Covered Call ETF คืออะไร? ทำไมสายปันผลถึงเลือกใช้

2025-08-01
สรุป

Covered Call ETF คืออะไร และทำไมถึงเป็นกระแสในปี 2025 เรียนรู้วิธีการทำงานและสำรวจตัวเลือกแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญสำหรับพอร์ตการลงทุน

นักลงทุนในปัจจุบันให้ความสำคัญกับการสร้างรายได้ที่มั่นคงและการลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำลงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปี 2025 Covered Call ETF หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Buy-Write ETF” จึงกลายเป็นเครื่องมือยอดนิยมสำหรับสร้างสมดุลระหว่างผลตอบแทนและความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ


กองทุนเหล่านี้ถือครองหุ้นในพอร์ตและขายสิทธิในการซื้อหุ้น (Call Options) บนหุ้นเหล่านั้นเพื่อรับเบี้ยประกันหรือค่าพรีเมียม (Premium) ซึ่งจะถูกแจกจ่ายให้ผู้ถือหน่วยลงทุนในรูปแบบรายได้ประจำรายเดือน อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้มีข้อแลกเปลี่ยนคือโอกาสทำกำไรจากการขึ้นของราคาหุ้นจะถูกจำกัดไว้


บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า Covered Call ETF คืออะไร ทำงานอย่างไร มีจุดเด่นตรงไหน และกองทุนใดที่น่าจับตามองในปีนี้


Covered Call ETF คืออะไรและทำงานอย่างไร?

Covered Call ETF คืออะไร

Covered Call ETF คือกองทุนรวมที่ถือครองหุ้นในพอร์ตของตนเอง และดำเนินการขายสิทธิในการซื้อ (Call Option) บนหุ้นเหล่านั้นเพื่อรับเบี้ยประกัน (Premium)


หากสิทธิที่ขายหมดอายุโดยไม่มีผู้ใช้สิทธิ (เพราะราคาหุ้นไม่ถึงราคาที่กำหนดไว้) กองทุนจะเก็บเบี้ยประกันนั้นเป็นรายได้ และหากมีการใช้สิทธิ กองทุนจะขายหุ้นในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าและเก็บเบี้ยประกันไว้เช่นกัน แต่จะพลาดโอกาสทำกำไรหากราคาหุ้นขึ้นสูงกว่านั้น


กลยุทธ์นี้ช่วยสร้างรายได้ประจำ ลดความผันผวนของพอร์ตได้เล็กน้อย และเหมาะสำหรับตลาดที่เคลื่อนไหวในกรอบแคบหรือเป็นขาลงแบบอ่อน ๆ อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้จะจำกัดโอกาสในการทำกำไรในตลาดขาขึ้นแรง และยังคงมีความเสี่ยงหากตลาดปรับตัวลงแรง


เหตุผลที่ Covered Call ETF มีความสำคัญต่อการลงทุนยุคใหม่?

Covered Call ETF

ในปี 2025 อัตราผลตอบแทนจากตราสารหนี้ยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้นักลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มผู้เกษียณและผู้ที่หลีกเลี่ยงความเสี่ยง หันมาให้ความสนใจกับ Covered Call ETF มากขึ้น เนื่องจากสามารถให้ผลตอบแทนจากการแจกจ่าย (Distribution Yield) ในช่วง 7% ถึง 13% ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล 10 ปีของสหรัฐฯ ที่อยู่ราว ๆ 4.4%


ข้อมูลในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 ชี้ให้เห็นว่า Covered Call ETF มีเงินไหลเข้าสูงถึง $31.5 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้สินทรัพย์รวมแตะระดับ $145 พันล้านดอลลาร์ ในเดือนกรกฎาคม


นอกจากนี้ Covered Call ETF ยังมีข้อดีเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์การเงินแบบโครงสร้าง (Structured Products) เช่น สภาพคล่องที่ดีกว่า ค่าธรรมเนียมต่ำกว่า และสามารถซื้อขายผ่านโบรกเกอร์ได้อย่างสะดวก


ข้อดีและข้อจำกัดของ Covered Call ETF

ข้อดี ข้อจำกัด
รายได้ต่อเดือนสูง : ผลตอบแทนโดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 7–13% เหมาะสำหรับนักลงทุนที่เน้นรายได้ โอกาสกำไรจำกัด: รายได้จากการขึ้นของหุ้นถูกจำกัดโดย Call Option
ลดความผันผวน : เบี้ยประกันช่วยชดเชยในตลาดนิ่งหรือลงเล็กน้อย ยังมีความเสี่ยงขาลง: หากตลาดร่วงแรงพอร์ตยังได้รับผลกระทบ
เข้าถึงกลยุทธ์ Option ได้ง่าย: ไม่ต้องมีประสบการณ์เทรด Option โดยตรง ความซับซ้อนของภาษี : เบี้ยประกันมักถูกหักภาษีเป็นรายได้ปกติ ซึ่งอาจทำให้ผลตอบแทนหลังหักภาษีลดลง
ประสิทธิภาพทางภาษีที่เป็นไปได้ : บางรายใช้การจัดการภาษีแบบ 60/40 (เช่น SPYI) เพื่อลดภาระภาษี ความเสี่ยงจากการคืนทุน : การแจกจ่ายบางประเภทอาจทำให้ NAV ลดลงตามกาลเวลา
เหมาะกับตลาด Sideways: สร้างรายได้สม่ำเสมอในตลาดทรงตัว ไม่เหมาะกับผู้เน้นเติบโต: จำกัดการเติบโตของเงินทุนในระยะยาว


Covered Call ETF ที่น่าจับตามองในปี 2025

สัญลักษณ์ ETF กลยุทธ์ ผลตอบแท น (คาดการณ์) การมีส่วนร่วมกับขาขึ้น เหมาะกับใคร
JEPI หุ้นใหญ่ S&P แบบ Low Vol + ขาย Option ผ่าน ELNs 8–9% บางส่วน ผู้ต้องการรายได้ + โอกาสเติบโตเล็กน้อย
SPYI S&P 500+ กลยุทธ์ Overlay เชิงรุก ~12% ไม่มี เน้นรายได้สูง + ภาษีมีประสิทธิภาพ
QYLD Nasdaq-100 ขาย Call แบบ ATM 100% 11–12% ไม่มี นักลงทุนที่เน้นรายได้สูงสุด
XYLD S&P 500 ขาย Call แบบ ATM 100% ~10% ไม่มี ผู้ต้องการกระจายการลงทุนแบบรายได้
RYLD
Russell 2000 ขาย Call แบบ ATM 12–13% ไม่มี ผู้ต้องการรายได้จากหุ้นขนาดเล็ก


1) JEPI – JPMorgan Equity Premium Income ETF


  • กลยุทธ์: เลือกหุ้น S&P ที่มีความผันผวนต่ำ พร้อมขาย Call ผ่าน ELNs

  • ผลตอบแทน: ~8.4–8.5% ต่อปี (จ่ายรายเดือน)

  • ข้อดี: มีโอกาสได้กำไรหากตลาดขึ้นเล็กน้อย, ลดความผันผวน

  • สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร: $41 พันล้านดอลลาร์, ผลตอบแทนเฉลี่ย 3 ปี ~10%

  • ความเสี่ยง: ค่าธรรมเนียม 0.35%, ความเสี่ยงจากคู่สัญญา ELNs


2) SPYI – NEOS S&P 500 High Income ETF


  • กลยุทธ์: ถือหุ้น S&P 500 พร้อมขาย Call เชิงรุก และใช้การลดภาษีจากการขายขาดทุน

  • ผลตอบแทน: ~12.1% ต่อปี(จ่ายรายเดือน)

  • ข้อดี: ใช้ภาษีแบบ 60/40 ลดภาระภาษี, ชนะ XYLD ประมาณ 1% ต่อปี

  • ความเสี่ยง: ค่าธรรมเนียม $930M, แต่มีผลตอบแทนดีต่อเนื่อง


3) QYLD – Global X Nasdaq-100 Covered Call ETF


  • กลยุทธ์: ขายการโทรเข้าตู้ ATM รายเดือนมากกว่า 100% ของการถือครอง Nasdaq-100

  • ผลตอบแทน: ~11–12%

  • ผลประโยชน์: รายได้สูงสุดในบรรดาสาขาวิชาเอก มีสภาพคล่องสูง

  • ความเสี่ยง: ขีดจำกัดทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นหลังจากราคาใช้สิทธิ; ผลตอบแทน NAV ~7.9% ใน 10 ปี; ค่าธรรมเนียมสูง (~0.61%); ความกังวลเรื่องผลตอบแทนจากเงินทุน


4) XYLD – Global X S&P 500 Covered Call ETF


  • กลยุทธ์: ขาย Call แบบ ATM บนหุ้น S&P 500 ทั้งพอร์ต

  • ผลตอบแทน: ~10–11%

  • ข้อดี: ได้รับการกระจายความเสี่ยงจากหุ้นใหญ่

  • ความเสี่ยง: ผลตอบแทนจาก NAV~6.7% ในช่วง 10 ปี, ค่าธรรมเนียม ~0.60%


5) RYLD – Global X Russell 2000 Covered Call ETF


  • กลยุทธ์: ขาย Call แบบ ATM บนดัชนีหุ้นขนาดเล็ก Russell 2000

  • ผลตอบแทน: ~12–13%

  • ข้อดี: เบี้ยประกันสูงจากความผันผวนของหุ้นขนาดเล็ก

  • ความเสี่ยง: ความผันผวนสูง, เสี่ยงขาดทุนมากในตลาดขาลง


ใครควรใช้ Covered Call ETF?

ใครควรใช้ Covered Call ETF


กลุ่มนักลงทุนที่เหมาะสม

Covered Call ETF เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรายได้ประจำรายเดือนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบหรือตลาดมีความผันผวนเพียงเล็กน้อย


กลุ่มที่ได้ประโยชน์มากที่สุด ได้แก่ ผู้เกษียณอายุ และนักลงทุนสายอนุรักษ์นิยม ที่ให้ความสำคัญกับรายได้มากกว่าการเติบโตของเงินทุน โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราผลตอบแทนจากเงินสดหรือพันธบัตรที่ต่ำกว่า


กลุ่มที่ไม่เหมาะสม

นักลงทุนสายเติบโต (Growth Investors) ที่เน้นการเพิ่มมูลค่าทุนในระยะยาว อาจไม่เหมาะกับ Covered Call ETF เนื่องจากกองทุนเหล่านี้มีข้อจำกัดในการรับประโยชน์จากตลาดขาขึ้น และมักมีผลตอบแทนต่ำกว่ากองทุนดัชนีที่ลงทุนแบบเต็มรูปแบบในตลาดหุ้นเมื่อดัชนีปรับตัวขึ้นแรง


เคล็ดลับกลยุทธ์สำหรับนักลงทุน


  • กระจายความเสี่ยง: ไม่ควรนำพอร์ตหุ้นทั้งหมดมาลงใน Covered Call ETF ควรผสมผสานกับ ETF แบบดัชนีหรือ ETF ปันผลอื่น ๆ

  • ใช้ในบัญชีที่ต้องเสียภาษี: เพื่อช่วยลดผลกระทบจากภาษีเงินได้ปกติที่เกิดจากเบี้ยประกันที่ได้รับ

  • เลือกจังหวะเข้าให้เหมาะสม: ETF กลุ่มนี้ให้ผลดีที่สุดในช่วงตลาดทรงตัวหรือเคลื่อนไหวในกรอบ ไม่เหมาะกับช่วงที่ตลาดอยู่ในจุดสูงสุด

  • พิจารณารูปแบบการขาย Option: การขาย Call แบบ ATM หรือ OTM ส่งผลต่อทั้งผลตอบแทนและความเสี่ยงที่ต่างกัน

  • ติดตามความสม่ำเสมอของการแจกจ่าย: หากเบี้ยประกันลดลง อาจทำให้รายได้รายเดือนลดลงตามไปด้วย


แนวโน้มของ Covered Call ETF ในปี 2026 และระยะยาว


ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้นที่ยังดำเนินต่อเนื่องจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ Covered Call ETF มีแนวโน้มจะยังคงได้รับความนิยมสูงต่อเนื่องในปี 2026


ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า นักลงทุนเริ่มมองกองทุนอย่าง JEPI, JEPQ และ SPYI เป็นเครื่องมือ “สร้างรายได้เป้าหมาย” ที่ให้ผลตอบแทนระหว่าง 7% ถึง 15% พร้อมลดความเสี่ยงจากการร่วงของตลาด


อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่า ในระยะยาว กลยุทธ์ที่เน้นรายได้สูงผ่านการขาย Call อาจให้ผลตอบแทนต่ำกว่าวิธีการลงทุนแบบซื้อแล้วถือ (Buy-and-Hold) โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในตลาดขาขึ้นที่เต็มไปด้วยโอกาสในการเพิ่มทุน


ดังนั้น นักลงทุนจำนวนมากอาจมอง Covered Call ETF ว่าเหมาะสมกับบทบาทในการเสริมรายได้ มากกว่าการเป็นกลยุทธ์หลักสำหรับการเติบโตของเงินลงทุน


สรุป


Covered Call ETF มอบกระแสเงินสดรายเดือนที่มั่นคงและช่วยลดความผันผวนของพอร์ตจึงเหมาะอย่างยิ่งกับนักลงทุนที่เน้นรายได้ โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย


กองทุนอย่าง JEPI, SPYI และ QYLD ยังคงได้รับความนิยมเนื่องจากมีขนาดกองทุนใหญ่ อัตราผลตอบแทนสูง และสามารถเข้าถึงได้ง่าย อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรตระหนักว่า ETF ประเภทนี้มีข้อจำกัดในการทำกำไรในตลาดขาขึ้น และอาจมีประเด็นด้านภาษีหรือโครงสร้างที่ซับซ้อน เมื่อใช้อย่างรอบคอบ เช่น ผสมกับพอร์ตที่มีหุ้นเติบโตหรือกองทุนดัชนี ก็สามารถเป็นแหล่งรายได้ที่ยั่งยืนได้ในระยะยาว


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

กลยุทธ์การเทรด Forex ที่ได้ผลจริง ตัดเสียงรบกวนทิ้ง!

กลยุทธ์การเทรด Forex ที่ได้ผลจริง ตัดเสียงรบกวนทิ้ง!

ตัดเสียงรบกวนด้วยกลยุทธ์การเทรด Forex ที่พิสูจน์แล้ว ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค อินดิเคเตอร์ที่สำคัญ รวมถึงการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญของ EBC คลาสเรียนออนไลน์ และสัญญาณเตือนเทรดที่แม่นยำ

2025-08-07
รู้จัก แนวรับ แนวต้าน คืออะไร พร้อมกลยุทธ์เทรด Forex ที่ได้ผลจริง

รู้จัก แนวรับ แนวต้าน คืออะไร พร้อมกลยุทธ์เทรด Forex ที่ได้ผลจริง

เปิดข้อมูลแนวรับ แนวต้าน คืออะไร เจาะลึกหัวใจของการวิเคราะห์กราฟ พร้อมกลยุทธ์ใช้เทรดจริงที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำและลดความเสี่ย ด้วยเทคนิคพื้นฐานที่ต้องรู้ก่อนเริ่มเทรดทุกตลาด

2025-08-07
ราคาน้ำมันดิบวันนี้พุ่ง รับแรงหนุนจากความต้องการโลก

ราคาน้ำมันดิบวันนี้พุ่ง รับแรงหนุนจากความต้องการโลก

ติดตามราคาน้ำมันดิบเบรนท์และ WTI แบบเรียลไทม์ พร้อมปัจจัยขับเคลื่อนตลาด การคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญ และความเคลื่อนไหววันนี้มีความหมายอย่างไรต่อผู้บริโภคและเศรษฐกิจโลก

2025-08-07