เผยแพร่เมื่อ: 2025-05-08 อัปเดตเมื่อ: 2025-10-20
ภายในปี 2030 เรื่องราวของ “Dollar to Peso” อาจกลายเป็นปัจจัยชี้ชะตาว่าประเทศตลาดเกิดใหม่จะรับมือกับอำนาจทางการเงินของสหรัฐฯ อย่างไร ตั้งแต่เปโซของเม็กซิโกที่คงเสถียร ไปจนถึงเงินเฟ้อที่พุ่งไม่หยุดของอาร์เจนตินา แต่ละประเทศต่างมีเรื่องราวเฉพาะของตนเองเกี่ยวกับ “ความยืดหยุ่น” หรือ “ความยากลำบาก”
การคาดการณ์ค่าเงินดอลลาร์ต่อเปโซกำลังกลายเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราที่ต้องจับตามองจนถึงปี 2030
โดยในขณะที่เงินเปโซเม็กซิโกยังคงแข็งแกร่ง เงินเปโซฟิลิปปินส์ ค่อย ๆ อ่อนค่า และเงินเปโซอาร์เจนตินากำลังร่วงอย่างรวดเร็ว เส้นทางของแต่ละประเทศสะท้อน “ความเป็นจริงทางเศรษฐกิจ” ของตนเองอย่างชัดเจน
การทำความเข้าใจว่า “อัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ และกระแสเงินทุน” เป็นตัวขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อย่างไร ถือเป็นสิ่งสำคัญต่อทั้งเทรดเดอร์ นักลงทุน และธุรกิจระดับโลก

USD/MXN (ดอลลาร์ต่อเปโซเม็กซิโก) อยู่ที่ประมาณ 18.4580 เปโซต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากช่วงก่อนหน้า
USD/PHP (ดอลลาร์ต่อเปโซฟิลิปปินส์) ซื้อขายใกล้ระดับ ₱58.21 ต่อดอลลาร์ สะท้อนการอ่อนค่าปานกลางในปี 2025
USD/ARS (ดอลลาร์ต่อเปโซอาร์เจนตินา) อ่อนค่ามากและผันผวน ซื้อขายราว ₱1,348.5 ต่อดอลลาร์ ท่ามกลางแรงกดดันจากเงินเฟ้อสูงและการไหลออกของเงินทุน
การคาดการณ์ล่าสุดสำหรับ USD/MXN บ่งชี้ว่าอาจแตะระดับ 19.35 ภายในปี 2030 ส่วน USD/ARS จากแบบจำลองระยะยาว (เช่น Gov.Capital) คาดว่าจะอ่อนค่ามาก อาจแตะถึง ประมาณ 14,082 เปโซอาร์เจนตินาต่อดอลลาร์ ภายในกลางปี 2030
ตารางด้านล่างแสดงการคาดการณ์ปี 2030 สำหรับสามประเทศที่ใช้สกุลเงินเปโซ โดยข้อมูลคาดการณ์จะมีการอัปเดตเป็นระยะ ตามการปรับนโยบายของธนาคารกลางและการเปลี่ยนแปลงของสภาพคล่องทั่วโลก
| ปี | USD / MXN (เม็กซิโก) | USD / PHP (ฟิลิปปินส์) | USD / ARS (อาร์เจนตินา) |
| 2025 | ~18.5 → 19.5 | ~₱58.2 → ₱60 | ~₱1,350 – ₱2,000 |
| 2026 | 19.5 – 20.5 | ₱60 – ₱62 | ~₱2,000 – ₱3,000 |
| 2027 | 19.0 – 20.5 | ₱62 – ₱65 | ~₱3,000 – ₱5,000 |
| 2028-2030 | ~19 – 21 | ₱65 – ₱70+ | ~₱10,000 – ₱14,000 |
หมายเหตุ: การคาดการณ์เหล่านี้อ้างอิงจากแบบจำลองและการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและนโยบายการเงินของแต่ละประเทศ ข้อมูลดังกล่าวควรใช้เป็น “แนวโน้มทิศทาง” มากกว่าค่าที่แน่นอน โดยเฉพาะสำหรับเปโซฟิลิปปินส์ซึ่งแนวโน้มระยะยาวยังคงมีโอกาสอ่อนค่าต่อ หากอัตราเงินเฟ้อและนโยบายการเงินไม่สอดคล้องกัน
อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราเปลี่ยนแปลงได้จากหลายสาเหตุ ทั้งด้านการเงินและด้านจิตวิทยาของตลาด
อุปสงค์และอุปทาน: เมื่อมีความต้องการถือครองสกุลเงินมาก ค่าเงินจะปรับตัวสูงขึ้น แต่หากความต้องการลดลง มูลค่าก็จะร่วงลงตาม
อัตราดอกเบี้ย: เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันความต้องการเงินตรา อัตราดอกเบี้ยที่สูงจะดึงดูดนักลงทุนและช่วยให้ค่าเงินแข็งขึ้น ขณะที่ดอกเบี้ยต่ำมักทำให้นักลงทุนถอนเงินออก
เงินเฟ้อ: ค่อย ๆ กัดกร่อนกำลังซื้อของเงิน ประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อสูงกว่ามักเห็นค่าเงินของตนเองอ่อนลง
การค้าระหว่างประเทศ: ประเทศที่มีการส่งออกมากจะได้รับเงินตราต่างประเทศเข้ามา ทำให้ค่าเงินแข็งแรง ส่วนประเทศที่พึ่งพาการนำเข้ามากมักเผชิญแรงกดดันให้ค่าเงินอ่อน
หนี้สาธารณะ การเมือง และความเชื่อมั่นของนักลงทุน: ตลาดมักให้รางวัลแก่ประเทศที่มีนโยบายมั่นคง โปร่งใส แต่จะลงโทษประเทศที่มีความวุ่นวายทางการเมืองหรือใช้จ่ายเกินตัว
ภาวะตลาดโลก: เมื่อเกิดความตึงเครียดหรือตลาดมีความไม่แน่นอน นักลงทุนมักหนีไปหาสกุลเงิน “ปลอดภัย” เช่น ดอลลาร์สหรัฐ แต่เมื่อสถานการณ์สงบลง เงินทุนก็จะไหลกลับเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่อีกครั้ง

ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อเงินเปโซทั้งสามประเทศ
การทำความเข้าใจกลไกของเงินเปโซ จำเป็นต้องมองว่าแต่ละประเทศจัดการกับ อัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ และความเชื่อมั่นในความเสี่ยง (risk sentiment) อย่างไร
ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยและแรงดึงดูดจากผลตอบแทน
หากอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ยังคงสูงกว่าในประเทศเหล่านี้ เงินทุนจะไหลเข้าสู่ดอลลาร์สหรัฐ เม็กซิโกได้เริ่มลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว ทำให้ส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยแคบลง
เงินเฟ้อและผลตอบแทนที่แท้จริง
ประเทศที่ควบคุมเงินเฟ้อได้ดีกว่ามักต้านการอ่อนค่าของเงินได้มากกว่า เม็กซิโกมีเงินเฟ้ออยู่ที่ประมาณ 3.7% ซึ่งยังอยู่ในระดับจัดการได้ ขณะที่อาร์เจนตินามีเงินเฟ้อพุ่งไม่หยุด จนบั่นทอนความเชื่อมั่นในสกุลเงิน
กระแสเงินทุนและดุลการค้าภายนอก
การค้า การลงทุนจากต่างประเทศ และเงินโอนกลับจากแรงงานต่างประเทศ (remittances) มีผลสำคัญ เม็กซิโกพึ่งพาความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหรัฐฯ อย่างลึกซึ้ง ส่วนฟิลิปปินส์พึ่งรายได้จากแรงงานในต่างประเทศ ในขณะที่อาร์เจนตินามักประสบปัญหาการไหลออกของเงินทุนเมื่อเกิดแรงกดดันทางเศรษฐกิจ
ความเสี่ยงทางการเมืองและนโยบาย
การเลือกตั้ง การขาดดุลงบประมาณ และการปฏิรูปค่าเงินมักทำให้เกิดความผันผวนอย่างฉับพลัน ตัวอย่างเช่น ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบแถบ (trading band) ใหม่ของอาร์เจนตินาอาจช่วยจำกัดความผันผวนสุดขั้วได้บางส่วน
บรรยากาศความเสี่ยงทั่วโลก
เมื่อเกิดความไม่แน่นอนในตลาดโลก ดอลลาร์สหรัฐมักแข็งค่า ขณะที่ค่าเงินเปโซ โดยเฉพาะของอาร์เจนตินา มักร่วงลงอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อความเชื่อมั่นในตลาดกลับมา เงินเปโซของประเทศตลาดเกิดใหม่ก็มักฟื้นตัว
เมื่อพิจารณาปัจจัยเหล่านี้แล้ว การคาดการณ์ค่าเงินดอลลาร์เทียบเปโซในแต่ละประเทศมีแนวโน้มดังนี้:
เม็กซิโก (USD/MXN)
คาดว่าดอลลาร์จะปรับขึ้นเล็กน้อยเมื่อถึงปี 2030 เนื่องจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยแคบลงและการเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัว แม้เงินเฟ้อของเม็กซิโกอยู่ในระดับมั่นคง แต่หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่งหรือเฟดชะลอการลดดอกเบี้ย ค่าเงินดอลลาร์อาจขึ้นไปแตะระดับ 19–20 เปโซต่อดอลลาร์ ในระยะกลาง
ฟิลิปปินส์ (USD/PHP)
ดอลลาร์อาจยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง หากเงินเฟ้อในฟิลิปปินส์ยังสูงเกินเป้าหมาย หรือธนาคารกลางผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน คาดว่า USD/PHP จะเคลื่อนไหวในช่วงสูงปลาย 50 ถึงต้น 60 เนื่องจากสหรัฐฯ ยังคงได้เปรียบด้านอัตราดอกเบี้ย และแรงกดดันจากการค้าที่ยังไม่คลาย
อาร์เจนตินา (USD/ARS)
ดอลลาร์ยังคงพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในอาร์เจนตินา เพราะเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางนโยบายบั่นทอนความเชื่อมั่น แม้จะมีการปฏิรูปบางส่วน แต่ USD/ARS อาจทะยานเกินกว่า ₱10,000 ต่อดอลลาร์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งสะท้อนถึง “จุดอ่อนเชิงโครงสร้าง” มากกว่าความผันผวนระยะสั้น
ในแนวโน้มการคาดการณ์ “ดอลลาร์ต่อเปโซ” ปัจจุบัน ความเสี่ยงมีแนวโน้มไปทางดอลลาร์ที่อ่อนลง หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัว หรือเฟดลดดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ในทางกลับกัน หาก เม็กซิโกหรือฟิลิปปินส์ สามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ดีหรือมีนโยบายการคลังที่แข็งแรง ค่าเงินเปโซของพวกเขาอาจแข็งค่าขึ้น
แต่อาร์เจนตินายังคงเผชิญความเสี่ยงจาก “ช็อกนโยบาย” หรือ “การควบคุมค่าเงิน” ที่อาจทำให้ค่าเงินสูญเสียมูลค่าได้อย่างรวดเร็ว
ขณะที่ “ขาขึ้น” ของดอลลาร์ยังคงเป็นไปได้ หากอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกยังสูง เงินเฟ้อในประเทศเกิดใหม่เพิ่มขึ้น หรือหากตลาดโลกกลับเข้าสู่โหมด “หลบภัย” โดยเทเงินกลับเข้าสู่สินทรัพย์ของสหรัฐฯ

สำหรับเทรดเดอร์ การคาดการณ์ค่าเงิน Dollar to Peso ถือเป็นทั้ง “โอกาส” และ “คำเตือน” ไปพร้อมกัน คู่เงินอย่าง USD/MXN และ USD/PHP มักตอบสนองอย่างรุนแรงต่อการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศการลงทุนทั่วโลก จึงกลายเป็นจุดเข้าเทรดที่เหมาะสำหรับการวางกลยุทธ์เชิงแทคติก (tactical positioning)
เมื่ออัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับสูง เทรดเดอร์มักเลือกถือสถานะซื้อดอลลาร์ (Long USD) เมื่อเทียบกับสกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ แต่หากอัตราเงินเฟ้อลดลง หรือความเชื่อมั่นในความเสี่ยงกลับมา (risk appetite returns) ค่าเงินเปโซก็สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น การจับตาสัญญาณจากธนาคารกลางถือเป็นกุญแจสำคัญ เพราะช่องว่างของอัตราดอกเบี้ยมักเป็นตัวกำหนดทิศทางหลักของตลาด
สภาพคล่องของตลาดก็มีความสำคัญเช่นกัน เงินเปโซเม็กซิโกเป็นสกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดในภูมิภาคลาตินอเมริกา เหมาะสำหรับการเทรดแบบรายวัน (intraday trading) ขณะที่เงินเปโซฟิลิปปินส์มีการซื้อขายน้อยกว่า และมักตอบสนองต่อข่าวเศรษฐกิจมหภาคมากกว่าการเคลื่อนไหวทางเทคนิค
สำหรับ เงินเปโซอาร์เจนตินา โบรกเกอร์ Forex ส่วนใหญ่มักจำกัดการเข้าถึง เนื่องจากมีการควบคุมเงินทุนและความผันผวนสูง เทรดเดอร์จึงมักใช้วิธีลงทุนทางอ้อม เช่น ผ่านตราสารอนุพันธ์ (synthetic exposure) หรือกองทุน ETF แทน การติดตามรายงานเงินเฟ้อ ราคาน้ำมัน และข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถคาดการณ์ “จุดแรงกดดันของตลาด” ได้ก่อนที่คนอื่นจะตอบสนอง
หลักการสำคัญมีเพียงข้อเดียว: ความผันผวนของคู่เงิน Dollar to Peso ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ มันสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของนโยบายเศรษฐกิจ วัฏจักรของอัตราดอกเบี้ย และอารมณ์ของนักลงทุน เทรดเดอร์ที่สามารถอ่านสัญญาณเหล่านี้ได้ก่อน ย่อมมีโอกาสทำกำไรจากความเคลื่อนไหวที่คนอื่นเพิ่งจะเห็นในภายหลัง
จังหวะเวลาสำคัญกว่าการคาดเดา โดบผู้นำเข้า (Importers) ควรป้องกันความเสี่ยง (hedge) ล่วงหน้า นักลงทุนต้องคำนึงถึงผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของค่าเงิน
ส่วนผู้ส่งออกและแรงงานต่างประเทศจะได้ประโยชน์เมื่อดอลลาร์แข็งค่า แต่หากเลือก “เวลาการแลกเปลี่ยนเงิน” ได้อย่างชาญฉลาด ก็สามารถเพิ่มรายได้สุทธิได้มากยิ่งขึ้น
1. ดอลลาร์สหรัฐฯ จะยังคงแข็งค่าต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเงินเปโซเม็กซิโกหรือไม่?
มีโอกาสที่ดอลลาร์จะปรับขึ้นเล็กน้อย หากเม็กซิโกลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าสหรัฐฯ หรือหากนักลงทุนทั่วโลกกลับมาถือครองสินทรัพย์สกุลดอลลาร์อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อที่คงที่ของเม็กซิโกจะช่วยจำกัดความผันผวนรุนแรงไม่ให้เกิดขึ้นง่าย
2. ทำไมเงินเปโซฟิลิปปินส์จึงอ่อนค่าลง?
สาเหตุหลักมาจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น และแรงกดดันจากเงินเฟ้อภายในประเทศ เงินเปโซอาจยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับ ₱60 ต่อดอลลาร์ เว้นแต่ว่าธนาคารกลางฟิลิปปินส์จะกลับมาปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง
3. เงินเปโซอาร์เจนตินามีแนวโน้มจะทรงตัวในเร็ว ๆ นี้หรือไม่?
มีความเป็นไปได้น้อยในระยะสั้น เนื่องจากเงินเฟ้อที่ยังสูงและความเสี่ยงทางการคลังที่ต่อเนื่อง ทำให้ USD/ARS มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอาจทะลุระดับ ₱10,000 ต่อดอลลาร์ภายในปี 2030
4. วิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินเปโซคืออะไร?
การใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Forward Contracts) และออปชัน (Options) ยังคงเป็นวิธีที่ตรงที่สุด นอกจากนี้ การลงทุนผ่านกองทุน ETF ค่าเงิน (Currency ETFs) หรือการกระจายพอร์ตระหว่าง MXN และ PHP ก็สามารถช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนได้เช่นกัน
การคาดการณ์ค่าเงิน Dollar to Peso จนถึงปี 2030 ได้สะท้อนเรื่องราวที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน 3 แบบ โดยเม็กซิโกที่ค่าเงินค่อย ๆ แข็งขึ้นอย่างมั่นคง ในขณะที่ฟิลิปปินส์ที่ค่าเงินอ่อนตัวลงอย่างช้า ๆ และอาร์เจนตินา ที่ค่าเงินยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง
เส้นทางเหล่านี้สะท้อน “พลังลึกทางเศรษฐกิจ” เช่น อัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ และความเชื่อมั่นของนักลงทุน ไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์รายวันหรือผู้ลงทุนระยะยาว การอ่านสัญญาณเบื้องหลังการเคลื่อนไหวของตลาดให้เข้าใจ จะมีผลต่อผลลัพธ์ของคุณมากกว่าการพยายามทำนายตัวเลขอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ