简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

ความไม่แน่นอนเพิ่มสูงขึ้นก่อนการประชุมเฟดเดือนธันวาคม ขณะเงินเฟ้อยังเกิน 2% และการจ้างงานชะลอตัว

ผู้เขียน: Vivian Collins

เผยแพร่เมื่อ: 2025-11-26

(วอชิงตัน ดี.ซี., 26 พฤศจิกายน 2025) – ขณะที่เฟดเตรียมการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 9–10 ธันวาคมนี้ ผู้เล่นในตลาดกำลังเผชิญจุดตัดสำคัญของทิศทางนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ภารกิจคู่ของเฟดในการรักษาการจ้างงานสูงสุดและเสถียรภาพด้านราคากำลังเผชิญแรงกดดันรอบใหม่: สัญญาณการจ้างงานเริ่มอ่อนแรง เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง และความเห็นภายในคณะกรรมการ FOMC มีความแตกต่างมากขึ้นเรื่อย ๆ


เดวิด บาร์เร็ตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ EBC Financial Group (UK) Ltd. กล่าวว่า “เมื่อการประชุมครั้งสุดท้ายของเฟดในปี 2025 ใกล้เข้ามา คำถามสำคัญไม่ใช่เพียงว่าเฟดจะลงมือทำหรือไม่ แต่เป็นว่า "จะทำอย่างไร" และ "จะส่งสัญญาณอะไรออกมา" รัฐบาลสหรัฐฯ ก็เพิ่งกลับมาดำเนินงานตามปกติหลังจากร่างกฎหมายงบประมาณผ่านทั้งสองสภาคองเกรสและได้รับการลงนามโดยประธานาธิบดี อย่างไรก็ตาม เฟดกำลังทำงานด้วยข้อมูลที่ยังไม่ครบถ้วน และคณะกรรมการก็มีความเห็นแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ถ้อยแถลงของเฟดในเดือนนี้มีน้ำหนักไม่น้อยไปกว่าการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย ถือเป็นบททดสอบด้านความน่าเชื่อถือ ความเป็นเอกภาพ และความสามารถในการชี้นำตลาดท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่ชัดเจน”

ความไม่แน่นอนที่เพิ่มมากขึ้นก่อนการประชุมเฟดเดือนธันวาคม

บริบททางเศรษฐกิจ

การประชุมเฟดในเดือนตุลาคมมีการปรับลดกรอบอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดพื้นฐาน สู่ระดับ 3.75%–4.00% ซึ่งสะท้อนท่าทีระมัดระวังต่อภาวะตลาดแรงงานที่เริ่มชะลอตัว อย่างไรก็ตาม บันทึกการประชุมเผยให้เห็นถึงความเห็นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนในหมู่ผู้กำหนดนโยบาย ผู้เข้าร่วมบางส่วนมองว่าการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในเดือนธันวาคมเป็นสิ่งเหมาะสม แต่กลุ่มที่ใหญ่กว่านั้นแสดงความกังวลว่าหากเงินเฟ้อยังทรงตัวในระดับสูงกว่าเป้าหมาย 2% อย่างต่อเนื่อง ควรจะ “หยุดพัก” แทนที่จะผ่อนคลายนโยบายเพิ่ม นอกจากนี้ การล่าช้าและการยกเลิกการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอันเป็นผลจากการปิดทำการของรัฐบาลยิ่งทำให้มุมมองของเฟดต่อแนวโน้มตลาดแรงงานและเงินเฟ้อไม่ชัดเจนมากขึ้น ส่งผลให้การส่งสัญญาณแนวโน้มของนโยบายล่วงหน้า (forward guidance) มีความสำคัญยิ่งกว่าเดิม


ประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาในเดือนธันวาคม

นักวิเคราะห์ของ EBC กำลังติดตามอย่างใกล้ชิดว่าเฟดจะสร้างสมดุลระหว่างการพยุงตลาดแรงงานที่อ่อนตัว กับการควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบเป้าหมายได้อย่างไร ความเห็นจากผู้กำหนดนโยบายที่มีอิทธิพล เช่น คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ระบุว่า การจ้างงานที่อ่อนแรงลงเป็นเหตุผลรองรับการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม ขณะที่อีกหลายฝ่ายเตือนว่าการควบคุมเงินเฟ้อที่ยังทรงตัวในระดับสูงต้องเป็นลำดับความสำคัญสูงสุด การประชุมครั้งนี้ยังคาดว่าจะหารือความเสี่ยงในมิติต่าง ๆ รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโลก เสถียรภาพทางการเงิน และการยุติโครงการลดขนาดงบดุลของเฟด (Quantitative Tightening) ซึ่งจะสิ้นสุดอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ธันวาคม


ผลกระทบต่อตลาด

สำหรับตลาดการเงิน ผลลัพธ์จากการประชุมเฟดมีนัยกว้างไกล นักลงทุนตราสารหนี้จะจับตาน้ำเสียงของเฟดอย่างละเอียดเพื่อประเมินทิศทางผลตอบแทนพันธบัตร โดยเฉพาะในช่วงปลายสั้นของเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งมีความไวสูงต่อการคาดการณ์นโยบายการเงินของเฟด ตลาดเงินตราและกระแสเงินทุนทั่วโลกอาจตอบสนองอย่างรุนแรงต่อสัญญาณของการ “หยุดพัก” หรือแนวโน้มเข้มงวด (hawkish) โดยเฉพาะสกุลเงินตลาดเกิดใหม่ที่มักอ่อนไหวต่อสัญญาณจากนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ขณะที่ตลาดหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ มีแนวโน้มจะไม่เพียงตอบสนองต่อมติของเฟดเท่านั้น แต่ยังตอบสนองต่อระดับความชัดเจนและความเชื่อมั่นที่ถ่ายทอดผ่านถ้อยแถลงของเฟดด้วย ภายใต้สถานการณ์ที่ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญถูกเลื่อนเผยแพร่ ทำให้มุมมองที่แท้จริงของเฟดตีความได้ยากกว่าปกติ เทรดเดอร์จำเป็นต้องวางแผนแบบอิงหลายสถานการณ์ เตรียมพร้อมทั้งสำหรับกรณีที่เฟดลดดอกเบี้ยเล็กน้อยพร้อมส่งสัญญาณผ่อนคลาย หรือกรณีที่เฟดคงอัตราดอกเบี้ยพร้อมถ้อยคำระมัดระวัง


แนวโน้มในระยะถัดไป

การประชุม FOMC เดือนธันวาคมครั้งนี้มีแนวโน้มว่าจะไม่ใช่การประชุมตามปกติ ตลาดแรงงานเริ่มส่งสัญญาณอ่อนตัว เงินเฟ้อดื้อดึงอยู่เหนือเป้าหมาย และความเห็นของผู้กำหนดนโยบายภายในเฟดก็แตกต่างกันมากขึ้น ผลลัพธ์จากการประชุมจะส่งอิทธิพลไม่เพียงต่ออัตราดอกเบี้ยเฟด แต่ยังรวมถึงทิศทางของตลาดการเงินทั่วโลก และกลยุทธ์ของเทรดเดอร์ที่ต้องรับมือกับภาวะความไม่แน่นอน


สำหรับการวิเคราะห์เพิ่มเติมจาก EBC สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่: www.ebc.com


ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: บทความนี้สะท้อนมุมมองของ EBC Financial Group และหน่วยงานทั่วโลกของบริษัทเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการเงินหรือการลงทุน การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์และอัตราแลกเปลี่ยน (FX) มีความเสี่ยงสูง อาจทำให้สูญเสียเงินลงทุนเริ่มต้นทั้งหมดหรือมากกว่า โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินก่อนตัดสินใจลงทุน EBC Financial Group และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดจากการอ้างอิงข้อมูลนี้ 

บทความแนะนำ
ทำไมคริปโตยังร่วง แม้เฟดเริ่มลดดอกเบี้ยแล้ว?
รายงาน CPI สหรัฐฯ เดือนตุลาคม เลื่อนประกาศอีกครั้ง ท่ามกลางภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาล
พรีวิวการประชุม Fed วันนี้: การลดดอกเบี้ยครั้งที่ 2 และประเด็นพูดคุย
เฟดลดดอกเบี้ยแรงสุดรอบ 3 ปี สัญญาณจบรอบหรือเริ่มใหม่?
USDJPY จ่อแตะ 160 ท่ามกลางแรงกดดันเงินเฟ้อและกระแสคาดการณ์การแทรกแซง