简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

เงินเยนไม่หวั่นแม้มีการปรับลดประมาณการการเติบโต

2025-08-11

เงินเยนแข็งค่าขึ้นในวันจันทร์ ขณะที่ตลาดรอคอยรายงานตัวเลขเงินเฟ้อที่สำคัญในวันอังคาร และจับตาการพัฒนาการเจรจาทางการค้าระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่งก่อนถึงกำหนดเวลา

ถนนคนเดินในญี่ปุ่น

เมื่อวันพฤหัสบดี รัฐบาลญี่ปุ่นปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในปีงบประมาณนี้ลงเหลือ 0.7% จาก 1.2% เนื่องจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ทำให้การใช้จ่ายด้านทุนชะลอตัวลง และภาวะเงินเฟ้อที่ต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อการบริโภคภาคเอกชน


โตเกียวยังคงคาดการณ์ว่าจะสามารถส่งมอบงบประมาณเกินดุลหลักในปีงบประมาณ 2026 ได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี โดยคาดว่าจะมีงบประมาณเกินดุลที่มากขึ้นถึง 3.6 ล้านล้านเยน เนื่องจากรายได้จากภาษีที่เพิ่มขึ้น


อย่างไรก็ตาม มีความกังวลเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษีและการแจกเงินสดที่รัฐบาลกำลังพิจารณา ท่ามกลางแรงกดดันจากฝ่ายค้านที่เรียกร้องให้มีการใช้จ่ายที่เข้มข้นขึ้นเพื่อลดภาระค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น


Financial Times รายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า ผู้ผลิตชิปอย่าง Nvidia และ AMD ได้ตกลงที่จะจัดสรรรายได้ 15% จากยอดขายในจีนให้กับรัฐบาลกลางเพื่อแลกกับใบอนุญาตส่งออก


ข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ภาษีของทรัมป์ยังคงส่งผลสะเทือนต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งเน้นย้ำถึงความเต็มใจของทำเนียบขาวที่จะแยกข้อยกเว้นออกมาเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการต่อรอง

USDJPY

เงินเยนดูเหมือนจะมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นอีก หลังจากที่การลดค่าของเงินเยนถูกจำกัดไว้ที่ประมาณ 150 เยนต่อดอลลาร์ ในระยะสั้น คาดว่าอาจแตะระดับ 147.3 เยนต่อดอลลาร์


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
ดอลลาร์ถูกตีความต่างจากหุ้นสหรัฐฯ
ตลาดหุ้น 6 ในเดือนข้างหน้า เติบโตหรือถดถอย?
ลงทุนเงินอย่างไรให้ได้ผลตอบแทนดี 10 ไอเดียพิสูจน์แล้ว
หุ้น Kenvue ร่วงหลังคำกล่าวเรื่องออทิสติกของทรัมป์: ควรซื้อหรือหลีกเลี่ยง?
USD/INR ร่วงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ดอลลาร์ทั่วโลกจะอ่อนค่าลง