หุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ร่วงลง ส่งผลให้ดัชนีร่วงลง เนื่องจากผู้ซื้อขายพยายามป้องกันความผันผวนเพิ่มเติมในภาคส่วนนี้
ในเดือนสิงหาคม 2568 หุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่ม "Magnificent Seven" ได้แก่ Apple (AAPL), Amazon (AMZN), Tesla (TSLA), Alphabet (GOOGL), Microsoft (MSFT), Nvidia (NVDA) และ Meta Platforms ต่างปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด ภาวะถดถอยนี้ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าที่สูงเกินจริงที่อาจเกิดขึ้นและความยั่งยืนของการฟื้นตัวจาก AI นักลงทุนมีความระมัดระวังมากขึ้น โดยบางส่วนหันไปใช้กลยุทธ์ป้องกัน เช่น การซื้อออปชันพุต "ภัยพิบัติ" เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการขาดทุนเพิ่มเติม
ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2568 ดัชนี Nasdaq Composite ลดลง 0.7% ส่งผลให้ขาดทุนต่อเนื่องสองวันเป็น 2.1% ดัชนีกลุ่มเทคโนโลยี S&P 500 ก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน สะท้อนถึงการถดถอยของตลาดหุ้นโดยรวมจากหุ้นเทคโนโลยีที่มีการเติบโตสูง ที่น่าสังเกตคือ หุ้นของ Nvidia ลดลง 5% ขณะที่หุ้นของ Palantir ร่วงลง 16% สะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับความยั่งยืนของกำไรที่เกี่ยวข้องกับ AI
การถอยกลับนี้เกิดจากปัจจัยหลายประการ:
ข้อกังวลเกี่ยวกับการประเมินมูลค่า: ราคาหุ้นเทคโนโลยีที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งขับเคลื่อนโดยความเชื่อมั่นใน AI ทำให้เกิดคำถามว่าการประเมินมูลค่าได้แซงหน้าการเติบโตพื้นฐานหรือไม่
ความไม่แน่นอนของนโยบายการเงิน: การคาดการณ์คำกล่าวของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวลล์ ในงานสัมมนาแจ็คสันโฮล ส่งผลให้ตลาดผันผวน เนื่องจากนักลงทุนต้องการความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
การหมุนเวียนในภาคส่วนต่างๆ: นักลงทุนกำลังหมุนเวียนออกจากหุ้นเทคโนโลยีไปสู่ภาคส่วนที่มีการป้องกันความเสี่ยงมากกว่า เช่น ภาคส่วนการดูแลสุขภาพและสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งถูกมองว่ามีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริงและอ่อนไหวต่อความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่า
Apple (AAPL): ปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ 226.01 ดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาหุ้น Apple ลดลงประมาณ 2% เมื่อเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตาม แบรนด์ที่แข็งแกร่งและผลประกอบการที่สม่ำเสมอทำให้หุ้น Apple กลายเป็นหุ้นหลักในพอร์ตการลงทุนหลาย ๆ แห่ง
Amazon (AMZN): ราคาหุ้นอยู่ที่ 223.81 ดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาหุ้นของ Amazon ก็ลดลงประมาณ 1.8% เช่นกัน แหล่งรายได้ที่หลากหลายของบริษัท ซึ่งรวมถึงอีคอมเมิร์ซ คลาวด์คอมพิวติ้ง และโฆษณา ล้วนสร้างความยืดหยุ่นต่อความผันผวนของตลาด
Tesla (TSLA): ราคาหุ้นของ Tesla อยู่ที่ 323.90 ดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 1.6% แม้ว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะยังคงมีการแข่งขันสูง แต่นวัตกรรมและส่วนแบ่งตลาดของ Tesla ยังคงช่วยสนับสนุนมูลค่าของบริษัท
Alphabet (GOOGL): ซื้อขายที่ 199.32 ดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาหุ้นของ Alphabet ลดลง 1.1% ความเป็นผู้นำของบริษัทในด้านการค้นหาและโฆษณา รวมถึงการลงทุนใน AI และบริการคลาวด์ ล้วนเป็นปัจจัยหนุนโอกาสการเติบโตระยะยาวของบริษัท
Microsoft (MSFT): ราคาหุ้นอยู่ที่ 505.72 ดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาหุ้นของ Microsoft ลดลง 0.8% สถานะที่แข็งแกร่งของบริษัทในด้านซอฟต์แวร์องค์กร คลาวด์คอมพิวติ้ง และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ส่งผลให้บริษัทพร้อมสำหรับการเติบโตในอนาคต
Nvidia (NVDA): ราคาหุ้นของ Nvidia อยู่ที่ 175.40 ดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 0.14% ในฐานะผู้นำด้านหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ผลิตภัณฑ์ของบริษัทจึงเป็นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรม AI และเกม
แพลตฟอร์ม Meta: แม้ว่าจะไม่มีการให้ข้อมูลที่ชัดเจน แต่การมุ่งเน้นของ Meta ในด้านความจริงเสมือนและแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยังคงขับเคลื่อนธุรกิจต่อไป
เนื่องจากตลาดมีความผันผวนเมื่อเร็วๆ นี้ นักลงทุนจึงใช้กลยุทธ์ต่างๆ ดังนี้:
การกระจายการลงทุน: การกระจายการลงทุนในภาคส่วนและประเภทสินทรัพย์ที่แตกต่างกันเพื่อลดความเสี่ยง
การป้องกันความเสี่ยง: การใช้ตัวเลือกและตราสารทางการเงินอื่น ๆ เพื่อป้องกันภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่อาจเกิดขึ้น
มุ่งเน้นที่ปัจจัยพื้นฐาน: เน้นบริษัทที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีรายได้สม่ำเสมอ และมีแนวโน้มการเติบโตที่ชัดเจน
การที่หุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเมื่อเร็วๆ นี้ ถือเป็นเครื่องเตือนใจถึงความผันผวนโดยธรรมชาติในกลุ่มธุรกิจที่มีการเติบโตสูง แม้ว่าการพุ่งขึ้นของราคาหุ้นที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะผลักดันให้หุ้นเหล่านี้พุ่งสูงขึ้นไปอีกขั้น แต่สิ่งสำคัญที่นักลงทุนควรพิจารณามูลค่าอย่างรอบคอบและพิจารณาปัจจัยทางเศรษฐกิจในวงกว้าง การลงทุนในพอร์ตการลงทุนที่กระจายความเสี่ยงและมุ่งเน้นไปที่บริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง จะช่วยให้นักลงทุนสามารถบริหารจัดการภูมิทัศน์ตลาดปัจจุบันได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
ทองคำ XAU/USD แนวโน้มอ่อนค่า หลัง Fed เข้มงวด ดอลลาร์แข็งค่า และความหวังสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน
2025-08-21ดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้นในวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ หลังจากที่ทรัมป์โจมตีพาวเวลล่าสุด ซึ่งพาวเวลจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่ Jackson Hole
2025-08-21EUR/JPY เคลื่อนไหวเหนือ 171.50 นักลงทุนจับตา Eurozone PMI และนโยบาย BoJ เจาะลึกปัจจัยพื้นฐานและเทคนิค วิเคราะห์แนวโน้มค่าเงินยูโรเยน Q4 2025
2025-08-21