เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-17
อัปเดตเมื่อ: 2025-12-18
ตลาดซื้อขาย คือ ตลาดที่มีการจัดระเบียบอย่างเป็นระบบ ซึ่งใช้สำหรับซื้อขายเครื่องมือทางการเงินภายใต้กฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ทุกการซื้อขายจำเป็นต้องมีสถานที่เกิดขึ้น และตลาดซื้อขายก็คือจุดที่มีการค้นพบราคา บังคับใช้กติกา และเป็นพื้นที่ที่ผู้ซื้อกับผู้ขายมาพบกัน
เครื่องมือทางการเงินเหล่านี้อาจรวมถึง หุ้น พันธบัตร สินค้าโภคภัณฑ์ ตราสารอนุพันธ์ และสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ ตลาดซื้อขายทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางที่ราคาถูกกำหนดขึ้นจากอุปสงค์และอุปทาน รวมถึงเป็นจุดที่คำสั่งซื้อขายถูกจับคู่ บันทึก และชำระราคา
สำหรับนักเทรด ตลาดซื้อขายมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะช่วยสร้างโครงสร้างและความน่าเชื่อถือให้กับตลาด ทำให้ราคามีความโปร่งใส การซื้อขายเป็นธรรม และตลาดสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ทั้งในภาวะปกติและช่วงที่ตลาดมีความตึงเครียดหรือผันผวนสูง
ในทางการเทรด ตลาดซื้อขาย (Exchange) คือ สถานที่ซื้อขายที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล ซึ่งทำหน้าที่จดทะเบียนสินทรัพย์ และจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการจับคู่คำสั่งซื้อและขาย ราคาจะเคลื่อนไหวตามการปะทะกันของคำสั่งซื้อขาย ทำให้เกิดการเสนอราคาอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่ตลาดเปิดทำการ

นักเทรดมองเห็นการตลาดซื้อขายผ่านข้อมูลราคาสด (Live Price Feed) สมุดคำสั่งซื้อขาย (Order Book) และการยืนยันการซื้อขายบนแพลตฟอร์มของตน นักเทรดหุ้นจะให้ความสำคัญกับตลาดหุ้น นักเทรดฟิวเจอร์สใช้ตลาดอนุพันธ์ ขณะที่นักเทรดสินค้าโภคภัณฑ์พึ่งพาตลาดซื้อขายที่เชี่ยวชาญด้านสินค้าจริงหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
ตลาดซื้อขายถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดโดยนักเทรด โบรกเกอร์ หน่วยงานกำกับดูแล และสำนักหักบัญชี (Clearing House)
มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของตลาดในแต่ละช่วงการซื้อขาย ได้แก่:
การมีส่วนร่วมของตลาด: เมื่อมีผู้ซื้อและผู้ขายเข้ามามากขึ้น สภาพคล่องจะดีขึ้น และการเคลื่อนไหวของราคาจะราบรื่นขึ้น
ข่าวเศรษฐกิจและข่าวบริษัท: การประกาศข้อมูลเศรษฐกิจ รายงานผลประกอบการ หรือการตัดสินใจเชิงนโยบาย สามารถเปลี่ยนทิศทางของคำสั่งซื้อขายและราคาได้อย่างรวดเร็ว
ช่วงเวลาและรอบการซื้อขาย: กิจกรรมมักหนาแน่นในช่วงเปิดและปิดตลาด ขณะที่ช่วงระหว่างวันมักเงียบลง
ภาวะความผันผวน: ในช่วงที่ตลาดไม่แน่นอน ความผันผวนอาจรุนแรงขึ้น และต้นทุนการเทรดอาจสูงขึ้น
เมื่อปัจจัยเหล่านี้เปลี่ยนไป ความเร็ว ความลึก และพฤติกรรมของการซื้อขายบนการตลาดก็จะเปลี่ยนไปตามนั้น
ตลาดซื้อขายมีผลต่อผลลัพธ์ของการเทรดในหลายด้านที่จับต้องได้ ประการแรกคือ จังหวะการเข้าเทรด สภาพคล่องที่สูงมักช่วยให้นักเทรดสามารถเข้าเปิดสถานะได้ใกล้กับราคาที่คาดหวัง
ประการที่สองคือ จังหวะการออกจากตลาด ในตลาดที่เคลื่อนไหวรวดเร็ว ราคาอาจทะลุผ่านระดับสำคัญอย่างฉับไว ส่งผลต่อความง่ายในการปิดสถานะ
ประการที่สามคือ ต้นทุนและความเสี่ยง ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย ส่วนต่างราคาเสนอซื้อ–เสนอขาย (Bid-Ask Spread) และการลื่นไถลของราคา (Slippage) ล้วนเกี่ยวข้องกับระดับกิจกรรมและความเป็นระเบียบของตลาดซื้อขายในขณะนั้น
สภาพตลาดที่นักเทรดมักสังเกตเห็น
สถานการณ์ที่ดี : สมุดคำสั่งลึก ราคาเสถียร สเปรดคาดการณ์ได้
สถานการณ์ที่ไม่ดี : สภาพคล่องบาง ความผันผวนรุนแรง การส่งคำสั่งล่าช้า
การเข้าใจสภาพแวดล้อมของการตลาดช่วยให้นักเทรดบริหารความคาดหวังและความเสี่ยงได้ดีขึ้น
ลองจินตนาการว่ามีหุ้นตัวหนึ่งที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดซื้อขาย และกำลังซื้อขายอยู่ที่ราคา 100 ในช่วงเวลานั้นมีทั้งผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมาก ทำให้คำสั่งซื้อขายถูกจับคู่ได้อย่างรวดเร็ว นักเทรดส่งคำสั่งซื้อและได้รับการจับคู่ใกล้เคียงกับราคา 100
ตอนนี้ลองนึกถึงหุ้นตัวเดิมในช่วงเวลาที่ตลาดเงียบ ผู้เข้าร่วมตลาดมีน้อยลง และผู้ขายที่ใกล้ที่สุดเสนอราคาที่ 102 คำสั่งซื้อแบบเดิมจึงถูกจับคู่ที่ราคาที่แย่กว่า ทั้งที่ตัวบริษัทไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย มีเพียงสภาพของตลาดซื้อขายเท่านั้นที่เปลี่ยนไป
ตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นว่า สภาพแวดล้อมของตลาดซื้อขายสามารถส่งผลต่อผลลัพธ์ของการเทรดได้ แม้ว่าสินทรัพย์นั้นจะยังคงเหมือนเดิมก็ตาม
ก่อนวางคำสั่งซื้อขาย นักเทรดมักจะพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:
เวลาทำการของตลาด: ตรวจสอบว่าการตลาดซื้อขายเปิดทำการเต็มรูปแบบ หรือกำลังจะปิดตลาดหรือเข้าสู่วันหยุดหรือไม่
สภาพคล่องและปริมาณการซื้อขาย: ดูกิจกรรมการซื้อขายล่าสุดเพื่อประเมินว่าตลาดมีความคึกคักเพียงใด
ส่วนต่างราคาเสนอซื้อ–เสนอขาย (Bid-Ask Spread): สเปรดที่กว้างขึ้นมักสะท้อนต้นทุนที่สูงขึ้นหรือสภาพคล่องที่ต่ำลง
เหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น: การประกาศผลประกอบการหรือข้อมูลเศรษฐกิจสามารถเปลี่ยนสภาพตลาดได้อย่างรวดเร็ว
แนวทางปฏิบัติที่ดีคือการประเมินสภาพของตลาดซื้อขายตั้งแต่เริ่มต้นช่วงการซื้อขาย และตรวจสอบอีกครั้งก่อนเหตุการณ์ข่าวสำคัญ
คิดว่าตลาดทุกแห่งมีพฤติกรรมเหมือนกัน ทั้งที่กฎเกณฑ์และสภาพคล่องแตกต่างกัน
ซื้อขายนอกช่วงเวลาที่ตลาดคึกคัก ซึ่งราคามักบางและผันผวนผิดปกติ
มองข้ามค่าธรรมเนียมของตลาดซื้อขาย ซึ่งอาจกระทบกลยุทธ์ที่มีการซื้อขายบ่อย
ตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวระยะสั้นมากเกินไป โดยไม่พิจารณาสภาพของกระแสคำสั่งซื้อขาย
สับสนระหว่างราคาบนการตลาดซื้อขายกับตลาดนอกระบบ (OTC) ซึ่งอาจมีกลไกที่แตกต่างกัน
ข้อผิดพลาดเหล่านี้มักนำไปสู่ต้นทุนที่สูงขึ้น หรือผลลัพธ์ที่ไม่เป็นไปตามคาด
สภาพคล่อง : ความง่ายในการซื้อขายสินทรัพย์โดยไม่ทำให้ราคาเปลี่ยนแปลงมาก
Bid-Ask Spread: ส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย
Slippage : ความแตกต่างระหว่างราคาที่คาดหวังกับราคาที่ได้รับจริง มักเกิดในตลาดที่เคลื่อนไหวรวดเร็ว
โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์: บริษัททางการเงินที่ให้บริการเข้าถึงตลาดเงินตราต่างประเทศ โดยจัดหาราคาและดำเนินการซื้อขายแทนนักเทรด
ตลาดซื้อขายคือ ตลาดที่มีการจัดระเบียบ ซึ่งผู้ซื้อและผู้ขายเข้ามาซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินภายใต้กฎเกณฑ์ที่ชัดเจน ช่วยให้ราคามีความโปร่งใส และทำให้การซื้อขายดำเนินไปอย่างถูกต้อง
ไม่เหมือนกัน ตลาดซื้อขายทำหน้าที่เป็นตลาดที่การซื้อขายเกิดขึ้น ส่วนโบรกเกอร์ทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการเข้าถึงตลาด และส่งคำสั่งซื้อขายแทนนักเทรด
ไม่ใช่ การซื้อขายบางประเภทเกิดขึ้นในตลาดนอกระบบ (Over-the-Counter: OTC) ซึ่งเป็นการทำธุรกรรมโดยตรงระหว่างคู่สัญญาโดยไม่ผ่านตลาด โดยทั่วไป ตลาดที่ซื้อขายผ่านการแลกเปลี่ยนมักมีความโปร่งใสและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลมากกว่า
สภาพคล่องที่สูงหมายถึงมีผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมาก ซึ่งมักนำไปสู่สเปรดที่แคบลงและการเคลื่อนไหวของราคาที่ราบรื่น ในทางกลับกัน สภาพคล่องที่ต่ำอาจเพิ่มต้นทุนการซื้อขายและความเสี่ยง
ตลาดซื้อขายส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานทางการเงิน การกำกับดูแลช่วยปกป้องความเป็นธรรมและความน่าเชื่อถือของตลาด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะขจัดความเสี่ยงจากการซื้อขายได้ทั้งหมด
ได้ กิจกรรมการซื้อขายมักเพิ่มขึ้นในช่วงเปิดและปิดตลาด และสามารถเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วหลังจากมีข่าวสำคัญหรือการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจ
ตลาดซื้อขายคือ ตลาดที่มีการจัดระเบียบซึ่งทำให้การเทรดในยุคปัจจุบันเป็นไปได้ โดยเป็นจุดที่นำผู้ซื้อและผู้ขายมาพบกัน กำหนดกฎเกณฑ์ และสนับสนุนการค้นพบราคาที่โปร่งใส
สำหรับนักเทรด การเข้าใจกลไกการทำงานของตลาดซื้อขายช่วยให้ตัดสินใจเรื่องจังหวะการซื้อขาย การควบคุมต้นทุน และการบริหารความเสี่ยงได้ดีขึ้น การมองข้ามสภาพของตลาดซื้อขายอาจนำไปสู่การส่งคำสั่งที่ไม่มีประสิทธิภาพ และการตีความสัญญาณราคาที่คลาดเคลื่อน
ข้อสงวนสิทธิ์: เนื้อหานี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนาให้เป็น (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรนำไปใช้เป็นหลักในการตัดสินใจ ความเห็นใดๆ ที่ปรากฏในเนื้อหานี้ไม่ได้เป็นการแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่าการลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือกลยุทธ์การลงทุนใดๆ เหมาะสมสำหรับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ