简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

เคลียร์ชัด ลงทุนระยะยาวยังไงให้ปัง รู้ลึกความเสี่ยงที่ต้องระวัง

2025-09-24

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา การลงทุนระยะยาวกลายเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การลงทุนที่นิยมมากขึ้นท่ามกลางความผันผวนที่ยังคงกดดันตลาดทั่วโลกจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ภาวะเศรษฐกิจถดถอยบางภูมิภาค ไปจนถึงความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ นักลงทุนจึงเริ่มหันมามองการถือครองสินทรัพย์ในระยะยาวเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนเยอะขึ้น บทความนี้จะวิเคราะห์เชิงลึกว่าทำไมการลงทุนระยะยาวจึงเหมาะกับมือใหม่ จุดแข็งที่ต้องเข้าใจแบบชัดเจน ตลอดจนความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม


ไขคำตอบ ทำไมการลงทุนระยะยาวถึงเหมาะกับมือใหม่


โดยปกติการลงทุนสำหรับมือใหม่มักเต็มไปด้วยอุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นความกลัวการขาดทุน ไม่แน่ใจในการเลือกสินทรัพย์ ฯลฯ แต่การลงทุนระยะยาเปิดโอกาสให้ผู้เริ่มต้นได้เรียนรู้ตลาดโดยไม่ต้องตกอยู่ในแรงกดดันของความผันผวนระยะสั้นมากนัก เพราะหลักการสำคัญคือถือสินทรัพย์คุณภาพไว้ให้นานพอเพื่อให้ตลาดและเวลาเป็นตัวสร้างผลตอบแทน 


อีกเหตุผลหนึ่งคือการลดค่าใช้จ่ายจากการซื้อขายบ่อยครั้ง การเก็งกำไรระยะสั้นต้องเสียค่าธรรมเนียม เช่น ค่าคอมมิชชัน และอาจมีภาระภาษีมากขึ้น ในขณะที่การถือสินทรัพย์ในระยะยาวช่วยให้ค่าใช้จ่ายเหล่านี้น้อยลง ส่งผลให้ผลตอบแทนสุทธิไม่ถูกกัดกร่อนมากนัก 


นอกจากนี้ การลงทุนระยะยาวยังสร้าง “พื้นที่ความผิดพลาด” ให้มือใหม่ได้ เพราะการเลือกหุ้นหรือกองทุนในช่วงแรกยังไม่สมบูรณ์แบบ ตลาดและเวลาสามารถชดเชยได้เมื่อถือครองไปในระยะยาว โดยเฉพาะสินทรัพย์ที่มีการเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่อง เช่น หุ้นบริษัทใหญ่ที่มีความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน สิ่งนี้ทำให้มือใหม่เรียนรู้ได้จริงโดยไม่ถูกตลาดลงโทษอย่างรุนแรงตั้งแต่ต้น


จุดเด่นของการลงทุนระยะยาว


  • พลังของดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest)
    ผลตอบแทนที่ได้ในแต่ละปีจะถูกนำกลับไปลงทุนต่อ ทำให้ผลลัพธ์เติบโตในลักษณะทบต้น นักลงทุนที่เริ่มต้นเร็วและถือครองยาวนานจะเห็นการขยายตัวของเงินลงทุนแบบก้าวกระโดด ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความมั่งคั่งระยะยาว


  • ต้นทุนการลงทุนต่ำกว่า
    นักลงทุนระยะสั้นมักเสียค่าธรรมเนียม ค่าคอมมิชชัน และภาษีจากการซื้อขายบ่อยครั้ง ในขณะที่ผู้ที่ถือครองระยะยาวมีธุรกรรมไม่ถี่ ทำให้ต้นทุนลดลงและผลตอบแทนสุทธิสูงกว่าในระยะยาว


  • สอดคล้องกับการเติบโตของเศรษฐกิจ
    หุ้นและกองทุนที่ลงทุนในบริษัทคุณภาพสะท้อนการขยายตัวของเศรษฐกิจ เมื่อรายได้และกำไรบริษัทเพิ่มขึ้น ราคาหุ้นก็มีแนวโน้มสูงขึ้นตาม การลงทุนระยะยาวจึงเปรียบเสมือนการ “ซื้ออนาคตเศรษฐกิจ” ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง


  • สร้างวินัยการออมและการลงทุน
    การลงทุนระยะยาวมักมาพร้อมแนวทางอย่าง DCA (Dollar-Cost Averaging) ที่เน้นการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ สิ่งนี้ช่วยสร้างวินัยทางการเงิน ทำให้นักลงทุนไม่หวั่นไหวไปกับอารมณ์หรือกระแสข่าวระยะสั้น และเดินตามกลยุทธ์ได้อย่างมั่นคง


ลงทุนระยะยาว - EBC


รวม 5 สินทรัพย์ที่เหมาะกับการลงทุนระยะยาว


เมื่อพูดถึงการลงทุนระยะยาว คำถามสำคัญคือควรเลือกสินทรัพย์แบบใดที่จะช่วยให้เงินลงทุนเติบโตอย่างมั่นคงในระยะเวลา 10–30 ปีขึ้นไป สินทรัพย์ที่เหมาะสมต้องมีคุณสมบัติสำคัญคือ ความสามารถในการสร้างผลตอบแทนต่อเนื่อง ความมั่นคงทางมูลค่า และการสะท้อนการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาว


1. หุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ (Blue Chip Stocks)


หุ้นบลูชิพถือเป็นสินทรัพย์หลักที่ตอบโจทย์การลงทุนระยะยาว เพราะบริษัทเหล่านี้มักมีสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง มีส่วนแบ่งตลาดสูง และมีโมเดลธุรกิจที่พิสูจน์แล้วว่าอยู่รอดได้แม้ในช่วงเศรษฐกิจผันผวน นักลงทุนที่ถือหุ้นบลูชิพในระยะยาวมักได้รับผลตอบแทนจากทั้งราคาหุ้นที่เติบโตและเงินปันผลที่สม่ำเสมอ


นอกจากนี้ หุ้นบลูชิพยังสะท้อนการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวม เช่น กลุ่มเทคโนโลยี สินค้าอุปโภคบริโภค และการเงิน การถือหุ้นในระยะยาวจึงเปรียบเสมือนการลงทุนในศักยภาพการเติบโตของประเทศและเศรษฐกิจโลก นักลงทุนรายใหญ่ทั่วโลกมักเลือกหุ้นบลูชิพเป็น “แกนกลาง” ของพอร์ตระยะยาว


2. กองทุนรวมดัชนี (Index Funds)


กองทุนรวมดัชนีได้รับความนิยมสูงเพราะบริหารแบบติดตามดัชนีตลาด เช่น S&P 500 หรือ SET50 โดยตรง จุดเด่นคือมีต้นทุนค่าธรรมเนียมต่ำ และประสิทธิภาพใกล้เคียงตลาดในภาพรวม จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการใช้เวลามากในการเลือกหุ้นแต่ละตัว


ในมุมมองระยะยาว กองทุนดัชนีช่วยกระจายความเสี่ยงโดยอัตโนมัติ เพราะลงทุนในหุ้นหลายสิบหรือหลายร้อยบริษัทพร้อมกัน ทำให้ลดโอกาสขาดทุนจากการล้มเหลวของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง อีกทั้งยังสะท้อนการเติบโตของตลาดโดยรวมซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป


3. พันธบัตรรัฐบาล (Government Bonds)


พันธบัตรรัฐบาลคือสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการสร้างสมดุลในพอร์ตระยะยาว เพราะรัฐบาลมีความน่าเชื่อถือในการชำระหนี้สูงและให้ผลตอบแทนที่แน่นอน แม้ไม่หวือหวา แต่ถือเป็นฐานความมั่นคงของพอร์ตการลงทุน เมื่อมองในระยะยาว พันธบัตรรัฐบาลช่วยป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดหุ้น และยังมีบทบาทสำคัญในช่วงเศรษฐกิจถดถอย การมีสัดส่วนพันธบัตรในพอร์ตช่วยให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่าจะยังคงมีรายได้ดอกเบี้ยสม่ำเสมอแม้ตลาดหุ้นไม่เอื้ออำนวย


4. กองทุนอสังหาริมทรัพย์ (REITs)


REITs หรือกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่เหมาะกับการลงทุนระยะยาวเพราะให้กระแสเงินสดจากค่าเช่าและมีโอกาสเติบโตจากมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต จุดแข็งคือการให้ผลตอบแทนเป็นเงินปันผลสูงกว่าสินทรัพย์บางประเภท


ในระยะยาว REITs มักเคลื่อนไหวตามแนวโน้มเศรษฐกิจและความต้องการใช้พื้นที่ เช่น อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า หรือคลังสินค้า การลงทุนใน REITs ช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงอสังหาริมทรัพย์คุณภาพได้โดยไม่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่เหมือนการซื้ออสังหาริมทรัพย์เอง


5. ทองคำ


ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่มีคุณสมบัติพิเศษในฐานะ “Safe Haven” หรือที่หลบภัยในช่วงเศรษฐกิจผันผวน แม้ไม่ได้สร้างรายได้หรือดอกเบี้ย แต่ทองคำมีมูลค่าที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกและมักปรับตัวขึ้นเมื่อเงินเฟ้อหรือวิกฤติเศรษฐกิจรุนแรง


สินทรัพย์ที่เหมาะกับการลงทุนระยะยาว - EBC


4 เช็กลิสต์สิ่งที่ต้องระวังและเข้าใจในการลงทุนระยะยาว


อย่างไรก็ดี การลงทุนระยะยาวไม่ใช่แค่การถือครองสินทรัพย์ไปเรื่อย ๆ แต่เป็นกลยุทธ์ที่ต้องอาศัยการวางแผน ความเข้าใจในปัจจัยเสี่ยง และวินัยที่เข้มงวด นักลงทุนที่มองข้ามความเสี่ยงใด ๆ อาจสูญเสียโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่แท้จริงได้ ต่อไปนี้จึงเป็นข้อควรระวังและสิ่งที่ต้องเข้าใจในการลงทุนระยะยาว


1. ปรากฏการณ์ Lost Decade


Lost Decade หรือทศวรรษที่หายไป เป็นคำที่ใช้เรียกช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นและเศรษฐกิจของประเทศหนึ่งอยู่ในสภาพ แทบไม่เติบโตเป็นระยะเวลานาน แม้รัฐบาลจะพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยมาตรการต่าง ๆ แต่การฟื้นตัวยังช้าและผลตอบแทนจากการถือครองสินทรัพย์ระยะยาวในช่วงนั้นแทบไม่เกิดขึ้น


ดังนั้นนักลงทุนต้องกระจายพอร์ตและไม่พึ่งพาตลาดเดียว การเลือกหุ้นหรือกองทุนที่มีพื้นฐานมั่นคง และติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมเป็นสิ่งจำเป็น หากละเลย ปัจจัยเชิงโครงสร้างอาจทำให้เงินลงทุนติดลบหรือเติบโตต่ำกว่าที่คาดการณ์ แม้ถือครองหลายปี


2. ภาระภาษีและกฎเกณฑ์การลงทุน


การลงทุนระยะยาวมักได้เปรียบด้านภาษี เช่น ภาษีกำไรจากการขายสินทรัพย์ระยะยาวอาจต่ำกว่าภาษีระยะสั้น แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีภาระ นักลงทุนต้องเข้าใจกฎเกณฑ์ภาษีเฉพาะของสินทรัพย์แต่ละประเภท เช่น หุ้น กองทุนรวม REITs หรือพันธบัตรรัฐบาล


หากวางแผนภาษีไม่รอบคอบ ผลตอบแทนที่ควรได้รับอาจลดลงมาก ตัวอย่างเช่น การขายหุ้นในช่วงที่ตลาดขึ้นสูง แต่ไม่รู้เรื่องกฎ Capital Gains Tax อาจทำให้กำไรที่เห็นจริง ๆ ถูกหักไปเกือบครึ่ง การวางแผนภาษีตั้งแต่เริ่มลงทุนจึงสำคัญไม่แพ้การเลือกสินทรัพย์


3. ความเสี่ยงด้านวินัยและอารมณ์นักลงทุน


กลยุทธ์ระยะยาวจะใช้ไม่ได้หากนักลงทุนปล่อยให้อารมณ์ควบคุมการตัดสินใจ การขายสินทรัพย์เพราะตลาดตก หรือซื้อเพราะกระแสข่าวอาจทำให้เสียโอกาสจากผลตอบแทนทบต้น การยึดตามแผนลงทุน เช่น การทยอยลงทุนแบบ Dollar-Cost Averaging (DCA) ช่วยให้นักลงทุนลดความเสี่ยงจากความผันผวนระยะสั้น


นอกจากนี้ ความอดทนเป็นปัจจัยสำคัญ นักลงทุนต้องพร้อมที่จะถือครองสินทรัพย์แม้เจอวิกฤติ หรือช่วงที่ตลาดไม่ขยับ การละเลยวินัยนี้มักเป็นเหตุให้ผลตอบแทนจริงต่ำกว่าที่ควร และทำให้กลยุทธ์ระยะยาวล้มเหลวได้


4. ผลกระทบจากเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย


เงินเฟ้อสามารถกัดกำลังซื้อของผลตอบแทนระยะยาวได้ นักลงทุนที่ถือครองสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อจะพบว่ากำลังซื้อลดลงแม้เงินจำนวนชื่อจะเติบโต ตัวอย่างเช่น พันธบัตรรัฐบาลระยะยาวที่ให้ผลตอบแทนเพียง 2–3% ต่อปี อาจไม่สามารถชดเชยเงินเฟ้อสูง 5–6% ได้


ด้านอัตราดอกเบี้ย การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางอาจส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นและพันธบัตรในระยะสั้นถึงกลาง นักลงทุนระยะยาวจึงควรเข้าใจบริบทเศรษฐกิจมหภาคและเลือกสินทรัพย์ที่สามารถปรับตัวต่อดอกเบี้ยและเงินเฟ้อได้


lonely-blue-44ls9V31hPc-unsplash (1) (1) (1).jpg


คำถามที่พบบ่อย (FAQs)


Q: การลงทุนระยะยาวต้องใช้เงินเริ่มต้นมากไหม?

A: ไม่จำเป็น หลักการของการลงทุนระยะยาวคือการเริ่มต้นเร็วและสม่ำเสมอ แม้จะเป็นเงินจำนวนไม่มาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปผลตอบแทนทบต้นจะขยายผลการลงทุนออกมาอย่างชัดเจน


Q: ลงทุนระยะยาวควรเลือกสินทรัพย์แบบไหน?

A: สินทรัพย์ที่เหมาะกับการลงทุนระยะยาวคือหุ้นบริษัทใหญ่ กองทุนรวมดัชนี (Index Fund) หรือกองทุนรวมที่มีความมั่นคงและต้นทุนค่าธรรมเนียมต่ำ จุดสำคัญคือเลือกสินทรัพย์ที่มีการเติบโตในระยะยาวและไม่จำเป็นต้องปรับพอร์ตบ่อย


Q: การลงทุนระยะยาวเสี่ยงขาดทุนไหม?

A: มีความเสี่ยง เช่น การเจอช่วง Lost Decade หรือการลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่สามารถเติบโตได้จริง แต่โดยทั่วไปหากกระจายการลงทุนอย่างเหมาะสม และถือครองสินทรัพย์ที่มีคุณภาพ ความเสี่ยงจะลดลงเมื่อเวลายาวขึ้น


สรุป


เมื่อมองภาพรวม การลงทุนระยะยาวเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับนักลงทุนเกือบทุกกลุ่ม เพราะใช้เวลาเป็นเครื่องมือสำคัญในการลดความผันผวนและสร้างผลตอบแทนทบต้น แม้จะไม่การันตีผลลัพธ์ แต่ประวัติศาสตร์ของตลาดการเงินส่วนใหญ่ชี้ว่าผู้ที่ถือครองสินทรัพย์คุณภาพไว้นานมักได้ผลตอบแทนสูงกว่าผู้ที่พยายามจับจังหวะระยะสั้น


จุดเด่นที่ทำให้การลงทุนระยะยาวโดดเด่นคือการทำงานของดอกเบี้ยทบต้น ซึ่งขยายผลตอบแทนอย่างมหาศาลเมื่อเวลาผ่านไป พร้อมกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สะท้อนผ่านผลประกอบการของบริษัทหรือกองทุนที่ลงทุนอยู่ นี่คือเหตุผลว่าทำไมนักลงทุนระดับโลกจึงยึดหลักการลงทุนในระยะยาวเป็นแกนหลัก


อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรเข้าใจข้อจำกัด เช่น ความเป็นไปได้ของ Lost Decade ภาระภาษี และความสำคัญของวินัยส่วนบุคคล การรับรู้ถึงความเสี่ยงเหล่านี้ทำให้การลงทุนระยะยาวไม่ใช่เพียงการ “ถือไว้เฉย ๆ” แต่เป็นการจัดการอย่างมีแบบแผน เพื่อให้เวลาเป็นพลังขับเคลื่อนความมั่งคั่งได้เต็มประสิทธิภาพ


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
แนะนำ วิธีเทรดหุ้น แบบเข้าใจง่าย พร้อมเคล็ดลับการใช้จิตวิทยาในตลาด
รวม 4 กองทุน ETF ปันผลสูงโดดเด่นปี 2025 มีอะไรบ้าง
รู้ให้ลึกกับโบรกเกอร์เทรดทอง ตัวแปรสำคัญที่ห้ามมองข้าม
รวมเคล็ดลับ 7 เทคนิคการเทรด เพิ่มโอกาสกำไรในตลาด Forex
เปิดเทคนิคการเทรดหุ้นระยะสั้น รวมกลยุทธ์เด็ดที่ควรรู้