เผยแพร่เมื่อ: 2025-08-11
หุ้นและกลุ่มอุตสาหกรรม
สิ้นสุดสัปดาห์ ณ วันที่ 4 สิงหาคม 2025 ตลาดหุ้นโลกมีความผันผวนอย่างมาก โดยมีปัจจัยหลักจากการพัฒนาในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ Nvidia และ AMD ตกลงจ่ายรายได้ 15% จากการขายชิป AI ขั้นสูงในจีน เช่น Nvidia H20 และ AMD MI308 ให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อแลกกับใบอนุญาตส่งออก ข้อตกลงแบ่งรายได้นี้ช่วยให้พวกเขากลับเข้าสู่ตลาดจีนที่มีกำไรสูงแต่เพิ่มแรงกดดันต่อส่วนต่างกำไรจากภาษีทางการเมือง
หุ้น Nvidia และ AMD พุ่งขึ้นอย่างมากในช่วงแรกหลังข่าวการกลับเข้าตลาดจีน แต่ราคาปรับลดลงเล็กน้อยเมื่อผู้ลงทุนประเมินผลกระทบต้นทุน ด้านหุ้น Intel ร่วงกว่า 3% หลัง Fitch ปรับลดอันดับเครดิตเป็น BBB พร้อมแนวโน้มลบ สะท้อนปัญหาการดำเนินงานและความต้องการที่ลดลง กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์โดยรวมมีความแตกต่างกัน โดยผู้เล่นที่เน้น AI อย่าง Nvidi aและ AMD ทำผลงานดีกว่าคู่แข่งเก่าแก่
อย่าง Intel
สกุลเงินและสินค้าโภคภัณฑ์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะชะลอหรือผ่อนคลายนโยบายการเงินในช่วงปลายปีนี้ เงินหยวนของจีนอ่อนค่าลงเนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าและความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกชิป ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์มีการเคลื่อนไหวที่หลากหลาย โดยราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ที่มุ่งเป้าไปที่การนำเข้าน้ำมันดิบของอินเดีย ขณะที่โลหะมีค่าดึงดูดการเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยในตลาดที่ผันผวน การนำเข้าทองแดงเข้าสู่จีนมีสัญญาณที่ผสมผสาน ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่ระมัดระวังเกี่ยวกับอุปสงค์ภาคอุตสาหกรรมในระยะสั้น
ตลาดพันธบัตรและเครดิต
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ผ่อนคลายลง แต่ส่วนต่างของราคาหุ้น (Credit Spread) กลับขยายตัวอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยีและเซมิคอนดักเตอร์ การปรับลดอันดับเครดิตของ Intel ลงเป็น BBB โดย Fitch ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดความกังวลในตลาดเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านเงินทุนสำหรับบริษัทเทคโนโลยีที่ใช้เงินทุนจำนวนมาก ความเสี่ยงด้านเครดิตที่ขยายตัวนี้กดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุนและความซับซ้อนในการจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการการผลิตและการวิจัยและพัฒนาที่มีต้นทุนสูงของผู้ผลิตชิป
สรุปข้อมูลเศรษฐกิจ
ข้อมูลเศรษฐกิจที่เผยแพร่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาสะท้อนมุมมองที่ระมัดระวัง กิจกรรมภาคบริการของสหรัฐฯ ชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนกรกฎาคม ทำให้เกิดความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะผ่อนคลายลงบ้าง แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงทรงตัว ส่งผลให้ธนาคารกลางยังคงระมัดระวังในการตัดสินใจด้านนโยบาย
ข้อมูลและเหตุการณ์สำคัญที่จะส่งผลต่อตลาด ได้แก่
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (เดือนกรกฎาคม): ตลาดแรงงานเพิ่ม 73,000 ตำแหน่งต่ำกว่าคาดการณ์และเดือนก่อนหน้า ยืนยันทิศทางการชะลอตัว
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI เดือนกรกฎาคม) ของสหรัฐฯ: คาดว่าเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นราว 0.3% ต่อเดือนโดยเงินเฟ้อพื้นฐานปีต่อปีคาดอยู่ที่ประมาณ 3.0% ซึ่งยังคงกดดันธนาคารกลาง
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI): รายงานจากสหรัฯ ยูโรโซน และจีน ชี้ถึงสุขภาพภาคการผลิตและบริการ
ความคิดเห็นของธนาคารกลางสหรัฐฯ: คำพูดจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะให้เบาะแสเกี่ยวกับนโยบายการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย
ผลประกอบการของบริษัท: ผลประกอบการของ Palantir ที่เพิ่งทำรายได้เกิน 1 พันล้านดอลลาร์ต่อไตรมาสและปรับเพิ่มแนวโน้มรายปี จะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ พร้อมกับผลประกอบการกลุ่มเทคโนโลยีและเซมิคอนดักเตอร์ในสภาพแวดล้อมภาษีและข้อตกลงส่งออกใหม่
ข้อตกลงชิป Nvidia AMD ในจีนส่งผลกระทบ 2 ทาง คือช่วยฟื้นการเข้าถึงตลาดชิป AI มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ของจีน แต่ก็ต้องจ่ายรายได้ 15% ให้รัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเปรียบเสมือนภาษีทางการเมืองรูปแบบใหม่ กดดันต่อส่วนต่างกำไรและเพิ่มความไม่แน่นอนในผลกำไร
การหมุนเวียนของกลุ่มอุตสาหกรรมเร่งตัวไปยังบริษัทที่มีแนวโน้มเติบโตชัดเจนใน AI และความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม เช่น Nvidia และ AMD ขณะที่คู่แข่งรุ่นเก่าอย่าง Intel เผชิญกับแรงกดดันด้านเครดิตและการดำเนินงาน ความต้องการ AI ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของกลุ่มนี้ ทำให้เกิดความแตกต่างชัดเจนระหว่างผู้ชนะกับผู้ที่ตามหลัง
ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่สูงขึ้น รวมทั้งภัยคุกคามภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ต่อการนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์และน้ำมันดิบจากอินเดีย ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานและความผันผวนของตลาด ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้เกิดความผันผวนของค่าเงิน ความกังวลด้านความเสี่ยง และส่วนต่างเครดิตที่สูงขึ้น
ธนาคารกลางเผชิญแรงกดดันที่ขัดแย้งกัน เงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังสูงบ่งชี้ถึงความระมัดระวัง ขณะที่การเติบโตที่ชะลอตัวและตลาดแรงงานที่อ่อนแอแสดงสัญญาณของการผ่อนคลาย ปัจจัยเหล่านี้ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรและตลาดค่าเงินเคลื่อนไหวผันผวน ส่งผลต่อความต้องการเสี่ยงในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ข้อตกลงแบ่งรายได้ระหว่าง Nvidia, AMD และรัฐบาลสหรัฐฯ แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ในนโยบายควบคุมการส่งออก แทนที่จะห้ามส่งออกโดยสิ้นเชิง วอชิงตันเลือกใช้เงื่อนไขทางการเงินโดยตรงเพื่อควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูง และยังรักษาความสามารถในการแข่งขันของบริษัทสหรัฐฯ ในตลาดโลก
ข้อตกลงนี้สร้างบรรทัดฐานที่อาจมีผลต่อเงื่อนไขใบอนุญาตส่งออกในอนาคต และส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทำให้บริษัทชิปต้องชั่งน้ำหนักระหว่างการเข้าถึงตลาดจีนกับการยอมลดส่วนต่างกำไรให้รัฐบาลสหรัฐฯ
สถานการณ์ซับซ้อนขึ้นจากภัยคุกคามภาษีของสหรัฐฯ ต่อการนำเข้าน้ำมันดิบจากอินเดียและชิปเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อความล่าช้าในห่วงโซ่อุปทานและความแตกแยกทางการค้า แม้ว่าจะมีการเจรจาและยกเว้นบางฝ่าย ปัจจัยเหล่านี้ยังสร้างความไม่แน่นอนต่อการค้าและการเคลื่อนย้ายทุนทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
การตัดสินใจนโยบายการเงิน โดยเฉพาะจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงเป็นกุญแจสำคัญต่อความรู้สึกของตลาด ข้อมูลเงินเฟ้อและการจ้างงานที่จะออกมาช่วงหน้า จะเป็นตัวชี้นำทิศทางนโยบายธนาคารกลางสหรัฐฯ และส่งผลต่อตลาดสินทรัพย์ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และสภาพความเสี่ยงโดยรวม
สิ้นสุดสัปดาห์ณ วันที่ 4 สิงหาคม 2025 สะท้อนภาพความซับซ้อนของเกมภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลง ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และข้อมูลเศรษฐกิจที่ระมัดระวัง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักกำหนดแนวโน้มตลาดข้อตกลงชิปของ Nvidia และ AMD กับจีน คือภาพสะท้อนของความเปลี่ยนแปลงนี้ ด้วยการเปิดตลาดสำคัญพร้อมกับการกำหนดโมเดลแบ่งรายได้ใหม่ที่มีต้นทุนสูง ซึ่งเปลี่ยนแปลงแนวโน้มกำไรของบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ
ความท้าทายของ Intel เน้นย้ำถึงช่องว่างที่ขยายขึ้นระหว่างบริษัทนวัตกรรม AI กับผู้ผลิตชิปรุ่นเก่าที่เผชิญกับแรงกดดันด้านเครดิตและความต้องการ การแบ่งแยกในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์จะทวีความรุนแรงขึ้น ขณะที่นักลงทุนเลือกสนับสนุนผู้นำ AI ที่เติบโตได้ท่ามกลางแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจมหภาค
ในอนาคต ตลาดจะจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผลประกอบการบริษัท และนโยบายการค้าที่เปลี่ยนแปลง เพื่อประเมินความเสี่ยงและการหมุนเวียนของกลุ่มอุตสาหกรรม ความผันผวนและการจัดพอร์ตที่คล่องตัวในช่วงนี้จะกำหนดทิศทางตลาดการเงินโลกในระยะสั้น
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็น (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
