เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-18
เงินปอนด์กำลังเผชิญกับเหตุการณ์นโยบายการเงินแบบ “Priced-in” ตามตำรา หลังจากอัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรปรับลดลงมาอยู่ที่ 3.2% ในเดือนพฤศจิกายน ตลาดฟิวเจอร์สจึงแทบมั่นใจว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25 จุดพื้นฐาน สู่ระดับ 3.75% ในวันนี้ เวลา 12:00 น. ตามเวลาอังกฤษ (18 ธันวาคม 2025)
อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้หมายความว่าเงินปอนด์จะต้องอ่อนค่าลงโดยอัตโนมัติ ปัจจัยชี้ขาดที่แท้จริงคือ โทนและถ้อยแถลงของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) ว่าจะอธิบายการลดดอกเบี้ยครั้งนี้ในลักษณะ “ค่อยเป็นค่อยไปและบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ” หรือจะส่งสัญญาณถึงการลดดอกเบี้ยที่เร็วและต่อเนื่องมากขึ้นในปี 2026

ณ ขณะนี้ ทั้งตลาดและนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 4.00% ลงสู่ 3.75% อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้มีแนวโน้มว่าจะเป็นการตัดสินใจที่สูสี โดยผลการลงมติแบบ 5 ต่อ 4 เสียง ถูกมองว่าเป็นผลลัพธ์ที่มีความเป็นไปได้สูงที่สุด
เมื่อการลดดอกเบี้ยถูกสะท้อนเข้าไปในราคาตลาดอย่างมากแล้ว การเคลื่อนไหวของเงินปอนด์มักไม่ได้ตอบสนองต่อพาดหัวข่าวเพียงอย่างเดียว แต่จะขึ้นอยู่กับสัดส่วนคะแนนเสียงในการลงมติ โทนของถ้อยแถลงนโยบาย และสัญญาณที่ธนาคารส่งออกมาเกี่ยวกับทิศทางการประชุมอีกสองครั้งถัดไป เป็นหลัก
ในปัจจุบัน ค่าเงินปอนด์ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 1.3373 ดอลลาร์สหรัฐต่อปอนด์ และตลาดได้คาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้าอย่างเต็มที่แล้ว หลังจากข้อมูลเงินเฟ้อที่ออกมาน่าประหลาดใจ

ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหราชอาณาจักร (CPI) ปรับลดลงมาอยู่ที่ 3.2% เมื่อเทียบรายปีในเดือนพฤศจิกายน จาก 3.6% ในเดือนตุลาคม ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์จำนวนมากคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) และเงินเฟ้อภาคบริการยังออกมาอ่อนแอกว่าที่คาด ส่งผลให้ความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น
แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางอังกฤษที่ 2% แต่แนวโน้มการชะลอตัวดังกล่าวถือว่ามีนัยสำคัญ ข้อมูลล่าสุดสะท้อนให้เห็นว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) สามารถใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัวได้ผล
ภาพรวมเศรษฐกิจยังคงอ่อนแอ อัตราการว่างงานอยู่ในระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2021 และข้อมูลกิจกรรมทางเศรษฐกิจล่าสุดออกมาแบบผสมผสาน
นี่คือภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของ MPC เพราะการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานานเกินไป อาจเปลี่ยนการชะลอตัวของเศรษฐกิจให้กลายเป็นการชะลอที่รุนแรงมากขึ้น
ในการประชุมเดือนพฤศจิกายน 2025 คณะกรรมการ MPC ลงมติ 5 ต่อ 4 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 4% โดยกรรมการ 4 คนสนับสนุนให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดพื้นฐาน สู่ระดับ 3.75% ซึ่งสะท้อนถึงคณะกรรมการที่มีเสียงสูสีอย่างมาก ทำให้ผลการลงมติและแนวทางชี้นำ (guidance) ในการประชุมวันนี้มีความสำคัญแทบไม่แพ้การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเอง
การลงมติที่สูสีมีนัยสำคัญ เพราะเป็นตัวกำหนดความคาดหวังต่อทิศทางนโยบายในปี 2026 และสะท้อนถึงความแตกแยกภายในคณะกรรมการ ซึ่งบ่งชี้ว่าการลงมติในลักษณะใกล้เคียงกันอาจเกิดขึ้นอีก
ลดดอกเบี้ยแบบ 5–4 เสียง: กลุ่มที่สนับสนุนแนวทาง “ค่อยเป็นค่อยไปและระมัดระวัง” ยังมีน้ำหนัก ซึ่งอาจช่วยจำกัดแรงกดดันต่อค่าเงินปอนด์
ลดดอกเบี้ยแบบ 6–3 หรือ 7–2 เสียง: ตลาดอาจตีความว่า MPC เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้นกับการผ่อนคลายนโยบาย ซึ่งเป็นลบต่อค่าเงินปอนด์
คงอัตราดอกเบี้ยไว้: ค่าเงินปอนด์มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น เนื่องจากตลาดต้องปรับมุมมองใหม่ต่อทิศทางนโยบายในระยะใกล้

เงินปอนด์ถูกขายออกอย่างรุนแรงหลังจากข้อมูลเงินเฟ้อเผยแพร่ออกมา โดยถือเป็นการปรับตัวลงรายวันที่แรงที่สุดในรอบหลายสัปดาห์ และทำให้การคาดการณ์ของตลาดขยับไปสู่ความเชื่อเกือบเต็มที่ว่า จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ในวันนี้ เงินปอนด์ยังคงอ่อนค่าอยู่แถว 1.3373 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ตลาดกำลังรอผลการตัดสินใจของธนาคารกลาง
นี่คือรูปแบบคลาสสิกของการ “เคลื่อนไหวล่วงหน้า (front-run)” เมื่อการลดดอกเบี้ยถูกสะท้อนเข้าไปในราคาก่อนแล้ว ตัวการตัดสินใจเองจึงมีความสำคัญน้อยกว่าโทนของแถลงการณ์ และสัดส่วนคะแนนเสียงในการลงมติ
| ตัวชี้วัด | ค่าอ่าน | ความหมายสำหรับนักเทรด |
|---|---|---|
| ราคาปัจจุบัน | 1.3369–1.3373 | ตลาดอยู่ในภาวะสมดุล แต่ไวต่อถ้อยแถลงนโยบาย |
| RSI (14) | ~46.8 (เป็นกลาง) | ยังไม่มีโมเมนตัมที่ชัดเจนก่อนเหตุการณ์ |
| MACD (12,26) | ลบ / สัญญาณขาย | แนวโน้มล่าสุดอ่อนตัว การรีบาวด์อาจถูกขาย |
| ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ | ผสมผสาน (ขายมากกว่าซื้อ) | เทรนด์ไม่ชัด ระดับราคาสำคัญกว่าตัวชี้วัด |
| แนวรับสำคัญ | 1.3350 และ 1.3220 | การลดดอกเบี้ยเชิงผ่อนคลายอาจกดราคาไปสู่แนวรับล่าง |
| แนวต้านสำคัญ | 1.3400–1.3450 และ 1.3500 | การลดดอกเบี้ยเชิงเข้มงวดหรือคงดอกเบี้ย อาจดันราคาขึ้นทดสอบโซนนี้ |
แม้คู่เงินจะยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบกว้าง แต่เงินปอนด์ยังคงเปราะบางก่อนการตัดสินใจ หลังแรงกระแทกจากข้อมูลเงินเฟ้อ
นักเทรดกำลังจับตาระดับ 1.33 อย่างใกล้ชิด โดยมีแนวรับแรกอยู่ต่ำกว่า 1.3350 และมีความเสี่ยงปรับลงต่อหากระดับนี้ถูกทะลุ ขณะที่แนวต้านอยู่บริเวณช่วงกลางของ 1.34
นักเทรดควรรอให้แท่งเทียน 15–30 นาทีแรกหลังประกาศผล ปิดลงก่อน จากนั้นจึงเทรดตามทิศทางของการเบรกเอาต์ พร้อมตั้งจุดตัดขาดทุนให้ชัดเจน เนื่องจากการพุ่งแรงในช่วงแรกมักเกิดการกลับทิศได้บ่อย
วันนี้ถือเป็นการประชุม MPC ที่มีกำหนดการครั้งสุดท้ายของปี 2025 โดยตารางการประชุมที่ธนาคารกลางอังกฤษเผยแพร่ไว้ แสดงกำหนดการประชุมและการประชุมสำคัญตลอดปี 2026
5 กุมภาพันธ์ 2026
19 มีนาคม 2026
30 เมษายน 2026
18 มิถุนายน 2026
30 กรกฎาคม 2026
17 กันยายน 2026
5 พฤศจิกายน 2026
17 ธันวาคม 2026
สำหรับเงินปอนด์ ปัจจัยกระตุ้นสำคัญถัดจากวันนี้ชัดเจนแล้ว ได้แก่ รายงานเงินเฟ้อ การเติบโตของค่าจ้าง และพัฒนาการใด ๆ ที่อาจส่งผลต่อความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับความเร็วในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากจุดนี้เป็นต้นไป
ใช่ หลังจากอัตราเงินเฟ้อ (CPI) เดือนพฤศจิกายนปรับลดลงมาอยู่ที่ 3.2% ตลาดจึงขยับไปสู่ความเชื่อเกือบแน่นอนว่า BoE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดพื้นฐาน สู่ระดับ 3.75% ในการประกาศวันนี้
ไม่จำเป็น เมื่อการลดดอกเบี้ยถูกสะท้อนเข้าไปในราคาตลาดแล้ว ค่าเงินปอนด์มักตอบสนองต่อโทนของถ้อยแถลง และสัดส่วนคะแนนเสียงในการลงมติ มากกว่าพาดหัวข่าวเรื่องการลดดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว
เงินปอนด์อ่อนค่าลงหลังจากรายงานเงินเฟ้อที่ออกมาน่าประหลาดใจ ทำให้ตลาดคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเกือบจะแน่นอนล่วงหน้า
แนวรับอยู่บริเวณ 1.3300 และถัดไปที่ 1.3270 ขณะที่แนวต้านอยู่ในช่วง 1.3420–1.3500
โดยสรุป การตัดสินใจของธนาคารกลางอังกฤษในวันนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการลดดอกเบี้ย 0.25% เท่านั้น แม้ว่าตลาดจะคาดการณ์ไว้แล้วอย่างกว้างขวาง จากเงินเฟ้อที่ชะลอลงสู่ 3.2% และโมเมนตัมการเติบโตที่อ่อนแอ แต่ทิศทางถัดไปของเงินปอนด์จะขึ้นอยู่กับว่า BoE มองการลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นเพียงการปรับอย่างระมัดระวัง หรือเป็นจุดเริ่มต้นของการผ่อนคลายนโยบายในวงกว้างมากขึ้น
สำหรับนักเทรดเงินปอนด์ แนวทางที่ชัดเจนคือ ติดตามผลการลงมติอย่างใกล้ชิด ใส่ใจกับการเน้นย้ำเรื่องเงินเฟ้อภาคบริการและความเสี่ยงด้านค่าจ้าง และใช้ระดับ 1.3300 บนคู่เงิน GBP/USD เป็นจุดอ้างอิงสำคัญ
สิ่งเหล่านี้จะช่วยประเมินได้ว่าตลาดกำลังเดินหน้าขายต่อ หรือเริ่มเปลี่ยนทิศสู่การรีบาวด์เพื่อผ่อนคลายแรงกดดัน
ข้อสงวนสิทธิ์: เนื้อหานี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนาให้เป็น (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรนำไปใช้เป็นหลักในการตัดสินใจ ความเห็นใดๆ ที่ปรากฏในเนื้อหานี้ไม่ได้เป็นการแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่าการลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือกลยุทธ์การลงทุนใดๆ เหมาะสมสำหรับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ