ค้นพบความหมายของรูปแบบ Rounding Bottom วิธีการระบุ และกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการเทรด พร้อมตัวอย่างจากกราฟจริงในโลกการลงทุน
ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค รูปแบบกราฟถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการคาดการณ์ทิศทางราคาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หนึ่งในรูปแบบที่ได้รับความนิยมคือ Rounding Bottom ซึ่งมักใช้โดยนักเทรดสาย Swing และนักลงทุนแบบถือครองระยะยาว เพื่อช่วยในการมองหาสัญญาณกลับตัวของแนวโน้มราคา
แม้รูปแบบนี้อาจไม่ให้สัญญาณรุนแรงเท่ากับรูปแบบอื่น เช่น Head and Shoulders หรือ Triangles แต่ด้วยความน่าเชื่อถือและลักษณะการเปลี่ยนแนวโน้มจากขาลงเป็นขาขึ้นอย่างราบรื่น ทำให้เป็นหนึ่งในรูปแบบที่นักเทรดมืออาชีพให้ความไว้วางใจ
บทความนี้จะอธิบายอย่างชัดเจนเกี่ยวกับรูปแบบกราฟ Rounding Bottom พร้อมกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะทั้งสำหรับผู้เริ่มต้นและนักลงทุนที่มีประสบการณ์ รวมถึงตัวอย่างจริงจากตลาด เพื่อแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของรูปแบบนี้ในสถานการณ์ต่างๆ
Rounding Bottom หรือที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่า Saucer Bottom คือรูปแบบกราฟทางเทคนิคที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้มจากขาลงสู่ขาขึ้น โดยมีลักษณะคล้ายชามหรือรูปตัว "U" ซึ่งมักเกิดขึ้นในกรอบเวลาระยะยาว เช่น หลายสัปดาห์ หรือหลายเดือน
รูปแบบนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของแรงซื้อและแรงขายอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากแรงขายไปสู่แรงซื้อ
ลักษณะสำคัญของรูปแบบนี้คือราคาที่ค่อย ๆ ปรับตัวลดลง จากนั้นเริ่มทรงตัวบริเวณแนวรับ และต่อมาเริ่มไต่ระดับขึ้นอย่างช้า ๆ จนกระทั่งสามารถทะลุแนวต้านที่เกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นของแนวโน้มขาลงได้ในที่สุด
โครงสร้างของรูปแบบ
การเข้าใจโครงสร้างภายในของ Rounding Bottom จะช่วยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของจิตวิทยาตลาดในแต่ละช่วง:
ช่วงแนวโน้มขาลง: ราคาเคลื่อนไหวลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่ลดลงเรื่อยๆ
ช่วงทรงตัว: แรงโมเมนตัมขาลดเริ่มชะลอ ราคาคงที่ในระดับต่ำ แสดงถึงแรงขายที่เริ่มอ่อนแรง
การสร้างฐานของรูปแบบ: ราคาขยับในช่วงแคบและคงที่ กลายเป็นฐานของรูปตัว “U” โดยมักมีปริมาณการซื้อขาย (Volume) ต่ำที่สุด
ช่วงแนวโน้มขาขึ้น: แรงซื้อเริ่มกลับมา ราคาขยับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น และปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น
การทะลุแนวต้าน: เมื่อราคาทะลุแนวต้านเดิมที่เป็นจุดเริ่มต้นของขาลงได้สำเร็จ ถือเป็นการยืนยันการกลับตัวของแนวโน้ม
แม้ลักษณะของ Rounding Bottom จะดูเหมือนเห็นได้ง่าย แต่การสังเกตที่แม่นยำต้องใช้ความใส่ใจในรายละเอียด:
รูปร่างควรเป็นรูปตัว “U” แบบสมมาตรไม่ใช่รูปตัว “V” ซึ่งบ่งบอกถึงการกลับตัวอย่างรวดเร็ว
ปริมาณการซื้อขายมักจะลดลงในช่วงแรกของการปรับลง ต่ำสุดในช่วงทรงตัว และค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเมื่อเกิดการทะลุแนวต้าน
มักพบในกราฟรายวันหรือกราฟรายสัปดาห์ ซึ่งเหมาะสำหรับกลยุทธ์การเทรดระยะกลางถึงระยะยาว
เครื่องมือช่วยวิเคราะห์ เช่น เส้นแนวโน้ม ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ และอินดิเคเตอร์ Volume สามารถช่วยยืนยันรูปแบบนี้ได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
ความแตกต่างระหว่าง Rounding Bottom กับรูปแบบกลับตัวอื่น ๆ
รูปแบบ | ลักษณะกราฟ | ทิศทางกลับตัว | ระยะเวลา | ตัวบ่งชี้ที่สำคัญ |
---|---|---|---|---|
Rounding Bottom | รูปตัว U | จากขาลงสู่ขาขึ้น | ระยะยาว | ปริมาณซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป |
Double Bottom | รูปตัว W | จากขาลงสู่ขาขึ้น | ระยะกลาง | ราคาทดสอบแนวรับสองครั้ง |
Head and Shoulders | ยอดเขา 3 ลูก | จากขาขึ้นสู่ขาลง | ระยะกลางถึงยาว | การทะลุเส้น Neckline |
Inverse Head & Shoulders | จุดต่ำ 3 จุด | จากขาลงสู่ขาขึ้น | ระยะกลางถึงยาว | ปริมาณซื้อขายพุ่งขึ้นช่วงทะลุแนวต้าน |
1. รอให้รูปแบบสมบูรณ์ก่อน
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดของนักเทรดคือการเข้าสู่ตลาดเร็วเกินไป จุดเข้าที่ปลอดภัยที่สุดคือเมื่อราคาทะลุแนวต้าน ซึ่งเปรียบเสมือน " เส้นคอ (Neckline)" ของรูปแบบ ซี่งเป็นสัญญาณยืนยันว่าขาลงได้สิ้นสุดลงและแนวโน้มขาขึ้นได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
2. ยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขาย
ปริมาณการซื้อขายเป็นองค์ประกอบสำคัญของ Rounding Bottom การทะลุควรมาพร้อมกับปริมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เพื่อยืนยันการทะลุและแสดงถึงความสนใจในตลาดที่แข็งแกร่ง
3. ตั้งจุดเข้า (Entry Point)
เมื่อเกิดการทะลุอย่างชัดเจนแล้วให้เปิดสถานะซื้อ (Long) เล็กน้อยเหนือแนวต้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการทะลุหลอก และยืนยันว่าแนวโน้มกำลังเริ่มต้นจริง
4. กำหนดจุดหยุดขาดทุน (Stop-Loss)
ตั้งจุดหยุดขาดทุนไว้ต่ำกว่าจุดต่ำสุดของรูปแบบ หรือใต้ระดับที่เกิดการทะลุเล็กน้อย เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการกลับตัวของราคาแบบไม่คาดคิด
5. ตั้งเป้าหมายทำกำไร (Profit Target)
เป้าหมายราคาควรคำนวณจากระยะห่างในแนวดิ่งระหว่างจุดต่ำสุดของรูปแบบกับแนวต้าน จากนั้นนำค่าดังกล่าวไปบวกกับระดับทะลุเพื่อคาดการณ์กำไรที่เป็นไปได้
สภาวะตลาดที่เหมาะสม
Rounding Bottom จะมีประสิทธิภาพสูงในตลาดที่กำลังฟื้นตัวจากแนวโน้มขาลงยาวนาน มักพบหลังจากช่วงเวลาที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่ำ กำไรบริษัทตกต่ำ หรือภาวะเศรษฐกิจไม่แน่นอน รูปแบบนี้มักเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านสู่ตลาดขาขึ้น โดยเฉพาะใน:
หุ้นรายตัวที่กำลังฟื้นตัวจากผลประกอบการที่ย่ำแย่
สินค้าโภคภัณฑ์ที่ฟื้นตัวจากภาวะอุปทานล้นตลาด
ความอดทนเป็นกุญแจสำคัญ เนื่องจากรูปแบบนี้ก่อตัวช้า แต่เมื่อยืนยันแล้วจะให้สัดส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยงที่ยอดเยี่ยม
ตัวอย่างในสถานการณ์จริง
หนึ่งในกรณีศึกษาที่ชัดเจนของ Rounding Bottom เกิดขึ้นกับหุ้น Apple ในช่วงปี 2008–2009 หลังจากการปรับตัวลงของตลาดในช่วงวิกฤตการเงิน ราคาของ Apple เริ่มทรงตัวและก่อตัวเป็นรูปตัว U
เมื่อสภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น ความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมา ปริมาณซื้อขายเพิ่มขึ้น และ AAPL ก็สามารถทะลุแนวต้านในช่วงกลางปี 2009 ได้สำเร็จ ส่งผลให้เกิดแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งและยาวนานหลายปี
ตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นว่า Rounding Bottom สามารถนำไปใช้เพื่อการลงทุนระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อตัวแปรทางเศรษฐกิจเริ่มเอื้อต่อการเติบโต
แม้ว่ารูปแบบนี้จะดูไม่ซับซ้อน แต่มือใหม่ควรระมัดระวังจุดต่อไปนี้:
ยืนยันการทะลุด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น
ใช้เส้นแนวโน้มและเส้นแนวต้านแนวนอนในการวาดเส้นคอ
ฝึกวิเคราะห์ Rounding Bottom ด้วยบัญชีทดลองก่อนใช้เงินจริง
ผสานการวิเคราะห์ทางเทคนิคกับปัจจัยพื้นฐานเพื่อเพิ่มความมั่นใจ
หลีกเลี่ยงการใช้เลเวอเรจสูง เนื่องจากรูปแบบนี้ใช้เวลาพัฒนาอย่างช้า ๆ
Rounding Bottom Pattern คือสัญญาณกลับตัวที่มีความน่าเชื่อถือ เหมาะสำหรับนักเทรดและนักลงทุนที่มีความอดทนในการรอให้รูปแบบสมบูรณ์ ด้วยลักษณะที่ค่อย ๆ ก่อตัว พร้อมการยืนยันจากปริมาณการซื้อขายและจุดเบรกเอาท์ที่คาดการณ์ได้ รูปแบบนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับกลยุทธ์การลงทุนระยะยาว
อย่าลืมทดสอบกลยุทธ์ย้อนหลัง ใช้การบริหารความเสี่ยงที่เข้มงวด และยึดมั่นในแผนการเทรดของตนเอง ความสำเร็จของการใช้ Rounding Bottom ไม่ได้อยู่แค่ที่การมองเห็น แต่ขึ้นอยู่กับวินัยในการดำเนินกลยุทธ์อย่างรอบคอบ
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
ค้นพบวิธีการทำงานของการซื้อขายช่องว่างราคา ประเภทของช่องว่างราคา และผู้ซื้อขายใช้ช่องว่างเหล่านี้เพื่อค้นหาจุดเข้าและออกที่ทำกำไรได้ในตลาดที่มีความผันผวนได้อย่างไร
2025-06-17เรียนรู้ความแตกต่างระหว่างเงินหยวนและเงินหยวน การใช้ รหัสสกุลเงิน และบทบาทต่างๆ ในระบบการเงินอย่างเป็นทางการและในชีวิตประจำวันของจีน
2025-06-17สกุลเงินของเปรูคืออะไร และทำไมผู้ค้าจึงควรใส่ใจ สำรวจสกุลเงินอย่างเป็นทางการ ประวัติศาสตร์ และโอกาสทางการค้าของเปรูในปี 2025
2025-06-17