简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

ในปี 2025 ทองคำลงจริงหรือไม่? วิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ

2025-08-08

ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า สัญญาณส่วนใหญ่ของตลาดชี้ว่าทองคำจะยังคงทรงตัวหรือปรับตัวขึ้นเล็กน้อยมากกว่าที่ทองคำลงอย่างมีนัยสำคัญ


ปัจจัยจากการที่ธนาคารกลางเพิ่มการถือครองทองคำ ความสนใจที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุน และความคาดหวังเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ส่งผลให้ราคาทองคำในตลาดซื้อขายจริงอยู่ที่ประมาณ 3,350–3,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2025


อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังมีความเสี่ยงที่จะทองคำลงในระยะสั้น หากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่งกว่าคาด หรือธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณเข้มงวดกว่าที่ประเมิน ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น


สถานการณ์ทองคำ ณ ขณะนี้ (ข้อมูลเดือนสิงหาคม 2025)

ราคาทองคำเดือนสิงหาคม 2025

1) ราคาทองคำตลาด Spot

ราคาทองคำเคลื่อนไหวในช่วง 3,300–3,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม 2025 โดยมีช่วงที่ราคาพุ่งสูงขึ้นเกิน 3,400 ดอลลาร์ เมื่อมีความกังวลความเสี่ยงหรือตลาดคาดการณ์การลดดอกเบี้ยของเฟดอย่างเข้มข้น ตัวชี้วัดล่าสุดแสดงให้เห็นว่าราคาทองคำเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 3,372–3,380 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงการซื้อขายล่าสุด


2) สัญญาฟิวเจอร์สและปริมาณการซื้อขาย

ปริมาณการซื้อขายและสัญญาที่เปิดอยู่เพิ่มสูงขึ้น สะท้อนการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันและการเปิดตำแหน่งใหม่ก่อนเหตุการณ์เศรษฐกิจมหภาค รายงานจาก AP และตลาดระบุว่าปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นและสัญญาที่เปิดอยู่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย


3) การคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ธนาคารใหญ่หลายแห่งปรับเพิ่มการคาดการณ์ราคาทองคำในช่วง 3 ถึง 12 เดือนข้างหน้า เช่น Citi ปรับเพิ่มเป้าหมายเป็น 3,500 ดอลลาร์ ส่วน HSBC ก็ปรับเพิ่มค่าเฉลี่ยราคาทองคำในปี 2025 สะท้อนถึงความต้องการทองคำที่ยังคงมีอยู่และคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยต่ำต่อเนื่อง


4) ธนาคารกลาง

ธนาคารกลางจีนยังคงซื้อทองคำต่อเนื่องในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน เพื่อเสริมฐานราคาทองคำในเชิงโครงสร้าง เนื่องจากรัฐบาลจีนลดการพึ่งพาทรัพย์สินที่เป็นดอลลาร์สหรัฐฯ ธนาคารกลางอื่น ๆ ก็ยังคงเพิ่มสำรองทองคำในปี 2025 เช่นกัน


การวิเคราะห์สถานการณ์: 3 กรณีที่เป็นไปได้ระยะสั้นของราคาทองคำ

ทองคำลงในปี 2025 หรือไม่

กรณีขาขึ้น (ความน่าจะเป็น 40%): เฟดส่งสัญญาณนโยบายการเงินผ่อนคลาย อัตราผลตอบแทนที่แท้จริงลดลง ธนาคารกลางจีนยังคงซื้อทองคำ ราคาทองทะลุ 3,500 ดอลลาร์ และทดสอบระดับ 3,700 ดอลลาร์ภายในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งธนาคารหลายแห่งปรับเพิ่มเป้าหมายราคานี้ให้สมเหตุสมผล


กรณีพื้นฐาน (ความน่าจะเป็น 45%): เฟดแสดงท่าทีรอดูสถานการณ์ ข้อมูลเศรษฐกิจผสมปนเป ราคาทองคำแกว่งตัวในช่วง 3,200–3,450 ดอลลาร์ โดยขึ้นกับข้อมูลและข่าวสารการซื้อทองคำของธนาคารกลางและความต้องการจากกองทุน ETF ช่วยป้องกันการลดลงอย่างรุนแรง


กรณีขาลง (ความน่าจะเป็น 15%): ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่ง ค่าเงินดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้น ดันราคาทองคำลดลงสู่ระดับ 3,000 ดอลลาร์หรือต่ำกว่าในช่วงการปรับฐานรวดเร็ว ก่อนที่ปัจจัยพื้นฐานจะกลับมาเป็นตัวกำหนดราคาอีกครั้ง กรณีนี้มักเป็นระยะสั้นเว้นแต่จะมีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในนโยบายเฟด


ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับราคาทองคำ


1) Goldman Sachs

ธนาคารใหญ่หลายแห่งปรับเพิ่มเป้าหมายราคาทองคำสิ้นปี 2025 จากความต้องการทองคำของธนาคารกลางและสถานการณ์ความเสี่ยง Goldman Sachs เองก็ปรับเพิ่มเป้าหมายสิ้นปี แสดงถึงความเชื่อมั่นในตลาดทองคำของสถาบัน


2) โบรกเกอร์

ภาพรวมรายเดือนของโบรกเกอร์มองว่าเดือนกรกฎาคม 2025 เป็นช่วงการแกว่งตัว แต่มีแนวโน้มขาขึ้นในระยะกลาง หลายรายแนะนำให้ “ซื้อเมื่อราคาปรับลด” มากกว่าคาดว่าราคาจะลดลงต่อเนื่อง


ด้านนักวิเคราะห์เทคนิคดูจากราคาสูงสุดล่าสุด ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ และอินดิเคเตอร์โมเมนตัม:

  • แนวรับ: ประมาณ 3,200–3,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (โซนรวมตัวในช่วงปลายกรกฎาคมถึงต้นสิงหาคม) และแนวรับทางจิตวิทยาที่ 3,000 ดอลลาร์

  • แนวต้าน: ราคาสูงสุดในท้องถิ่นราว 3,450–3,500 ดอลลาร์ เป็นอุปสรรคทันที และหนุนให้ราคามีโอกาสขึ้นไปถึง 3,500 ดอลลาร์

  • โมเมนตัม: โมเมนตัมระยะสั้นยังเป็นบวก เทรดเดอร์รายวันรอติดตามการเบรคเอาต์ในช่วงตลาดสหรัฐฯ และลอนดอนเพื่อหาแนวโน้ม


ในตลาดที่ผันผวนและมีแนวโน้ม ราคาทองคำมักมีการปรับฐาน 2–5% ซึ่งเป็นเรื่องปกติ และไม่ได้บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มระยะกลางโดยอัตโนมัติ เว้นแต่จะมีการเปลี่ยนแปลงปัจจัยพื้นฐานอย่างมีนัยสำคัญ


ปัจจัยสำคัญ: ทำไมทองคำถึงไม่ล่มสลายในเร็วๆ นี้

Will Gold Collapse

1. แนวโน้มของเฟดและอัตราดอกเบี้ย

การจ้างงานที่ต่ำกว่าคาดในเดือนกรกฎาคมและความเคลื่อนไหวในตลาดพันธบัตรปลายเดือนกรกฎาคม ทำให้ความคาดหวังเรื่องการลดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นและช่วยหนุนราคาทองคำหากเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยเร็วหรือลึกกว่านี้ ราคาทองคำอาจปรับตัวขึ้นได้อีก


ในทางกลับกัน หากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด อัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเพิ่มขึ้นและกดดันทองคำ


2. ความแข็งแกร่ง / ความอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

ในปี 2025 ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีช่วงอ่อนค่าลงเป็นบางครั้ง เนื่องจากการคาดการณ์ลดดอกเบี้ยและความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ส่งผลต่อสินทรัพย์สหรัฐฯ หากดอลลาร์อ่อนค่าลงเพิ่มขึ้นจะเป็นผลดีต่อทองคำ ขณะที่การฟื้นตัวของดอลลาร์อาจทำให้ราคาทองคำลดลง


3. การซื้อทองคำของธนาคารกลาง

ความต้องการจากภาครัฐ โดยเฉพาะธนาคารกลางจีน อินเดีย และธนาคารกลางในตลาดเกิดใหม่บางแห่ง ถือเป็นแรงซื้อเชิงโครงสร้างในช่วงปี 2024–2025 การซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องของธนาคารประชาชนจีน (PBOC) จนถึงเดือนกรกฎาคม เป็นตัวช่วยลดความเสี่ยงที่ราคาทองจะทรุดหนักอย่างกะทันหัน


4. การไหลเข้าของทองคำจริงและกองทุน ETF

ความต้องการทองคำจริง (เช่น เหรียญทอง ทองแท่ง และเครื่องประดับในอินเดีย) ชะลอลงบ้างจากราคาที่สูงสำหรับผู้บริโภครายย่อย แต่การไหลเข้าของกองทุน ETF ทั่วโลกยังเป็นบวก และความต้องการลงทุนในทองคำเพิ่มขึ้นในปี 2025 ช่วยหนุนราคาทองคำ


การไหลเข้าของกองทุน ETF ที่สูงขึ้น แสดงว่านักลงทุนการเงินยังต้องการถือทองคำ ไม่ได้ขายออกเป็นจำนวนมาก


5. ภูมิรัฐศาสตร์และนโยบายการค้า

ความตึงเครียดทางการค้าและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ทองคำได้รับสถานะสินทรัพย์ปลอดภัย ราคาทองคำมักปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจากข่าวสารเหล่านี้ และช่วยลดโอกาสการลดลงของราคาทองคำ


คำแนะนำสำหรับนักลงทุนแต่ละกลุ่ม


เทรดเดอร์ (ระยะสั้น)

  • ใช้จุดตัดขาดทุน: ความผันผวนอาจทำให้ราคาขึ้นลงเร็ว ควรวางจุดตัดขาดทุนอย่างเหมาะสมใต้ระดับแนวรับล่าสุดเพื่อจำกัดความเสี่ยง

  • ติดตามค่าเงินดอลลาร์และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ: ตัวเลขเศรษฐกิจรายวัน เช่น การจ้างงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และผู้ผลิต (PPI) รวมถึงคำพูดของเฟด จะส่งผลต่อตลาด ควรเทรดรอบข่าวหรือค่อย ๆ เพิ่ม/ลดขนาดตำแหน่ง

  • พิจารณาใช้สัญญาออปชัน: ใช้ put spread หรือ collar เพื่อป้องกันความเสี่ยงการถือทองคำระยะสั้น หรือใช้ call เพื่อจับโอกาสราคาทองคำขึ้นโดยจำกัดความเสี่ยง


นักลงทุน (ระยะกลางถึงระยะยาว)

  • ประเมินสัดส่วนการลงทุน ไม่ใช่การจับจังหวะราคา: สำหรับผู้ที่ใช้ทองคำเป็นเครื่องป้องกันความเสี่ยง เช่น ภาวะเงินเฟ้อหรือความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ การปรับลดราคาช่วงสั้นมักเป็นโอกาสซื้อ ควรพิจารณาการทยอยซื้อ (dollar-cost averaging)

  • ตรวจสอบการถือครองทองคำในกองทุน ETF เทียบกับทองคำจริง: การไหลเข้าของกองทุน ETF มีความรวดเร็วและสภาพคล่องสูง ขณะที่ทองคำจริง (เหรียญแท่ง) มีค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาและช่วยกระจายความเสี่ยงของคู่สัญญา


นักวางแผนพอร์ตและการเงิน

  • ปรับสมดุลพอร์ตตามสัดส่วนเป้าหมาย: อย่าปล่อยให้ราคาทองคำที่พุ่งขึ้นสูงเกินไปทำให้สัดส่วนการลงทุนเบี่ยงเบน ควรปรับสมดุลอย่างเป็นระบบ ทองคำยังคงเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่ไม่สัมพันธ์กับสินทรัพย์อื่น ๆ สำหรับพอร์ตเชิงกลยุทธ์หลายพอร์ต

  • เตรียมแผนรองรับทุกสถานการณ์: เช่นหากลูกค้าต้องการสภาพคล่อง ให้วางแผนลดความเสี่ยงบางส่วน หากลูกค้าต้องการการป้องกันความเสี่ยง ให้พิจารณาเพิ่มสัดส่วนการลงทุนอย่างมีกลยุทธ์ในช่วงราคาปรับลด


คำถามที่พบบ่อย


Q1. คาดว่าราคาทองคำจะลดลงในระยะสั้นหรือไม่?

ANS: นักวิเคราะห์คาดว่าราคาทองคำอาจมีการปรับฐานในระยะสั้น หากเงินเฟ้อลดลงและอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับสูง แต่ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ต่อเนื่องอาจทำให้ราคาทองคำยังอยู่ในระดับสูงได้


Q2. ควรซื้อทองคำตอนนี้หรือไม่?

ANS: สำหรับนักลงทุนระยะยาวที่มองทองคำเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง การสะสมทองคำเมื่อราคาปรับลดเป็นแนวทางที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีความต้องการทองคำจากธนาคารกลางและความคาดหวังการลดดอกเบี้ย นักลงทุนควรบริหารความเสี่ยงอย่างมีวินัย


Q3. นักลงทุนจะปกป้องตัวเองได้อย่างไรหากราคาทองคำลง?

ANS: สามารถใช้การป้องกันความเสี่ยงด้วยกองทุน ETF กระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์อื่น ๆ หรือลงทุนทีละน้อยในช่วงราคาปรับลด เพื่อเฉลี่ยต้นทุนในระยะยาว


สรุป


จากข้อมูลล่าสุดและความเห็นของผู้เชี่ยวชาญในช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2025 ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะทรงตัวหรือปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในไม่กี่วันข้างหน้า มากกว่าการปรับลดอย่างต่อเนื่องการซื้อทองคำของธนาคารกลางที่แข็งแกร่ง การไหลเข้าของกองทุน ETF ที่มั่นคง และความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยของเฟด สร้างความต้องการทองคำในเชิงโครงสร้าง


อย่างไรก็ตาม หากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด หรือดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจเกิดการปรับฐานราคาทองคำอย่างรวดเร็ว ดังนั้น นักลงทุนควรบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ ปรับขนาดการลงทุนอย่างมีเหตุผล และใช้เครื่องมือทางเลือกเช่นออปชันหรือคำสั่งหยุดขาดทุน


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
ดอลลาร์อ่อนค่าลงในปี 2025 หรือไม่? สาเหตุและปฏิกิริยาของตลาด
แนวโน้ม XAUUSD ในปี 2025 ทองคำจะพุ่งแตะ 4,000 ดอลลาร์หรือไม่?
สัญญาณสำคัญปี 2025 ที่บอกว่าราคาทองลงใกล้มาแล้ว
ลงทุนทองคำยุคเศรษฐกิจผันผวน ยังน่าจับตามองอยู่ไหม?
ลงทุนเงินอย่างไรให้ได้ผลตอบแทนดี 10 ไอเดียพิสูจน์แล้ว