Limit Order คืออะไร?
简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

Limit Order คืออะไร?

ผู้เขียน: Charon N.

เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-31

Limit Order คือคำสั่งซื้อหรือขายสินทรัพย์ในราคาที่กำหนดหรือดีกว่า ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์ควบคุมราคาได้ แต่ไม่ได้รับประกันว่าการซื้อขายจะเกิดขึ้นจริง เป็นหนึ่งในเครื่องมือพื้นฐานที่สุดของการเทรด แต่กลับมีบทบาทสำคัญต่อการวางแผนและการดำเนินการเทรด


แทนที่จะยอมรับราคาตลาดปัจจุบัน เทรดเดอร์สามารถกำหนดราคาที่ตนพร้อมจะซื้อหรือขายได้ การเลือกเพียงเล็กน้อยนี้สามารถกำหนดจังหวะการเข้าตลาด ผลลัพธ์การออก และต้นทุนการเทรดได้


สำหรับเทรดเดอร์ Limit Order มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะช่วยหลีกเลี่ยงการตัดสินใจเร่งรีบและความผันผวนของราคา โดยเฉพาะในตลาดที่เคลื่อนไหวรวดเร็วหรือมีสภาพคล่องต่ำ ซึ่งราคาสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว


คำนิยาม

ในโลกการเทรด Limit Order คือคำสั่งซื้อหรือขายที่กำหนดราคาสูงสุดสำหรับการซื้อ หรือราคาต่ำสุดสำหรับการขาย โดย Buy Limit Order จะอยู่ต่ำกว่าราคาตลาดปัจจุบัน และจะถูกดำเนินการเฉพาะเมื่อราคาตลาดตกลงมาถึงระดับนั้นหรือต่ำกว่า และ Sell Limit Order จะอยู่สูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน และจะถูกดำเนินการเฉพาะเมื่อราคาตลาดสูงขึ้นถึงระดับนั้นหรือสูงกว่า 

ความหมายของ Limit Order

แนวคิดสำคัญของ Limit Order คือ การควบคุมราคา เทรดเดอร์สามารถกำหนดราคาล่วงหน้าได้


เทรดเดอร์สามารถเห็น Limit Order ได้โดยตรงบนแพลตฟอร์มการเทรด คำสั่งเหล่านี้มักปรากฏเป็น Pending Orders บนกราฟราคาและในแผงคำสั่ง


เทรดเดอร์ระยะยาว, Swing Trader, และ Range Trader ใช้ Limit Order บ่อย เพราะสามารถวางแผนจังหวะเข้าซื้อและขายล่วงหน้า ส่วนเทรดเดอร์ระยะสั้นก็ใช้ Limit Order เช่นกัน แต่ต้องระวังในตลาดที่เคลื่อนไหวเร็ว เพราะราคามักแตะระดับเพียงชั่วคราวแล้วกลับไป


บางแพลตฟอร์มยังมีรูปแบบ Limit Order แบบพิเศษ เช่น

  • Day Limit Order หมดอายุเมื่อสิ้นสุดวันเทรด

  • Good Till Canceled (GTC) Limit Order คงอยู่จนกว่าจะถูกเติมเต็มหรือถูกยกเลิกด้วยตนเอง


ปัจจัยที่มีผลต่อ Limit Order

ความสำเร็จหรือความเสี่ยงของ Limit Order ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยในตลาด ได้แก่


  • ความผันผวนของตลาด: หากราคาขยับเร็ว Limit Order อาจไม่ถูกเติมเต็ม

  • สภาพคล่อง: ในตลาดที่มีผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมาก คำสั่งจะถูกเติมเต็มง่ายกว่า ในตลาดที่มีสภาพคล่องต่ำ คำสั่งอาจไม่ได้รับการดำเนินการ

  • การประกาศข่าวและข้อมูลสำคัญ: ในช่วงที่มีข่าวเศรษฐกิจสำคัญ ราคาอาจพุ่งสูงเกินระดับจำกัด ทำให้คำสั่งยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

  • ช่วงเวลาของวัน: ช่วงที่ตลาดเคลื่อนไหวมาก เช่น เวลาตลาดสำคัญทับกัน มักเติมคำสั่งได้ดีกว่าช่วงตลาดเงียบ


เมื่อความผันผวนสูงขึ้น คำสั่งซื้อขายแบบจำกัดราคาจะช่วยป้องกันราคา แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงที่จะพลาดโอกาสในการซื้อขายด้วย


ผลกระทบของ Limit Order ต่อการเทรด

Limit Order มีผลต่อทั้งการเข้าตลาดและออกตลาด ในการเข้าเทรด คำสั่งซื้อจะช่วยให้เทรดเดอร์หลีกเลี่ยงการซื้อในราคาที่สูงเกินไปหรือขายในราคาที่ต่ำเกินไป ซึ่งสนับสนุนการซื้อขายอย่างมีวินัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการระบุระดับราคาที่ชัดเจนจากการวิเคราะห์แล้ว ในการออกจากการเทรด คำสั่งมักใช้เพื่อทำกำไรที่เป้าหมายที่วางแผนไว้ โดยตัดอารมณ์ออกไปจากการตัดสินใจ


อย่างไรก็ตาม มีข้อแลกเปลี่ยนอยู่ แม้ว่าราคาจะถูกควบคุม แต่การดำเนินการนั้นไม่แน่นอน Limit Order อาจไม่ได้รับการดำเนินการเลย หรืออาจได้รับการดำเนินการเพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งอาจส่งผลต่อขนาดและจังหวะเวลาในการซื้อขาย


สถานการณ์ที่เหมาะสม:

  • ตลาดสงบ

  • ระดับแนวรับหรือแนวต้านที่ชัดเจน

  • สภาพคล่องสูง


สถานการณ์ที่ควรระวัง:

  • การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วตามข่าวสาร

  • ช่วงสภาพคล่องต่ำ

  • ช่องว่างหรือการแกว่งแรงของราคา


การเข้าใจความสมดุลนี้จะช่วยให้เทรดเดอร์ร์เลือกใช้ Limit Order ได้อย่างเหมาะสม


ตัวอย่างง่ายๆ

สมมติว่าหุ้นตัวหนึ่งกำลังซื้อขายที่ราคา $100 เทรดเดอร์เชื่อว่า $95 เป็นราคาที่เหมาะสมสำหรับการซื้อ จากการวิเคราะห์ราคาที่ผ่านมา แทนที่จะซื้อทันทีที่ $100 เทรดเดอร์จึงวาง Buy Limit Order ที่ราคา $95


หากราคาตกลงมาถึง $95 คำสั่งจะถูกดำเนินการที่ $95 หรือดีกว่า  แต่ถ้าราคาลงมาเพียง $97 แล้วกลับขึ้นไป คำสั่งจะไม่ถูกเติม คำสั่งซื้อจะยังคงไม่ได้รับการดำเนินการ


ลองเปรียบเทียบกับคำสั่งซื้อขายแบบ Market Order หากเทรดเดอร์ใช้ Market Order ที่ $100 การซื้อขายจะเกิดขึ้นทันที แต่ในราคาที่สูงกว่า Limit Order ช่วยควบคุมราคาได้ดีขึ้น แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะพลาดโอกาสซื้อหากราคาตลาดไม่ถึงระดับที่กำหนด


Limit Orders vs Stop Orders

หลายคนมักสับสนระหว่าง Limit Order กับ Stop Order แต่จริง ๆ แล้วมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน


Limit Order มุ่งเน้นการควบคุมราคา คือ “เทรดได้เฉพาะราคานี้หรือดีกว่าเท่านั้น” ส่วน Stop Order มุ่งเน้นการเริ่มทำงาน คือจะเริ่มทำงานเมื่อราคาถึงระดับทริกเกอร์ที่กำหนด


ตัวอย่างการใช้งาน:

  • ใช้ Limit Order เพื่อเข้าเทรดที่ระดับราคาที่คุ้มค่า

  • ใช้ Stop Order เพื่อออกจากสถานะขาดทุนหรือปกป้องกำไร


การสับสนทั้งสองอาจทำให้คำสั่งถูกดำเนินการโดยไม่ตั้งใจหรือพลาดโอกาสในตลาดที่เคลื่อนไหวเร็ว


วิธีตรวจสอบ Limit Order ก่อนซื้อและขาย

ก่อนวาง Limit Order เทรดเดอร์ควรตรวจสอบปัจจัยสำคัญดังนี้:


  • ตรวจสอบราคาซื้อ (Bid) และราคาขาย (Ask) ปัจจุบัน เพื่อดูว่าตลาดอยู่ที่ไหน

  • ดูพฤติกรรมราคาล่าสุดเพื่อยืนยันว่าระดับที่ตั้งมีเหตุผล

  • ตรวจสอบ Market Depth หรือ Order Book หากมี เพื่อดูความสนใจซื้อ-ขายใกล้เคียง

  • ยืนยันระยะเวลาของคำสั่ง เช่น วันเดียว (Day Order) หรือจนกว่าจะถูกยกเลิก (GTC)

  • เคล็ดลับที่ใช้ได้จริงคือ ตรวจสอบ Limit Order ทุกครั้งเมื่อสภาพตลาดเปลี่ยน โดยเฉพาะก่อนข่าวสำคัญหรือช่วงเปิดตลาด


ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย

  • ตั้งราคาห่างเกินไป ทำให้พลาดโอกาสซื้อขายหลายครั้ง

  • มองข้ามความเสี่ยงจากข่าว ทำให้คำสั่งไม่ถูกเติมในช่วงราคากระโดด

  • ลืมคำสั่งที่เปิดอยู่ ซึ่งอาจถูกดำเนินการโดยไม่ตั้งใจในภายหลัง

  • ใช้ Limit Order ในตลาดที่มีสภาพคล่องต่ำ ทำให้ไม่แน่ใจว่าจะถูกเติมเต็ม

  • คิดว่าการดำเนินการเป็นเรื่องแน่นอน ซึ่งทำให้การวางแผนเทรดผิดพลาด

  • ความผิดพลาดเหล่านี้มักเกิดจากความเข้าใจผิดระหว่างการควบคุมราคา กับความเสี่ยงในการดำเนินการ


คำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง

  • Market order : ดำเนินการทันทีในราคาที่ดีที่สุดที่มีอยู่

  • Stop Order : จะทำงานก็ต่อเมื่อราคาสินค้าถึงระดับที่กำหนดไว้เท่านั้น

  • Stop Limit Order: รวมการตั้งทริกเกอร์ของ Stop และราคาที่กำหนดของ Limit

  • สภาพคล่อง : วัดว่าการซื้อขายสามารถดำเนินการได้ง่ายเพียงใด

  • Slippage : ความต่างระหว่างราคาที่คาดว่าจะได้และราคาจริงที่เกิดขึ้น


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. ความแตกต่างหลักระหว่าง Limit Order กับ Market Order คืออะไร?

Limit Order เน้นการควบคุมราคา เทรดเดอร์เลือกราคาที่ต้องการและรอการดำเนินการ แม้อาจพลาดโอกาสซื้อขายได้ ในขณะที่ Market Order เน้นความรวดเร็ว เทรดเดอร์ยอมรับราคาตลาดปัจจุบันเพื่อให้การซื้อขายเกิดขึ้นทันที ความแตกต่างนี้สำคัญเพราะส่งผลต่อทั้งต้นทุน และความแน่นอนของการดำเนินการ สำหรับมือใหม่ มักเลือก Market Order เพราะเรียบง่าย แต่เมื่อเริ่มวางแผนราคาล่วงหน้า Limit Order จะช่วยเสริมวินัยในการเทรดได้มากกว่า


2. Limit Order สามารถหมดอายุโดยไม่ถูกดำเนินการได้หรือไม่?

ได้ Limit Order อาจหมดอายุหรือถูกยกเลิกโดยไม่ถูกเติมเต็ม หากราคาตลาดไม่ถึงระดับที่กำหนดในช่วงเวลาที่คำสั่งยังเปิดอยู่ บางคำสั่งหมดอายุภายในวันเดียว บางคำสั่งเปิดจนกว่าจะถูกยกเลิกด้วยมือ การเข้าใจระยะเวลาของคำสั่งสำคัญ เพราะคำสั่งที่หมดอายุโดยไม่เกิดการซื้อขายอาจส่งผลต่อแผนเทรดที่ขึ้นอยู่กับจังหวะเข้า-ออกนั้น


3. Limit Order ปลอดภัยกว่า Market Order หรือไม่?

Limit Order ปลอดภัยในแง่การควบคุมราคา แต่ไม่ได้ปลอดภัยกว่าทุกด้านเสมอไป โดยช่วยปกป้องเทรดเดอร์จากราคาที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะช่วงราคาผันผวนเร็ว อย่างไรก็ตาม ก็อาจนำไปสู่การพลาดโอกาสในการซื้อขายหรือการได้คำสั่งซื้อขายเพียงบางส่วนได้เช่นกัน ความปลอดภัยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ในตลาดที่สงบ Limit Order จะช่วยลดความเสี่ยง ส่วนในตลาดที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อความผิดหวังหรือการพลาดโอกาสได้


4. ทำไม Limit Order บางครั้งจึงไม่ได้รับการดำเนินการแม้ว่าราคาจะแตะระดับที่กำหนดแล้วก็ตาม?

เหตุการณ์นี้อาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากคำสั่งซื้อจำนวนมากอาจรออยู่ที่ราคาเดียวกัน และการดำเนินการขึ้นอยู่กับลำดับความสำคัญของคำสั่งซื้อและปริมาณที่มีอยู่ หากราคาสัมผัสระดับเพียงชั่วคราวแล้วกลับไป อาจไม่มีสภาพคล่องเพียงพอที่จะเติมเต็มคำสั่งซื้อทั้งหมด เหตุนี้พบได้บ่อยในตลาดที่ผันผวนเร็วหรือมีสภาพคล่องต่ำ เทรดเดอร์ควรเข้าใจว่า ราคาสัมผัสระดับไม่ได้รับประกันว่าจะถูกเติมเต็มทั้งหมด


5. มือใหม่ควรใช้ Limit Order หรือไม่?

มือใหม่สามารถใช้ Limit Order ได้ เมื่อเข้าใจพฤติกรรมราคาพื้นฐาน Limit Order ช่วยฝึกวินัยและความอดทน ซึ่งเป็นนิสัยที่ดี อย่างไรก็ตาม มือใหม่ควรเรียนรู้ Market Order ด้วย เพื่อเข้าใจความเร็วในการดำเนินการ เคล็ดลับ คือ ใช้ขนาดการเทรดเล็ก ๆ และสังเกตพฤติกรรมของ Limit Order ในสภาพตลาดจริง เพื่อเรียนรู้โดยไม่เสี่ยงมาก


สรุป

Limit Order ช่วยให้เทรดเดอร์กำหนดราคาล่วงหน้าและรอให้ตลาดตอบสนอง วิธีนี้ช่วยเสริมวินัยและการควบคุมราคา แต่ไม่ได้รับประกันว่าจะเกิดการซื้อขาย หากใช้ Limit Order อย่างถูกวิธี จะช่วยให้การเทรดเป็นไปอย่างใจเย็นและมีแผน แต่หากใช้ไม่ถูกวิธี อาจทำให้พลาดโอกาสหรือเกิดความสับสนได้ ดังนั้น การรู้ว่าสภาพตลาดแบบไหนเหมาะกับ Limit Order สำคัญไม่แพ้การรู้วิธีวางคำสั่ง


ข้อสงวนสิทธิ์: เนื้อหานี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนาให้เป็น (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรนำไปใช้เป็นหลักในการตัดสินใจ ความเห็นใดๆ ที่ปรากฏในเนื้อหานี้ไม่ได้เป็นการแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่าการลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือกลยุทธ์การลงทุนใดๆ เหมาะสมสำหรับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ