เปิดโลกเทรดออปชัน เข้าใจง่าย ได้กำไรจริง

2025-05-27
สรุป

เข้าใจเทรดออปชันแบบง่าย ๆ เรียนรู้สิทธิในการซื้อ-ขาย กลยุทธ์ ความเสี่ยง และเหตุผลที่ทำให้เทรดออปชันนิยมใช้ทั้งป้องกันความเสี่ยงและเก็งกำไร

การเทรดออปชันเป็นเครื่องมือทรงพลังในตลาดการเงิน ที่มอบความยืดหยุ่น อำนาจในการใช้เลเวอเรจ และโอกาสในการทำกำไรทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลงให้แก่นักเทรดและนักลงทุนง


แต่เทรดออปชันคืออะไร และทำงานอย่างไร? บทความนี้จะอธิบายพื้นฐานคำศัพท์สำคัญ และยกตัวอย่างที่เข้าใจง่าย เพื่อช่วยให้คุณเห็นภาพว่าออปชันสามารถนำไปปรับใช้ในกลยุทธ์การเทรดของคุณได้อย่างไร


การเทรดออปชันคืออะไร?

การเทรดออปชั่นคืออะไร

การเทรดออปชัน คือการซื้อขายสัญญาออปชัน ซึ่งเป็นตราสารอนุพันธ์ทางการเงินที่ให้สิทธิแก่ผู้ซื้อในการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิง (เช่น หุ้น ดัชนี หรือกองทุน ETF) ในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (ราคาที่ใช้สิทธิ) ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยไม่จำเป็นต้องใช้สิทธินั้นก็ได้


ผู้ขายหรือผู้ออกสัญญาออปชันจะได้รับค่าพรีเมียมตอบแทนจากการให้สิทธินี้ และอาจมีข้อผูกพันในการปฏิบัติตามสัญญาหากผู้ซื้อเลือกใช้สิทธิในการซื้อหรือขายตามเงื่อนไขของออปชัน


ประเภทของออปชัน: Call และ Put

ประเภทของออผชัน

ออปชันมีอยู่ 2 ประเภทหลัก ได้แก่:

  • สิทธิในการซื้อ (Call Option): ให้สิทธิแก่ผู้ซื้อในการซื้อสินทรัพย์อ้างอิงในราคาที่กำหนดไว้ (ราคาที่ใช้สิทธิ) ก่อนหรือเมื่อถึงวันหมดอายุ ผู้ซื้อ Call มักคาดว่าราคาสินทรัพย์จะปรับตัวสูงขึ้น

  • สิทธิในการขาย (Put Option): ให้สิทธิแก่ผู้ซื้อในการขายสินทรัพย์อ้างอิงในราคาที่กำหนดไว้ ก่อนหรือเมื่อถึงวันหมดอายุ ผู้ซื้อ Put มักคาดว่าราคาสินทรัพย์จะลดลง


การเทรดออปชันทำงานอย่างไร?


ในการเทรดออปชัน นักลงทุนสามารถเลือกที่จะ “ซื้อ” (เปิดสถานะ Long) หรือ “ขาย” (เปิดสถานะ Short) ออปชัน ทั้งแบบ Call และ Put โดยมีขั้นตอนเบื้องต้นดังนี้:


  1. เลือกสินทรัพย์อ้างอิง: อาจเป็นหุ้น ดัชนี หรือ ETF

  2. เลือกราคาใช้สิทธิ: ราคาที่คุณสามารถซื้อหรือขายสินทรัพย์ได้

  3. เลือกวันที่หมดอายุ: วันสุดท้ายที่สามารถใช้สิทธิออปชันได้

  4. ชำระหรือรับค่าพรีเมียม: ผู้ซื้อจ่ายค่าพรีเมียมให้แก่ผู้ขายเพื่อซื้อสิทธิในสัญญา


ตัวอย่าง:

สมมติว่าคุณคิดว่าหุ้น XYZ จะเพิ่มขึ้นจาก 100 ดอลลาร์เป็น 120 ดอลลาร์ คุณซื้อ Call Option ที่ราคาใช้สิทธิ 110 ดอลลาร์ ซึ่งจะหมดอายุภายในหนึ่งเดือน โดยต้องจ่ายค่าพรีเมียม 2 ดอลลาร์ หากหุ้นมีราคาสูงกว่า 112 ดอลลาร์ (ราคาใช้สิทธิ + ค่าพรีเมียม) คุณสามารถทำกำไรได้โดยการใช้สิทธิหรือขายสัญญาต่อให้ผู้อื่น


หากราคาหุ้นอยู่ต่ำกว่า 110 ดอลลาร์ คุณจะขาดทุนสูงสุดไม่เกินค่าพรีเมียมที่จ่ายไป (2 ดอลลาร์ต่อหุ้น)


คำศัพท์สำคัญในการเทรดออปชัน


  • ราคาที่ใช้สิทธิ (Strike Price): ราคาคงที่ที่ผู้ถือออปชันสามารถซื้อหรือขายสินทรัพย์ได้

  • วันหมดอายุ (Expiration Date): วันที่สัญญาออปชันหมดอายุ

  • พรีเมียม (Premium): ราคาที่ผู้ซื้อจ่ายให้ผู้ขายเพื่อซื้อสัญญาออปชัน

  • In the Money (ITM): เมื่อการใช้สิทธิให้ผลกำไร

  • Out of the Money (OTM): เมื่อการใช้สิทธิไม่ก่อให้เกิดกำไร


ทำไมต้องเทรดออปชัน?


การเทรดออปชันมีจุดประสงค์หลากหลาย เช่น:

  • การเก็งกำไร (Speculation): เทรดเดอร์สามารถทำกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคาโดยใช้เงินทุนน้อยกว่าการซื้อสินทรัพย์โดยตรง เนื่องจากออปชันให้เลเวอเรจ

  • การป้องกันความเสี่ยง (Hedging): นักลงทุนใช้ออปชันเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการขาดทุนในพอร์ตการลงทุน เช่น การซื้อ Put เพื่อเป็นประกัน

  • การสร้างรายได้ (Income Generation): กลยุทธ์อย่างการขาย Call ควบคู่กับหุ้นที่ถืออยู่ (Covered Call) ช่วยให้นักลงทุนได้รับรายได้จากค่าพรีเมียม



ความเสี่ยงและผลตอบแทน

การเทรดออปชั่นทำงานอย่างไร

  • ความเสี่ยงที่จำกัดสำหรับผู้ซื้อ: ผู้ซื้อออปชันจะขาดทุนสูงสุดเท่ากับค่าพรีเมียมที่จ่ายไปเท่านั้น

  • ความเสี่ยงที่อาจไม่จำกัดสำหรับผู้ขาย: ผู้ขายออปชันอาจขาดทุนอย่างรุนแรงหากราคาตลาดเคลื่อนไหวสวนทาง โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่มีสินทรัพย์รองรับ (Uncovered หรือ Naked Option)

  • การเสื่อมค่าตามเวลา (Time Decay): มูลค่าของออปชันจะลดลงเมื่อใกล้ถึงวันหมดอายุ โดยเฉพาะเมื่อราคาสินทรัพย์อ้างอิงไม่เคลื่อนไหวตามที่คาด

  • ความซับซ้อน: การเทรดออปชันมีความซับซ้อน เนื่องจากมีกลยุทธ์หลากหลายและองค์ประกอบที่ต้องพิจารณา ผู้เริ่มต้นควรเริ่มจากกลยุทธ์พื้นฐาน และทำความเข้าใจความเสี่ยงอย่างถ่องแท้ก่อนลงทุน


กลยุทธ์การเทรดออปชั่นที่พบบ่อย


  • Long Call/Put: การซื้อ Call หรือ Put เพื่อเก็งกำไรจากการขึ้นหรือลงของราคา

  • Covered Call: การขาย Call บนหุ้นที่ถืออยู่ เพื่อสร้างรายได้จากค่าพรีเมียม

  • Protective Put: การซื้อ Put เพื่อป้องกันความเสี่ยงขาลงในตำแหน่งหุ้นที่ถืออยู่

  • Straddle/Strangle: การซื้อทั้ง Call และ Put เพื่อหวังผลกำไรจากความผันผวนของราคาที่รุนแรงไม่ว่าทิศทางใด


เริ่มต้นเทรดออปชันอย่างไร?


หากต้องการเริ่มเทรดออปชัน คุณจะต้อง:


  1. เปิดบัญชีเทรดออปชันกับโบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุมดูแล

  2. เรียนรู้พื้นฐาน และฝึกฝนผ่านบัญชีทดลอง

  3. วางแผนการเทรดและกลยุทธ์บริหารความเสี่ยง

  4. เริ่มจากกลยุทธ์ง่าย ๆ ก่อนค่อยพัฒนาไปสู่กลยุทธ์ขั้นสูง


สรุป


การเทรดออปชันช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและมิติให้กับแผนการลงทุนของคุณ โดยการเข้าใจหลักการทำงานของออปชัน ความเสี่ยง ผลตอบแทน และกลยุทธ์ต่าง ๆ คุณสามารถใช้เครื่องมือนี้เพื่อเก็งกำไร ป้องกันความเสี่ยง หรือสร้างรายได้ในทุกสภาวะ ตลาดอย่าลืมวางแผนอย่างรอบคอบ และตระหนักถึงความเสี่ยงก่อนการลงทุนเสมอ


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

เปิด 10 อันดับ ค่าเงินที่ถูกที่สุดในโลก 2025 พร้อมเหตุผลเศรษฐกิจเชิงลึก

เปิด 10 อันดับ ค่าเงินที่ถูกที่สุดในโลก 2025 พร้อมเหตุผลเศรษฐกิจเชิงลึก

สำรวจ 10 อันดับค่าเงินที่ถูกที่สุดในโลก (เทียบกับ USD) ปี 2025 พร้อมสาเหตุทางเศรษฐกิจที่ทำให้ค่าเงินอ่อน และผลกระทบต่อ Forex

2025-08-26
ค่าเงินที่สูงที่สุดในโลก 2025 อัปเดตรายชื่ออันดับแรงที่สุด

ค่าเงินที่สูงที่สุดในโลก 2025 อัปเดตรายชื่ออันดับแรงที่สุด

ค้นพบสกุลเงินที่มีค่าเงินที่สูงที่สุดในโลกปี 2025 สำรวจอันดับสูงสุด รายการที่อัปเดต และเหตุผลที่ทำให้ค่าเงินเหล่านี้มีอิทธิพลระดับโลก

2025-08-26
Arbitrage คืออะไร? ทำกำไรแบบไม่ต้องคาดเดาตลาดอย่างมืออาชีพ

Arbitrage คืออะไร? ทำกำไรแบบไม่ต้องคาดเดาตลาดอย่างมืออาชีพ

เรียนรู้ Arbitrage คือกลยุทธ์ทำกำไรจากความต่างราคาในตลาด Forex, หุ้น, และคริปโต พร้อมตัวอย่างจริงและข้อควรระวัง

2025-08-26