All-Or-None Order (AON) คืออะไร?
简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

All-Or-None Order (AON) คืออะไร?

ผู้เขียน: Charon N.

เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-29

All-or-None Order(AON) คือคำสั่งซื้อขายที่กำหนดให้ต้องดำเนินการครบตามจำนวนทั้งหมดในครั้งเดียว หากไม่สามารถจับคู่ได้ครบตามจำนวนที่ระบุ คำสั่งจะไม่ถูกดำเนินการเลย หากตลาดไม่สามารถจัดหาปริมาณทั้งหมดได้ในราคาที่กำหนด คำสั่งดังกล่าวจะคงอยู่โดยไม่ถูกจับคู่


คำสั่งประเภทนี้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการความแน่นอนของขนาดสถานะ (Position Size) เพราะแทนที่จะยอมรับการจับคู่บางส่วนซึ่งอาจทำให้ความเสี่ยงและต้นทุนเปลี่ยนไป คำสั่ง All-or-None จะรับประกันว่าการซื้อขายจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเงื่อนไขทั้งหมดถูกต้องครบถ้วนเท่านั้น


ด้วยเหตุนี้ AON จึงมีประโยชน์อย่างยิ่งในตลาดที่สภาพคล่องผันผวน หรือในสถานการณ์ที่ต้องการความแม่นยำในการดำเนินคำสั่งซื้อขาย


คำนิยาม

All-or-None Order (AON) คือคำสั่งซื้อขายที่กำหนดให้ต้องถูกจับคู่ครบตามจำนวนทั้งหมดในราคาที่ระบุ หากไม่สามารถจับคู่ได้ครบ จะไม่มีการดำเนินการซื้อขายเกิดขึ้น


ในกรณีที่ตลาดมีสภาพคล่องไม่เพียงพอ คำสั่งจะยังคงเปิดค้างอยู่จนกว่าจะสามารถจับคู่ได้ครบตามจำนวนทั้งหมด หรือจนกว่าเทรดเดอร์จะยกเลิกคำสั่งนั้น ส่งผลให้คำสั่ง AON มักใช้เวลานานกว่าจะถูกดำเนินการ และมีโอกาสสูงที่จะไม่ถูกจับคู่ โดยเฉพาะในตลาดที่ราคาเคลื่อนไหวรวดเร็วหรือมีสภาพคล่องต่ำ


เมื่อใดที่เทรดเดอร์ใช้ All-or-None Order

เทรดเดอร์จะใช้คำสั่ง All-or-None Order (AON) เมื่อการได้ขนาดคำสั่งครบตามจำนวนมีความสำคัญมากกว่าความเร็วในการถูกจับคู่ คำสั่งประเภทนี้ช่วยให้ควบคุมขนาดสถานะ ต้นทุน และความเสี่ยงได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะในกรณีที่การถูกจับคู่เพียงบางส่วนอาจก่อให้เกิดปัญหา

All-or-None Order คืออะไร

คำสั่ง AON มักถูกใช้เมื่อกลยุทธ์การเทรดต้องการจำนวนหุ้นหรือสัญญาที่แน่นอน ตัวอย่างเช่น การปรับสมดุลพอร์ตการลงทุน (Portfolio Rebalancing) หรือกลยุทธ์ที่อิงตามกฎตายตัว ซึ่งต้องพึ่งพาขนาดการลงทุนที่แม่นยำ หากถูกจับคู่เพียงบางส่วน อาจทำให้ผลลัพธ์ของกลยุทธ์คลาดเคลื่อนได้


นอกจากนี้ คำสั่ง AON ยังถูกใช้ในตลาดที่สภาพคล่องไม่สม่ำเสมอ ในสถานการณ์เช่นนี้ เทรดเดอร์อาจเลือกที่จะรอให้คำสั่งถูกจับคู่ครบทั้งหมด แทนที่จะยอมรับการถูกจับคู่เป็นส่วน ๆ ในช่วงเวลาหรือราคาที่แตกต่างกัน


อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์มักหลีกเลี่ยงการใช้คำสั่ง AON ในตลาดที่เคลื่อนไหวรวดเร็วหรือมีความผันผวนสูง เนื่องจากราคาอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้โอกาสที่คำสั่งจะถูกจับคู่ครบตามจำนวนทั้งหมดลดลงอย่างมาก


All-or-None Order ส่งผลต่อการเทรดอย่างไร?

คำสั่ง All-or-None Order ส่งผลหลักต่อคุณภาพการถูกจับคู่คำสั่ง และความแม่นยำของขนาดสถานะการลงทุน


คำสั่งประเภทนี้ช่วยให้ได้ขนาดสถานะครบตามแผนที่วางไว้ แต่ต้องแลกมากับการถูกจับคู่ที่ช้าลง และความเสี่ยงที่จะพลาดโอกาสในการเทรด


สถานการณ์ที่เหมาะสม

  • กลยุทธ์จำเป็นต้องได้ขนาดสถานะครบถ้วน

  • ตลาดมีสภาพคล่องค่อนข้างเสถียร

  • ความแม่นยำของราคา สำคัญมากกว่าความเร็วในการเข้าออเดอร์


สถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม

  • สภาพคล่องต่ำหรือกระจัดกระจาย

  • ตลาดเคลื่อนไหวรวดเร็ว

  • จำเป็นต้องได้การถูกจับคู่ทันที


ตัวอย่าง

เทรดเดอร์ต้องการซื้อหุ้นจำนวน 1,000 หุ้น ที่ราคา 20 ดอลลาร์ และได้ตั้งคำสั่ง All-or-None Order ที่ราคานี้ไว้


ในตลาดขณะนั้น มีผู้ขายเสนอขายดังนี้:

  • 600 หุ้น ราคาหุ้นละ 20 ดอลลาร์

  • 300 หุ้น ราคาหุ้นละ 20 ดอลลาร์


แม้จะมีหุ้นเสนอขายรวม 900 หุ้น แต่คำสั่งซื้อจะไม่ถูกดำเนินการ เนื่องจากไม่สามารถจับคู่ได้ครบ 1,000 หุ้นในราคาที่กำหนด


ต่อมา มีผู้ขายรายใหม่เข้าสู่ตลาดพร้อมหุ้น 400 หุ้น ที่ราคา 20 ดอลลาร์ ในจุดนี้ ปริมาณหุ้นเพียงพอสำหรับการจับคู่ครบ 1,000 หุ้น คำสั่ง AON จึงถูกดำเนินการครบทั้งหมด หากผู้ขายรายนี้ไม่ปรากฏ คำสั่งจะยังคงไม่ถูกจับคู่จนกว่าจะถูกยกเลิก


ข้อดีและข้อจำกัดของ All-or-None Order

ด้าน  All-or-None Order (AON)
ข้อดี
  • การกำหนดขนาดตำแหน่งที่แม่นยำ: รับประกันว่าคำสั่งจะถูกดำเนินการครบตามจำนวนที่วางแผนไว้ โดยไม่มีการจับคู่เพียงบางส่วน

  • การบริหารความเสี่ยงที่ดียิ่งขึ้น: ช่วยให้การคำนวณความเสี่ยงมีความถูกต้อง ไม่เกิดการเปิดสถานะแบบไม่สม่ำเสมอ

  • การควบคุมต้นทุนได้ดีกว่า: ป้องกันการถูกจับคู่หลายครั้งแบบย่อย ๆ ซึ่งอาจเพิ่มต้นทุนการทำธุรกรรมหรือทำให้การบันทึกบัญชีซับซ้อน

ข้อจำกัด
  • พลาดโอกาสในการเทรด: หากตลาดมีสภาพคล่องไม่เพียงพอ คำสั่งอาจไม่ถูกดำเนินการเลย

  • การดำเนินการช้าลง: คำสั่ง AON มักใช้เวลานานกว่าคำสั่งทั่วไปกว่าจะถูกจับคู่

  • ประสิทธิภาพลดลงในตลาดที่เคลื่อนไหวเร็ว: การเปลี่ยนแปลงราคาที่รวดเร็วทำให้โอกาสถูกจับคู่ครบตามราคาที่ต้องการลดลง


การใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานร่วมกับ All-or-None Order (AON)

การวิเคราะห์ทางเทคนิคกับคำสั่ง AON

เทรดเดอร์บางรายใช้รูปแบบกราฟและระดับราคาเพื่อกำหนดจังหวะเข้า–ออกตลาด เมื่อราคาทะลุขึ้นหรือลงจากกรอบราคาที่ชัดเจน อาจเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นแนวโน้มใหม่ ในกรณีเช่นนี้ คำสั่ง All-or-None Order (AON) มีประโยชน์ เพราะเทรดเดอร์ต้องการให้สถานะถูกเปิดครบทั้งจำนวนที่ระดับราคา Breakout ไม่ใช่ถูกจับคู่เพียงบางส่วน


วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่ากลยุทธ์จะถูกดำเนินการอย่างตรงตามแผนที่วางไว้ เมื่อการทะลุกรอบราคาถูกยืนยันแล้ว


การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานกับคำสั่ง AON

เทรดเดอร์อีกกลุ่มหนึ่งมุ่งเน้นการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของบริษัท เช่น ผลประกอบการ อัตราส่วนทางการเงิน และความแข็งแกร่งทางการเงิน เมื่อการวิเคราะห์บ่งชี้ว่าหุ้นมีมูลค่าต่ำกว่าหรือสูงกว่าความเป็นจริง เทรดเดอร์อาจต้องการซื้อหรือขายหุ้นในจำนวนที่กำหนดไว้ให้ครบในครั้งเดียว


คำสั่ง AON สนับสนุนแนวทางนี้ โดยรับประกันว่าการเปิดหรือปิดสถานะจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีทั้งราคาที่ต้องการและปริมาณครบตามจำนวน


โดยสรุป ในทั้งสองกรณี คำสั่ง AON ถูกใช้เพื่อให้การดำเนินคำสั่งสอดคล้องกับการวิเคราะห์ ไม่ว่าสัญญาณจะมาจากพฤติกรรมของราคา หรือจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัท


ข้อผิดพลาดทั่วไปที่เทรดเดอร์มักทำ

  • การใช้คำสั่ง AON ในตลาดที่มีสภาพคล่องต่ำ: ปริมาณซื้อขายที่จำกัดทำให้โอกาสถูกจับคู่ครบตามจำนวนลดลงอย่างมาก

  • คาดหวังการถูกจับคู่ทันที: คำสั่ง AON ให้ความสำคัญกับการได้ครบจำนวนมากกว่าความเร็ว จึงไม่ควรคาดหวังว่าจะถูกจับคู่ทันที

  • การใช้คำสั่ง AON ในช่วงตลาดผันผวนสูง: การเคลื่อนไหวของราคาที่รวดเร็วและกระจัดกระจาย ทำให้โอกาสถูกจับคู่ครบในราคาเดียวลดลง

  • ลืมตรวจสอบคำสั่ง AON ที่ยังเปิดอยู่: คำสั่งอาจค้างอยู่ขณะที่สภาวะตลาดเปลี่ยนไป ส่งผลให้ถูกจับคู่ในเวลาที่ไม่ตั้งใจ หรือไม่ถูกดำเนินการเลย


คำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง

  • Active Order : คำสั่งซื้อหรือขายที่ถูกส่งเข้าสู่ตลาดแล้ว และยังคงรอการถูกจับคู่หรือการยกเลิก

  • Market order : คำสั่งซื้อขายที่ถูกดำเนินการทันทีตามราคาที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในขณะนั้น

  • Order Book : รายการคำสั่งซื้อและขายในตลาดแบบเรียลไทม์ แสดงราคาที่เสนอและปริมาณที่พร้อมซื้อขาย

  • Order Block : บริเวณราคาที่เคยมีคำสั่งซื้อหรือขายขนาดใหญ่เข้าสู่ตลาด มักถูกจับตามองเพื่อดูปฏิกิริยาของราคาในอนาคต

  • Fill or Kill (FOK) Order : คำสั่งที่ต้องถูกดำเนินการทันทีและครบตามจำนวน หากไม่สามารถทำได้จะถูกยกเลิกทันที


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. คำสั่ง All-or-None Order หมายความว่าอย่างไร?

All-or-None Order จะถูกดำเนินการก็ต่อเมื่อมีปริมาณครบตามจำนวนทั้งหมดในราคาที่ระบุเท่านั้น โดยช่วยป้องกันการถูกจับคู่เพียงบางส่วน ซึ่งอาจทำให้ขนาดสถานะหรือความเสี่ยงเปลี่ยนไป


2. All-or-None Order เหมือนกับ Fill-or-Kill Order หรือไม่?

ไม่เหมือนกัน ทั้งสองคำสั่งมีความแตกต่างกัน โดย All-or-None Order สามารถคงอยู่ในตลาดได้จนกว่าจะมีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับการจับคู่ครบตามจำนวน ในขณะที่ Fill-or-Kill Order ต้องถูกดำเนินการทันทีและครบจำนวน หากทำไม่ได้จะถูกยกเลิกทันที


3. All-or-None Order รับประกันว่าจะถูกดำเนินการหรือไม่?

ไม่รับประกัน All-or-None Order เป็นการกำหนดเงื่อนไขของการดำเนินคำสั่ง ไม่ได้เป็นการรับประกันว่าคำสั่งจะถูกจับคู่ หากไม่เคยมีปริมาณเพียงพอในราคาที่กำหนด คำสั่งจะยังคงไม่ถูกดำเนินการ เทรดเดอร์ยอมรับข้อจำกัดนี้เพื่อแลกกับการควบคุมขนาดสถานะอย่างเคร่งครัด


4. ควรใช้ All-or-None Order เมื่อใด?

เทรดเดอร์จะใช้ All-or-None Order เมื่อความแม่นยำของขนาดสถานะมีความสำคัญ เช่น การปรับสมดุลพอร์ต การควบคุมต้นทุน หรือการหลีกเลี่ยงการเปิดสถานะเพียงบางส่วน คำสั่งประเภทนี้เหมาะที่สุดกับตลาดที่มีสภาพคล่องเพียงพอ


5. All-or-None Order เหมาะกับมือใหม่หรือไม่?

สามารถใช้ได้ แต่ผู้เริ่มต้นควรใช้ด้วยความระมัดระวัง แม้คำสั่ง AON จะช่วยป้องกันการถูกจับคู่บางส่วน แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการพลาดโอกาสการเทรด ดังนั้นควรติดตามคำสั่งที่เปิดค้างไว้อย่างใกล้ชิด


สรุป

คำสั่ง All-or-None Order (AON) รับประกันว่าการซื้อขายจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีปริมาณครบตามจำนวนทั้งหมดในราคาที่เลือกไว้ โดยจุดแลกเปลี่ยนสำคัญคือ การควบคุมกับความเร็ว คำสั่งนี้ช่วยปกป้องขนาดสถานะและความแม่นยำในการดำเนินคำสั่ง แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงต่อความล่าช้าหรือการพลาดโอกาสในการเทรด เมื่อสภาพคล่องของตลาดมีจำกัด


ข้อสงวนสิทธิ์: เนื้อหานี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนาให้เป็น (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรนำไปใช้เป็นหลักในการตัดสินใจ ความเห็นใดๆ ที่ปรากฏในเนื้อหานี้ไม่ได้เป็นการแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่าการลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือกลยุทธ์การลงทุนใดๆ เหมาะสมสำหรับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ