เปิดความลับ Accumulation Distribution ชี้จังหวะตลาดง่าย ๆ

2025-09-08

เมื่อเรียนรู้การวิเคราะห์ทางเทคนิค ผู้เริ่มต้นมักจะมุ่งเน้นแต่กราฟราคา โดยลืมไปว่าปริมาณการซื้อขายก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน หนึ่งในเครื่องมือที่ดีที่สุดที่รวมทั้งราคาและปริมาณเข้าด้วยกัน คืออินดิเคเตอร์ Accumulation Distribution (A/D Indicator)


อินดิเคเตอร์นี้ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถระบุได้ว่าหุ้น คู่สกุลเงิน หรือสินค้าโภคภัณฑ์กำลังถูกสะสม (ซื้อ) หรือถูกกระจาย (ขาย) โดยผู้เล่นรายใหญ่ แม้ว่าการเคลื่อนไหวของราคาเพียงอย่างเดียวอาจไม่บ่งบอกอย่างชัดเจน


ในบทความนี้ เราจะอธิบายว่าอินดิเคเตอร์ Accumulation Distribution คืออะไร ทำงานอย่างไร สูตรการคำนวณ กลยุทธ์ ข้อดี ข้อจำกัด พร้อมตัวอย่างการใช้งานจริง เพื่อช่วยให้คุณเทรดได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น


อินดิเคเตอร์ Accumulation Distribution คืออะไร?

อินดิเคเตอร์ Accumulation Distribution คืออะไร?

อินดิเคเตอร์ Accumulation Distribution เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่อิงจาก ปริมาณการซื้อขาย (Volume) ถูกพัฒนาโดย Marc Chaikin เครื่องมือนี้วัดการไหลสะสมของเงิน เข้าและออกจากสินทรัพย์โดยวิเคราะห์ทั้งราคาและปริมาณการซื้อขาย


  • Accumulation = นักลงทุนสถาบันหรือรายย่อยกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง

  • Distribution = นักลงทุนสถาบันหรือรายย่อยกำลังขายออก


เส้น A/D แตกต่างจากอินดิเคเตอร์ปริมาณการซื้อขายทั่วไป แต่จะพิจารณาด้วยว่าราคาปิดอยู่ที่ระดับใดในช่วงเวลาการซื้อขาย ทำให้สามารถประเมินแรงซื้อหรือขายจริงได้แม่นยำยิ่งขึ้น


วิธีการทำงานของอินดิเคเตอร์ Accumulation Distribution

วิธีการทำงานของอินดิเคเตอร์ Accumulation Distribution

อินดิเคเตอร์ A/D คำนวณ ตัวคูณกระแสเงิน (Money Flow Multiplier) แล้วนำไปคูณกับปริมาณการซื้อขาย (Volume) เพื่อพิจารณาว่าเงินกำลังไหลเข้าสินทรัพย์ (Accumulation) หรือไหลออก (Distribution)


  • หากหุ้นปิดใกล้ระดับสูงสุดของวัน แสดงว่าควรสะสมหุ้น (Accumulation)

  • หากปิดใกล้จุดต่ำสุดของวัน แสดงว่ามีการกระจาย (Distribution) 

  • หากปิดในช่วงกลางแสดงว่าค่าที่อ่านได้เป็นกลาง


ค่าที่ได้จะถูกนำไปบวกกับ เส้น A/D สะสม ซึ่งสร้างเป็นเส้นต่อเนื่องบนกราฟ ขึ้นหรือลงขึ้นอยู่กับว่าแรงซื้อหรือแรงขายมีอิทธิพลมากกว่ากัน


สูตรการคำนวณอินดิเคเตอร์ Accumulation Distribution


1) Money Flow Multiplier (MFM):

  • MFM = ((ค่าปิด – ค่าต่ำ) – (ค่าสูง – ค่าปิด)) / (ค่าสูง – ค่าต่ำ)


2) Money Flow Volume (MFV):

  • MFV = MFM × ปริมาณ


3) เส้น Accumulation Distribution (A/D Line) :

  • A/D = A/D เดิม + MFV


สูตรนี้ช่วยให้การวิเคราะห์พิจารณาทั้งการเคลื่อนไหวของราคาและความแรงของปริมาณซื้อขาย ทำให้อินดิเคเตอร์น่าเชื่อถือมากกว่าการดูปริมาณเพียงอย่างเดียว


ตัวอย่าง:

สมมติว่าหุ้นมีมูลค่าดังต่อไปนี้ในแต่ละวัน:

  • สูง: 120

  • ต่ำ: 100

  • ปิด: 118

  • ปริมาณ: 1,000,000

  • MFM = (118−100)−(120−118)(118-100) - (120-118)(118−100)−(120−118) ÷ (120-100) = (18 - 2) ÷ 20 = 0.8

  • MFV = 0.8 × 1,000,000 = 800,000

  • เส้น A/D = เส้น A/D เดิม + 800,000


ค่าบวกแสดงถึงการสะสม (แรงซื้อ)


วิธีอ่านอินดิเคเตอร์ Accumulation Distribution


1) เส้น A/D ขึ้น

หากเส้น A/D ปรับตัวสูงขึ้นขณะที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นด้วย แสดงว่ามีแนวโน้มมีแรงซื้อที่แข็งแกร่ง


2) เส้น A/D ลง

หากเส้น A/D ตกลงในขณะที่ราคาตกลง แสดงว่าเกิดแรงขายที่รุนแรง


3) Bullish Divergence (เบี่ยงเบนเชิงบวก)

หากราคาตกลงแต่เส้น A/D กลับสูงขึ้น แสดงว่าอาจมีการสะสมที่ซ่อนอยู่และการกลับตัวเป็นขาขึ้น


4) Bearish Divergence (เบี่ยงเบนเชิงลบ)

หากราคาเพิ่มขึ้นแต่เส้น A/D ลดลง แสดงว่ามีการกระจายที่ซ่อนอยู่และการกลับตัวเป็นขาลงที่อาจเกิดขึ้นได้


อินดิเคเตอร์ Accumulation Distribution vs On-Balance Volume (OBV)

คุณสมบัติ Accumulation Distribution (A/D) On-Balance Volume (OBV)
พิจารณาราคาปิดเทียบกับช่วงราคา ใช่ ไม่ใช่
พิจารณาแรงซื้อ/แรงขาย ใช่ ไม่ใช่
ความซับซ้อนในการคำนวณ ซับซ้อนกว่า ง่ายกว่า
ดีต่อการหา Divergence ใช่ บางครั้งอาจทำให้เข้าใจผิด


โดยสรุป อินดิเคเตอร์ A/D มีรายละเอียดมากกว่า OBV เพราะรวมตำแหน่งราคาภายในช่วงราคาของวันด้วย


กลยุทธ์การเทรดที่แนะนำด้วยอินดิเคเตอร์ Accumulation Distribution

กลยุทธ์การเทรดที่แนะนำด้วยอินดิเคเตอร์ Accumulation Distribution

1. การยืนยันแนวโน้ม

เทรดเดอร์มักใช้เส้น A/D เพื่อยืนยันว่าแนวโน้มแข็งแกร่งหรืออ่อน


  • หากทั้งราคาและเส้น A/D เพิ่มขึ้น แสดงว่ามีแนวโน้มขาขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

  • ากทั้งราคาและเส้น A/D ลดลง แสดงว่ามีแนวโน้มขาลงอย่างแข็งแกร่ง


2. สังเกต Divergence

กลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือเทรดจากความเบี่ยงเบน (Divergence)


  • Bullish Divergence : ราคาทำจุดต่ำลงในขณะที่เส้น A/D ทำจุดต่ำที่สูงขึ้น → สัญญาณซื้อ

  • Bearish Divergence : ราคาทำจุดสูงที่สูงขึ้นในขณะที่เส้น A/D ทำจุดสูงที่ต่ำลง → สัญญาณขาย


3. ผสานกับอินดิเคเตอร์อื่น

เพื่อความแม่นยำที่ดีขึ้น เทรดเดอร์มักจะรวม A/D เข้ากับ:


  • RSI สำหรับการยืนยันโมเมนตัม

  • ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพื่อระบุทิศทางแนวโน้มในระยะยาว

  • MACD สำหรับกำหนดเวลาเข้าและออก


ทำไมมือใหม่ควรเรียนรู้อินดิเคเตอร์ A/D?


สำหรับมือใหม่ อินดิเคเตอร์ A/D เป็นวิธีที่ดีในการมองลึกกว่ากราฟราคาเพียงอย่างเดียว ช่วยให้เข้าใจว่า สถาบันใหญ่กำลังซื้อหรือขาย ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงสัญญาณหลอกและปรับปรุงการตัดสินใจโดยรวม


เคล็ดลับสำหรับมือใหม่ในการใช้อินดิเคเตอร์ A/D


  1. ควรยืนยันสัญญาณ A/D ด้วยอินดิเคเตอร์อื่นๆ เช่น RSI หรือ MACD 

  2. ใช้ในกรอบเวลาที่สูงขึ้น (4H, Daily) เพื่อสัญญาณที่น่าเชื่อถือมากกว่า

  3. หลีกเลี่ยงการเทรดเพียงแค่ Divergence ของ A/D ในตลาดที่ผันผวนสูง

  4. ฝึกบนบัญชีทดลอง (Demo Account) ก่อนนำไปใช้จริง


คำถามที่พบบ่อย


1. อินดิเคเตอร์ Accumulation Distribution ในการเทรดคืออะไร?


อินดิเคเตอร์ Accumulation Distribution (A/D) เป็นเครื่องมือที่อิงจากปริมาณการซื้อขาย (Volume) ใช้วิเคราะห์ทั้งราคาและปริมาณ เพื่อแสดงว่าสินทรัพย์นั้นกำลังถูก สะสม (ซื้อ) หรือ กระจาย (ขาย)


2. เทรดเดอร์ใช้อินดิเคเตอร์ Accumulation Distribution อย่างไร?


เทรดเดอร์ใช้เพื่อยืนยันแนวโน้มราคา สังเกต Divergence ที่อาจบ่งบอกการกลับตัวของราคา และรวมเข้ากับ RSI หรือ MACD เพื่อจุดเข้าและออกที่แม่นยำยิ่งขึ้น


3. อินดิเคเตอร์ Accumulation Distribution ใช้กับการเทรด Forex ได้ไหม?


ได้ เส้น A/D ถูกใช้แพร่หลายในตลาด Forex เพื่อระบุแรงซื้อหรือขายที่ซ่อนอยู่ในคู่สกุลเงิน ช่วยให้เทรดเดอร์มองเห็นการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้นหรือยืนยันแนวโน้ม


4. ข้อจำกัดของอินดิเคเตอร์ Accumulation Distribution มีอะไรบ้าง?


อินดิเคเตอร์ A/D อาจให้สัญญาณที่คลาดเคลื่อนในตลาดที่ผันผวนสูงหรือปริมาณน้อย และไม่บอกจุดเข้า-ออกที่ชัดเจน จึงเหมาะสมที่สุดเมื่อใช้ร่วมกับเครื่องมือทางเทคนิคอื่น ๆ เพื่อยืนยันสัญญาณ


บทสรุป


สรุปแล้ว อินดิเคเตอร์ Accumulation Distribution เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่เชื่อถือได้มากสำหรับมือใหม่ ที่ต้องการเข้าใจแรงซื้อ-ขายที่แท้จริงเบื้องหลังการเคลื่อนไหวของราคา


ในปี 2025 เมื่อสภาพตลาดมีความผันผวนและการแข่งขันสูง การมีมุมมองเชิงลึกเพิ่มเติมผ่านอินดิเคเตอร์ A/D จะช่วยให้นักเทรดตัดสินใจจากข้อมูลไม่ใช่แค่การคาดเดา


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคและการใช้งานและข้อควรระวัง
OBV (On-Balance Volume) คืออะไร? ทำไมเทรดเดอร์จึงไว้วางใจใช้
ตัวบ่งชี้ปริมาณการซื้อขาย (VOL) คืออะไร?
ทำไมหุ้น CrowdStrike ถึงร่วง? 5 เหตุผลที่นักลงทุนต้องรู้
เลเวอเรจคือความลับในการเพิ่มประสิทธิภาพการเทรดหรือไม่?