Leveraged ETF คืออะไรและทำงานอย่างไร?

2025-05-06
สรุป

Leveraged ETF คือกองทุนที่ใช้เลเวอเรจเพื่อขยายผลตอบแทนจากดัชนี ซึ่งมีศักยภาพในการทำกำไรสูงในระยะสั้น แต่มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ควรเข้าใจและประเมินความเสี่ยงก่อนลงทุน

หากคุณเคยได้ยินคำว่า Leveraged ETF แต่ยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไรหรือทำงานอย่างไร คุณไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกแบบนั้นแน่นอน กองทุนนี้อาจดูซับซ้อนในตอนแรก แต่เมื่อคุณเข้าใจหลักการพื้นฐานแล้ว มันจะกลายเป็นเรื่องที่เข้าใจง่ายขึ้น Leveraged ETF คือกองทุนการลงทุนที่ใช้อนุพันธ์ทางการเงินและหนี้สินในการขยายผลตอบแทนจากดัชนีหรือสินทรัพย์เฉพาะ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้มากขึ้นแต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงที่สูงขึ้นตามมาเช่นกัน


การจำลองผลตอบแทน - ETF อ้างอิงเทียบกับ ETF ที่มีเลเวอเรจ 3 เท่า - EBC

Leveraged ETF คืออะไร?

Leveraged ETF คือกองทุนที่ออกแบบมาเพื่อขยายผลตอบแทนจากดัชนีที่พื้นฐาน โดยการใช้เครื่องมือทางการเงิน เช่น สัญญาฟิวเจอร์สและออปชัน เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้มากขึ้น เช่น หาก ETF ปกติจะติดตามผลการดำเนินงานของดัชนี 1 ต่อ 1 Leveraged ETF จะพยายามขยายผลตอบแทนให้สูงขึ้น เช่น 2 เท่าหรือ 3 เท่า ซึ่งหมายความว่า 2x Leveraged ETF จะหวังให้ได้ผลตอบแทนเป็นสองเท่าของดัชนีพื้นฐานในแต่ละวัน

การจำลองผลตอบแทน - ETF แบบปกติเทียบกับแบบ 2× เทียบกับแบบ 3× - EBC

จุดที่ทำให้ Leveraged ETF แตกต่างจาก ETF แบบปกติคือการใช้เลเวอเรจ ซึ่งทำให้ผลตอบแทนอาจสูงขึ้น แต่ก็มีความเสี่ยงที่สูงขึ้น ด้วยการลงทุนใน Leveraged ETF จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีความเข้าใจและพร้อมรับความเสี่ยงที่มากขึ้น


Leveraged ETF ทำงานอย่างไร?

การทำงานของ Leveraged ETF เกี่ยวข้องกับการใช้เลเวอเรจ ซึ่งก็คือการยืมเงินเพื่อลงทุนในขนาดที่ใหญ่ขึ้น กองทุนเหล่านี้มักจะยืมเงินหรือใช้เครื่องมือทางการเงิน เช่น ฟิวเจอร์สและสวอป (swap) เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้สูงขึ้น ดังนั้น แทนที่จะติดตามผลการดำเนินงานของดัชนีเพียงอย่างเดียว กองทุนจะใช้เครื่องมือเหล่านี้เพื่อพยายามขยายผลตอบแทนให้ได้มากขึ้น เช่น 2 เท่าหรือ 3 เท่าของผลการดำเนินงานในแต่ละวัน


สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือ การขยายผลนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะกับผลตอบแทนรายวันเท่านั้น เนื่องจาก Leveraged ETF ถูกออกแบบให้รีเซ็ตผลการดำเนินงานทุกวัน ผลตอบแทนระยะยาวของกองทุนอาจแตกต่างจากที่คาดหวังได้มากเพราะมีผลกระทบจากการทบต้นและความผันผวน ซึ่งทำให้กองทุนเหล่านี้เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะสั้นมากกว่าผู้ที่ลงทุนระยะยาว


ประเภทของ Leveraged ETF

เมื่อพูดถึง Leveraged ETF หลายคนมักจะคุ้นเคยกับกองทุนที่มีอัตรา 2 เท่าหรือ 3 เท่า ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อขยายผลตอบแทนให้สูงกว่าดัชนีที่ติดตาม เช่น กองทุนที่มีอัตรา 2 เท่าจะพยายามให้ผลตอบแทนเป็นสองเท่าของผลการดำเนินงานของดัชนี และ 3 เท่าจะให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นอีกในระดับ 3 เท่า กองทุนเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มผลกำไรให้มากขึ้น แต่ก็มีความเสี่ยงในการขาดทุนที่เพิ่มขึ้นหากตลาดเคลื่อนไหวในทางที่ไม่เป็นประโยชน์


นอกจากนี้ยังมี Inverse Leveraged ETF ซึ่งเป็นกองทุนที่ออกแบบมาเพื่อทำกำไรจากการลดลงของมูลค่าดัชนีที่ติดตาม เช่น หากดัชนีลดลง 1% Inverse Leveraged ETF ที่มีอัตรา -2 เท่า จะพยายามเพิ่มขึ้น 2% หรือ -3 เท่า จะเพิ่มขึ้น 3% ซึ่งสามารถใช้เพื่อทำกำไรจากตลาดขาลง


การเข้าใจประเภทต่าง ๆ ของ Leveraged ETF เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากแต่ละประเภทเหมาะกับกลยุทธ์การลงทุนที่แตกต่างกัน โดยกองทุน Leveraged ETF ปกติ (เช่น 2 เท่าหรือ 3 เท่า) เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของตลาดในระยะสั้น ส่วน Inverse Leveraged ETF เหมาะสำหรับการป้องกันความเสี่ยงหรือการลงทุนในตลาดขาลง


ข้อดีของ Leveraged ETF

Leveraged ETF มีข้อดีหลายประการที่ทำให้น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่สูง โดยเฉพาะในระยะสั้น กองทุนเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อขยายผลตอบแทนจากดัชนีที่ติดตาม ทำให้สามารถทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในตลาดได้มากขึ้น แต่ก็มีความเสี่ยงสูงตามไปด้วย


ตัวอย่างเช่น หากนักลงทุนเชื่อว่าอุตสาหกรรมใดจะมีผลการดำเนินงานที่ดีในระยะสั้น กองทุน Leveraged ETF ที่ติดตามภาคอุตสาหกรรมนี้อาจให้ผลตอบแทนที่สูงกว่ากองทุน ETF แบบปกติซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการผลกำไรในระยะสั้นโดยใช้กลยุทธ์ที่เน้นการเคลื่อนไหวของตลาด


อีกข้อดีของ Leveraged ETF คือมีสภาพคล่องสูงเหมือนกับ ETF แบบปกติ ทำให้การซื้อขายสะดวกและสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความยืดหยุ่นในการจัดการพอร์ตลงทุนของตน


ความเสี่ยงและข้อควรพิจารณา

การจำลองการเสื่อมสลาย - ETF แบบปกติเทียบกับแบบ 2× เทียบกับแบบ 3× - EBC

แม้ว่า Leveraged ETF จะมีศักยภาพในการทำกำไรสูง แต่ก็ต้องยอมรับว่ามาพร้อมกับความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดคือ การขาดทุนที่อาจขยายตัวได้เช่นกัน เพราะถ้ากองทุนสามารถขยายผลกำไรได้ ก็สามารถขยายการขาดทุนได้เช่นกัน หากทิศทางของตลาดสวนทางกับทิศทางของกองทุน คุณอาจสูญเสียเงินมากกว่าที่คุณลงทุนไปในตอนแรก


ด้วยเหตุนี้ Leveraged ETF จึงไม่เหมาะกับการลงทุนระยะยาว เพราะผลการดำเนินงานของกองทุนจะถูกรีเซ็ตทุกวัน ซึ่งอาจทำให้ผลตอบแทนในระยะยาวไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ตัวอย่างเช่น หากคุณลงทุนใน 2x Leveraged ETF และตลาดขึ้น 10% ในวันหนึ่ง ผลตอบแทนจะเพิ่มขึ้น 20% แต่ถ้าตลาดตกลง 10% ในวันถัดไปคุณอาจขาดทุนถึง 20% แม้ว่าผลตอบแทนโดยรวมของตลาดจะยังคงใกล้เคียงกัน


นอกจากนี้ กองทุนเหล่านี้มักมีความผันผวนสูง ซึ่งอาจทำให้การเคลื่อนไหวของราคาเกิดขึ้นบ่อยและรุนแรง จึงไม่เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการความมั่นคงหรือผู้ที่มีความทนทานต่อความเสี่ยงต่ำ


สรุป

Leveraged ETF เป็นเครื่องมือการลงทุนที่น่าสนใจ เนื่องจากสามารถเพิ่มผลตอบแทนได้สูงขึ้นโดยใช้เลเวอเรจและอนุพันธ์ ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของตลาดในระยะสั้น แต่ก็ต้องระมัดระวังเกี่ยวกับความเสี่ยงที่มากขึ้นด้วย กองทุนเหล่านี้ไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง และมักเหมาะกับผู้ที่มีประสบการณ์ในการเทรด หรือผู้ที่ยอมรับความเสี่ยงสูงเพื่อโอกาสในการทำกำไรที่มากขึ้น


หากคุณสนใจลงทุนใน Leveraged ETF ควรศึกษาวิธีการทำงานของมันอย่างละเอียด และประเมินว่ามันเหมาะกับกลยุทธ์การลงทุนของคุณและความเสี่ยงที่คุณพร้อมจะรับได้หรือไม่


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

เทรดทอง Gold Spot VS Gold Future ต่างกันยังไง? รู้ไว้ก่อนลงทุน!

เทรดทอง Gold Spot VS Gold Future ต่างกันยังไง? รู้ไว้ก่อนลงทุน!

เรียนรู้การเทรดทอง Gold Spot อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย วิธีเทรด ข้อแตกต่างกับ Gold Future ปัจจัยกระทบราคา และเทคนิคทำกำไรในตลาดขาขึ้น-ขาลง

2025-06-20
การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

เรียนรู้วิธีระบุรูปแบบแนวทแยงที่สิ้นสุด ทำความเข้าใจโครงสร้าง และค้นหาสัญญาณการกลับตัวที่สำคัญโดยใช้การวิเคราะห์คลื่นเอลเลียต

2025-06-20
ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงในการซื้อขาย เปิดเผยความเข้าใจผิดทั่วไปที่ทำให้เกิดการสูญเสียในการซื้อขาย

2025-06-20