แนะนำ Commodity ETF ที่เหมาะสำหรับกระจายพอร์ต

กองทุน Commodity ETF หรือ ETF สินค้าโภคภัณฑ์ ได้กลายเป็นเครื่องมือหลักสำหรับนักลงทุนและนักเทรดที่ต้องการกระจายพอร์ตการลงทุนและป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ เนื่องจากในปี 2025 ตลาดโลกยังคงเผชิญกับความผันผวนอย่างต่อเนื่องและแนวโน้มมหภาคที่เปลี่ยนแปลง การเข้าใจวิธีใช้กองทุนเหล่านี้ รวมถึงการเลือกกองทุนที่ให้การกระจายความเสี่ยงได้ดีที่สุด จึงมีความสำคัญมากกว่าที่เคย

บทความนี้เป็นคู่มือฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับ Commodity ETF ที่เหมาะสำหรับการกระจายพอร์ตพร้อมคำแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับนักเทรดทุกระดับ

ทำไมจึงควรกระจายพอร์ตด้วย Commodity ETF?

Commodity ETF คือกองทุนที่ลงทุนในสินค้าพื้นฐาน เช่น พลังงาน โลหะ และสินค้าเกษตร ซึ่งต่างจากหุ้นหรือพันธบัตร เนื่องจากสินค้ากลุ่มนี้มักเคลื่อนไหวในทิศทางที่ไม่สอดคล้องกับสินทรัพย์ดั้งเดิม การมีความสัมพันธ์ในทางลบหรือมีความสัมพันธ์ต่ำกับสินทรัพย์ประเภทอื่น หมายความว่า การเพิ่ม Commodity ETF เข้าพอร์ตสามารถช่วยลดความเสี่ยงโดยรวม และทำให้ผลตอบแทนมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดเงินเฟ้อสูงหรือความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์

แม้การจัดสรรเพียงเล็กน้อย เช่น 5% ของพอร์ต ไปยังสินค้าโภคภัณฑ์ ก็สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพของพอร์ตโดยรวมได้ อีกทั้ง ETF ยังช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงสินค้าพื้นฐานได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องจัดการความซับซ้อนในการซื้อขายจริง การจัดเก็บ หรือสัญญาฟิวเจอร์ส

ประเภทของกองทุน Commodity ETF

• Broad Commodity ETF: คือกองทุนที่ติดตามตะกร้าสินค้าโภคภัณฑ์หลากหลายประเภท เช่น พลังงาน โลหะ และสินค้าเกษตร ซึ่งมอบการกระจายความเสี่ยงในตัวเอง และมีความเสี่ยงต่ำกว่ากองทุนที่เน้นเฉพาะสินค้าเดียว

• Focused Commodity ETF: คือกองทุนที่ลงทุนเฉพาะในสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทใดประเภทหนึ่ง เช่น ทองคำ น้ำมัน หรือภาคเกษตร แม้อาจให้ผลตอบแทนสูงกว่า แต่ก็มีความผันผวนและความเสี่ยงจากความเข้มข้นของสินทรัพย์มากกว่า

โดยทั่วไปแล้ว สำหรับนักเทรดที่มุ่งเน้นการกระจายความเสี่ยง Broad Commodity ETF มักเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า

Commodity ETF ที่น่าลงทุนในปี 2025

ต่อไปนี้คือตัวอย่าง Commodity ETF ที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นและมีการกระจายความเสี่ยงสูง โดยพิจารณาจากผลตอบแทนล่าสุด ขนาดกองทุน และความครอบคลุมของภาคสินค้า:

*ข้อมูลผลการดำเนินงาน ณ เดือนมิถุนายน 2025 หรือข้อมูลล่าสุดที่มีอยู่

กองทุนที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนเฉพาะเจาะจง

• FGDL (Franklin Responsibly Sourced Gold ETF): กองทุนที่ทำผลงานได้โดดเด่นที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา ด้วยผลตอบแทน 43.64%

• DBA (Invesco DB Agriculture): กองทุนที่เน้นสินค้าเกษตรหลากหลายประเภท มีผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี (YTD) อยู่ที่ 23.72%

วิธีเลือกกองทุน Commodity ETF ที่เหมาะสม

1. การกระจายความเสี่ยง

เลือกกองทุนที่ติดตามดัชนีหลัก เช่น Bloomberg Commodity Index (BCOM) หรือกองทุนที่ถือสินค้าหลากหลายประเภท เพื่อปกป้องพอร์ตแบบกว้าง ๆ

2. สภาพคล่องและขนาดกองทุน

กองทุนขนาดใหญ่ที่มีปริมาณซื้อขายสูง (เช่น SDCI, HARD) มักมีสเปรดแคบและง่ายต่อการซื้อขาย

3. อัตราค่าธรรมเนียม

เลือกกองทุนที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ เช่น L&G All Commodities UCITS ETF ที่ 0.15% เพื่อเพิ่มผลตอบแทนสุทธิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการถือครองระยะยาว

4. กลยุทธ์และโครงสร้างกองทุน

กองทุนบางกองใช้ฟิวเจอร์ส สวอป หรือถือสินค้าจริง ควรเข้าใจโครงสร้างของกองทุนและเลือกให้เหมาะสมกับสไตล์การเทรดและความเสี่ยงที่รับได้

5. การเข้าถึงทางภูมิศาสตร์

เลือกกองทุนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่คุณสามารถเข้าถึงผ่านโบรกเกอร์ เช่นEBC

กลยุทธ์การเทรด Commodity ETF

• เทรดตามแนวโน้ม (Trend Following):

ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อเทรดกองทุนแบบกว้างหรือเจาะจงตามแนวโน้มของพลังงานโลหะ หรือสินค้าเกษตร

• ป้องกันเงินเฟ้อ (Inflation Hedging):

จัดสรรส่วนหนึ่งของพอร์ตไปยัง Commodity ETF ในช่วงที่เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น เพราะสินค้าโภคภัณฑ์มักทำผลงานดีกว่าในสถานการณ์นี้

• การปรับสมดุลพอร์ต (Rebalancing):

ทบทวนและปรับสัดส่วนการลงทุนใน Commodity ETF อย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาระดับความเสี่ยงที่ต้องการ โดยเฉพาะหลังจากที่หุ้นหรือพันธบัตรมีการเคลื่อนไหวแรง

• เทรดตามเหตุการณ์ (Event-Driven Trading):

ติดตามข้อมูลเศรษฐกิจ เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และปัจจัยด้านอุปสงค์-อุปทานที่ส่งผลต่อตลาดสินค้า และปรับพอร์ต ETF ตามสถานการณ์

ความเสี่ยงและข้อควรพิจารณา

• ความผันผวน:

สินค้าโภคภัณฑ์อาจมีความผันผวนสูง โดยเฉพาะ ETF ที่มุ่งเน้นไปที่สินค้าโภคภัณฑ์เดียวหรือภาคส่วนเดียว

• ภาวะ Contango/Backwardation:

ETF ที่ใช้ฟิวเจอร์สอาจประสบปัญหาผลตอบแทนถูกกดดันจากโครงสร้างตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

• ความเสี่ยงด้านค่าเงิน:

ETF ต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ส่งผลต่อผลตอบแทนโดยรวม

การเข้าถึง ETF ผ่านแพลตฟอร์ม EBC

EBC เปิดให้บริการ ETF และ ETF CFD หลากหลายประเภท ช่วยให้นักเทรดสามารถกระจายความเสี่ยงของพอร์ต ป้องกันความเสี่ยง และใช้ประโยชน์จากเทรนด์ระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าคุณจะต้องการลงทุนแบบ Broad หรือ Focused แพลตฟอร์มของ EBC ก็พร้อมด้วยเครื่องมือและการเข้าถึงที่ครบครัน รองรับการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์อย่างมืออาชีพในทุกสภาวะตลาด

สรุป

Commodity ETF เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการกระจายความเสี่ยงสำหรับนักลงทุนและนักเทรดในปี 2025 หากเลือกกองทุนที่มีต้นทุนต่ำและครอบคลุมหลากหลาย พร้อมใช้กลยุทธ์การเทรดอย่างมีวินัย จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับพอร์ตและเปิดโอกาสในการเติบโตไปพร้อมกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและเงินเฟ้อ สำรวจกองทุน ETF ที่ EBC นำเสนอ เพื่อค้นหาทางเลือกที่เหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนของคุณ

คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ