กลยุทธ์เทรดครบสูตร Accumulation Manipulation Distribution

2025-05-27
สรุป

ทำความเข้าใจวงจร Accumulation Manipulation Distribution และเรียนรู้วิธีเทรดเหมือนมืออาชีพ รู้ทันการเคลื่อนไหวของเงินทุนสถาบันที่มีอิทธิพลต่อตลาด

ตลาดการเงินเปรียบเหมือนสนามรบที่มีนักเทรดรายย่อยและนักลงทุนสถาบันแข่งกันทำกำไร เพราะฉะนั้น กลุ่มนักลงทุนสถาบันอย่างกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ธนาคาร และนักเทรดมืออาชีพ มักจะใช้กรอบการวิเคราะห์ที่ทรงพลังคือวงจร Accumulation, Manipulation และ Distribution (AMD) เพื่อช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมของตลาดก่อนใคร


ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับแต่ละช่วงของวงจร AMD วิธีสังเกตสัญญาณบนกราฟราคา และกลยุทธ์เทรดที่ใช้งานได้จริง เพื่อให้คุณสามารถวางแผนเทรดตามการเคลื่อนไหวของเงินทุนกลุ่มนี้ได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ


วงจร Accumulation Manipulation Distribution (AMD) ในการเทรดคืออะไร?

วงจร Accumulation Manipulation Distribution (AMD) ในการเทรดคืออะไร?

วงจร AMD คือรูปแบบพฤติกรรมตลาดที่แสดงถึงวิธีการที่นักลงทุนสถาบันสะสมหุ้น ปรับราคาหลอกล่อนักเทรดรายย่อ และกระจายหุ้นออกเพื่อเพิ่มกำไรสูงสุด


รายละเอียดของวงจร AMD

  • Accumulation (การสะสม): นักลงทุนสถาบันเริ่มสะสมหุ้นในราคาที่ต่ำกว่าปกติ โดยทำให้ราคาหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ

  • Manipulation (การปรับราคาหลอกล่อ): ราคาถูกดันลงต่ำกว่าระดับแนวรับ หรือลงสูงกว่าระดับแนวต้าน เพื่อทำให้เกิดการถูกตัดขาดทุน (stop loss) หรือสัญญาณหลอกให้นักลงทุนรายย่อยเข้าใจผิด

  • Distribution (การกระจายหุ้น): หลังจากที่ซื้อหุ้นในราคาต่ำและสร้างแรงจูงใจให้กับนักลงทุนรายย่อย นักลงทุนที่มีข้อมูลมักจะขายหุ้นในราคาสูงในช่วงที่ตลาดมีความตื่นตัว


วงจรนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงเวลาของกราฟ ตั้งแต่กราฟรายวันจนถึงกราฟรายเดือน และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการวางจังหวะเข้า-ออกตลาดให้แม่นยำมากขึ้น


1) Accumulation Phase (ช่วงสะสม )


ความหมาย :

  • ช่วงสะสม คือช่วงที่นักลงทุนสถาบันเริ่มสะสมหุ้นอย่างเงียบๆโดยไม่ทำให้ราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงมากนัก


สิ่งที่นักลงทุนสถาบันทำ:

  • ซื้อหุ้นทีละน้อย ๆ อย่างต่อเนื่อง

  • ใช้คำสั่งแบบจำกัดราคา (limit orders) เพื่อหลีกเลี่ยงการดันราคาขึ้นอย่างรวดเร็ว

  • สร้างความรู้สึกว่าตลาดยังไม่แน่นอนหรือยังอยู่ในช่วงตัดสินใจ


ลักษณะเด่น:

  • การรวมราคา: ตลาดเคลื่อนไหวไปมาในกรอบราคาที่จำกัด

  • ความผันผวนต่ำ: การเคลื่อนไหวของราคาน้อยมาก สะท้อนให้เห็นถึงความสมดุลระหว่างอุปทานและอุปสงค์

  • รูปแบบปริมาณซื้อขาย: ปริมาณการซื้อขายอาจลดลงตามระยะเวลาที่ผ่านไป แสดงถึงการลดลงของการเข้าร่วมจากนักลงทุนรายย่อย


กลยุทธ์การเทรด:

  • เทรดในกรอบราคา (Range Trading): ระบุจุดแนวรับและแนวต้านในช่วงราคานิ่ง

  • วิเคราะห์ปริมาณซื้อขาย: สังเกตปริมาณเพื่อหาเบาะแสการสะสมของนักลงทุนสถาบัน

  • รอการทะลุกรอบ (Breakout): เตรียมพร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวของราคา แต่ควรระวังสัญญาณหลอกในช่วงถัดไป


2) Manipulation Phase (ช่วงการปรับราคาหลอกล่อ)


ควาหมาย :

  • ช่วงการปรับราคาหลอกล่อ คือช่วงที่ราคาขยับอย่างหลอกลวง เพื่อทำให้นักลงทุนรายย่อยสับสน และกดดันให้เกิดการตัดขาดทุน (stop-loss) หรือเข้าเทรดในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม


วัตถุประสงค์ของนักลงทุนสถาบัน :

  • กระตุ้นให้เกิดคำสั่งตัดขาดทุนของนักลงทุนรายย่อย

  • สร้างความตื่นตระหนกหรือตามกระแสให้กับนักลงทุน

  • สะสมหุ้นเพิ่มในราคาที่ดีขึ้น


ลักษณะเด่น :

  • การทะลุกรอบหลอก (False Breakouts): ราคาขยับออกจากกรอบราคาที่กำหนดไว้ชั่วคราว แล้วกลับเข้าสู่กรอบเดิม

  • ล่า Stop-Loss: นักลงทุนสถาบันใช้ประโยชน์จากตำแหน่งที่นักลงทุนรายย่อยตั้งจุดตัดขาดทุนเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง

  • ความผันผวนเพิ่มขึ้น: ราคาขยับอย่างรวดเร็วและรุนแรงโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ


กลยุทธ์การเทรด :

  • ระวังการทะลุกรอบทันที: อย่าเชื่อมั่นในสัญญาณทะลุกรอบทันทีหลังช่วงนิ่ง

  • ใช้เครื่องมือยืนยัน: ใช้ดัชนีหรืออินดิเคเตอร์ เช่น order flow เพื่อยืนยันความแข็งแรงของการทะลุกรอบ

  • ตั้ง Stop-Loss ให้กว้างขึ้น: เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตัดขาดทุนก่อนเวลา ควรตั้งจุดตัดขาดทุนให้อยู่ไกลกว่าระดับที่นักลงทุนส่วนใหญ่ใช้


3) Distribution Phase (ช่วงการกระจายหุ้น)


ความหมาย :

  • ช่วงการกระจายหุ้น คือช่วงที่นักลงทุนสถาบันเริ่มขายหุ้นที่สะสมไว้ ทำให้ราคาขยับไปในทิศทางที่ตั้งใจไว้


วัตถุประสงค์ของนักลงทุนสถาบัน :

  • ขายหุ้นในช่วงราคาสูง ขณะที่นักลงทุนรายย่อยกำลังซื้อ

  • ปล่อยหุ้นออกในราคาพิเศษ

  • อาจเปิดสถานะขาย (short position) หากคาดว่าราคาจะกลับตัว


ลักษณะเด่น :

  • เกิดแนวโน้มชัดเจน: ราคาหุ้นเคลื่อนไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างชัดเจน มักสอดคล้องกับแนวโน้มตลาดโดยรวม

  • ปริมาณซื้อขายเพิ่มขึ้น: ปริมาณการซื้อขายสูงขึ้นเมื่อมีการกระจายหุ้น

  • ราคาทะลุระดับสำคัญ: ราคาหุ้นเคลื่อนไหวผ่านแนวรับหรือแนวต้านเดิมอย่างชัดเจน


กลยุทธ์การเทรด :

  • การติดตามแนวโน้ม: เข้าเทรดตามทิศทางของแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้น

  • ใช้ Trailing Stop:ปรับจุดตัดขาดทุนตามราคาที่เคลื่อนไป เพื่อรักษากำไร

  • ติดตามปริมาณ: ยืนยันว่าปริมาณการซื้อขายสนับสนุนการเคลื่อนไหวของราคา เพื่อยืนยันการเข้าร่วมของนักลงทุนสถาบัน


แนวคิด Smart Money Concepts และวงจร AMD

วงจร AMD มักถูกนำมาใช้ร่วมกับแนวคิด Smart Money Concepts (SMC) โดยมีความสัมพันธ์ระหว่างกันดังนี้:

คำศัพท์ใน SMC ช่วงของ AMD ที่เกี่ยวข้อง
Liquidity Grab (การดึงสภาพคล่อง) ช่วง Manipulation (การปรับราคาหลอกล่อ)
Order Block (กลุ่มคำสั่งซื้อขาย) ช่วง Accumulation (สะสม) / Distribution (กระจายหุ้น)
Break of Structure: BOS (การทำลายโครงสร้างราคา) ช่วงเปลี่ยนผ่านจาก Accumulation ไปสู่ Manipulation
CChange of Character: CHOCH (การเปลี่ยนแปลงลักษณะราคา) ช่วงเปลี่ยนผ่านจาก Distribution ไปสู่แนวโน้มขาลง


วิธีการระบุวงจร AMD บนกราฟราคา

วิธีการระบุวงจร AMD บนกราฟราคา

การสังเกตวงจร AMD แบบเรียลไทม์ต้องอาศัยทักษะและประสบการณ์ แต่รูปแบบและพฤติกรรมบางอย่างมักเกิดซ้ำบ่อยครั้งในตลาด


ขั้นตอนวิเคราะห์กราฟ :


  1. ค้นหาแนวโน้มขาลง : สัญญาณของการหมดแรงในแนวโน้มขาลง

  2. ระบุช่วง Accumulation : สังเกตการเคลื่อนไหวของราคาที่แกว่งตัวในกรอบแนวนอน โดยแนวรับมักได้รับการเคารพ (ราคาไม่หลุดแนวรับ)

  3. จับตา Wick ของช่วง Manipulation : มักมีแท่งเทียนที่พุ่งต่ำกว่าแนวรับหรือสูงกว่าแนวต้านในช่วงสั้น ๆ

  4. ดูการ Break of Structure (BOS): หากราคาทะลุแนวต้านขึ้นไปทำจุดสูงใหม่ แสดงถึงการเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาขึ้น

  5. ค้นหาช่วง Distribution : มักเกิดขึ้นหลังจากการปรับขึ้นของราคา โดยราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบพร้อมกับสัญญาณหลอกว่ากำลังจะขึ้นต่อ

  6. ยืนยันด้วย CHOCH (Change of Character): การทำจุดต่ำใหม่ครั้งแรกหลังจาก Distribution บ่งชี้ถึงโอกาสเข้าสถานะShort


เครื่องมือที่แนะนำ :

  • Volume Profile

  • RSI Divergence

  • โซนอุปทานและอุปสงค์

  • ทฤษฎี Wyckoff (ถ้าต้องการบริบทเชิงลึกเพิ่มเติม)


กลยุทธ์การเทรดตามวงจร AMD ที่ควรรู้


1. เข้าซื้อหลังจากเกิด Breakout ในช่วง Accumulation

  • จุดเข้า (Entry): เมื่อราคาทะลุแนวต้านของกรอบ Accumulation และย่อตัวกลับมาทดสอบ (Break and Retest)

  • จุดตัดขาดทุน (Stop-loss): วางต่ำกว่าจุดต่ำสุดของช่วง Accumulation

  • เป้าหมายกำไร (Profit Target): บริเวณจุดสูงก่อนหน้า หรือใช้การวัดจากระยะการสะสมเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา


2. เทรดย้อนกลับหลังจากเกิดการ Manipulation

  • จุดเข้า (Entry): หลังจากราคาทะลุแนวรับ/แนวต้านเพื่อดึงสภาพคล่อง (Liquidity Grab) แล้วถูกปฏิเสธกลับทันที

  • จุดตัดขาดทุน (Stop-loss): วางไว้เลยปลาย Wick ของช่วง Manipulation

  • เป้าหมายกำไร (Profit Target): การกลับไปยังอีกด้านหนึ่งของกรอบราคา


3. เปิดขายหลังเกิดการ Breakdown จากช่วง Distribution

  • จุดเข้า (Entry): เมื่อราคาทะลุแนวรับของกรอบ Distribution ลงมาและย่อตัวกลับไปทดสอบแล้วไม่สามารถผ่านได้

  • จุดตัดขาดทุน (Stop-loss): วางไว้เหนือจุดสูงสุดของช่วง Distribution

  • เป้าหมายกำไร (Profit Target): แนวรับสำคัญหรือบริเวณที่เคยเกิด Accumulation มาก่อน


4. เทรดแบบ Scalping ภายในวันด้วยวงจร AMD

  • ใช้วงจร AMD กับกราฟระยะสั้น เช่น 5 นาทีหรือ 15 นาที

  • รอช่วงที่ราคาถูกปั่นจากข่าวสารเพื่อให้เกิดการ Manipulation

  • เข้าซื้อหรือขายทันทีหลังเกิดสัญญาณหลอก (Fake Breakout) โดยตั้งจุดตัดขาดทุนอย่างใกล้ชิด


สรุป


วงจร Accumulation, Manipulation และ Distribution (AMD) คือกรอบวิเคราะห์อันทรงพลังที่ช่วยให้เราเข้าใจกลไกเบื้องหลังของตลาดที่มีสภาพคล่องสูง ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ดัชนี หรือสินค้าโภคภัณฑ์ ว่าจริง ๆ แล้วมีการเคลื่อนไหวอย่างไรภายใต้แรงผลักดันของกลุ่มทุนขนาดใหญ่


การเรียนรู้และสามารถระบุช่วงต่าง ๆ ของวงจร AMD ได้อย่างแม่นยำ พร้อมทั้งใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมในแต่ละช่วง จะช่วยให้นักเทรดสามารถวางแผนและตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสอดคล้องกับแนวทางของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ เพิ่มโอกาสในการทำกำไร และลดความเสี่ยงจากการตกเป็นเป้าของการเคลื่อนไหวแบบหลอกลวงในตลาด


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

พันธบัตรมีกี่ประเภท และทำงานอย่างไร?

พันธบัตรมีกี่ประเภท และทำงานอย่างไร?

พันธบัตรมีกี่ประเภทและทำงานอย่างไร ดูรายละเอียดเพื่อช่วยคุณเลือกการลงทุนตราสารหนี้ที่ดีที่สุด

2025-05-29
Forex ความหมาย: ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศคืออะไร?

Forex ความหมาย: ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศคืออะไร?

ค้นพบความหมายของฟอเร็กซ์และการทำงานของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เรียนรู้ว่าใครบ้างที่ซื้อขายฟอเร็กซ์ สกุลเงินถูกแลกเปลี่ยนอย่างไร และอะไรเป็นแรงผลักดันให้ตลาดโลกนี้เติบโต

2025-05-29
การลงทุนน้ำมันดิบเหมาะกับคุณหรือไม่?

การลงทุนน้ำมันดิบเหมาะกับคุณหรือไม่?

เรียนรู้ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนจะลงทุนในน้ำมันดิบ และวิธีการตัดสินใจว่าเหมาะกับพอร์ตการลงทุนของคุณหรือไม่

2025-05-29