简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

สเปรดออปชั่น 101: วางระบบวินัยในการเทรดออปชัน

2025-08-18

สเปรดออปชั่น คืออะไร?


สเปรดออปชัน (option spread) คือกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อและขายออปชันในสินทรัพย์อ้างอิงเดียวกัน ซึ่งโดยปกติจะมีราคาใช้สิทธิหรือวันหมดอายุที่แตกต่างกัน แทนที่จะรับความเสี่ยงและผลตอบแทนที่อาจได้รับจากออปชันคอลออปชันหรือพุตออปชันเพียงรายการเดียว สเปรดช่วยให้เทรดเดอร์สามารถสร้างโปรไฟล์ผลตอบแทนที่กำหนดไว้ได้


โดยพื้นฐานแล้ว สเปรดคือการแลกเปลี่ยน: เทรดเดอร์ยอมรับผลกำไรที่จำกัดเพื่อแลกกับความเสี่ยงที่ลดลงหรือต้นทุนเริ่มต้นที่ลดลง ซึ่งทำให้สเปรดเป็นเครื่องมือยอดนิยม ไม่เพียงแต่สำหรับเทรดเดอร์ที่เก็งกำไรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักป้องกันความเสี่ยงที่ต้องการควบคุมความเสี่ยงของตนเองอย่างแม่นยำอีกด้วย


การรวมตำแหน่งยาวและสั้นเข้าด้วยกันทำให้สเปรดออปชั่นเป็นหัวใจสำคัญของการซื้อขายออปชั่นระดับมืออาชีพ โดยสร้างสมดุลระหว่างประสิทธิภาพด้านต้นทุน การควบคุมความเสี่ยง และมุมมองตลาดตามทิศทางหรือความผันผวน


ประเภทของสเปรดออปชั่น

Bull Call Spreads

Vertical Spread

Vertical Spread คือกลยุทธ์ที่ใช้ ซื้อและขายออปชันประเภทเดียวกัน (Call หรือ Put) ที่มี วันหมดอายุเดียวกัน แต่ต่างกันที่ ราคาใช้สิทธิ (Strike Price)


  • Bull Call Spread: ซื้อคอลที่ราคาใช้สิทธิ์ต่ำกว่า และขายคอลที่ราคาใช้สิทธิ์สูงกว่า ออกแบบมาเพื่อทำกำไรจากการปรับขึ้นปานกลางของสินทรัพย์อ้างอิง

  • Bear Put Spread: ซื้อพุตที่ราคาใช้สิทธิ์สูงกว่า และขายพุตอีกอันที่ราคาใช้สิทธิ์ต่ำกว่า มีไว้สำหรับตลาดที่คาดว่าจะปรับตัวลดลงเล็กน้อย


สเปรดแนวตั้งช่วยปิดกั้นทั้งแนวโน้มขาขึ้นและขาลง ทำให้เป็นการเล่นที่ตรงไปตรงมาและคุ้มต้นทุนสำหรับผู้ซื้อขายตามทิศทาง


Calendar Spread

Calendar Spread

Calendar Spread คือกลยุทธ์ที่ ซื้อและขายออปชันที่มีราคา Strike เดียวกัน แต่วันหมดอายุต่างกัน


โดยทั่วไปแล้ว เทรดเดอร์จะขายออปชันระยะสั้น เพื่อให้ได้ผลตอบแทนแบบสลายตัวตามเวลา (theta) ที่เร็วขึ้น ในขณะที่ถือออปชันระยะยาวไว้เป็นการป้องกัน ผลตอบแทนจะดีขึ้นหากราคาอ้างอิงยังคงใกล้เคียงกับราคาใช้สิทธิ ขณะที่ราคาเสื่อมตัวตามเวลาในระยะสั้นเร่งตัวขึ้น


Calendar Spread ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับกลยุทธ์ที่เป็นกลางและสำหรับการซื้อขายความแตกต่างในความผันผวนโดยนัยตลอดช่วงครบกำหนด


Diagonal Spread

Diagonal Spread

Diagonal Spread เป็นกลยุทธ์ผสมระหว่าง Vertical กับ Calendar Spread คือมีทั้ง ราคา Strike ต่างกัน และ วันหมดอายุต่างกัน


วิธีนี้ช่วยให้เทรดเดอร์มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยสามารถแสดงความคิดเห็นได้ทั้งทิศทางและเวลา ตัวอย่างเช่น เทรดเดอร์อาจขายคอลระยะสั้นที่ราคาใช้สิทธิ์หนึ่ง ขณะเดียวกันก็ซื้อคอลระยะยาวที่ราคาใช้สิทธิ์อีกราคาหนึ่ง ซึ่งจะทำให้สเปรดสอดคล้องกับมุมมองการเคลื่อนไหวของตลาดที่ละเอียดขึ้น


ทำไมต้องใช้สเปรดออปชั่น?


  • ความเสี่ยงที่กำหนด

สเปรดจะจำกัดทั้งกำไรสูงสุดและขาดทุนสูงสุดตามโครงสร้าง สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการควบคุมความเสี่ยง นี่คือข้อได้เปรียบที่สำคัญเหนือออปชันเปล่า


  • ต้นทุนต่ำกว่า

การขายส่วนต่างของส่วนต่าง (spread) หนึ่งส่วนจะช่วยชดเชยส่วนต่างที่จ่ายไปสำหรับส่วนต่างอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายเงินทุนล่วงหน้า ซึ่งทำให้ส่วนต่างน่าสนใจเป็นพิเศษเมื่อความผันผวนสูง เนื่องจากส่วนต่างของออปชั่นมีราคาแพง


  • ความยืดหยุ่นตามทิศทาง

สเปรดสามารถปรับแต่งให้เหมาะกับมุมมองที่แตกต่างกัน:

  1. ขาขึ้น (Bullish) → Bull Call Spread

  2. ขาลง (Bearish) → Bear Put Spread

  3. ตลาดนิ่ง (Neutral) → Calendar Spread, Butterfly Spread

  4. ขึ้นอยู่กับความผันผวน (Volatility-driven) → Long Straddle, Condor (แม้จะเกินกว่าสเปรดแบบง่าย)


  • ความเหมาะสมสำหรับตลาดที่หลากหลาย

ไม่ว่าตลาดจะมีแนวโน้มแข็งแกร่งหรืออยู่ในกรอบ ก็มีกลยุทธ์สเปรดที่ออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์จากเงื่อนไขต่างๆ


หลักการสำคัญที่ต้องเข้าใจ


ชาวกรีก

ความสำเร็จของการแพร่กระจายออปชั่นขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อชาวกรีกเป็นอย่างมาก:


  1. Delta วัดความอ่อนไหวต่อการเคลื่อนไหวของราคาอ้างอิง สเปรดแนวตั้งโดยทั่วไปจะสร้างขึ้นโดยมีอคติเดลต้าแบบมีทิศทาง

  2. Theta: สะท้อนถึงการสลายตัวของเวลา สเปรดปฏิทินได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากความแตกต่างของธีตาระหว่างวันหมดอายุใกล้และวันหมดอายุยาว

  3. Vega: แสดงถึงความเสี่ยงต่อความผันผวน สเปรดแบบทแยงมุมและแบบปฏิทินสามารถทำกำไรจากความผันผวนโดยนัยที่เพิ่มขึ้น หรืออาจได้รับผลกระทบเมื่อความผันผวนลดลง


การแลกเปลี่ยน

สเปรดทุกครั้งล้วนเป็นการประนีประนอม การลดต้นทุนและความเสี่ยงเบื้องต้นทำให้เทรดเดอร์ต้องสูญเสียศักยภาพในการทำกำไรที่ไร้ขีดจำกัด ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะเป็นจุดอ่อนเสมอไป เพราะกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จหลายอย่างมักอาศัยความสม่ำเสมอและการควบคุมความเสี่ยง มากกว่าการทำกำไรให้ได้มากที่สุด


ตัวอย่างเช่น การกระจายการเรียกซื้อแบบกระทิงอาจสร้างผลกำไรได้น้อยกว่าการโทรซื้อครั้งเดียวหากสินทรัพย์มีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง แต่ก็มีต้นทุนการเข้าซื้อน้อยกว่าและขาดทุนน้อยกว่าหากการฟื้นตัวไม่เคยเกิดขึ้นจริง


บทสรุป


สเปรดออปชัน คือหนึ่งในกลยุทธ์ที่มีความหลากหลายและทรงพลังที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ออปชัน การผสมผสานสถานะซื้อและขายเข้าด้วยกันช่วยสร้างสถานการณ์ความเสี่ยงและผลตอบแทนที่ชัดเจน ซึ่งเหมาะสมกับสภาวะตลาดที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้ม ความผันผวน หรือความผันผวน


กุญแจสำคัญอยู่ที่การทำความเข้าใจโครงสร้าง ข้อจำกัด และความละเอียดอ่อนต่อชาวกรีก สำหรับเทรดเดอร์ที่พิจารณาอย่างรอบคอบ สเปรดสามารถเปลี่ยนการเทรดออปชันจากการลงทุนเก็งกำไรที่มีความเสี่ยง ไปสู่การแสวงหาโอกาสอย่างมีระเบียบวินัยและมีโครงสร้าง


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
กลยุทธ์การซื้อขายตัวเลือกที่ดีที่สุดที่เทรดเดอร์ทุกคนควรรู้
กลยุทธ์ออปชั่น Butterfly Spread: เคล็ดลับสำหรับผู้เริ่มต้น
ตัวเลือกวานิลลาคืออะไรและทำงานอย่างไร?
ดัชนี Euro Stoxx 50 คืออะไร และควรเทรดอย่างไร?
การเทรดแบบเลเวอเรจในตลาดฟอเร็กซ์และหุ้นคืออะไร?