เจาะลึกทิศทางดอกเบี้ยเฟดปีหน้า: โอกาสทำกำไรท่ามกลางความไม่แน่นอน

ผู้เขียน: Blair Cornelia

เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-16

การประกาศลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ลง 0.25% ในสัปดาห์ที่ผ่านมาอาจดูเหมือนข่าวปกติที่เป็นไปตามคาดการณ์ แต่ภายใต้ตัวเลขที่ดูเรียบง่ายนั้น กลับซ่อน "คลื่นใต้น้ำ" ลูกใหญ่ที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม

จากการประชุมล่าสุด คณะกรรมการเฟดมองภาพรวมเศรษฐกิจค่อนข้างเป็นบวก โดยประเมินว่าเศรษฐกิจยังขยายตัวได้ดี เงินเฟ้อแม้จะสูงกว่าเป้าหมายเล็กน้อยแต่ไม่รุนแรง และอัตราการว่างงานยังทรงตัวที่ระดับ 4.4%

สิ่งที่เฟดส่งสัญญาณ:

ปีหน้าอาจมีการ ลดดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้ง
การขึ้นดอกเบี้ยไม่ใช่กรณีฐาน (Base Case) ที่พิจารณาในตอนนี้
พร้อมอัดฉีดสภาพคล่องผ่านการซื้อพันธบัตร เพื่อพยุงตลาดหุ้นให้สดใส

ดูเหมือนทุกอย่างกำลังไปได้สวยใช่ไหมคะ แต่เดี๋ยวก่อน... ตลาดการเงินกลับไม่ได้คิดแบบนั้น

ทำไมตลาดถึงมองต่าง? ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่

Gemini Generated Image (7).jpeg

ในขณะที่เฟดมองโลกในแง่ดี ตลาดการเงินกลับมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเปราะบาง และเชื่อว่าดอกเบี้ยควรลดลงอย่างน้อย 2 ครั้ง ในปีหน้า ความขัดแย้งทางความคิดนี้เกิดจากปัจจัยเสี่ยงสำคัญ 3 ประการ:

1. กับดักเงินเฟ้อจากนโยบายภาษี

เฟดมองว่าเงินเฟ้อปัจจุบันเป็นผลชั่วคราวจากภาษีนำเข้า แต่ความจริงคือ "ภาษีทรัมป์" ทำให้ต้นทุนการผลิตและราคาสินค้าสูงขึ้น กระทบค่าครองชีพโดยตรง ซึ่งอาจไม่ใช่แค่เรื่องชั่วคราว เมื่อของแพงขึ้น ค่าแรงต้องปรับขึ้น กลายเป็นวงจรเงินเฟ้อที่กดไม่ลง ทำให้การลดดอกเบี้ยทำได้ยากกว่าที่คิด

2. เสียงแตกในบอร์ดบริหาร

มติการลดดอกเบี้ยครั้งล่าสุด ไม่เป็นเอกฉันท์ กรรมการมีความเห็นแตกต่างกันอย่างมาก บางคนอยากให้คงดอกเบี้ย บางคนอยากให้ลดเยอะ สิ่งนี้สะท้อนว่าแม้แต่คนในเฟดเองก็ยังไม่มั่นใจในทิศทางเศรษฐกิจ และเมื่อมีการเปลี่ยนตัวประธานเฟดในปีหน้า ความไม่แน่นอนนี้จะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น

3. ความน่ากลัวของ Stagflation

สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือภาวะ Stagflation (เศรษฐกิจชะลอตัวแต่เงินเฟ้อสูง) ซึ่งเป็นโรคเรื้อรังที่รักษายาก หากเกิดขึ้นจริง เฟดอาจต้องกลับมาขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสู้เงินเฟ้อ ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมให้เศรษฐกิจถดถอย นี่คือฉากทัศน์ที่นักลงทุนต้องระวังตัวสูงสุด

มุมมองความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ

ความไม่ชัดเจนคือศัตรูของความมั่นคง แต่เป็น 'มิตรแท้ของนักเก็งกำไร' ความเห็นที่สวนทางกันระหว่างเฟดและตลาดจะก่อให้เกิดความผันผวน (Volatility) ในราคาทองคำ คู่เงิน และดัชนีหุ้นสหรัฐฯ อย่างรุนแรง ในช่วงเวลาแบบนี้ การถือครองสินทรัพย์เฉยๆ อาจมีความเสี่ยง แต่การเข้าทำกำไรจากจังหวะสวิงของราคาคือโอกาสทอง หากคุณมีเครื่องมือที่แม่นยำและข้อมูลที่รวดเร็ว

บทสรุปส่งท้าย: อย่าปล่อยให้ความไม่แน่นอนทำลายโอกาส

ปีหน้าจะเป็นปีที่ท้าทายสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่ในทุกวิกฤตมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ ไม่ว่าตลาดจะขึ้นหรือลง คุณสามารถทำกำไรได้หากมีการเตรียมตัวที่ดี

บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน บทความนี้สะท้อนมุมมองของ EBC Financial Group และหน่วยงานทั่วโลกของบริษัทเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการเงินหรือการลงทุน การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์และอัตราแลกเปลี่ยน (FX) มีความเสี่ยงสูง อาจทำให้สูญเสียเงินลงทุนเริ่มต้นทั้งหมดหรือมากกว่า โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินก่อนตัดสินใจลงทุน EBC Financial Group และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดจากการอ้างอิงข้อมูลนี้