简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

Steven Drobny: เบื้องหลังแนวคิด Global Macro

เผยแพร่เมื่อ: 2025-11-04    อัปเดตเมื่อ: 2025-11-05

Steven Drobny

สตีเวน ดรอบนี หรือ Steven Drobny เป็นที่ปรึกษากองทุนเฮดจ์ฟันด์และนักเขียนชื่อดัง ผู้ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็น “ผู้ถ่ายทอดแนวคิดและแนวปฏิบัติของเฮดจ์ฟันด์” ให้กับนักลงทุนสถาบันอย่างเข้าใจง่ายและลึกซึ้ง ตลอดเส้นทางอาชีพของเขา ตั้งแต่การทำงานบนโต๊ะเทรด ไปจนถึงการก่อตั้งบริษัท Clocktower Group ดรอบนีได้ทุ่มเทให้กับการศึกษาและทำความเข้าใจว่า ผู้จัดการกองทุนมหภาคระดับโลก (Top Macro Managers) สามารถสร้างผลตอบแทนและบริหารความเสี่ยงได้อย่างไร


บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับประวัติของเขา ประสบการณ์ในด้านการเทรดและการวิจัย ปรัชญาการลงทุนหลัก รวมถึงผลงานสำคัญที่ทำให้สตีเวน ดรอบนี กลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในวงการการเงินระดับโลก


ใครคือ Steven Drobny และทำไมเขาจึงมีความสำคัญในโลกการเงินยุคใหม่


สตีเวน เอ็ดเวิร์ด ดรอบนี (Steven Edward Drobny) เป็นที่ปรึกษากองทุนเฮดจ์ฟันด์ชาวอเมริกัน ผู้ก่อตั้งและดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท Clocktower Group รวมถึงเป็นนักเขียนหนังสือแนว Global Macro Trading ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงสองเล่ม ผลงานของเขามีส่วนสำคัญในการช่วยให้นักลงทุนสถาบันเข้าใจกลยุทธ์การลงทุนแบบ Discretionary Macro และ Commodity Trading ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น อีกทั้งการสัมภาษณ์ผู้จัดการกองทุนชั้นนำของเขายังถูกมองว่าเป็น “หลักฐานปฐมภูมิ” ที่เปิดเผยให้เห็นวิธีคิดและแนวทางการตัดสินใจของเทรดเดอร์ระดับโลกอย่างแท้จริง


ช่วงเริ่มต้นอาชีพและประวัติการทำงานของ Steven Drobny

Steven Drobny's Early Career and Professional Background

Drobny เริ่มต้นอาชีพของเขาในบทบาทที่ต้องเผชิญหน้ากับตลาด รวมถึงตำแหน่งภายในกลุ่มกองทุนป้องกันความเสี่ยงของ Deutsche Bank และที่ AIG Trading ซึ่งเขาได้รับประสบการณ์ตรงในตลาดโลหะและพลังงาน


หลังจากสร้างประสบการณ์ด้านการปฏิบัติงานและการตลาดแล้ว เขาก็ได้ก่อตั้ง Drobny Global Advisors และต่อมาได้ก่อตั้ง Clocktower Group โดยวางตำแหน่งตัวเองให้เป็นสื่อกลางระหว่างผู้จัดการกองทุนมหภาคตามดุลพินิจและนักลงทุนสถาบัน เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญ กองทุนบริจาค และสำนักงานครอบครัว


ประสบการณ์เหล่านี้ได้หล่อหลอมทั้งรูปแบบธุรกิจที่ปรึกษาของเขาและการสัมภาษณ์ที่กลายมาเป็นหนังสือของเขา


วิวัฒนาการของนักคิดสายมาโคร: การเทรด การวิจัย และวิธีการสัมภาษณ์


ผลงานที่โดดเด่นของ Steven Drobny ในวงการการลงทุนแบบมาโคร ไม่ได้อยู่แค่ในแง่ของกลยุทธ์เทรด แต่โดดเด่นในด้าน “วิธีการศึกษา” เขาผสานประสบการณ์ตรงจากการทำงานในตลาดการเงิน เข้ากับการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้จัดการกองทุนระดับแนวหน้า


แนวทางนี้ทำให้เขาสามารถดึง “วิธีปฏิบัติที่ใช้ได้จริง” (repeatable practices) ออกมาได้ แทนที่จะเป็นเพียงทฤษฎีเชิงนามธรรม งานสัมภาษณ์ของเขานำไปสู่หนังสือสำคัญสองเล่ม ที่รวบรวมประสบการณ์จริง กลยุทธ์การเทรด และกรอบการบริหารความเสี่ยงจากผู้จัดการกองทุนทั่วโลก


ผู้อ่านจึงสามารถเปรียบเทียบแนวทางการคิดและการดำเนินการของผู้จัดการกองทุนต่าง ๆ ภายในจักรวาลของ Global Macro ได้อย่างชัดเจน วิธีการเชิงเปรียบเทียบที่อาศัยการสัมภาษณ์นี้ เปลี่ยนสิ่งที่เคยเป็นโลกปิดของเฮดจ์ฟันด์ ให้กลายเป็นความรู้ที่เข้าใจและเรียนรู้ได้จริง


ปรัชญาการลงทุนหลัก: การบริหารความเสี่ยง สภาพคล่อง และการรับรู้ความสัมพันธ์ของสินทรัพย์

Steven Drobny‘s Core Investment Philosophy

แนวคิดแกนกลางของ Steven Drobny คือ “การบริหารความเสี่ยงต้องมาก่อนการสร้างผลตอบแทน” เขามักจะเน้นย้ำอยู่เสมอถึงสามประเด็นสำคัญที่เชื่อมโยงกัน ได้แก่


  • ความเสี่ยงเป็นอันดับแรก: แทนที่เป้าหมายผลตอบแทนดิบด้วยวัตถุประสงค์ที่ปรับความเสี่ยงแล้ว และออกแบบตำแหน่งเพื่อจำกัดความเสี่ยงด้านลบ

  • สภาพคล่องเป็นหลักประกัน: ปฏิบัติต่อเงินสดและสภาพคล่องเป็นหลักประกันเชิงโครงสร้างที่รักษาทางเลือกไว้ระหว่างภาวะตึงเครียดของตลาด

  • กระจายความเสี่ยงด้วยความสัมพันธ์: สร้างพอร์ตโฟลิโอโดยเน้นปัจจัยความเสี่ยงที่ไม่มีความสัมพันธ์กันแทนที่จะใช้กลุ่มสินทรัพย์แบบปกติ


แนวคิดทั้งสามนี้ปรากฏซ้ำในบทสัมภาษณ์และงานวิเคราะห์ของเขา สะท้อนมุมมองที่เน้น “การอยู่รอดในช่วงตลาดผันผวน” มากกว่าการไล่ตามกำไรระยะสั้น ผลงานของ Drobny มีอิทธิพลอย่างมากหลังวิกฤตการเงินปี 2008 ซึ่งเป็นช่วงที่นักลงทุนสถาบันทั่วโลกเริ่มกลับมาทบทวนแนวคิดเดิมเกี่ยวกับ “การกระจายความเสี่ยง” และ “สภาพคล่อง” ใหม่ทั้งหมด


ความสำเร็จที่สำคัญและการมีส่วนสนับสนุนของอุตสาหกรรม


ตารางด้านล่างสรุปผลงานตีพิมพ์และเหตุการณ์สำคัญในเส้นทางอาชีพของ Drobny

ปี / เหตุการณ์สำคัญ รายละเอียด
2006 ตีพิมพ์หนังสือ Inside the House of Money: Top Hedge Fund Traders on Profiting in the Global Markets ซึ่งรวบรวมบทสัมภาษณ์ของผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์แนว Global Macro ชั้นนำทั่วโลก
2010 ตีพิมพ์หนังสือ The Invisible Hands: Top Hedge Funds on Bubbles, Crashes and Real Money วิเคราะห์มุมมองของผู้จัดการกองทุนต่อภาวะฟองสบู่ วิกฤต และข้อจำกัดของนักลงทุนสถาบัน
2007–ปัจจุบัน ก่อตั้งและดำรงตำแหน่งผู้นำของ Clocktower Group บริษัทที่ปรึกษาและบริหารสินทรัพย์ มุ่งเน้นการเชื่อมโยงผู้จัดการกองทุนแนว Macro กับนักลงทุนสถาบัน เช่น กองทุนบำนาญ มูลนิธิ และสำนักงานครอบครัว


นอกจากผลงานด้านการเขียนแล้ว Drobny ยังมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้ดำเนินรายการและผู้สัมภาษณ์ในงานสัมมนาระดับอุตสาหกรรม อีกทั้งยังให้คำปรึกษาแก่นักลงทุนสถาบันที่ต้องการเข้าถึงกลยุทธ์การลงทุนแบบ Macro อย่างมีระบบ


ทั้งผลงานหนังสือและการให้คำปรึกษาของเขาได้ช่วยยกระดับความเข้าใจของนักลงทุนต่อการคัดเลือกผู้จัดการกองทุน การบริหารความเสี่ยงปลายหาง และการจัดการสภาพคล่อง (Liquidity Management) ให้กลายเป็นหัวข้อสำคัญในโลกการลงทุนยุคใหม่


กรณีศึกษาสำคัญ: บทเรียนจากวิกฤตการเงินปี 2008

Lessons Drawn from the 2008 Financial Crisis

ในหนังสือ The Invisible Hands นั้น Steven Drobny ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของผู้จัดการกองทุนที่สามารถฝ่าวิกฤตการเงินปี 2008 ได้อย่างสำเร็จ พร้อมเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่สามารถรับมือได้ดีเท่าไรนัก โดยเขาได้สรุปบทเรียนสำคัญจากช่วงเวลานั้นออกมาในเชิงปฏิบัติ ดังนี้:


  1. ความยืดหยุ่นและความเชื่อมั่น:
    ผู้จัดการที่ประสบความสำเร็จจะผสมผสานความเต็มใจที่จะใช้มุมมองมหภาคที่เข้มข้นเข้ากับกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าที่เข้มงวดสำหรับการกำหนดขนาดตำแหน่งและตรรกะการหยุด

  2. การจัดการความเสี่ยงส่วนท้าย:
    ผู้จัดการที่รอดชีวิตได้ป้องกันความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพหรือจัดสรรงบประมาณไว้สำหรับเหตุการณ์ที่เป็นผลเสียแทนที่จะตั้งสมมติฐานว่าการกลับสู่ค่าเฉลี่ยจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

  3. วินัยด้านสภาพคล่อง:
    การเข้าถึงและการรักษาสภาพคล่องทำให้ผู้จัดการบางคนสามารถยึดมั่นกับช่วงที่ต้องลดหนี้โดยบังคับและใช้ประโยชน์จากราคาที่ตึงเครียดได้

  4. ความไม่สอดคล้องกันของสถาบัน:
    Drobny เน้นย้ำว่านักลงทุนเงินจริงบางรายล้มเหลวในการประเมินข้อจำกัดในการดำเนินงานของกองทุนป้องกันความเสี่ยง ส่งผลให้เกิดความไม่ตรงกันระหว่างความคาดหวังและการจัดสรร


บทเรียนเชิงประจักษ์เหล่านี้สร้างรูปแบบสำหรับผู้จัดสรรสถาบัน: จัดแนวความต้องการสภาพคล่องให้สอดคล้องกับการเลือกกลยุทธ์ ทดสอบพอร์ตโฟลิโอภายใต้ภาวะเครียดสำหรับการเพิ่มขึ้นของความสัมพันธ์ และให้ความสำคัญกับผู้จัดการที่ระบุโปรโตคอลความเสี่ยงอย่างชัดเจน


กรณีศึกษาในหนังสือของเขาแสดงให้เห็นไม่เพียงแต่สิ่งที่ได้ผลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเหตุผลที่ได้ผลด้วย และยังมีแนวทางปฏิบัติสำหรับการออกแบบพอร์ตโฟลิโออีกด้วย


คำพูดที่เลือกและคำวิจารณ์เชิงวิเคราะห์


คำคมของ Steven Drobny
คำคม สิ่งที่สะท้อนออกมา
“เงินสดเป็นสิ่งเดียวที่สามารถช่วยคุณได้ในยามวิกฤตสภาพคล่อง” มุมมองเชิงโครงสร้างของสภาพคล่อง: เงินสดรักษาทางเลือกและป้องกันการขายบังคับในเวลาที่ไม่เหมาะสม
“นักลงทุนควรกระจายการลงทุนตามความสัมพันธ์ ไม่ใช่ตามประเภทสินทรัพย์” สนับสนุนการกระจายความเสี่ยงรอบปัจจัยเสี่ยงที่ไม่มีความสัมพันธ์กันมากกว่าการจัดสรรตามฉลากเพียงอย่างเดียว
“เราถูกตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าเพื่อแสวงหาการยืนยัน ไม่ใช่การปฏิเสธการยืนยัน” การสังเกตพฤติกรรมเพื่อเตือนนักลงทุนให้ต่อต้านอคติยืนยันในการวิจัยและการกำหนดขนาดตำแหน่ง


คำคมแต่ละประโยคสะท้อนแนวคิดการลงทุนที่เน้นความเป็นจริงและวินัยทางปฏิบัติของ Drobny เขาให้ความสำคัญกับความชัดเจนในการดำเนินการ (Operational Clarity) และความซื่อสัตย์ทางความคิด (Cognitive Honesty) โดยใช้คำพูดของนักลงทุนมืออาชีพเพื่อชี้ให้เห็นว่า “ทฤษฎีพอร์ตการลงทุน” จะมีประโยชน์จริงได้ก็ต่อเมื่อถูกเชื่อมโยงกับ “วินัยในการบริหารความเสี่ยงและการตัดสินใจ” ในโลกความเป็นจริง


มรดกและอิทธิพล: วิธีที่ Steven Drobny ปรับรูปแบบความคิดของนักลงทุนมาโครยุคใหม่


ผลงานหลักของ Steven Drobny ทิ้งไว้ให้กับวงการการเงินคือ “มรดกทางการศึกษา” เขาได้ถ่ายทอดวิธีคิดและกระบวนการบริหารความเสี่ยงของนักลงทุนมาโครระดับโลกจากสิ่งที่เคยซับซ้อนและเข้าใจยาก ให้กลายเป็นบทเรียนที่จับต้องได้สำหรับนักลงทุนสถาบัน


แนวคิดที่เน้นสภาพคล่อง (Liquidity), ความสัมพันธ์ของสินทรัพย์ และคติทางพฤติกรรมของ Drobny มีอิทธิพลอย่างมากต่อการออกแบบพอร์ตการลงทุนหลังวิกฤตการเงินปี 2008 เขาเป็นหนึ่งในผู้ที่ผลักดันแนวคิด “บริหารความเสี่ยงก่อนแสวงหาผลตอบแทน” (Risk-First Approach) ให้แพร่หลายมากขึ้นในหมู่นักลงทุนทั่วโลก


นอกจากนี้ บทบาทของเขาในฐานะผู้ก่อตั้ง Clocktower Group ยังช่วยขยายอิทธิพลของแนวคิดเหล่านี้ไปสู่การปฏิบัติจริง โดยนำหลักการบริหารความเสี่ยงและการจัดพอร์ตแบบมาโครไปประยุกต์ใช้ภายในกระบวนการลงทุนของสถาบันขนาดใหญ่ เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญ มูลนิธิ และสำนักงานบริหารสินทรัพย์ครอบครัว (Family Offices) ได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ


บทสรุป


Steven Drobny มอบกรอบการคิดเชิงปฏิบัติให้แก่นักลงทุน ซึ่งผสานระหว่างมุมมองเศรษฐกิจมหภาค การบริหารความเสี่ยง และความเป็นจริงในการปฏิบัติ หนังสือของเขาเป็นเสมือนคลังความรู้จากประสบการณ์ของผู้ปฏิบัติงานในตลาดจริง และผลงานที่ปรึกษาของเขายังช่วยให้นักลงทุนสถาบัน มองใหม่เกี่ยวกับการคัดเลือกผู้จัดการกองทุน การบริหารสภาพคล่อง และการควบคุมความเสี่ยงขาลง


สำหรับนักลงทุนหรือผู้จัดสรรสินทรัพย์ที่ต้องการผสานแนวคิดเศรษฐกิจมหภาคเข้ากับพอร์ตการลงทุนที่มั่นคง ผลงานของ Drobny ยังคงเป็นหนึ่งในแหล่งอ้างอิงที่สำคัญและทรงคุณค่าที่สุดในโลกการเงินยุคใหม่


คำถามที่พบบ่อย


คำถามที่ 1: Steven Drobny เขียนหนังสืออะไรบ้าง?

เขาเป็นผู้เขียนหนังสือ Inside the House of Money: Top Hedge Fund Traders on Profiting in the Global Markets และ The Invisible Hands: Top Hedge Funds on Bubbles, Crashes and Real Money


คำถามที่ 2: เขาบริหารกองทุนป้องกันความเสี่ยงหรือเปล่า?

Drobny เคยทำงานในบทบาทที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายและกองทุนป้องกันความเสี่ยงในช่วงต้นอาชีพของเขา รวมถึงตำแหน่งที่ Deutsche Bank และ AIG Trading แต่บทบาทสาธารณะหลักของเขาคือที่ปรึกษาและผู้ก่อตั้ง Clocktower Group มากกว่าที่จะเป็นผู้ดำเนินการกองทุนป้องกันความเสี่ยงที่มีผู้จัดการเพียงคนเดียวและดำเนินกิจการมายาวนาน


คำถามที่ 3: Clocktower Group คืออะไร?

Clocktower Group เป็นบริษัทที่ปรึกษาและบริหารสินทรัพย์ที่ก่อตั้งโดย Drobny ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสถาบันสามารถเข้าถึงและประเมินผู้จัดการมหภาคและสินค้าโภคภัณฑ์ระดับโลกตามดุลยพินิจ


คำถามที่ 4: นักลงทุนรายใดควรอ่าน Drobny?

ผู้จัดสรรสถาบัน สำนักงานครอบครัว และนักลงทุนรายย่อยที่มีประสบการณ์ซึ่งมุ่งเน้นกลยุทธ์มหภาค สินทรัพย์หลายประเภท หรือการบริหารสภาพคล่อง จะพบว่าการสัมภาษณ์และการสังเคราะห์ของเขามีประโยชน์อย่างยิ่ง


คำถามที่ 5: บทเรียนของ Drobny ยังมีความเกี่ยวข้องอยู่หรือไม่หลังจากการเปลี่ยนแปลงของตลาดเมื่อเร็วๆ นี้?

ใช่ การเน้นย้ำเรื่องสภาพคล่อง ความสัมพันธ์ และอคติทางพฤติกรรมของเขานั้นครอบคลุมทุกยุคทุกสมัยและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในทุกสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป แม้ว่ารายละเอียดเฉพาะของโครงสร้างตลาดและกฎระเบียบควรได้รับการตรวจสอบกับแหล่งข้อมูลล่าสุด


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความที่เกี่ยวข้อง
ความสำเร็จทางการเงินและกลยุทธ์เชิงปริมาณของ Simons
​Magnificent Seven กำลังสูญเสียความสดใส
หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐ ดิ่ง ขณะที่ Magnificent Seven สูญเสียส่วนแบ่งตลาด
เทรดอย่างเทพกับ Japanese Candlestick Charting Techniques
สิ่งที่คาดหวังจากผลประกอบการของ “Magnificent 7” สัปดาห์นี้