เผยแพร่เมื่อ: 2025-11-20 อัปเดตเมื่อ: 2025-11-21
USDJPY พุ่งทะลุระดับ 157.00 เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมกราคม ส่งผลให้เงินเยนกลับมาเผชิญแรงกดดันอย่างหนักอีกครั้ง
การปรับขึ้นครั้งนี้สะท้อนแรงซื้อดอลลาร์ที่ครองตลาดต่อเนื่องหลายสัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ยังทรงตัวในระดับสูง ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงระมัดระวังอย่างมากในการดำเนินนโยบายการเงิน
สิ่งที่ทำให้การทะลุระดับครั้งนี้แตกต่างจากในอดีต คือการผสมผสานระหว่างความตึงเครียดด้านเศรษฐกิจมหภาคและสัญญาณทางการเมือง
รายงานการประชุมเฟด (Fed Minutes) ได้ทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันญี่ปุ่นเองต้องเผชิญกับเศรษฐกิจที่อ่อนแรง มาตรการกระตุ้นที่มีต้นทุนสูง และธนาคารกลางที่ยังอยู่ในขั้น “พูดถึง” การกลับสู่ภาวะปกติทางการเงินมากกว่าการลงมือทำจริง
ในระยะนี้ แนวโน้มดอลลาร์ต่อเยนยังคงเป็นขาขึ้น แต่ความเคลื่อนไหวอยู่ในระดับที่อาจทดสอบความอดทนของรัฐบาลโตเกียวได้ทุกเมื่อ

USD/JPY ขยับขึ้นมาบริเวณ 157.2–157.7 เยนในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมกราคม ที่คู่เงินเคยไต่ขึ้นไปแถวปลายช่วง 157 ถึงต้นช่วง 158
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าเงินคู่นี้ปรับขึ้นกว่า 1.7% และตลอดหนึ่งเดือนล่าสุดเพิ่มขึ้นราว 3–4% สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มขาขึ้นตามปัจจัยมหภาคมากกว่าจะเป็นการเด้งขึ้นในวันเดียว
การทะลุขึ้นครั้งนี้เป็นการต่อยอดจากการฟื้นตัวต่อเนื่องนับตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม บริเวณต่ำสุดราว 151.9 ซึ่งปัจจุบันราคาอยู่สูงกว่าจุดนั้นมากกว่า 5 เยน หลายสำนักวิเคราะห์เคยมองโซน 154.50–155.00 เป็นแนวต้านสำคัญ เมื่อระดับดังกล่าวถูกผ่านขึ้นไปแล้ว เส้นทางสู่โซน 157–158 จึงเปิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่ต้องจับตามองคือ การขึ้นทะลุ 157 ทำให้ USD/JPY ก้าวเข้าสู่ “โซนอันตราย” ที่นักวิเคราะห์หลายรายระบุว่าอาจเพิ่มโอกาสการแทรกแซงค่าเงินจากทางการญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ในช่วงประมาณ 157–160
แม้ยังไม่ใช่สัญญาณว่าการแทรกแซงจะเกิดขึ้นทันที แต่ทุกการขยับสูงขึ้นอีกหนึ่งเลขระดับ (figure) จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อผู้ตามซื้อที่เข้าช้าในตลาด

ระดับ 157.00 มีความสำคัญด้วย 3 เหตุผลหลัก:
ประการแรก เป็นระดับจิตวิทยาที่ชัดเจน เมื่อราคาทะลุ “เลขกลม” ที่พยายามผ่านมาหลายเดือนแต่ไม่สำเร็จ แสดงถึงแนวโน้มที่แข็งแรงและความเชื่อมั่นของตลาดที่ยังหนุนฝั่งดอลลาร์
ประการที่สอง อยู่ใกล้โซนที่ญี่ปุ่นเคยเข้าแทรกแซงมาก่อน ยิ่งราคาขยับขึ้นไปสูงกว่านี้ ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงด้านการเมืองและข่าวลือเกี่ยวกับการแทรกแซงค่าเงิน
ประการที่สาม เป็นการยืนยันโครงสร้างขาขึ้นที่สะสมมาหลายเดือน แนวต้านเดิมบริเวณ 154.50–155.00 ได้ถูกเปลี่ยนเป็นแนวรับ ทำให้ฝั่งดอลลาร์มี “บันไดราคา” รองรับการขึ้นต่ออย่างชัดเจน
ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ส่งสัญญาณไม่เร่งลดดอกเบี้ย ถึงแม้รอบขึ้นดอกเบี้ยจะผ่านจุดสูงสุดแล้ว แต่ระดับดอกเบี้ยยังมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูงไปอีกระยะ
สำหรับตลาด Forex นั่นหมายความว่า ดอลลาร์ยังให้ผลตอบแทนดอกเบี้ยดีกว่าสกุลหลักส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเยน ตราบใดที่อัตราผลตอบแทนสหรัฐยังยืนสูง ฝั่งซื้อดอลลาร์ใน USD/JPY ก็ยังมีความได้เปรียบ
แม้ธนาคารกลางญี่ปุ่นเริ่มถอยจากนโยบายผ่อนคลายสุดขั้ว แต่ก็เป็นการปรับเปลี่ยนทีละน้อย ดอกเบี้ยยังใกล้ศูนย์ และ BOJ ย้ำว่าจะเข้มงวดต่อการคุมเงินเฟอรโดยอาศัยข้อมูลเป็นหลัก
ช่องว่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐกับญี่ปุ่นจึงยัง “กว้างมาก” ทำให้เยนยังถูกใช้เป็น Funding Currency คือกู้เยนต้นทุนต่ำไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่น ดอลลาร์สหรัฐ
นี่คือเสาหลักที่รองรับเทรนด์ขาขึ้นของ USD/JPY ในตอนนี้
เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังเติบโตแบบ “พอใช้ได้” เท่านั้น อุปสงค์บางภาคส่วนอ่อนแอ และรัฐบาลยังต้องใช้มาตรการกระตุ้นขนาดใหญ่ต่อเนื่อง
เมื่อเศรษฐกิจเติบโตช้า ใช้จ่ายการคลังจำนวนมาก และยังคงนโยบายการเงินผ่อนคลายอยู่ ก็ยากที่สกุลเงินจะแข็งค่าได้ ในกรณีนี้ยิ่งตอกย้ำมุมมองว่า การอ่อนค่าของเงินเยนนั้นถูกยอมรับ ถ้าไม่ถึงขั้นสนับสนุน เพื่อช่วยผลักดันเงินเฟ้อและหนุนผู้ส่งออกญี่ปุ่น
เมื่อ USD/JPY ขยับลึกขึ้นสู่ช่วงปลาย 150 กว่า ๆ กระแสคาดการณ์การแทรกแซงก็เริ่มดังขึ้นตามไปด้วย นักเทรดส่วนใหญ่มองว่าโซน 157–160 คือ “เขตอันตราย” ที่ทางการญี่ปุ่นอาจจำเป็นต้องเข้าดำเนินการ หากการเคลื่อนไหวของราคาดูรุนแรงเกินไปหรือมีลักษณะเก็งกำไร
โดยทั่วไป การแทรกแซงจะไม่เกิดขึ้นแบบไร้สัญญาณล่วงหน้า ลำดับสัญญาณมักชัดเจน คือ คำเตือนที่แข็งกร้าวมากขึ้นจากกระทรวงการคลัง ส่งสัญญาณความร่วมมือกับกลุ่ม G7 และก่อนจะตามมาด้วยการซื้อเยนจริงในตลาด
แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ราคามักปรับตัวรุนแรงทันที อาจร่วงได้ 2–3 เยนในเวลาไม่นาน
สำหรับนักเทรด นั่นหมายถึง สัดส่วนความเสี่ยงเปลี่ยนไปเมื่อราคาขึ้นสูงขึ้น ถึงแม้ทางขึ้นยังเปิดอยู่ แต่ไม่ “โล่ง” เหมือนเดิม ทุกการไต่ขึ้นสู่โซน 158–160 มีโอกาสเจอการเทขายฉับพลันจากข่าวเพียงพาดหัวเดียว
ในเชิงเทคนิค USD/JPY ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นชัดเจนบนภาพรายวัน ราคายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันและ 200 วันอย่างสบาย ซึ่งทั้งสองเส้นกำลังชี้ขึ้น สะท้อนอคติระยะกลาง–ยาวยังเป็นบวก
แนวต้านเดิมบริเวณ 154.50–155.00 มีการ “สลับสถานะ” กลายเป็นแนวรับสำคัญ ตราบใดที่ราคา ปิดรายวันเหนือโซนนี้ การทะลุ 157 จะถือว่าแข็งแรงและยังอยู่ในกรอบขาขึ้นที่ดี
แผนที่ราคาตอนนี้ค่อนข้างชัดเจน:
แนวต้านเฉพาะหน้าจะอยู่ในโซน 157.50–158.00 ซึ่งเป็นบริเวณจุดสูงล่าสุดและมีความสนใจในออปชันกระจุกตัวอยู่มาก
เหนือขึ้นไป แนวอ้างอิงฝั่งขาขึ้นถัดไปอยู่ที่ช่วง 158.50–159.00 ซึ่งเชื่อมโยงกับจุดกลับตัวเดิมในอดีต และอาจเป็นโซนที่เริ่มเห็นการทำกำไร
ด่านจิตวิทยาหลักยังคงเป็นระดับ 160.00 ซึ่งเป็นบริเวณที่ความเสี่ยงต่อการแทรกแซงจากทางการญี่ปุ่นอยู่ในจุดสูงสุด และเป็นโซนการกลับตัวใหญ่ครั้งก่อน
ในทางกลับกัน ทางด้านแนวรับ ระดับแรกอยู่บริเวณ 156.20–156.50 ซึ่งเป็นโซนเบรกขึ้นครั้งแรกและจุดที่มีการรีเทสต์ราคา แนวรับลึกลงไปจะอยู่ที่ช่วง 155.00–155.50 อดีตแนวต้านที่ฝั่งกระทิงต้องปกป้องให้ได้
หากมีการปิดแท่งรายวัน ต่ำกว่า 153.50–154.00 จะเป็นสัญญาณแรกที่ชัดเจนว่าโมเมนตัมขาขึ้นเริ่มหมดแรง แทนที่จะเป็นเพียงการพักตัวระยะสั้น
เครื่องมือวัดโมเมนตัมยังคงสนับสนุนภาพขาขึ้น แต่ก็เริ่มส่งสัญญาณเตือนบางส่วน ค่า RSI รายวันอยู่ในหรือใกล้เขต Overbought ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติในช่วงขาขึ้นแรง แต่ก็บอกว่าตลาดกำลัง “ร้อนแรง”
นอกจากนี้ ยังเริ่มเห็นสัญญาณ Bearish Divergence ในบางกรอบเวลา คือ ราคาทำจุดสูงใหม่ แต่ RSI หรือ MACD ไม่ได้ยืนยันตาม
สิ่งนี้ยังไม่ใช่สัญญาณ “กลับตัวทันที” แต่บ่งบอกว่า การขึ้นต่ออาจช้าลงและมีโอกาสเจอแรงย่อตัวระหว่างวันบ่อยครั้ง มากกว่าจะไต่ขึ้นอย่างเรียบเนียน
ในช่วง 1–4 สัปดาห์ข้างหน้า แนวโน้มหลักยังเป็นบวก ตราบใดที่ราคาปิดรายวันเหนือบริเวณ 155.00 ปัจจัยพื้นฐานยังหนุนฝั่งดอลลาร์ ได้แก่ ช่องว่างดอกเบี้ยสหรัฐ–ญี่ปุ่นที่กว้าง BOJ ยังขึ้นดอกเบี้ยแบบช้าและระมัดระวัง และดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจสหรัฐ
กรอบการเคลื่อนไหวที่สมเหตุสมผลในระยะสั้นคือ 155.50 – 158.50 และอาจมีจังหวะดีดขึ้นทดสอบโซนปลาย 150 กว่า ๆ หรือแตะ 160.00 หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีกว่าคาด หรือหากตลาดลดคาดการณ์การลดดอกเบี้ยของเฟด
แต่อีกด้านหนึ่ง เทรดเดอร์ควรระวังแรงเทขายเร็วจากระดับที่สูงมากเช่นนี้ โมเมนตัมร้อนแรง สถานะตามฝูงชน (crowded positioning) และความเสี่ยงด้านถ้อยแถลงจากทางการญี่ปุ่นทั้งหมดนี้อาจทำให้ราคาแกว่งแรงในช่วงเหนือ 157 กลาง ๆ ขึ้นไป
สำหรับเทรดเดอร์แบบสวิง การซื้อจุดสูงใหม่เหนือ 157.00 จะสมเหตุสมผลก็ต่อเมื่อคุณมีกรอบเวลาและจุดตัดขาดทุนที่ชัดเจน หลายคนอาจมองหาจุดอ่อนที่บริเวณ 156.50 หรือ 155.50 และรอให้ราคาดีดตัวขึ้นอย่างชัดเจนก่อนจึงค่อยตัดสินใจ
เดย์เทรดเดอร์และนักเก็งกำไรยังสามารถเทรดแบบ long bias ได้ แต่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับสถานะ oversized ในระดับนี้ ความคิดเห็นจากธนาคารกลางญี่ปุ่นหรือกระทรวงการคลังอาจพลิกผันความเชื่อมั่นได้ภายในไม่กี่นาที ดังนั้นการควบคุมความเสี่ยงที่เข้มงวดและการจัดการการซื้อขายที่ยืดหยุ่นจึงเป็นสิ่งสำคัญ
พูดง่ายๆ คือ แนวโน้มเป็นขาขึ้น แต่มาช้าเกินไปและมีความอ่อนไหวทางการเมือง เคารพระดับราคา เคารพกระแสข่าว และหลีกเลี่ยงการคิดว่าความสงบในวันนี้จะคงอยู่ตลอดไป
เป็นไปได้ แต่ไม่การันตี การปรับขึ้นถึงระดับ 160 อาจต้องอาศัยปัจจัยหนุน เช่น ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง เงินเฟ้อยังเหนียวสูง และเฟดยังคงระมัดระวังการลดดอกเบี้ย หากราคาเข้าใกล้ระดับ 160 ความเสี่ยงต่อการแทรกแซงจากญี่ปุ่นจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และอาจเป็นตัวจำกัดราคาขึ้น
ใช่ เครื่องมือโมเมนตัมระบุว่าอยู่ในเขต Overbought แต่ในแนวโน้มขาขึ้นแข็งแรง ตลาดสามารถอยู่ในสภาวะนี้ต่อไปได้ สิ่งสำคัญคือการเปิดสถานะซื้อใหม่ควรบริหารขนาดล็อตอย่างระมัดระวัง และกำหนดจุดออกให้ชัดเจน หากเกิดแรงย่อตัวรุนแรงขึ้นมา
ปัจจัยที่อาจกดดันให้ราคาปรับลง ได้แก่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอกว่าคาด ตลาดคาดหวังเฟดลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น BOJ ส่งสัญญาณเข้มงวดมากขึ้น และคำเตือนเรื่องแทรกแซงจากรัฐบาลญี่ปุ่นที่แข็งกร้าวขึ้น
น้อยลงกว่าที่เคย อัตราดอกเบี้ยญี่ปุ่นที่ต่ำมากทำให้นักลงทุนมักเลือกดอลลาร์สหรัฐหรือฟรังก์สวิสในช่วงตลาดเสี่ยง ปัจจุบันเยนมีบทบาทเป็น Funding Currency สำหรับเทรดแบบ Carry Trade มากกว่า
การที่ USD/JPY ทะลุระดับ 157.00 เป็นสัญญาณชัดเจนว่าฝั่งกระทิงยังคงคุมเกมอยู่ โดยมีช่องว่างนโยบายระหว่าง เฟด–BOJ และปัจจัยภายในญี่ปุ่นที่ยังอ่อนแอหนุนอยู่เบื้องหลัง
ภาพทางเทคนิคก็สอดคล้องกัน โดยราคายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยสำคัญ และแนวต้านเดิมได้เปลี่ยนบทบาทเป็นแนวรับ ส่งสัญญาณว่าตลาดยังอยู่ในโหมดขาขึ้น
อย่างไรก็ตาม ความแข็งแรงนี้มี “ข้อแม้” ราคากำลังเคลื่อนไหวในโซนอ่อนไหวทางการเมือง โมเมนตัมตึงตัว และกระแสพูดถึงการแทรกแซงยังอยู่ใกล้เพียงปลายสายตา
สำหรับนักเทรด: เคารพโครงสร้างขาขึ้น แต่ต้องมีวินัยและบริหารความเสี่ยงอย่างเข้มงวดในระดับราคานี้
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ