เผยแพร่เมื่อ: 2025-10-31
 
              
              
              คณะกรรมการของ Netflix ได้อนุมัติการแตกหุ้นแบบเดินหน้าในอัตรา 10 ต่อ 1 (10:1) ซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2025 โดยผู้ถือหุ้นที่มีรายชื่อในสมุดทะเบียน ณ สิ้นวันทำการซื้อขายวันที่ 10 พฤศจิกายน 2025 จะได้รับหุ้นเพิ่มอีก 9 หุ้นต่อหุ้นเดิม 1 หุ้น (จะมีการจัดสรรหลังปิดตลาดในวันที่ 14 พฤศจิกายน) และหุ้นสามัญของ Netflix จะเริ่มทำการซื้อขายภายใต้ราคาใหม่หลังการแตกหุ้นตั้งแต่เปิดตลาดในวันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2025 เป็นต้นไป
การแตกหุ้นครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้ราคาหุ้น NFLX เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและเหมาะสมยิ่งขึ้นสำหรับผู้ลงทุน โดยเฉพาะพนักงานที่เข้าร่วมโปรแกรมสิทธิซื้อหุ้นของบริษัท ทั้งนี้ การแตกหุ้นจะไม่กระทบต่อมูลค่าตลาดรวม (Market Cap) หรือปัจจัยพื้นฐานของบริษัทแต่อย่างใด
หลังการประกาศ ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นในการซื้อขายหลังปิดตลาด (ประมาณ +2–3%) ในส่วนถัดไป เราจะพิจารณาวันสำคัญอย่างเป็นทางการ เหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจ ความผันผวนของราคาในช่วงหลังประกาศ และประเด็นที่นักลงทุนควรจับตาในสัปดาห์ต่อจากนี้
| เหตุการณ์ | วันที่ | 
|---|---|
| วันบันทึกรายชื่อผู้ถือหุ้น | 10 พฤศจิกายน 2025 | 
| วันจัดสรรหุ้นเพิ่ม | 14 พฤศจิกายน 2025 | 
| วันเริ่มซื้อขายตามราคาใหม่หลังแตกหุ้น | 17 พฤศจิกายน 2025 | 
การซื้อขายจะเริ่มต้นตามโครงสร้างราคาใหม่หลังแตกหุ้นตั้งแต่เปิดตลาดในวันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2025

การแตกหุ้นแบบ Forward คือการเพิ่มจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายหมุนเวียน และปรับลดราคาหุ้นต่อหน่วยตามอัตราการแตกหุ้น โดยที่มูลค่าตลาดรวม (Market Capitalisation) โดยรวมยังคงเท่าเดิม ในกรณีของ Netflix มีรายละเอียดดังนี้::
ผู้ลงทุนที่ถือหุ้น 1 หุ้นในวันบันทึกรายชื่อผู้ถือหุ้น จะได้รับหุ้นเพิ่มอีก 9 หุ้น หลังการแตกหุ้น ผู้ถือหุ้นจะมีจำนวนหุ้นรวม 10 หุ้นต่อหุ้นเดิม 1 หุ้น
หากราคาหุ้น NFLX ก่อนแตกหุ้นอยู่ที่ 1,100 ดอลลาร์ต่อหุ้น ราคาเปิดประมาณหลังการแตกหุ้นแบบ 10:1 จะอยู่ที่ราว 110 ดอลลาร์ต่อหุ้น มูลค่าตลาดโดยรวมยังคงเท่าเดิม เนื่องจากจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นสิบเท่า ขณะที่ราคาต่อหุ้นลดลงเหลือหนึ่งในสิบ

จากแถลงข่าวของบริษัทและมุมมองนักวิเคราะห์ มี 3 เหตุผลสำคัญที่ทำให้ Netflix ดำเนินการแตกหุ้นครั้งนี้ ได้แก่:
Netflix ระบุว่าหลักคิดคือการเพิ่มโอกาสการถือหุ้นในโครงการสิทธิซื้อหุ้นของพนักงาน และทำให้ราคาหุ้นเข้าถึงได้สำหรับผู้ลงทุนรายย่อย เมื่อราคาหุ้นสูงกว่า 1,000 ดอลลาร์ การใช้สิทธิซื้อหุ้นหรือทยอยสะสมหุ้นอาจเป็นเรื่องยาก
การแตกหุ้นทำให้ราคาต่อหุ้นลดลง ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและเพิ่มความเท่าเทียมในการลงทุน
ราคาหุ้นที่ต่ำลงมักดึงดูดนักลงทุนรายย่อย และอาจเพิ่มปริมาณการซื้อขาย (Liquidity) ช่วยลดส่วนต่างราคาเสนอซื้อ–เสนอขาย และทำให้การลงทุนในจำนวนหุ้นมาตรฐานทำได้ง่ายขึ้น
นักวิเคราะห์หลายรายชี้ว่า การแตกหุ้นครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อให้หุ้น Netflix เข้าถึงนักลงทุนในวงกว้างมากขึ้น
การแตกหุ้นช่วยสร้างความสนใจจากสื่อและผู้ลงทุน แม้จะไม่เปลี่ยนปัจจัยพื้นฐาน แต่เหตุการณ์ลักษณะนี้มักนำไปสู่การเคลื่อนไหวเชิงบวกในระยะสั้น จากแรงเข้าซื้อของรายย่อยและนักเก็งกำไร ซึ่งก็เกิดขึ้นหลังการประกาศครั้งนี้เช่นกัน
Netflix เน้นย้ำว่าการแตกหุ้นครั้งนี้เป็นการปรับโครงสร้างเชิงเทคนิคและด้านเอกสารบริษัท (เช่นการแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิและเพิ่มจำนวนหุ้นที่จดทะเบียนไว้) ไม่ใช่การระดมทุนใหม่

ปฏิกิริยาของตลาดทันทีหลังการประกาศอยู่ในเชิงบวก ดังนี้:
หลังมีข่าว ราคาหุ้น NFLX ปรับขึ้นประมาณ 2–3% ในการซื้อขายหลังปิดตลาด โดยราคาซื้อขายหลังตลาดอยู่ราว 1,120–1,123 ดอลลาร์ต่อหุ้น ขึ้นอยู่กับผู้ให้ข้อมูลราคา
สถานการณ์นี้สะท้อน “Split Pop” ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อบริษัทขนาดใหญ่ประกาศแตกหุ้น และนักลงทุนตอบสนองเชิงบวกในระยะสั้น
ในวันแรกที่เริ่มซื้อขายภายใต้ราคาใหม่หลังการแตกหุ้น ราคาหุ้นต่อหุ้นจะเปิดที่ระดับหนึ่งในสิบของราคาก่อนแตกหุ้น (โดยสมมติปัจจัยอื่นคงที่) จากนั้นกลไกตลาด ได้แก่ อุปสงค์–อุปทาน ข่าวสาร และแนวโน้มกำไรบริษัท จะเป็นผู้กำหนดระดับราคาที่แท้จริง
ควรระลึกว่า การปรับขึ้นในวันประกาศไม่ได้หมายความว่าราคาหุ้นจะปรับขึ้นต่อหลังการแตกหุ้นในระยะกลาง เพราะผลประกอบการ ปัจจัยพื้นฐาน และภาวะเศรษฐกิจมหภาคยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนผลตอบแทนหลัก
| ปีที่แตกหุ้น | อัตราการแตกหุ้น | ราคาก่อนแตกหุ้น* | ราคาประมาณ 1 ปีหลังแตกหุ้น | ผลตอบแทนโดยประมาณ | 
|---|---|---|---|---|
| 2004 | 2 ต่อ 1 | ~35 ดอลลาร์ | ~60 ดอลลาร์ | ~ +71% | 
| 2015 | 7 ต่อ 1 | ~700 ดอลลาร์ | ~1,040 ดอลลาร์ (ปรับอัตราแล้ว) | ~ +49% | 
| 2025 | 10 ต่อ 1 | ~1,100 ดอลลาร์ | อยู่ระหว่างติดตาม | - | 
Netflix มีประวัติการแตกหุ้นไม่บ่อยนัก โดยมีการแตกหุ้นเพียงสองครั้งก่อนหน้านี้:
12 กุมภาพันธ์ 2004: แตกหุ้นอัตรา 2 ต่อ 1
15 กรกฎาคม 2015: แตกหุ้นอัตรา 7 ต่อ 1
ดังนั้น การแตกหุ้น 10 ต่อ 1 ในปี 2025 ถือเป็นครั้งที่สามตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในปี 2002
โดยทั่วไป เหตุการณ์แตกหุ้นมักเกิดขึ้นหลังบริษัทมีการเติบโตของราคาหุ้นในระยะยาว และสะท้อนเจตนารมณ์ของฝ่ายบริหารในการทำให้หุ้นสามารถเข้าถึงนักลงทุนได้กว้างขึ้น
แม้สถิติในอดีตไม่ได้รับประกันว่าราคาหุ้นจะเพิ่มขึ้นหลังแตกหุ้น แต่รูปแบบที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า Netflix มักดำเนินการแตกหุ้นในช่วงจังหวะสำคัญของบริษัท เพื่อปรับราคาหุ้นให้น่าลงทุน และขยายการมีส่วนร่วมของผู้ถือหุ้น
การแตกหุ้นไม่เปลี่ยนมูลค่าตลาดรวม ดังนั้นจึงไม่ส่งผลโดยตรงต่อกฎเกณฑ์การเข้าคำนวณดัชนีที่อิงตามมูลค่าตลาด อย่างไรก็ตาม อาจมีผลในระยะสั้นดังนี้:
หากกระแสการเข้าซื้อของนักลงทุนรายย่อยดันราคาหุ้นสูงขึ้นมาก อาจเกิดการปรับน้ำหนักเล็กน้อยในกองทุนที่อิงดัชนี
กองทุนแบบ Passive ที่ติดตามดัชนีตามมูลค่าตลาดจะไม่ปรับสัดส่วนเพียงเพราะหุ้นแตก แต่จะปรับจำนวนหุ้นที่ถือเพื่อให้มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) คงเดิม
โดยสรุป การเข้าคำนวณในดัชนีขึ้นอยู่กับมูลค่าตลาดรวม ไม่ใช่ราคาต่อหุ้น ดังนั้นการแตกหุ้นจึงแทบไม่ส่งผลต่อดัชนีโดยตรง
ปริมาณการซื้อขาย : เฝ้าดูปริมาณการซื้อขายและความผันผวนที่อาจเพิ่มขึ้นทันทีหลังการแตกหุ้นในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2025
การเคลื่อนไหวของราคา : แม้ราคาจะถูกปรับตามอัตราแตกหุ้น แต่แรงซื้อขายของตลาดอาจทำให้เกิดการแกว่งตัวระยะสั้น
ผลประกอบการของบริษัท : ตัวชี้วัดหลักของ Netflix เช่น จำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้น ความสำเร็จของคอนเทนต์ และการเติบโตของอัตรากำไร ยังคงเป็นปัจจัยกำหนดราคาหุ้นในระยะยาว
ทิศทางอุตสาหกรรม: ติดตามว่าเหตุการณ์นี้ส่งผลต่อดัชนีเทคโนโลยี/สื่อ และบริษัทสตรีมมิงรายอื่นอย่างไร
หุ้นหลังการแตกจะเริ่มทำการซื้อขายในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2025
ไม่เพิ่ม มูลค่าตลาดรวมเท่าเดิม เพียงเพิ่มจำนวนหุ้นและลดราคาต่อหุ้น
สำหรับผู้ถือหุ้นในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2025 จะได้รับหุ้นเพิ่ม 9 หุ้นต่อหุ้นเดิม 1 หุ้น
อาจช่วยเพิ่มสภาพคล่องและความน่าสนใจ แต่ราคาระยะยาวขึ้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัทเป็นหลัก
โดยสรุปแล้ว การแตกหุ้น 10 ต่อ 1 ของ Netflix นับเป็นอีกก้าวสำคัญในเส้นทางเติบโตตลอด 20 ปีของบริษัท ด้วยการลดราคาหุ้นจากระดับกว่า 1,000 ดอลลาร์ เหลือประมาณ 110 ดอลลาร์ต่อหุ้น บริษัทตั้งเป้าเพิ่มการเข้าถึงของนักลงทุน เสริมสภาพคล่อง และมอบประโยชน์แก่พนักงาน โดยไม่เปลี่ยนปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจ
แม้อาจเกิดความผันผวนระยะสั้น แต่การแตกหุ้นสะท้อนความเชื่อมั่นของ Netflix ในฐานะผู้นำเทค–มีเดียที่เติบโตเต็มตัว และยังคงให้ความสำคัญกับผู้ถือหุ้นระยะยาวและความครอบคลุมในการลงทุน
นักลงทุนควรจับตาความสำเร็จของคอนเทนต์และแรงขับเคลื่อนกำไรในปี 2026 ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อโมเมนตัมราคาหุ้นในอนาคต
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
 
                      
                       
                      
                       
                      
                      