ดัชนี FTSE 100 คืออะไร?
简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

ดัชนี FTSE 100 คืออะไร?

ผู้เขียน: Charon N.

เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-17   
อัปเดตเมื่อ: 2025-12-18

ดัชนี FTSE 100 เป็นดัชนีตลาดหุ้นหลักของสหราชอาณาจักร ใช้ติดตามราคาหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ที่สุด 100 แห่งที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน โดยรวมเอาธนาคารรายใหญ่ บริษัทพลังงาน กลุ่มเหมืองแร่ และบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคระดับโลกไว้ในดัชนีเดียว ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวชี้วัดสภาพโดยรวมของตลาดหุ้นอังกฤษ


นักเทรดให้ความสำคัญกับ FTSE 100 เพราะการเคลื่อนไหวของดัชนีสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน ภาวะความเสี่ยงในตลาดโลก และผลกระทบจากปัจจัยเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่มีต่อบริษัทที่จดทะเบียนในสหราชอาณาจักร


คำนิยาม

ดัชนี FTSE 100 เป็นดัชนีตลาดหุ้นหลักของสหราชอาณาจักร ในทุกวันทำการ ดัชนี FTSE 100 สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดของอังกฤษรับมือกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ความเคลื่อนไหวของค่าเงิน และระดับความเชื่อมั่นของนักลงทุนอย่างไร ผ่านตัวเลขเพียงตัวเดียว

FTSE 100 คืออะไร?

ดัชนีนี้ติดตามราคาหุ้นของบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด 100 อันดับแรกที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน บริษัทเหล่านี้ครอบคลุมทั้งกลุ่มธนาคาร พลังงาน เหมืองแร่ แบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภค และผู้ส่งออกระดับโลก เมื่อรวมกันแล้ว บริษัทเหล่านี้เป็นตัวแทนของสัดส่วนขนาดใหญ่ของตลาดหุ้นอังกฤษ และกิจกรรมทางธุรกิจระหว่างประเทศในระดับที่มีนัยสำคัญ


สำหรับนักเทรด FTSE 100 มีความสำคัญเพราะช่วยให้เห็นภาพรวมของบรรยากาศตลาด ความต้องการรับความเสี่ยง และความคาดหวังทางเศรษฐกิจ ทั้งในสหราชอาณาจักรและในระดับโลกอย่างรวดเร็ว


ความหมายของดัชนี FTSE 100 ในการเทรด 

ในเชิงการเทรด FTSE 100 เป็นดัชนีหุ้นแบบถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market-capitalisation weighted index) หมายความว่าบริษัทที่มีมูลค่าตลาดรวมสูงกว่าจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีมากกว่าบริษัทขนาดเล็ก หุ้นของบริษัทพลังงานหรือธนาคารรายใหญ่อาจขยับดัชนีได้มากกว่าหุ้นของร้านค้าปลีกขนาดเล็ก


นักเทรดจะเห็น FTSE 100 แสดงเป็นราคาหนึ่งเดียวที่ปรับขึ้นลงระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย และสามารถซื้อขายได้ผ่านตราสารต่าง ๆ เช่น ดัชนี CFD ฟิวเจอร์ส ออปชัน และ ETF


ดัชนีนี้ได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิดโดยนักเทรดหุ้น นักเทรดเชิงมหภาค และผู้จัดการพอร์ตการลงทุน เนื่องจากสะท้อนแนวโน้มภาพรวมของตลาด มากกว่าข่าวเฉพาะของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง


ปัจจัยที่ทำให้ดัชนี FTSE 100 เปลี่ยนแปลงในแต่ละวัน

มีปัจจัยสำคัญหลายประการที่ขับเคลื่อน FTSE 100 ในแต่ละวัน ได้แก่


  • ตลาดหุ้นทั่วโลก: เมื่อหุ้นสหรัฐฯ หรือยุโรปปรับตัวขึ้น FTSE 100 มักจะเคลื่อนไหวตาม ในทางกลับกัน หากตลาดโลกถูกเทขาย ดัชนีก็มักเผชิญแรงกดดัน

  • ค่าเงินปอนด์อังกฤษ (GBP): บริษัทจำนวนมากใน FTSE 100 มีรายได้จากต่างประเทศ เมื่อเงินปอนด์อ่อนค่า รายได้จากต่างประเทศจะดูสูงขึ้นเมื่อคิดเป็นเงินปอนด์ ซึ่งสามารถช่วยหนุนดัชนีได้

  • ราคาสินค้าโภคภัณฑ์: ดัชนีประกอบด้วยบริษัทน้ำมัน ก๊าซ และเหมืองแร่ขนาดใหญ่ การปรับขึ้นของราคาน้ำมันหรือโลหะมักเป็นปัจจัยสนับสนุน FTSE 100

  • ข้อมูลเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ย: ตัวเลขเงินเฟ้อ ข้อมูลการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการตัดสินใจของธนาคารกลาง มีอิทธิพลต่อความคาดหวังด้านกำไรและต้นทุนทางการเงิน


เมื่อปัจจัยเหล่านี้เปลี่ยนแปลง ดัชนี FTSE 100 จะปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อสะท้อนสมดุลใหม่ระหว่างความเสี่ยงและโอกาสในตลาด


ดัชนี FTSE 100 ส่งผลต่อการเทรดของคุณอย่างไร?

ดัชนี FTSE 100 มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจในการเทรดในหลายมิติที่นำไปใช้ได้จริง ประการแรกคือ จังหวะในการเข้าเทรด นักเทรดมักรอให้ดัชนียืนยันทิศทางโดยรวมของตลาดก่อน จากนั้นจึงค่อยเข้าเทรดหุ้นรายตัวของสหราชอาณาจักร หรือเข้าเทรดตัวดัชนีเอง


ประการที่สองคือ การตัดสินใจออกจากสถานะ หากดัชนีเริ่มอ่อนแรงในขณะที่ยังถือสถานะอยู่ นักเทรดอาจลดขนาดการลงทุนหรือขยับจุดตัดขาดทุนให้แคบลง ในทางกลับกัน หากดัชนีมีโมเมนตัมแข็งแกร่ง ก็อาจช่วยสนับสนุนให้ถือสถานะได้นานขึ้น


ประการที่สามคือ ต้นทุนและความเสี่ยง ในช่วงที่ตลาดผันผวนสูง สเปรดมักจะกว้างขึ้น และการเคลื่อนไหวของราคาจะรุนแรงและรวดเร็วยิ่งขึ้น


สภาวะทั่วไปที่นักเทรดมองหา ได้แก่:


  • สถานการณ์ดี: ดัชนีมีแนวโน้มชัดเจน ความผันผวนอยู่ในระดับปานกลาง และสเปรดมีเสถียรภาพ

  • สถานการณ์ที่ไม่ดี: ราคาแกว่งแรง ข่าวออกถี่ การกลับทิศทางรวดเร็ว และสเปรดกว้าง


ตัวอย่าง

สมมติว่า FTSE 100 ซื้อขายอยู่ที่ระดับ 7,500 จุด นักเทรดเชื่อว่าบรรยากาศการลงทุนโลกที่ดีขึ้นจะช่วยหนุนตลาดยุโรป จึงเข้าซื้อ FTSE 100 CFD โดยคาดหวังว่าดัชนีจะปรับขึ้น 1%


หากดัชนีปรับขึ้นจาก 7,500 ไปเป็น 7,575 การขยับขึ้น 75 จุดนี้สะท้อนถึงการปรับตัวขึ้นของบริษัทขนาดใหญ่จำนวนมาก ไม่ใช่แค่หุ้นตัวใดตัวหนึ่ง แต่หากสถานการณ์กลับกัน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงแรงและตลาดหุ้นโลกอ่อนตัว FTSE 100 อาจปรับลงมาอยู่ที่ 7,425 จุด การเทรดเดียวกันนี้ก็จะกลายเป็นขาดทุน แม้จะไม่มีบริษัทใดบริษัทหนึ่งล้มลงอย่างรุนแรงก็ตาม


ตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นว่าดัชนีสะท้อนแรงขับเคลื่อนในภาพรวม มากกว่าปัจจัยเฉพาะรายตัว


วิธีตรวจสอบดัชนี FTSE 100 ก่อนซื้อหรือขาย

ก่อนทำการเทรด FTSE 100 นักเทรดมักจะตรวจสอบประเด็นสำคัญต่อไปนี้:


  • กราฟดัชนี: ดูกราฟรายวันและระหว่างวัน เพื่อประเมินทิศทางแนวโน้มและความผันผวนล่าสุด

  • ทิศทางตลาดโลก: ตรวจสอบฟิวเจอร์สของตลาดสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งมักเป็นตัวนำบรรยากาศตลาด

  • การเคลื่อนไหวของค่าเงินปอนด์: เงินปอนด์ที่อ่อนค่าหรือแข็งค่าขึ้นสามารถส่งผลต่อดัชนีได้อย่างมาก

  • ปฏิทินเศรษฐกิจ : จับตาข้อมูลเงินเฟ้ออังกฤษ รายงานการจ้างงาน หรือการประกาศนโยบายของธนาคารกลาง


กฎง่าย ๆ คือ ควรตรวจสอบบริบทของดัชนีอย่างน้อยหนึ่งครั้งก่อนเริ่มแต่ละช่วงการเทรด และตรวจสอบซ้ำอีกครั้งเมื่อมีข่าวสำคัญออกสู่ตลาด


ข้อผิดพลาดทั่วไปเกี่ยวกับดัชนี FTSE 100

  • มอง FTSE 100 ว่าเป็นตัวแทนเศรษฐกิจอังกฤษล้วน ๆ ทั้งที่หลายบริษัทในดัชนีมีรายได้หลักจากต่างประเทศ

  • มองข้ามผลกระทบของค่าเงิน ซึ่งสามารถขับเคลื่อนดัชนีได้โดยไม่เกี่ยวกับข่าวภายในสหราชอาณาจักร

  • เทรดถี่เกินไปในช่วงข่าวใหญ่ ซึ่งเป็นช่วงที่สเปรดและความผันผวนเพิ่มสูงขึ้น

  • คิดว่าหุ้นทุกตัวใน FTSE 100 เคลื่อนไหวเท่ากัน ทั้งที่น้ำหนักของแต่ละบริษัทในดัชนีแตกต่างกันมาก

  • เทรดโดยไม่คำนึงถึงบริบทของตลาดโลก ทั้งที่ดัชนีนี้มีลักษณะเป็นสากลสูง

  • ข้อผิดพลาดเหล่านี้สามารถทำให้การประเมินความเสี่ยงและจังหวะเวลาในการเทรดคลาดเคลื่อนได้


คำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง

  • ความผันผวน: ความเร็วและขนาดของการเปลี่ยนแปลงราคาในดัชนี

  • ธนาคารกลางยุโรป (ECB): ธนาคารกลางของเขตยูโร มีหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินและดูแลเสถียรภาพด้านราคาในประเทศที่ใช้เงินยูโร

  • อัตราแลกเปลี่ยน GBP: การเคลื่อนไหวของค่าเงินที่มีผลต่อมูลค่ากำไรของดัชนี FTSE

  • นโยบายของธนาคารกลาง: นโยบายของธนาคารกลาง รวมถึงการตัดสินใจของธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ย ค่าเงิน และความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่กระทบต่อ FTSE 100


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. ดัชนี FTSE 100 วัดอะไร?

ดัชนี FTSE 100 วัดผลการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นของบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด 100 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน และถูกใช้เป็นดัชนีอ้างอิงของตลาดหุ้นอังกฤษโดยรวม


2. ดัชนี FTSE 100 เป็นตัวชี้วัดเศรษฐกิจอังกฤษที่ดีหรือไม่?

ให้ภาพเพียงบางส่วนเท่านั้น เนื่องจากบริษัทจำนวนมากใน FTSE 100 มีรายได้หลักจากต่างประเทศ ดังนั้นปัจจัยระดับโลกมักมีความสำคัญมากกว่าข้อมูลเศรษฐกิจภายในประเทศ


3. ทำไมดัชนี FTSE 100 บางครั้งจึงปรับขึ้น ทั้งที่เศรษฐกิจอังกฤษดูอ่อนแอ?

ค่าเงินปอนด์ที่อ่อนลงอาจเพิ่มมูลค่ารายได้จากต่างประเทศสำหรับผู้ส่งออกรายใหญ่ในดัชนี ซึ่งอาจผลักดันให้ดัชนี FTSE 100 สูงขึ้นได้ แม้ว่าข่าวเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรจะเป็นไปในเชิงลบก็ตาม


4. ช่วงเวลาใดที่ดัชนี FTSE 100 มีความคึกคักที่สุดในแต่ละวัน?

กิจกรรมการซื้อขายมักหนาแน่นที่สุดหลังตลาดลอนดอนเปิดไม่นาน และอีกครั้งใกล้ช่วงปิดตลาด นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวอาจเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่มีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ


สรุป

ดัชนี FTSE 100 ติดตามราคาหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ที่สุด 100 แห่งที่จดทะเบียนในสหราชอาณาจักร และให้ภาพรวมของทิศทางตลาดและระดับความต้องการรับความเสี่ยงของนักลงทุน การเคลื่อนไหวของดัชนีนี้ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยข่าวภายในประเทศเพียงอย่างเดียว แต่ได้รับอิทธิพลจากตลาดโลก ค่าเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ และความคาดหวังทางเศรษฐกิจเป็นหลัก


หากใช้อย่างถูกต้อง FTSE 100 จะช่วยให้นักเทรดประเมินบริบทตลาดและจังหวะเวลาได้ดีขึ้น แต่หากใช้งานโดยไม่พิจารณาปัจจัยรอบด้านเหล่านี้ ก็อาจให้สัญญาณที่ทำให้เข้าใจตลาดผิดพลาดได้


ข้อสงวนสิทธิ์: เนื้อหานี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนาให้เป็น (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรนำไปใช้เป็นหลักในการตัดสินใจ ความเห็นใดๆ ที่ปรากฏในเนื้อหานี้ไม่ได้เป็นการแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่าการลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือกลยุทธ์การลงทุนใดๆ เหมาะสมสำหรับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ