฐาน แสดงสัญญาณการฟื้นตัวของซัพพลายเชน

Western Digital รายงานรายได้ไตรมาส 1 ที่ 2.82 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (+27% เมื่อเทียบรายปี) และกำไรต่อหุ้น (EPS) 1.78 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ (EPS 1.59 ดอลลาร์, รายได้ 2.73 พันล้านดอลลาร์) อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 37.3% เป็น 43.9% โดยมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าไฮเปอร์สเกลที่เกี่ยวข้องกับ AI ในระยะยาวต่อเนื่องไปจนถึงปี 2027


สรุป: ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์และสตอเรจได้รับอานิสงส์จากการขยายตัวของศูนย์ข้อมูลด้าน AI อย่างต่อเนื่อง ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มชิปและเซิร์ฟเวอร์ในสัปดาห์นี้


3. พลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ ส่งสัญญาณแบบผสมผสาน

Exxon รายงานกำไรสุทธิประมาณ 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (EPS ~1.76 ดอลลาร์); ส่วน Chevron รายงานกำไรที่ปรับปรุงแล้วประมาณ 3.6 พันล้านดอลลาร์ (EPS ที่ปรับปรุงแล้ว ~1.85 ดอลลาร์) จากราคาน้ำมันที่ลดลง ฝั่ง Exxon มีกระแสเงินสดแข็งแกร่งราว 14.8 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ Chevron รายงานผลผลิตดีแม้อัตรากำไรลดลง


สรุป: บริษัทพลังงานยังคงบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่การอ่อนตัวของราคาน้ำมันในภาพรวมอาจจำกัดศักยภาพการเติบโตของกลุ่มวัฏจักร (cyclicals)


ภาพรวมสัปดาห์หน้าเป็นอย่างไร?

รายงานผลประกอบการประจำสัปดาห์นี้

เมื่อบรรดาบริษัทเทคโนโลยีและฮาร์ดแวร์รายใหญ่ส่วนใหญ่ได้ประกาศผลประกอบการไปแล้ว โฟกัสในสัปดาห์นี้จึงขยับไปที่สัญญาณการใช้จ่ายลงทุน (capex), การเติบโตของคำสั่งซื้อ, แนวโน้มอัตรากำไร, ความเห็นเกี่ยวกับระดับสินค้าคงคลัง และการยืนยันสัญญาณจากกลุ่มหุ้นวัฏจักรนอกภาคเทคโนโลยี (เช่น ผู้บริโภค พลังงาน การชำระเงิน)


หากเทรนด์เกี่ยวกับ AI และโครงสร้างพื้นฐานยังคงดำเนินต่อไป อาจเห็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก แต่หากมุมมองออกมาแบบระมัดระวัง ความเสี่ยงต่อการกระจายตัวของตลาดก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย


มี 2 ปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ทำให้สัปดาห์นี้น่าจับตามากขึ้น:

1. การจับตาซัพพลายเชนของ AI

AMD และ Supermicro ถือเป็นซัพพลายเออร์หลักของผู้ให้บริการไฮเปอร์สเกลและลูกค้า AI ความเห็นของพวกเขาเกี่ยวกับการลงทุนและระดับสินค้าคงคลังจะเป็นสัญญาณชี้นำรอบใหม่ของวงจรฮาร์ดแวร์


2. การยืนยันรายได้ซอฟต์แวร์จากโมเดล AI

โครงสร้างรายได้ของ Palantir และความคิดเห็นเกี่ยวกับการสร้างรายได้จากแพลตฟอร์ม AI จะเป็นจุดชี้ชัดว่า ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ AI รายใหญ่ สามารถขยายรายได้แบบสมาชิกหรือไม่


เนื่องจากมีบริษัทยักษ์ใหญ่จำนวนมากประกาศงบภายในเวลาเพียง 48 ชั่วโมง คาดว่าจะเกิดแรงเหวี่ยงข้ามสินทรัพย์ (cross-asset) ทั้งในตลาดหุ้น ชิป ยิลด์พันธบัตร และแม้แต่ค่าเงิน (FX) ระหว่างที่นักลงทุนปรับราคาความคาดหวังด้านการเติบโตและอัตรากำไรใหม่


ไฮไลท์รายงานผลประกอบการประจำสัปดาห์นี้ (3–7 พฤศจิกายน)

ไฮไลท์รายงานผลประกอบการประจำสัปดาห์นี้ (3–7 พฤศจิกายน)

1. Palantir Technologies (PLTR): วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน (หลังปิดตลาด)

  • ประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS): 0.17 ดอลลาร์ต่อหุ้น เติบโตราว 70% จากไตรมาส 3 ปี 2024

  • ประมาณการรายได้: ประมาณ 1.09 พันล้านดอลลาร์ เติบโต 50.6% เมื่อเทียบรายปี

  • ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโต: รายได้จากสัญญาภาครัฐคาด 603 ล้านดอลลาร์ (+47.6%) รายได้จากกลุ่มลูกค้าเชิงพาณิชย์คาด 494 ล้านดอลลาร์ (+56%)

  • การเคลื่อนไหวของหุ้นตั้งแต่ต้นปี: +170% ในปี 2025 (หลังพุ่งขึ้น 350% ในปี 2024) [1]

  • มูลค่าหุ้น: อัตราส่วน P/E สูงถึงประมาณ 623 สะท้อนความคาดหวังการเติบโตที่สูง แต่มาพร้อมความเสี่ยงด้านมูลค่า


ความสำคัญความสามารถของ Palantir ในการสร้างรายได้จากแพลตฟอร์ม AI และการขยายสัญญากับองค์กรเอกชน จะเป็นตัวชี้ทิศทางมูลค่าหุ้นซอฟต์แวร์ AI


2. AMD (Advanced Micro Devices): วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน (หลังปิดตลาด)

  • ผลงานล่าสุด: รายได้ Q2 2025 ทำสถิติสูงสุดที่ 7.7 พันล้านดอลลาร์ อัตรากำไรขั้นต้น 40% กำไรสุทธิ 872 ล้านดอลลาร์ (ตามมาตรฐาน GAAP)

  • จุดเติบโต: ยอดขาย GPU ศูนย์ข้อมูล โดยเฉพาะตัวเร่งความเร็ว AI ส่วนแบ่งตลาด CPU (Ryzen และ EPYC) ที่เติบโตต่อเนื่อง

  • ความท้าทาย: ข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ ส่งผลต่อสต็อก Q2 แต่คาดว่า Q3 จะฟื้นตัวแรง

  • มูลค่าตลาด: ราว 415 พันล้านดอลลาร์ สะท้อนความเชื่อมั่นในผู้นำด้าน AI และการประมวลผลสมรรถนะสูง (HPC)


ความสำคัญ: การคาดการณ์ของ AMD จะมีผลต่อทิศทางของผู้ผลิตชิป AI และผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ หากมีความเห็นเชิงบวกเกี่ยวกับศูนย์ข้อมูล อาจหนุนความเชื่อมั่นทั้งอุตสาหกรรม


3. Super Micro Computer (SMCI): วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน (หลังปิดตลาด)

  • ผลงานย้อนหลัง: รายได้ปีงบประมาณ 2025 อยู่ที่ประมาณ 21.9 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 15 พันล้านดอลลาร์ในปีก่อน

  • คาดการณ์ผลประกอบการ Q3: นักวิเคราะห์คาด EPS ราว 0.47 ดอลลาร์

  • แรงขับเคลื่อน: ความต้องการฮาร์ดแวร์ประมวลผลสมรรถนะสูง เซิร์ฟเวอร์เพื่อรองรับคลาวด์และโครงสร้างพื้นฐาน AI

  • ข้อมูลสำคัญ: หุ้นซื้อขายใกล้ 52 ดอลลาร์ มูลค่าตลาดราว 30 พันล้านดอลลาร์


ความสำคัญ:  แนวโน้มจาก SMCI เป็นตัวชี้วัดอุปสงค์ของเซิร์ฟเวอร์ AI และสถานะสต็อกสินค้า หากแนวโน้มออกมาอ่อนแอ อาจส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ [2]


รายงานสำคัญอื่น ๆ ในสัปดาห์นี้

สัปดาห์นี้เป็นช่วงเวลาที่มีความเคลื่อนไหวมาก นอกจาก PLTR, AMD และ SMCI แล้ว ยังมีบริษัทรายใหญ่หลายแห่งที่จะประกาศผลประกอบการ:

บริษัท / Ticker ประเด็นสำคัญ กลุ่มอุตสาหกรรม / ธีม หมายเหตุ
Shopify (SHOP) อีคอมเมิร์ซ, ตัวชี้วัดผู้ค้ารายย่อย อินเทอร์เน็ต / ค้าปลีก ตัวชี้วัดอารมณ์ผู้บริโภคในค้าปลีกดิจิทัล
McDonald's (MCD) การตั้งราคาเมนู, ความแข็งแกร่งของผู้บริโภค ผู้บริโภค / ร้านอาหาร ตัวชี้วัดภาวะเงินเฟ้อ & อุปสงค์ผู้บริโภค
Qualcomm (QCOM) ชิปมือถือและยานยนต์ เซมิคอนดักเตอร์ ตัวชี้วัดการฟื้นตัวในสมาร์ทโฟน & EV
Airbnb (ABNB), Booking (BKNG) อุปสงค์ด้านการท่องเที่ยว สันทนาการ อารมณ์การท่องเที่ยวหลังฤดูร้อน
Pfizer (PFE) สายการผลิตยา & แนวโน้มผลประกอบการ การดูแลสุขภาพ ตรวจสอบธุรกิจหลักหลังโควิด
Robinhood (HOOD) การเทรด & กระแสคริปโต ฟินเทค ตัวชี้วัดกิจกรรมการเก็งกำไรภาคประชาชน
BP (BP), ConocoPhillips (COP) แนวทางการใช้จ่ายลงทุน (capex) พลังงาน ตัวกำหนดอารมณ์กระแสเงินสดภาคน้ำมัน


คาดว่าจะมีทั้งข้อมูลจากภาคเทคโนโลยีและกลุ่มหุ้นวัฏจักร ซึ่งอาจเปลี่ยนอารมณ์ของตลาดข้ามกลุ่มได้


อะไรคือ "เหตุการณ์เหนือความคาดหมาย" ที่อาจสั่นสะเทือนตลาด?


ต่อไปนี้คือสถานการณ์สำคัญที่อาจทำให้สินทรัพย์เสี่ยงหลายประเภทต้องถูกประเมินมูลค่าใหม่:


1. PLTR ผิดคาด

หากการจองสัญญาจากภาคเอกชนชะลอตัว อาจกระทบการประเมินมูลค่าซอฟต์แวร์ AI ทันที


2. AMD ให้ภาพรวมกำไรต่ำกว่าคาด

คำสั่งซื้อจากไฮเปอร์สเกลลดลง จะทำลายความเชื่อมั่นในอุปสงค์เซิร์ฟเวอร์ AI


3. SMCI ปรับลดประมาณการยอดสั่งซื้อ

มุมมองคำสั่งซื้อลดลง อาจส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อหุ้นฮาร์ดแวร์ AI


4. ผลลัพธ์ที่ผูกกับภาวะเศรษฐกิจอ่อนแรง

หาก MCD หรือ SHOP สะท้อนความต้องการผู้บริโภคที่อ่อนลง อาจทำให้ตลาดหดตัวเร็ว


กลยุทธ์การเทรดสำหรับสัปดาห์ที่ผันผวนนี้

ด้วยความหนาแน่นของการรายงานผล แนะนำกลยุทธ์ที่มีแบบแผน แทนการเทรดด้วยอารมณ์:


1) สำหรับนักเทรดสาย Swing

เทรดตามปฏิกิริยาหลังข่าว ไม่ใช่ตามข่าวลือ พิจารณากลยุทธ์ออปชัน (เช่นสเปรด) เพื่อรับมือความผันผวน


2) สำหรับนักลงทุนระยะกลาง

จับตาทิศทางคำแนะนำจากบริษัท (Guidance) หากประกาศกำไรดีกว่าคาดแต่ให้แนวโน้มอ่อนแอ มักเป็นสัญญาณขาย


3) สำหรับนักลงทุนระยะยาว

ใช้จุดอ่อนในหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งเพื่อปรับพอร์ตและเพิ่มสัดส่วนหุ้นที่มั่นใจ


4) เคล็ดลับการป้องกันความเสี่ยง

หากถือหุ้นกลุ่มฮาร์ดแวร์ AI เป็นสัดส่วนสูง พิจารณาป้องกันความเสี่ยงด้วย ETF หรือซื้อ Put ก่อนผลประกอบการของ AMD/SMCI


คำถามที่พบบ่อย


1. บริษัทใหญ่ไหนบ้างที่ประกาศผลประกอบการในสัปดาห์นี้?

สัปดาห์นี้มีบริษัทชั้นนำอย่าง Palantir Technologies (PLTR), Advanced Micro Devices (AMD) และ Super Micro Computer (SMCI) รายงานผลประกอบการ


2. ภาคธุรกิจนอกเทคโนโลยีที่ประกาศงบสัปดาห์นี้ มีผลต่อบรรยากาศตลาดโดยรวมหรือไม่?

มีผลแน่นอน รายงานจากกลุ่มผู้บริโภค (เช่น ค้าปลีก ระบบชำระเงิน) พร้อมกับข้อมูลจากภาคพลังงานและอุตสาหกรรมจะให้ภาพรวมเกี่ยวกับอุปสงค์และแนวโน้มการลงทุน (capex)


3. หลังผลประกอบการออกมาแล้ว นักลงทุนควรทำอย่างไร?

หลังจากประกาศงบแล้ว นักลงทุนควรประเมินใหม่โดยดูที่ "แนวโน้ม" ในอนาคต ไม่ใช่แค่ผลกำไรที่มากหรือน้อยกว่าคาด


บทสรุป

โดยสรุป การรายงานผลประกอบการของ Palantir, AMD, Super Micro Computer และบริษัทสำคัญอื่น ๆ ในฤดูกาล Q3 2025 นี้ จะให้เบาะแสสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพของกลุ่มเทคโนโลยีและภาคธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วย AI


หากคุณเป็นนักเทรดในสัปดาห์นี้ ให้โฟกัสที่คำแนะนำ (guidance) และคำสั่งซื้อ (bookings) บริหารขนาดสถานะให้เหมาะสม และอย่าตามกระแสการพุ่งขึ้นระยะสั้นโดยไร้เหตุผลชัดเจน


หากคุณเป็นนักลงทุนระยะยาว ให้ใช้สัปดาห์นี้เป็นโอกาสทำความเข้าใจเชิงลึก และพิจารณาปรับสมดุลพอร์ตลงทุนไปสู่หุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งที่คุณเชื่อมั่น


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
งบ Q4 สุดปังไม่ช่วย! หุ้น AVGO ร่วงสวนกระแสหลังรายงานผลประกอบการ
แรงหนุนจาก AI! หุ้นเอเชียปรับตัวขึ้น หลัง Nvidia โชว์งบสุดแกร่ง
ทำไมหุ้น Amazon ร่วง? เบื้องหลังสาเหตุที่แท้จริง
หุ้น Lululemon พุ่งแรงสวนกระแสข่าว CEO ลาออก ประเด็นสำคัญที่นักเทรดต้องรู้
ทำไม SMCI หุ้นตก และรายได้ของ SMCI ตกอยู่ในความเสี่ยงหรือไม่?