ราคาทองคำร่วงลง ขณะที่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์คลี่คลายลง และข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ออกมา

2025-08-11
สรุป

ราคาทองคำร่วงลง เนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่คลี่คลายลง และข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ที่กำลังจะออกมา ส่งผลต่อความรู้สึกของนักลงทุนและทิศทางของตลาด

ราคาทองคำอยู่ในช่วงผันผวนเมื่อเร็วๆ นี้ โดยความเชื่อมั่นของตลาดผันผวนระหว่างความระมัดระวังและความหวัง เมื่อวันจันทร์ (11 สิงหาคม) ราคาทองคำสปอตปรับตัวลดลงอย่างมาก เนื่องจากนักลงทุนหันไปให้ความสนใจกับการเจรจาระหว่างสหรัฐอเมริกาและรัสเซียเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครนที่กำลังจะมาถึง รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ที่กำลังจะเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ ทั้งสองเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ไม่เพียงแต่ต่อภูมิทัศน์ทางภูมิรัฐศาสตร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลต่อแนวโน้มราคาทองคำในอนาคต


การผ่อนคลายทางภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ราคาทองคำลดลง

Gold Price Today

ราคาทองคำสปอตอ่อนตัวลงในวันจันทร์ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนที่ 3.363.99 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 14.34 น. ของวันนี้ ลดลงเกือบ 1% แม้ว่าราคาจะขึ้นไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ตาม การปรับตัวลดลงส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ลดลง ซึ่งส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยสำหรับโลหะมีค่าลดลง ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างรวดเร็วยิ่งกว่า โดยลดลงเกือบ 2% มาอยู่ที่ 3.422.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์


แมตต์ ซิมป์สัน นักวิเคราะห์อาวุโสของ City Index กล่าวว่าความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่คลี่คลายลงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำร่วงลง


เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศแผนการที่จะพบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ที่อลาสกา ในวันที่ 15 สิงหาคม เพื่อหารือเกี่ยวกับการยุติความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน นับตั้งแต่สงครามปะทุขึ้น วิกฤตการณ์ดังกล่าวเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย โอกาสของการเจรจาที่สร้างสรรค์ได้ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาด ส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนลดการถือครองทองคำลงและรอดูสถานการณ์


ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่น่าสนใจ

US Annual Inflation Rate from 1970 to 2025

นอกจากภูมิรัฐศาสตร์แล้ว ทุกสายตากำลังจับจ้องไปที่ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ประจำเดือนกรกฎาคม ซึ่งมีกำหนดจะเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) จะเพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนก่อนหน้า และ 3.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากผลกระทบของนโยบายภาษีศุลกากร แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะยังคงสูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ของธนาคารกลางสหรัฐฯ แต่ก็อาจเป็นแนวทางสำคัญสำหรับนโยบายการเงินในอนาคต


ตามที่ซิมป์สันกล่าว ตัวเลขดัชนี CPI ที่แข็งแกร่งเกินคาดอาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำได้รับแรงกดดันให้ลดลงเพิ่มเติม

US Employment Data

ข้อมูลการจ้างงานล่าสุดของสหรัฐฯ ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ราคาตลาดในขณะนี้บ่งชี้ว่ามีโอกาส 90% ที่นโยบายการเงินจะผ่อนคลายลงในเดือนหน้า และคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยหนึ่งครั้งภายในสิ้นปี 2568 โดยทั่วไปแล้ว การลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยสนับสนุนราคาทองคำ เนื่องจากช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสของการถือครองสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นอาจยังจำกัดศักยภาพในการปรับตัวขึ้น


การเจรจาการค้าและการวางตำแหน่งเชิงเก็งกำไร


ความไม่แน่นอนกำลังก่อตัวขึ้นในช่วงใกล้ถึงเส้นตายการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ทรัมป์ได้กำหนดวันที่ 12 สิงหาคมเป็นวันเป้าหมายสำหรับข้อตกลง ซึ่งทำให้นักลงทุนยังคงกังวล ความตึงเครียดทางการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นอาจกระตุ้นความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยและหนุนราคาทองคำ ขณะที่ข้อตกลงที่ประสบความสำเร็จอาจบั่นทอนความน่าดึงดูดใจของทองคำ


ข้อมูลของ CFTC แสดงให้เห็นว่าในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 สิงหาคม สถานะซื้อสุทธิในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 18.965 สัญญา ทำให้ยอดรวมอยู่ที่ 161.811 สัญญา บ่งชี้ว่าแม้จะมีการย่อตัวลงเมื่อเร็วๆ นี้ แต่ความเชื่อมั่นในการเก็งกำไรต่อทองคำยังคงเป็นไปในเชิงบวก ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลง


นักลงทุนควรดำเนินกลยุทธ์อย่างไรในตลาดปัจจุบัน?


ขณะนี้ตลาดทองคำกำลังเผชิญกับอิทธิพลที่ซับซ้อนหลากหลาย แม้ว่าความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ผ่อนคลายลงอาจลดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่กำลังจะออกมาและการตัดสินใจด้านนโยบายของเฟดอาจนำมาซึ่งความผันผวนครั้งใหม่


ในระยะสั้น นักลงทุนควรติดตามความคืบหน้าของการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-รัสเซียและตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่แข็งแกร่งอาจยิ่งหนุนค่าเงินดอลลาร์และกดดันราคาทองคำ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงหรือความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กลับมาอีกครั้งอาจทำให้ทองคำกลับมาโดดเด่นอีกครั้ง


จากมุมมองระยะยาว ความคาดหวังต่อการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดและความไม่แน่นอนของโลกที่ยืดเยื้ออาจเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ ซิมป์สันแนะนำว่า การซื้อเมื่อราคาปรับตัวลดลงยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ใช้งานได้จริง แต่นักลงทุนควรเฝ้าระวังความผันผวนของตลาดในระยะสั้น พอร์ตการลงทุนที่กระจายความเสี่ยง การให้ความสนใจกับข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างใกล้ชิด และวิธีการลงทุนที่ยืดหยุ่น จะเป็นกุญแจสำคัญในการรับมือกับสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอนนี้


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

เงินเยนไม่หวั่นแม้มีการปรับลดประมาณการการเติบโต

เงินเยนไม่หวั่นแม้มีการปรับลดประมาณการการเติบโต

เงินเยนแข็งค่าขึ้นในวันจันทร์ เนื่องจากตลาดรอรายงานอัตราเงินเฟ้อในวันอังคาร และมุ่งเน้นไปที่การเจรจาการค้าระหว่างวอชิงตันและปักกิ่งก่อนถึงกำหนดเวลาที่กำหนดไว้

2025-08-11
ราคาทองคำอาจทรงตัวในช่วงเวลานี้

ราคาทองคำอาจทรงตัวในช่วงเวลานี้

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังจากปรับฐานลง โดยราคาทองคำทะลุ 3,400 ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องด้วยความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและนโยบายภาษีศุลกากร

2025-08-11
ข้อตกลง Nvidia AMD ในจีนจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ได้หรือไม่?

ข้อตกลง Nvidia AMD ในจีนจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ได้หรือไม่?

ข้อตกลงชิป Nvidia และ AMD กับจีน แม้เพิ่มความเสี่ยงด้านภาษีและกำไร แต่ช่วยฟื้นตลาดสำคัญ อาจเปลี่ยนดุลอำนาจเทคโนโลยีสหรัฐฯท่ามกลางศึกการค้า

2025-08-11