อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นจะประกาศเมื่อไหร่?

ญี่ปุ่นเตรียมประกาศตัวเลขเงินเฟ้อประจำเดือนกันยายนในเช้าวันพรุ่งนี้ วันที่ 24 ตุลาคม เวลา 8:30 น. ตามเวลามาตรฐานญี่ปุ่น (ตรงกับ 7:30 น. GMT+8 หรือ 23:30 น. GMT ของคืนก่อนหน้า)

นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) จะเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งถือเป็นการเร่งตัวขึ้นครั้งแรกในรอบสี่เดือน ข้อมูลดังกล่าวจะประกาศออกมาเพียงไม่กี่วันก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) วันที่ 29–30 ตุลาคม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตัดสินใจว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่

สำหรับนักเทรดที่ติดตามคู่เงิน USD/JPY ซึ่งปัจจุบันเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 152.40 การประกาศครั้งนี้อาจสร้างความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญ ขึ้นอยู่กับว่าเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าหรือต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

คาดการณ์ดัชนี CPI เดือนกันยายนของญี่ปุ่น: 2.9%

สำนักงานสถิติของญี่ปุ่น (Statistics Bureau) จะประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) อย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดี เวลา 8:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยตัวเลขหลักนี้จะไม่รวมราคาอาหารสด แต่จะรวมต้นทุนพลังงาน เพื่อให้ผู้กำหนดนโยบายและนักลงทุนเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับแรงกดดันด้านราคาในระบบเศรษฐกิจ

การคาดการณ์ที่ 2.9% สำหรับเดือนกันยายน ถือเป็นการกลับมาขยายตัวอีกครั้งหลังจากที่เงินเฟ้อลดลงต่อเนื่องติดต่อกันสามเดือน โดยตัวเลขเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 2.7% ลดลงจาก 3.1% ในเดือนกรกฎาคม แม้จะมีการชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา แต่อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นยังคงอยู่เหนือเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มานานกว่าสามปีติดต่อกัน [1]

นักวิเคราะห์จาก SMBC Nikko Securities ชี้ว่า การเปรียบเทียบกับเดือนกันยายนปีที่แล้วอาจทำให้ภาพดู “บิดเบือน” ไปบ้าง เนื่องจากในช่วงนั้นราคาพลังงานลดลงอย่างมากหลังรัฐบาลประกาศ มาตรการอุดหนุนค่าสาธารณูปโภคและก๊าซ ซึ่งส่งผลให้การเปรียบเทียบแบบปีต่อปีดูแข็งแกร่งเกินจริงเมื่อเทียบกับแรงขับเคลื่อนที่แท้จริงของเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ ต้นทุนอาหารยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันเงินเฟ้อ โดยสะท้อนถึงการที่บริษัทต่าง ๆ ส่งผ่านต้นทุนวัตถุดิบและค่าแรงที่เพิ่มขึ้นไปยังผู้บริโภค ในขณะเดียวกัน อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานระดับลึก (Core-core inflation) ซึ่งตัดทั้งอาหารสดและพลังงานออกจากการคำนวณ อยู่ที่ 3.3% ในเดือนสิงหาคม แสดงให้เห็นถึงแรงกดดันด้านราคาที่ฝังลึกและต่อเนื่องในระบบเศรษฐกิจญี่ปุ่น

การตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ): วันที่ 29–30 ตุลาคม

ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น คาซุโอะ อูเอดะ (Kazuo Ueda) กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เจ้าหน้าที่จะพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่จะมาถึง ปัจจุบันธนาคารกลางญี่ปุ่นคงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานระยะสั้นไว้ที่ 0.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008

ผู้เข้าร่วมตลาดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% (25 จุดเบสิส) ในการประชุมเดือนตุลาคม โดยผลสำรวจของ Reuters ระบุว่า 56% ของนักเศรษฐศาสตร์ เชื่อว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้ และเดือนตุลาคมเป็นช่วงเวลาที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด ในการประชุมเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีกรรมการสองคนลงมติไม่เห็นด้วย และต้องการให้ขึ้นดอกเบี้ยทันที ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไม่พอใจกับท่าทีผ่อนคลายในปัจจุบันของนโยบายการเงิน

ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังเตรียมประกาศการคาดการณ์รายไตรมาสฉบับปรับปรุงใหม่ เกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจและแนวโน้มราคาในช่วงการประชุมเดือนตุลาคม ซึ่งมักมีอิทธิพลอย่างมากต่อทิศทางการตัดสินใจด้านนโยบายดอกเบี้ย เจ้าหน้าที่ BOJ ยังระบุว่า พวกเขาต้องการเห็นการเติบโตของค่าจ้าง ที่สามารถขยายแรงกดดันด้านราคาออกไปจากสินค้าและเข้าสู่ภาคบริการได้มากขึ้น [2]

ขณะเดียวกัน ข้อมูลเงินเฟ้อของกรุงโตเกียวในเดือนกันยายน ซึ่งมักถูกใช้เป็นตัวชี้นำล่วงหน้า แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 2.5% เท่ากับเดือนสิงหาคม แต่ต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ 2.8% ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยว่าข้อมูลระดับประเทศอาจออกมาต่ำกว่าที่คาดเช่นกัน

แนวโน้มราคา USD/JPY

USD/JPY ซื้อขายอยู่ที่ 152.38 เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม เพิ่มขึ้น 0.25% จากวันก่อนหน้า ตลอดเดือนที่ผ่านมา เงินเยนอ่อนค่าลง 2.46% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ขณะนี้ราคาคู่เงินเข้าใกล้ระดับที่ในอดีตมักกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นออกมา “แทรกแซงด้วยวาจา” เพื่อชะลอการอ่อนค่าของเยน

ตลอดช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีหลายปัจจัยที่กดดันให้เงินเยนอ่อนค่าลง โดยเฉพาะช่องว่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ที่ยังคงกว้าง ทำให้สินทรัพย์ที่อ้างอิงสกุลดอลลาร์ดูน่าดึงดูดมากกว่า

นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนทางการเมืองหลังการเลือกตั้งล่าสุด ก็ยังกระทบต่อค่าเงิน โดยรัฐบาลของ นายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทากาอิจิ (Sanae Takaichi) กำลังเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่เพื่อลดแรงกดดันจากเงินเฟ้อ ซึ่งนักเทรดมองว่าอาจทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป

3 สถานการณ์การเทรด USD/JPY สำหรับดัชนี CPI ของญี่ปุ่น

การประกาศข้อมูล CPI ของญี่ปุ่นในวันพรุ่งนี้อาจนำไปสู่ 3 สถานการณ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งแต่ละแบบจะส่งผลต่อทิศทางและการวางตำแหน่งของค่าเงินต่างกันออกไป

หาก CPI พื้นฐานออกมาตามที่คาดไว้ที่ 2.9% มีแนวโน้มว่า USD/JPY จะเคลื่อนไหวทรงตัวใกล้ระดับปัจจุบัน เนื่องจากตลาดจะใช้เวลาย่อยข้อมูลและรอดูท่าทีจาก BOJ แต่หากตัวเลขออกมาเกิน 3.0% จะเพิ่มแรงกดดันให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นต้องดำเนินการเชิงนโยบายทันที ซึ่งอาจทำให้คู่เงินร่วงต่ำกว่า 152 ในทางกลับกัน หากเงินเฟ้อต่ำกว่า 2.7% อาจทำให้แผนการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ BOJ ซับซ้อนขึ้น และผลักให้ USD/JPY พุ่งขึ้นสู่ระดับ 153 หรือสูงกว่า

การวิเคราะห์ทางเทคนิค USD/JPY: แนวรับและแนวต้าน

ในมุมมองทางเทคนิค USD/JPY ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นในกรอบระยะยาว โดยเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (SMA) 50 สัปดาห์ ยังคงทำหน้าที่เป็นแนวรับสำคัญบริเวณ 148.50

ข้อสังเกตทางเทคนิคที่สำคัญ ได้แก่:

• ตัวชี้วัดโมเมนตัม (Momentum Indicators): ให้สัญญาณผสม บ่งชี้แรงซื้อเริ่มชะลอใกล้ระดับแนวต้านเดิม

• ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่: ราคายังคงเคลื่อนไหวเหนือเส้น EMA 20 และ 50 วัน ยืนยันแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น

• รูปแบบปริมาณการซื้อขาย (Volume Patterns): สะท้อนถึงความระมัดระวังของผู้เล่นรายใหญ่ก่อนการประกาศข้อมูลสำคัญ

• ความสัมพันธ์กับคู่เงินเยนอื่น (JPY Cross Correlation): คู่เงิน EUR/JPY และ GBP/JPY มีความสัมพันธ์สูงถึง 80–85% ควรจับตาสัญญาณยืนยันร่วม

นอกจากนี้ ตลาดออปชันยังพบว่า มีความสนใจหนาแน่นในสัญญาระดับราคา 150 และ 155 สำหรับการหมดอายุเดือนพฤศจิกายน ซึ่งสะท้อนมุมมองของนักเทรดมืออาชีพว่าคู่เงินนี้น่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบดังกล่าวในระยะสั้น

วิธีการเทรดตามผลประกาศดัชนี CPI ของญี่ปุ่น

โดยทั่วไป ความผันผวนของตลาดจะพุ่งสูงขึ้นในช่วงที่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ และการประกาศ CPI ของญี่ปุ่นในวันพรุ่งนี้ ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ระดับ Tier-1 สำหรับคู่เงินที่เกี่ยวข้องกับเยน ต่อไปนี้คือกลยุทธ์ที่ควรพิจารณา:

• เวลา: จับตาช่วงเวลา 8:25–8:35 น. (เวลาญี่ปุ่น) ซึ่งมักเกิดการขยายตัวของสเปรด ราคามักเคลื่อนไหวแรงในช่วงแรกและอาจกลับทิศภายใน 5–10 นาที หลังอัลกอริทึมวิเคราะห์ข้อมูลครบถ้วน

• การกำหนดขนาดตำแหน่ง: ลดขนาดโพสิชันลงประมาณ 30–50% ก่อนการประกาศ เพื่อจำกัดความเสี่ยงจากความผันผวนข้ามคืน

• การวางจุดหยุด: ตั้ง Stop Loss ห่างจากจุดเข้าอย่างน้อย 40–50 pips เพื่อรองรับความผันผวน หากตั้งใกล้เกินไปอาจถูกตัดขาดทุนก่อนเวลาอันควร

• การยืนยันคู่เงินอื่น: ตรวจสอบคู่เงิน EUR/JPY และ GBP/JPY เพื่อยืนยันแนวโน้มก่อนเพิ่มโพสิชัน

• การรับรู้ตามช่วงตลาด: ตลาดเอเชียจะเป็นผู้นำการเคลื่อนไหวในช่วงแรก ก่อนที่นักเทรดฝั่งยุโรปจะเข้ามาในอีก 2–3 ชั่วโมงหลังการประกาศ

ช่วงเวลานี้ทำให้ดีลเลอร์ในโตเกียวและซิดนีย์เป็นกลุ่มแรกที่ตอบสนองต่อข่าว โดยสภาพคล่องหลักจะอยู่ในเซสชันเอเชีย

บทสรุป

การประกาศเงินเฟ้อของญี่ปุ่นในวันพรุ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเทรดเดอร์คู่เงิน USD/JPY เนื่องจากค่าประมาณ 2.9% ที่ตลาดคาดไว้ อยู่ในจุดกึ่งกลางระหว่าง “การสนับสนุนให้ BOJ ขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง” กับ “การชะลอการตัดสินใจ” แม้ความต่างเพียงเล็กน้อยจากที่คาดก็อาจกระตุ้นการเคลื่อนไหวของค่าเงินครั้งใหญ่ ได้ เพราะตลาดอยู่ในจุดที่อ่อนไหวสูงต่อข่าวเศรษฐกิจ

ด้วยระดับราคาที่ USD/JPY เคลื่อนไหวใกล้ 152.40 และการประชุม BOJ วันที่ 29–30 ตุลาคม ที่กำลังจะมาถึง ทั้งปัจจัยทางเทคนิคและพื้นฐานจึงสอดประสานกันเพื่อสร้างจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาด  ข้อมูลเงินเฟ้อเดือนกันยายนนี้จะเป็นตัวชี้ชะตาว่า ตลาดจะยังคงคาดหวังการขึ้นดอกเบี้ยของ BOJ ต่อไป หรือจะต้องปรับมุมมองใหม่ต่อเส้นทางนโยบายดอกเบี้ยในอนาคต[3]

ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็น (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

แหล่งที่มา

[1] https://mainichi.jp/english/articles/20250919/p2g/00m/0bu/007000c

[2] https://www.reuters.com/markets/asia/core-inflation-japans-capital-holds-steady-september-2025-09-25/

[3] https://www.channelnewsasia.com/business/แนวโน้ม อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นอีกครั้งในเดือนกันยายน-รอยเตอร์ส-โพล-5408481