หุ้นเอเชียทยาน ขณะที่ดัชนี Nikkei 225 ทำ All Time High โดย GDP ของญี่ปุ่นออกมาเหนือความคาดหมาย และความหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหนุนดัชนี CSI300 การฟื้นตัวนี้จะยืนได้ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจที่หลากหลายหรือไม่?
หุ้นเอเชียฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในสัปดาห์นี้ โดยดัชนี Nikkei 225 ทำสถิติสูงสุดใหม่หลังปรับตัวขึ้น 1.7% ปิดที่ 43,378 ในวันศุกร์ ขับเคลื่อนจาก GDP ไตรมาส 2/2025 ของญี่ปุ่นที่สูงกว่าคาดที่ +1.0% ต่อปี
ดัชนี CSI300 ปรับตัวขึ้น 2.4% ในไตรมาส 2 และทำสถิติการปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์สูงสุดในรอบเจ็ดเดือน แม้ยอดขายปลีกและผลผลิตภาคโรงงานจะมีสัญญาณอ่อนแอ ส่งผลให้เกิดความหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ ดังนั้น หุ้นเอเชียกำลังฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ แต่สัญญาณผสมจากจีนและเงินเฟ้อโลกยังแนะนำให้ระมัดระวัง
หุ้นญี่ปุ่นเริ่มต้นเดือนสิงหาคมอย่างร้อนแรง ทำสถิติทะลุ 43,000 จุดเป็นครั้งแรก ดัชนี Nikkei 225 ปิดวันศุกร์ที่ 43,378 ปรับตัวขึ้น 1.7% จากวันก่อนหน้า และเป็นการชนะต่อเนื่องเป็นเวลา 6 วันทำการ
ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวขึ้น 9.4% และเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบรายปี ดัชนี Topix ที่กว้างกว่าก็ทำสถิติสูงสุดใหม่เช่นกัน ขับเคลื่อนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งและความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ฟื้นตัวในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและยานยนต์
ปัจจัยสำคัญที่หนุนการปรับตัวขึ้นของ Nikkei:
GDP ไตรมาส 2 สร้างความประหลาดใจ: เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัว 0.3% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และ 1.0% ต่อปีในไตรมาส 2/2025 สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 0.4% การส่งออกสุทธิและการใช้จ่ายด้านทุน โดยเฉพาะในเทคโนโลยีและดิจิทัล เป็นปัจจัยหนุนการเติบโต
แรงหนุนจากผลประกอบการ: หุ้นเด่นได้แก่ Renesas (+7%), Advantest (+5.4%), Sony Group (+3.5%), Yokohama Rubber (+8.3%) และ Asics (+18% หลังประกาศผลประกอบการ)
ปัจจัยหนุนเศรษฐกิจโลก: ดัชนีวอลล์สตรีททำสถิติสูงสุด เงินเฟ้อสหรัฐฯ อยู่ในระดับต่ำ (+2.7% CPI เดือนมิถุนายน) และความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่แข็งแกร่ง ช่วยหนุนความเชื่อมั่นของตลาดเอเชีย
ดัชนี CSI300 ของจีนปรับตัวขึ้น 2.4% ในไตรมาส 2 ทำผลงานเหนือกว่าตลาดเกิดใหม่โดยรวม และทำสถิติการปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์สูงสุดตั้งแต่เดือนมกราคม อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเดือนกรกฎาคมสะท้อนความท้าทายดังนี้:
ยอดขายปลีกเพิ่มขึ้นเพียง 3.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน เทียบกับที่คาดการณ์ไว้สูงกว่า 4%
ผลผลิตภาคโรงงานเพิ่มขึ้น 5.7% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน
ราคาที่อยู่อาศัยลดลงอีกครั้ง แม้ว่าจะช้าลงในเมืองใหญ่ๆ
แม้ข้อมูลเศรษฐกิจจะออกมาอ่อนแอ หุ้นจีนยังได้รับแรงหนุนจากความหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่จากรัฐบาลปักกิ่ง โดยคาดว่าผู้กำหนดนโยบายจะออกมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติม โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์และการบริโภค เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเติบโต GDP 5% ในปี 2025
รายงานระบุว่าบริษัทรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่บางแห่งอาจเริ่มซื้อบ้านที่ขายไม่ออกจากผู้พัฒนาที่ประสบปัญหา และยอดคงเหลือสินเชื่อมาร์จิ้นสำหรับหุ้นขณะนี้เกิน 2 ล้านล้านหยวน (278.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งสูงสุดตั้งแต่ปี 2015
การปรับตัวขึ้นของหุ้นเอเชียไม่สม่ำเสมอ ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงลดลง 1.2% และหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น JD.com ร่วง 4% เนื่องจากผลกำไรอ่อนแอ ขณะที่เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และอินเดีย ตลาดปิดทำการในช่วงวันหยุด
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมความเชื่อมั่นในภูมิภาคยังคงอยู่ โดยภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการค้าขึ้นนำตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาสัญญาณความคืบหน้าในการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม และมาตรการนโยบายใหม่
ความเคลื่อนไหวที่น่าสังเกตอื่น ๆ:
SoftBank Group: ปรับตัวขึ้น 1.3% ในสัปดาห์นี้ หลังการเดิมพันใน AI และเทคโนโลยีให้ผลตอบแทน
Mitsubishi UFJ Financial: เพิ่มขึ้น 5.8% ขับเคลื่อนจากผลประกอบการแข็งแกร่งและกระแสเงินทุน
Toyota: ปรับขึ้น 1.7% เนื่องจากความต้องการส่งออกยังคงแข็งแกร่งแม้มีภาษี
ปัจจัยบวก:
อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ชะลอตัวลง เหลือ 2.7% (มิถุนายน) ทำให้แนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดยังคงดำเนินต่อไป และเพิ่มความต้องการเสี่ยงทั่วโลก
ผลผลิตและการส่งออกของญี่ปุ่นที่ดีขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการดำเนินการล่วงหน้าก่อนที่สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้า 15% จะช่วยสนับสนุนดัชนี Nikkei
ความคาดหวังเชิงบวกในจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่อยู่อาศัย/อสังหาริมทรัพย์ และเทคโนโลยีสีเขียว
ความเสี่ยงที่ต้องระวัง:
ความเปราะบางทางเศรษฐกิจของจีน: หากข้อมูลเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมยังคงอ่อนแอ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจทำให้ผิดหวังและกดดันหุ้น
อัตราเงินเฟ้อหรืออัตราดอกเบี้ยสหรัฐ สร้างความประหลาดใจ: การเปลี่ยนแปลงในเชิงรุกใดๆ อาจทำให้สินทรัพย์ในเอเชียเกิดความไม่มั่นคงได้
การกระจุกตัวของหุ้นบางกลุ่ม: เทคโนโลยีและอสังหาริมทรัพย์เป็นแรงขับหลักของการฟื้นตัว การปรับตัวลดลงของกลุ่มนี้อาจทำให้การฟื้นตัวอ่อนแรง
กรณีฐานมีมุมมองเชิงบวกแบบระมัดระวัง: ตราบใดที่ GDP ของญี่ปุ่น นโยบายสหรัฐฯ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนเป็นแรงหนุน หุ้นเอเชียอาจขยายการปรับตัวขึ้น นักวิเคราะห์มองว่า Nikkei จะยังคงยืนเหนือ 43,000 จุดในขณะนี้ และ CSI300 ของจีนจะคงแข็งแกร่ง หากมีมาตรการสนับสนุนใหม่และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค/อสังหาริมทรัพย์ทรงตัว
แต่ด้วยผลการดำเนินงานของแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมที่ไม่สม่ำเสมอ และความเสี่ยงเศรษฐกิจมหภาคที่ยังคงมีอยู่ ตั้งแต่เงินเฟ้อสหรัฐฯ เกินคาดจนถึงความตึงเครียดในตลาดอสังหาริมทรัพย์จีน การฟื้นตัวจึงยังเปราะบางอยู่ นักลงทุนควรติดตามรายละเอียดมาตรการกระตุ้นใหม่จากปักกิ่ง ข้อมูลการส่งออกของญี่ปุ่น และตัวเลข CPI/PPI ของสหรัฐฯ ครั้งถัดไป
แรงขับเคลื่อนมีอยู่จริง: หุ้นเอเชียกำลังฟื้นตัว นำโดยญี่ปุ่นและจีน
ข้อมูลเศรษฐกิจผสมผสาน: การเติบโตของจีนยังคงเป็นความกังวล
ธนาคารกลางและผู้กำหนดนโยบายมีบทบาทสำคัญต่อการรักษาความแข็งแกร่ง
หุ้นที่ทำสถิติสูงสุดมักเผชิญแรงขายทำกำไรและความผันผวน จึงต้องบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ
กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการค้าและหุ้นที่เคลื่อนไหวตามนโยบาย (AI, EV, พลังงานสีเขียวในเอเชีย) ยังคงเป็นจุดสนใจ
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็น (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
ตลาดจับตาความสัมพันธ์ระหว่างยูโรกับดอลลาร์สหรัฐอย่างใกล้ชิด เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ส่งผลต่อแนวโน้มระยะใกล้ของยูโร
2025-08-15เงินปอนด์เคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบสามสัปดาห์เมื่อวันศุกร์ หลังตัวเลขเงินเฟ้อแข็งแกร่งกว่าคาด ทำให้นักลงทุนลดความคาดหมายการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed
2025-08-15ตลาดจับตา US Retail Sales เดือนกรกฎาคม คาดโต 0.5% สะท้อนการใช้จ่ายผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง พร้อมวิเคราะห์ผลต่ออัตราดอกเบี้ย Fed, USD และ EUR/USD
2025-08-15