ทำความเข้าใจวงจร Accumulation Manipulation Distribution และเรียนรู้วิธีเทรดเหมือนมืออาชีพ รู้ทันการเคลื่อนไหวของเงินทุนสถาบันที่มีอิทธิพลต่อตลาด
ตลาดการเงินเปรียบเหมือนสนามรบที่มีนักเทรดรายย่อยและนักลงทุนสถาบันแข่งกันทำกำไร เพราะฉะนั้น กลุ่มนักลงทุนสถาบันอย่างกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ธนาคาร และนักเทรดมืออาชีพ มักจะใช้กรอบการวิเคราะห์ที่ทรงพลังคือวงจร Accumulation, Manipulation และ Distribution (AMD) เพื่อช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมของตลาดก่อนใคร
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับแต่ละช่วงของวงจร AMD วิธีสังเกตสัญญาณบนกราฟราคา และกลยุทธ์เทรดที่ใช้งานได้จริง เพื่อให้คุณสามารถวางแผนเทรดตามการเคลื่อนไหวของเงินทุนกลุ่มนี้ได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ
วงจร AMD คือรูปแบบพฤติกรรมตลาดที่แสดงถึงวิธีการที่นักลงทุนสถาบันสะสมหุ้น ปรับราคาหลอกล่อนักเทรดรายย่อ และกระจายหุ้นออกเพื่อเพิ่มกำไรสูงสุด
รายละเอียดของวงจร AMD
Accumulation (การสะสม): นักลงทุนสถาบันเริ่มสะสมหุ้นในราคาที่ต่ำกว่าปกติ โดยทำให้ราคาหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ
Manipulation (การปรับราคาหลอกล่อ): ราคาถูกดันลงต่ำกว่าระดับแนวรับ หรือลงสูงกว่าระดับแนวต้าน เพื่อทำให้เกิดการถูกตัดขาดทุน (stop loss) หรือสัญญาณหลอกให้นักลงทุนรายย่อยเข้าใจผิด
Distribution (การกระจายหุ้น): หลังจากที่ซื้อหุ้นในราคาต่ำและสร้างแรงจูงใจให้กับนักลงทุนรายย่อย นักลงทุนที่มีข้อมูลมักจะขายหุ้นในราคาสูงในช่วงที่ตลาดมีความตื่นตัว
วงจรนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงเวลาของกราฟ ตั้งแต่กราฟรายวันจนถึงกราฟรายเดือน และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการวางจังหวะเข้า-ออกตลาดให้แม่นยำมากขึ้น
1) Accumulation Phase (ช่วงสะสม )
ความหมาย :
ช่วงสะสม คือช่วงที่นักลงทุนสถาบันเริ่มสะสมหุ้นอย่างเงียบๆโดยไม่ทำให้ราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงมากนัก
สิ่งที่นักลงทุนสถาบันทำ:
ซื้อหุ้นทีละน้อย ๆ อย่างต่อเนื่อง
ใช้คำสั่งแบบจำกัดราคา (limit orders) เพื่อหลีกเลี่ยงการดันราคาขึ้นอย่างรวดเร็ว
สร้างความรู้สึกว่าตลาดยังไม่แน่นอนหรือยังอยู่ในช่วงตัดสินใจ
ลักษณะเด่น:
การรวมราคา: ตลาดเคลื่อนไหวไปมาในกรอบราคาที่จำกัด
ความผันผวนต่ำ: การเคลื่อนไหวของราคาน้อยมาก สะท้อนให้เห็นถึงความสมดุลระหว่างอุปทานและอุปสงค์
รูปแบบปริมาณซื้อขาย: ปริมาณการซื้อขายอาจลดลงตามระยะเวลาที่ผ่านไป แสดงถึงการลดลงของการเข้าร่วมจากนักลงทุนรายย่อย
กลยุทธ์การเทรด:
เทรดในกรอบราคา (Range Trading): ระบุจุดแนวรับและแนวต้านในช่วงราคานิ่ง
วิเคราะห์ปริมาณซื้อขาย: สังเกตปริมาณเพื่อหาเบาะแสการสะสมของนักลงทุนสถาบัน
รอการทะลุกรอบ (Breakout): เตรียมพร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวของราคา แต่ควรระวังสัญญาณหลอกในช่วงถัดไป
2) Manipulation Phase (ช่วงการปรับราคาหลอกล่อ)
ควาหมาย :
ช่วงการปรับราคาหลอกล่อ คือช่วงที่ราคาขยับอย่างหลอกลวง เพื่อทำให้นักลงทุนรายย่อยสับสน และกดดันให้เกิดการตัดขาดทุน (stop-loss) หรือเข้าเทรดในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม
วัตถุประสงค์ของนักลงทุนสถาบัน :
กระตุ้นให้เกิดคำสั่งตัดขาดทุนของนักลงทุนรายย่อย
สร้างความตื่นตระหนกหรือตามกระแสให้กับนักลงทุน
สะสมหุ้นเพิ่มในราคาที่ดีขึ้น
ลักษณะเด่น :
การทะลุกรอบหลอก (False Breakouts): ราคาขยับออกจากกรอบราคาที่กำหนดไว้ชั่วคราว แล้วกลับเข้าสู่กรอบเดิม
ล่า Stop-Loss: นักลงทุนสถาบันใช้ประโยชน์จากตำแหน่งที่นักลงทุนรายย่อยตั้งจุดตัดขาดทุนเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง
ความผันผวนเพิ่มขึ้น: ราคาขยับอย่างรวดเร็วและรุนแรงโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ
กลยุทธ์การเทรด :
ระวังการทะลุกรอบทันที: อย่าเชื่อมั่นในสัญญาณทะลุกรอบทันทีหลังช่วงนิ่ง
ใช้เครื่องมือยืนยัน: ใช้ดัชนีหรืออินดิเคเตอร์ เช่น order flow เพื่อยืนยันความแข็งแรงของการทะลุกรอบ
ตั้ง Stop-Loss ให้กว้างขึ้น: เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตัดขาดทุนก่อนเวลา ควรตั้งจุดตัดขาดทุนให้อยู่ไกลกว่าระดับที่นักลงทุนส่วนใหญ่ใช้
3) Distribution Phase (ช่วงการกระจายหุ้น)
ความหมาย :
ช่วงการกระจายหุ้น คือช่วงที่นักลงทุนสถาบันเริ่มขายหุ้นที่สะสมไว้ ทำให้ราคาขยับไปในทิศทางที่ตั้งใจไว้
วัตถุประสงค์ของนักลงทุนสถาบัน :
ขายหุ้นในช่วงราคาสูง ขณะที่นักลงทุนรายย่อยกำลังซื้อ
ปล่อยหุ้นออกในราคาพิเศษ
อาจเปิดสถานะขาย (short position) หากคาดว่าราคาจะกลับตัว
ลักษณะเด่น :
เกิดแนวโน้มชัดเจน: ราคาหุ้นเคลื่อนไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างชัดเจน มักสอดคล้องกับแนวโน้มตลาดโดยรวม
ปริมาณซื้อขายเพิ่มขึ้น: ปริมาณการซื้อขายสูงขึ้นเมื่อมีการกระจายหุ้น
ราคาทะลุระดับสำคัญ: ราคาหุ้นเคลื่อนไหวผ่านแนวรับหรือแนวต้านเดิมอย่างชัดเจน
กลยุทธ์การเทรด :
การติดตามแนวโน้ม: เข้าเทรดตามทิศทางของแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้น
ใช้ Trailing Stop:ปรับจุดตัดขาดทุนตามราคาที่เคลื่อนไป เพื่อรักษากำไร
ติดตามปริมาณ: ยืนยันว่าปริมาณการซื้อขายสนับสนุนการเคลื่อนไหวของราคา เพื่อยืนยันการเข้าร่วมของนักลงทุนสถาบัน
วงจร AMD มักถูกนำมาใช้ร่วมกับแนวคิด Smart Money Concepts (SMC) โดยมีความสัมพันธ์ระหว่างกันดังนี้:
คำศัพท์ใน SMC | ช่วงของ AMD ที่เกี่ยวข้อง |
---|---|
Liquidity Grab (การดึงสภาพคล่อง) | ช่วง Manipulation (การปรับราคาหลอกล่อ) |
Order Block (กลุ่มคำสั่งซื้อขาย) | ช่วง Accumulation (สะสม) / Distribution (กระจายหุ้น) |
Break of Structure: BOS (การทำลายโครงสร้างราคา) | ช่วงเปลี่ยนผ่านจาก Accumulation ไปสู่ Manipulation |
CChange of Character: CHOCH (การเปลี่ยนแปลงลักษณะราคา) | ช่วงเปลี่ยนผ่านจาก Distribution ไปสู่แนวโน้มขาลง |
การสังเกตวงจร AMD แบบเรียลไทม์ต้องอาศัยทักษะและประสบการณ์ แต่รูปแบบและพฤติกรรมบางอย่างมักเกิดซ้ำบ่อยครั้งในตลาด
ขั้นตอนวิเคราะห์กราฟ :
ค้นหาแนวโน้มขาลง : สัญญาณของการหมดแรงในแนวโน้มขาลง
ระบุช่วง Accumulation : สังเกตการเคลื่อนไหวของราคาที่แกว่งตัวในกรอบแนวนอน โดยแนวรับมักได้รับการเคารพ (ราคาไม่หลุดแนวรับ)
จับตา Wick ของช่วง Manipulation : มักมีแท่งเทียนที่พุ่งต่ำกว่าแนวรับหรือสูงกว่าแนวต้านในช่วงสั้น ๆ
ดูการ Break of Structure (BOS): หากราคาทะลุแนวต้านขึ้นไปทำจุดสูงใหม่ แสดงถึงการเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาขึ้น
ค้นหาช่วง Distribution : มักเกิดขึ้นหลังจากการปรับขึ้นของราคา โดยราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบพร้อมกับสัญญาณหลอกว่ากำลังจะขึ้นต่อ
ยืนยันด้วย CHOCH (Change of Character): การทำจุดต่ำใหม่ครั้งแรกหลังจาก Distribution บ่งชี้ถึงโอกาสเข้าสถานะShort
เครื่องมือที่แนะนำ :
Volume Profile
RSI Divergence
โซนอุปทานและอุปสงค์
ทฤษฎี Wyckoff (ถ้าต้องการบริบทเชิงลึกเพิ่มเติม)
1. เข้าซื้อหลังจากเกิด Breakout ในช่วง Accumulation
จุดเข้า (Entry): เมื่อราคาทะลุแนวต้านของกรอบ Accumulation และย่อตัวกลับมาทดสอบ (Break and Retest)
จุดตัดขาดทุน (Stop-loss): วางต่ำกว่าจุดต่ำสุดของช่วง Accumulation
เป้าหมายกำไร (Profit Target): บริเวณจุดสูงก่อนหน้า หรือใช้การวัดจากระยะการสะสมเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา
2. เทรดย้อนกลับหลังจากเกิดการ Manipulation
จุดเข้า (Entry): หลังจากราคาทะลุแนวรับ/แนวต้านเพื่อดึงสภาพคล่อง (Liquidity Grab) แล้วถูกปฏิเสธกลับทันที
จุดตัดขาดทุน (Stop-loss): วางไว้เลยปลาย Wick ของช่วง Manipulation
เป้าหมายกำไร (Profit Target): การกลับไปยังอีกด้านหนึ่งของกรอบราคา
3. เปิดขายหลังเกิดการ Breakdown จากช่วง Distribution
จุดเข้า (Entry): เมื่อราคาทะลุแนวรับของกรอบ Distribution ลงมาและย่อตัวกลับไปทดสอบแล้วไม่สามารถผ่านได้
จุดตัดขาดทุน (Stop-loss): วางไว้เหนือจุดสูงสุดของช่วง Distribution
เป้าหมายกำไร (Profit Target): แนวรับสำคัญหรือบริเวณที่เคยเกิด Accumulation มาก่อน
4. เทรดแบบ Scalping ภายในวันด้วยวงจร AMD
ใช้วงจร AMD กับกราฟระยะสั้น เช่น 5 นาทีหรือ 15 นาที
รอช่วงที่ราคาถูกปั่นจากข่าวสารเพื่อให้เกิดการ Manipulation
เข้าซื้อหรือขายทันทีหลังเกิดสัญญาณหลอก (Fake Breakout) โดยตั้งจุดตัดขาดทุนอย่างใกล้ชิด
วงจร Accumulation, Manipulation และ Distribution (AMD) คือกรอบวิเคราะห์อันทรงพลังที่ช่วยให้เราเข้าใจกลไกเบื้องหลังของตลาดที่มีสภาพคล่องสูง ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ดัชนี หรือสินค้าโภคภัณฑ์ ว่าจริง ๆ แล้วมีการเคลื่อนไหวอย่างไรภายใต้แรงผลักดันของกลุ่มทุนขนาดใหญ่
การเรียนรู้และสามารถระบุช่วงต่าง ๆ ของวงจร AMD ได้อย่างแม่นยำ พร้อมทั้งใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมในแต่ละช่วง จะช่วยให้นักเทรดสามารถวางแผนและตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสอดคล้องกับแนวทางของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ เพิ่มโอกาสในการทำกำไร และลดความเสี่ยงจากการตกเป็นเป้าของการเคลื่อนไหวแบบหลอกลวงในตลาด
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
พันธบัตรมีกี่ประเภทและทำงานอย่างไร ดูรายละเอียดเพื่อช่วยคุณเลือกการลงทุนตราสารหนี้ที่ดีที่สุด
2025-05-29ค้นพบความหมายของฟอเร็กซ์และการทำงานของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เรียนรู้ว่าใครบ้างที่ซื้อขายฟอเร็กซ์ สกุลเงินถูกแลกเปลี่ยนอย่างไร และอะไรเป็นแรงผลักดันให้ตลาดโลกนี้เติบโต
2025-05-29เรียนรู้ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนจะลงทุนในน้ำมันดิบ และวิธีการตัดสินใจว่าเหมาะกับพอร์ตการลงทุนของคุณหรือไม่
2025-05-29