Iron Condor กลยุทธ์เทรดออปชั่น สร้างกำไรจำกัดความเสี่ยง

ลองจินตนาการว่าคุณกำลังจับตาตลาดอย่างเหยี่ยว เฝ้ารอให้ราคาพุ่งขึ้นแรงหรือตกลงแรง แต่สุดท้ายตลาดกลับไม่ทำอะไรเลย เพียงแค่แกว่งตัวไปมาอย่างเบื่อหน่าย สำหรับเทรดเดอร์ทั่วไป นั่นคือความน่าหงุดหงิด แต่สำหรับผู้ใช้กลยุทธ์ Iron Condor นั่นกลับเป็นความฝัน

กลยุทธ์ Iron Condor เปรียบเสมือนการสร้าง "รั้วที่มองไม่เห็น" สองชั้นรอบตลาดที่หยุดนิ่ง ตราบใดที่ราคายังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบที่คุณกำหนดไว้ คุณก็จะเก็บเกี่ยวกำไรได้ เหมือนกับการปล่อยเช่าบ้านที่ผู้เช่าไม่เคยย้ายออก

มันฟังดูนิ่งเกินจริงหรือเปล่า? มาลงลึกไปพร้อมกัน เพื่อดูว่ากลยุทธ์ "ตลาดเงียบ" นี้ทำงานอย่างไร ทำไมเทรดเดอร์มืออาชีพถึงชื่นชอบ และมือใหม่ควรรู้อะไรก่อนจะกางปีกบิน

Iron Condor คืออะไรในการเทรดออปชั่น?

Iron Condor คือกลยุทธ์การเทรดออปชั่นที่ออกแบบมาเพื่อทำกำไรในสภาวะตลาดที่มีความผันผวนต่ำ เหมาะเมื่อคุณคาดว่าตลาดจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบที่กำหนดเป็นเวลานาน

ลองนึกภาพว่าเป็นการผสมผสานระหว่างสเปรด 2 แบบ:

• Bull Put Spread → เดิมพันว่าราคาจะไม่ร่วงลงแรงเกินไป

• Bear Call Spread → เดิมพันว่าราคาจะไม่พุ่งขึ้นแรงเกินไป

เมื่อรวมกัน คุณจะสร้าง “โซนกำไร” หรือ sweet spot ระหว่างราคาสองจุด หากสินทรัพย์อ้างอิง (เช่น หุ้น ดัชนี หรือ ETF) เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบนั้นจนถึงวันหมดอายุ คุณจะสามารถเก็บพรีเมียมส่วนใหญ่ที่รับมาได้ตั้งแต่แรก

Iron Condor vs Iron Butterfly

มือใหม่จำนวนไม่น้อยมักสับสนระหว่างนกสองชนิดนี้ใน “ป่าของออปชั่น”

สรุปสั้น ๆ

• Iron Condor = มีพื้นที่มากกว่า กำไรน้อยกว่า

• Iron Butterfly = พื้นที่แคบกว่า กำไรมากกว่า

วิธีการทำงานของ Iron Condor

มาแยกอธิบายทีละขั้นตอนด้วยตัวเลขง่าย ๆ:

สมมติว่าคุณลงทุนในหุ้นเติบโตที่ปัจจุบันมีราคา $100

1. ขาย Call Option ที่ราคา $110 (คาดว่าราคาจะไม่พุ่งขึ้นไปมากกว่านี้)

2. ซื้อ Call Option อีกตัวที่ราคา $115 เพื่อป้องกันการขาดทุนหากราคาพุ่งสูงเกินไป

3. ขาย Put Option ที่ราคา $90 (คาดว่าราคาจะไม่ตกลงไปถึงจุดนี้)

4. ซื้อ Put Option อีกตัวที่ราคา $85 เพื่อจำกัดความเสี่ยงด้านขาลง

คุณจึงได้สร้าง 2 สเปรด:

• Call Spread (มุมมองขาลง)

• Put Spread (มุมมองขาขึ้น)

ผลลัพธ์คือคุณจะได้รับ Net Credit: พรีเมียมที่ได้จากการขายออปชั่น 2 ตัว ลบด้วยค่าที่จ่ายเพื่อซื้อออปชั่นป้องกันความเสี่ยง

หากราคาหุ้นยังคงอยู่ระหว่าง $90 – $110 จนถึงวันหมดอายุ ออปชั่นทั้งหมดจะหมดค่า และคุณจะเก็บ Net Credit นั้นไว้เป็นกำไร

กำไรและขาดทุนใน Iron Condor

Iron Condor เน้นความสมดุล: ความเสี่ยงจำกัด กำไรจำกัด

ตัวอย่าง:

• คุณได้รับเครดิต $2 ต่อหุ้น (หรือ $200 ต่อสัญญา)

• ความเสี่ยงสูงสุด = ระยะห่างระหว่าง Strike (เช่น $5) – เครดิตที่ได้รับ ($2) = $3 หรือ $300 ต่อสัญญา

ดังนั้น:

• กำไรสูงสุด: $200

• ขาดทุนสูงสุด: $300

• โอกาสในการทำกำไร (POP): มักอยู่ที่ประมาณ 60–75% ขึ้นอยู่กับความผันผวน

เมื่อไหร่ควรใช้กลยุทธ์ Iron Condor?

Iron Condor ทำงานได้ดีที่สุดเมื่อ:

• ตลาดเคลื่อนไหวในกรอบหรือ Sideways

• ความผันผวน (Volatility) อยู่ในระดับสูง แต่คาดว่าจะลดลง

• เหตุการณ์ใหญ่ (เช่น งบการเงิน หรือการประกาศนโยบาย Fed) ผ่านไปแล้ว และตลาดเริ่มสงบ

สรุปสั้น ๆ:

ใช้ Iron Condor เมื่อคุณคาดว่าตลาดจะ “พักหายใจ” ไม่ใช่วิ่งพุ่งไปข้างหน้า

เมื่อไหร่ควรปรับ Iron Condor

แม้ตลาดจะดูสงบ แต่ก็อาจเกิดพายุได้ เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มักจะ “ปรับปีก” ของตนเมื่อราคามีแนวโน้มจะทะลุกรอบ

วิธีการปรับ ได้แก่:

• Roll ข้างที่เสีย ไปใกล้ขึ้นหรือต่อเวลาออกไป

• ปิดฝั่งที่กำลังถูกคุกคาม เพื่อลดการขาดทุน

• แปลงเป็นกลยุทธ์อื่น เช่น Broken-Wing Condor หรือ Strangle หากความผันผวนเปลี่ยนแปลง

เป้าหมายหลัก คือการปกป้องกำไรและลดความเสียหาย ไม่ใช่การพยายามทำนายตลาดทุกครั้ง

ตัวอย่างการใช้กลยุทธ์ Iron Condor โดยเทรดเดอร์ (ปี 2025)

1) สิงหาคม 2025 (ตลาดสงบ, VIX ต่ำ)

• ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2025 ดัชนี SPX เคลื่อนไหวแถวช่วง 6,400–6,480 (เช่น ปิดที่ 6,449.80 วันที่ 15 ส.ค. 2025)

• ดัชนีความผันผวน VIX ลดลงมาอยู่ระดับกลาง-ต่ำ (14–17) บ่งชี้ว่าตลาดค่อนข้างสงบ

ภาพประกอบ Iron Condor:

• อ้างอิง (SPX): ~6,450 (กลางเดือนสิงหาคม 2025)

• โครงสร้าง Iron Condor (อายุสัญญาประมาณ 30 วัน):

• ขาย Call 6,500 (Short Call)

• ซื้อ Call 6,550 (Long Call – ป้องกันความเสี่ยงด้านบน)

• ขาย Put 6,300 (Short Put)

• ซื้อ Put 6,250 (Long Put – ป้องกันความเสี่ยงด้านล่าง)

ตัวเลขโดยประมาณ: $15 (เช่น $15.00  จุดดัชนี → $1,500 ต่อสัญญาแบบมาตรฐาน)

ความเสี่ยงสูงสุดต่อสัญญา : ช่วงห่าง $50 − เครดิต $15 = $35 (≈ $3,500 ต่อสัญญา)

กำไรสูงสุด : $15 (≈ $1,500)

กลยุทธ์ Iron Condor: ข้อดี vs ข้อเสีย

Iron Condor เหมาะกับมือใหม่หรือไม่?

เหมาะ แต่ควรระมัดระวัง

มือใหม่ควรเรียนรู้ก่อนว่า:

1. วิธีการกำหนดราคาของออปชั่น

2. การอ่านค่าความผันผวน (Volatility)

3. การจัดการสเปรด (Spreads)

การฝึกในบัญชีทดลอง (Paper Trading) เป็นวิธีที่ดีในการทดสอบก่อนใช้เงินจริง

เคล็ดลับการจัดการความเสี่ยงสำหรับ Iron Condor

แม้จะเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงจำกัด แต่ก็ต้องมีการจัดการอย่างรอบคอบ:

1. อย่าเสี่ยงเกิน 2–3% ของเงินทุนต่อการเทรดหนึ่งครั้ง

2. ใช้ Stop-loss ตามค่า Delta หรือระดับราคา

3. หลีกเลี่ยงการเปิดช่วงสัปดาห์ประกาศงบ / ข่าวใหญ่ เพราะความผันผวนอาจพุ่งแรง

4. ปิดทำกำไรก่อน เช่น เมื่อได้ 50–75% ของกำไรสูงสุด

5. อย่า “ทบไม้” หากขาดทุน → ควร Roll หรือปิดสถานะอย่างมีวินัย

คำถามที่พบบ่อย

1. ต้องใช้เงินทุนเท่าไหร่ในการทำ Iron Condor?

ขึ้นอยู่กับระยะห่างของ Strike Price และกฎมาร์จิ้นของโบรกเกอร์ แต่โดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง $500 ถึง $2,000 ต่อสเปรด

2. สามารถทำกำไรได้เท่าไหร่จาก Iron Condor?

โดยทั่วไป เทรดเดอร์มักตั้งเป้า 10–20% ของความเสี่ยงมาร์จิ้นต่อเดือน ขึ้นอยู่กับระดับความผันผวนและระยะห่างของ Strike

3. สามารถใช้ Iron Condor ในตลาดคริปโตหรือฟอเร็กซ์ได้หรือไม่?

ได้ หากมีออปชั่นให้เทรด หลักการเดียวกันใช้ได้ แต่ต้องระวังเพราะตลาดเหล่านี้มีความผันผวนสูงกว่า

4. ถ้าตลาดทะลุกรอบที่กำหนดไว้จะเกิดอะไรขึ้น?

คุณจะเผชิญกับการขาดทุนที่จำกัด เนื่องจากออปชั่นที่คุณซื้อไว้ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกัน จำกัดการขาดทุนสูงสุด

บทสรุป

สรุปแล้ว การเทรดไม่ได้หมายถึงการวิ่งไล่ตามกำไรระยะสั้นเสมอไป บางครั้งกลยุทธ์ที่ทรงพลังที่สุดคือการทำกำไรจากความนิ่งของตลาด และเติบโตได้ในช่วงเวลาที่คนอื่นหมดความอดทน

นี่แหละคือแก่นของ Iron Condor กลยุทธ์ที่อาศัยความสงบ รอบคอบ และให้เวลาและวินัยทำงานแทนคุณ

เหมือนกับนก Condor ที่โผบินอย่างสง่างามโดยแทบไม่ต้องกระพือปีก เป้าหมายของคุณไม่ใช่การเร่งรีบ แต่คือการปล่อยให้กระแสความน่าจะเป็นพาคุณไปข้างหน้า เมื่อคุณมีประสบการณ์ ความอดทน และการควบคุมความเสี่ยง คุณจะสามารถเปลี่ยนตลาดที่เงียบสงบให้กลายเป็นโอกาสทำกำไรที่มั่นคงได้

ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ