简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

เจาะลึก 5 ประเภทของพันธบัตรและกลไกการทำงาน

เผยแพร่เมื่อ: 2025-05-29    อัปเดตเมื่อ: 2025-06-04

เมื่อพูดถึงการลงทุน หลายคนมักจะนึกถึงหุ้นเป็นอันดับแรก แต่ยังมีสินทรัพย์อีกประเภทหนึ่งที่ทรงพลังไม่แพ้กัน ซึ่งสามารถเพิ่มความมั่นคงรายได้ประจำ และการกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตของคุณได้ — นั่นคือ "พันธบัตร" โดยพันธบัตรเป็นองค์ประกอบสำคัญของการลงทุนในตราสารหนี้ เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่คาดการณ์ได้และมีความผันผวนน้อยกว่าหุ้น


ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับพันธบัตร โดยเฉพาะพันธบัตร 5 ประเภทหลักที่ควรทำความเข้าใจ ไม่ว่าคุณจะกำลังวางแผนเกษียณ บริหารความเสี่ยง หรือมองหารายได้แบบพาสซีฟ (Passive Income) พันธบัตรก็สามารถเป็นเครื่องมือการลงทุนที่มีคุณค่าได้อย่างแท้จริง


พันธบัตรคืออะไร?

พันธบัตรคืออะไร

พันธบัตรคือเครื่องมือทางการเงินประเภทหนี้สิน เมื่อคุณซื้อพันธบัตรเท่ากับว่าคุณให้เงินกู้แก่รัฐบาล บริษัท หรือหน่วยงานอื่น ๆ โดยแลกกับการรับดอกเบี้ยเป็นงวด ๆ (เรียกว่า "คูปอง" ) และการได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวน (มูลค่าที่ตราไว้) เมื่อพันธบัตรครบกำหนดอายุ


คุณสมบัติหลักของพันธบัตร :

  • ผู้ออกพันธบัตร (Issuer): ผู้กู้เงิน เช่น รัฐบาลหรือบริษัท

  • มูลค่าที่ตราไว้ (Par Value): จำนวนเงินที่คุณจะได้รับคืนเมื่อพันธบัตรครบกำหนด

  • อัตราคูปอง (Coupon Rate): ดอกเบี้ยรายปีที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าที่ตราไว้

  • วันครบกำหนดชำระหนี้ (Maturity Rate): วันที่ผู้ออกพันธบัตรจะชำระเงินต้นคืน

  • อัตราผลตอบแทน (Yield): ผลตอบแทนที่แท้จริงที่คุณจะได้รับ โดยขึ้นอยู่กับราคาที่คุณซื้อพันธบัตร


ทำไมถึงควรลงทุนในพันธบัตร?

พันธบัตรได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากมีคุณสมบัติที่โดดเด่นดังต่อไปนี้:

  • รายได้ที่คาดการณ์ได้

  • การรักษาเงินต้น

  • การกระจายความเสี่ยง (โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับหุ้น)

  • ความเสี่ยงต่ำ (หากผู้ออกพันธบัตรมีคุณภาพสูง)


พันธบัตรจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในช่วงตลาดหุ้นผันผวนหรือขาลง และถือเป็นสินทรัพย์สำคัญในพอร์ตการลงทุนเพื่อการเกษียณ


5 ประเภทของพันธบัตร

5 ประเภทของพันธบัตร

1. พันธบัตรรัฐบาล (Government Bonds)

พันธบัตรรัฐบาลออกโดยรัฐบาลกลาง และมักถูกมองว่าเป็นพันธบัตรที่ปลอดภัยที่สุด


พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ

ในประเทศสหรัฐฯ พันธบัตรรัฐบาลประกอบด้วย:

  • ตั๋วเงินคลัง (Treasury Bills: T-Bills): ระยะสั้น อายุ 1 ปีหรือน้อยกว่า ไม่มีดอกเบี้ย (Zero Coupon)

  • พันธบัตรรัฐบาลระยะกลาง (Treasury Notes: T-Notes): ระยะกลาง 2-10 ปี

  • พันธบัตรรัฐบาลระยะยาว (Treasury Bonds: T-Bonds): ระยะยาวสูงสุด 30 ปี

  • Treasury Inflation-Protected Securities (TIPS): พันธบัตรที่ผูกกับอัตราเงินเฟ้อ


ประโยชน์ :

  • ความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำมาก

  • จ่ายดอกเบี้ยตรงเวลา

  • ซื้อขายได้ง่ายในตลาดรอง


ความเสี่ยง :

  • ผลตอบแทนต่ำ

  • อ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย


ตัวอย่างประเทศอื่นๆ :

  • UK Gilts

  • พันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGBs)

  • พันธบัตรรัฐบาลอินเดีย (G-Secs)


2. พันธบัตรเทศบาล (Municipal Bonds หรือ Munis)

ออกโดยรัฐบาลท้องถิ่นหรือรัฐของสหรัฐฯ เพื่อระดมทุนสำหรับโครงการสาธารณะ เช่น โรงเรียน ถนน โรงพยาบาล


ประเภทของพันธบัตรเทศบาล:

  • General Obligation Bonds (GO): รับประกันด้วยอำนาจในการจัดเก็บภาษี

  • Revenue Bonds: รับประกันด้วยรายได้จากโครงการเฉพาะเช่นค่าผ่านทาง


ประโยชน์ :

  • ดอกเบี้ยปลอดภาษี (ทั้งของรัฐบาลกลางและรัฐ)

  • เหมาะกับนักลงทุนรายได้สูง

  • ใช้ลงทุนเพื่อสังคม


ความเสี่ยง :

  • ความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้สูงกว่าพันธบัตรรัฐบาล

  • สภาพคล่องต่ำกว่า


เหมาะสำหรับ :

นักลงทุนสหรัฐฯ ที่อยู่ในกลุ่มภาษีสูง และต้องการรายได้ที่ปลอดภาษี


3. พันธบัตรบริษัท (Corporate Bonds)

บริษัทเอกชนออกพันธบัตรเพื่อระดมทุน โดยมักให้ผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลหรือเทศบาล เพราะมีความเสี่ยงมากกว่า


ประเภทของพันธบัตรบริษัท :

  • Investment-Grade: บริษัทที่มั่นคงทางการเงิน

  • High-Yield(Junk Bonds): บริษัทที่มีความเสี่ยงสูงและเครดิตเรตติ้งต่ำ


ประโยชน์ :

  • ผลตอบแทนสูงข

  • มีตัวเลือกมากมาย ทั้งในเรื่องอายุและระดับความเสี่ยง


ความเสี่ยง :

  • ความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้

  • อ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจ

  • สภาพคล่องแตกต่างกันไป


ตัวอย่างผู้ออกพันธบัตร :

  • Apple

  • Amazon

  • Ford (junk-rated)

  • AT&T


4. พันธบัตรหน่วยงานรัฐบาล (Agency Bonds)

ออกโดยหน่วยงานรัฐหรือองค์กรที่รัฐสนับสนุน (GSEs)


ตัวอย่างที่พบบ่อย:

  • Fannie Mae (FNMA)

  • Freddie Mac (FHLMC)

  • Ginnie Mae (GNMA)


พันธบัตรเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับสินเชื่อบ้านและหลักทรัพย์ค้ำประกันด้วยสินเชื่อที่อยู่อาศัย (MBS)


ประโยชน์ :

  • ผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาล

  • ความเสี่ยงต่ำในหลายกรณี

  • บางรายการได้รับการค้ำประกันโดยรัฐบาล


ความเสี่ยง:

  • ไม่ใช่ทุกตัวที่ได้รับการค้ำประกันจากรัฐบาล

  • โครงสร้างซับซ้อน (เพราะอิงกับสินเชื่อบ้าน)


เหมาะสำหรับ:

นักลงทุนสายอนุรักษ์นิยมที่ต้องการผลตอบแทนสูงขึ้นเล็กน้อยจากพันธบัตรรัฐบาล โดยไม่รับความเสี่ยงมากนัก


5. พันธบัตรต่างประเทศและตลาดเกิดใหม่ (International&Emerging Market Bonds)

ออกโดยรัฐบาลหรือบริษัทในต่างประเทศ ช่วยเพิ่มการกระจายการลงทุนทางภูมิศาสตร์


ประเภท :

  • พันธบัตรรัฐบาลต่างประเทศ: จากประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น เยอรมนี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร

  • พันธบัตรตลาดเกิดใหม่: เช่น บราซิล อินเดีย ตุรกี ฯลฯ


ประโยชน์ :

  • ผลตอบแทนสูงขึ้น (โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่)

  • การกระจายความเสี่ยงด้วยสกุลเงินต่างประเทศ

  • ได้รับโอกาสจากการเติบโตทั่วโลก


ความเสี่ยง :

  • ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

  • ความเสี่ยงทางการเมือง

  • ความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้สูงกว่า โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่


เหมาะสำหรับ:

นักลงทุนที่มีประสบการณ์และต้องการกระจายความเสี่ยงพร้อมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากต่างประเทศ


ใครควรลงทุนในพันธบัตร?

วิธีการลงทุนในพันธบัตร

พันธบัตรเหมาะสำหรับ :

  • ผู้เกษียณอายุและนักลงทุนสายอนุรักษ์นิยมที่กำลังมองหารายได้ที่มั่นคง

  • ผู้ที่ต้องการสร้างพอร์ตการลงทุนที่สมดุล

  • นักลงทุนที่ต้องการประหยัดภาษี (โดยเฉพาะพันธบัตรเทศบาล)

  • ผู้ที่ต้องการสินทรัพย์ที่มีความผันผวนน้อยกว่าหุ้น


วิธีการลงทุนในพันธบัตร

คุณสามารถลงทุนในพันธบัตรได้โดยตรง หรือผ่านกองทุนรวมและ ETF ที่รวมตราสารหนี้ไว้


การลงทุนพันธบัตรโดยตรง:

  • ซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ผ่านเว็บไซต์ TreasuryDirect

  • ซื้อพันธบัตรบริษัทหรือพันธบัตรเทศบาลผ่านบัญชีโบรกเกอร์


การลงทุนผ่านกองทุนพันธบัตรและ ETF:

  • กองทุนรวมพันธบัตร: มีผู้จัดการบริหารพอร์ตของพันธบัตร

  • Bond ETFs: ซื้อขายได้เหมือนหุ้นมักมีค่าธรรมเนียมต่ำกว่า


ตัวอย่าง Bond ETFs ยอดนิยม:

  • BND – Vanguard Total Bond Market ETF

  • AGG – iShares Core U.S.Aggregate Bond ETF

  • TLT – iShares 20+Year Treasury Bond ETF

  • HYG – iShares iBoxx High Yield Corporate Bond ETF


เคล็ดลับการลงทุนในพันธบัตร

  • กระจายการลงทุนในพันธบัตรหลายประเภทหลายช่วงอายุและหลายผู้ออก

  • ใช้กลยุทธ์ Laddering เพื่อกระจายความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย

  • พิจารณาระยะเวลา โดยพันธบัตรระยะสั้นจะอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่า

  • นำดอกเบี้ยที่ได้รับไปลงทุนซ้ำ เพื่อเพิ่มผลตอบแทนรวม

  • ปรับสัดส่วนระหว่างพันธบัตรและหุ้นให้เหมาะกับระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้


ความเสี่ยงที่ควรพิจารณาก่อนลงทุนในพันธบัตร

การลงทุนในพันธบัตรก็มีความเสี่ยงไม่ต่างจากการลงทุนประเภทอื่น ๆ ก่อนลงทุน ควรทำความเข้าใจกับประเด็นต่อไปนี้:


1. ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย

เมื่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดปรับตัวสูงขึ้น ราคาของพันธบัตรจะลดลง พันธบัตรระยะยาวจะได้รับผลกระทบมากกว่า


2. ความเสี่ยงด้านเครดิต

ผู้ออกพันธบัตรอาจผิดนัดชำระหนี้ โดยเฉพาะพันธบัตรบริษัทเอกชนหรือตลาดเกิดใหม่ที่มีความเสี่ยงสูง


3. ความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ

เงินเฟ้อทำให้มูลค่าที่แท้จริงของดอกเบี้ยที่ได้รับลดลง โดยเฉพาะพันธบัตรที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่


4. ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง

บางพันธบัตรอาจขายออกได้ยากในเวลาที่ต้องการขายทันที และอาจต้องขายในราคาต่ำกว่าปกติ


5. ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

ความเสี่ยงนี้เกิดขึ้นกับพันธบัตรต่างประเทศ เมื่อต้องแปลงค่าสกุลเงินของผู้ออกพันธบัตรกลับเป็นสกุลเงินของผู้ลงทุน ซึ่งอาจผันผวนและกระทบต่อผลตอบแทนโดยรวม

สรุป


โดยสรุปแล้ว การทำความเข้าใจ 5 ประเภทของพันธบัตรหลัก ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรเทศบาล พันธบัตรบริษัท พันธบัตรหน่วยงานรัฐ และพันธบัตรต่างประเทศ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างพอร์ตการลงทุนตราสารหนี้ที่มั่นคง โดยแต่ละประเภทมีบทบาทแตกต่างกัน ทั้งในด้านระดับความเสี่ยง ผลตอบแทน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี


ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือมีประสบการณ์ การรวมพันธบัตรไว้ในพอร์ตสามารถช่วยลดความเสี่ยง สร้างรายได้ที่มั่นคง และเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
เจาะลึกการลงทุน VNQ ETF ควรซื้อตอนนี้หรือไม่?
Institutional Trading คืออะไร? คู่มือสำหรับนักเทรด
กระจ่างชัด เงินเฟียต คืออะไร เกี่ยวข้องกับตลาด Forex ไหม?
เจาะลึก Leading Indicators เครื่องมือชี้นำตลาดหุ้น
เจาะลึก TLT ETF หุ้นรับวิกฤตที่นักลงทุนจับตา