เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-05
Cloudflare เปลี่ยนจากหุ้นขวัญใจตลาดกลายเป็นแม่เหล็กดึงความผันผวนในเวลาไม่กี่สัปดาห์ หลังจากพุ่งขึ้นไปแตะช่วงปลายระดับ 200 ดอลลาร์จากผลประกอบการไตรมาสสามที่แข็งแกร่ง ราคาหุ้นตอนนี้กลับร่วงลงมาห่างจากจุดสูงสุดล่าสุดอย่างมาก เนื่องจากนักเทรดปรับราคาให้สะท้อนเหตุระบบล่มครั้งใหญ่เป็นครั้งที่สองภายในไม่ถึงหนึ่งเดือน
สำหรับนักเทรด เรื่องนี้ไม่ใช่เพียงประเด็นการเติบโตอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของความเสถียร ความคุ้มค่าของราคา และการประเมินว่าการปรับฐานครั้งนี้เป็นเพียงการรีเซ็ตที่ดีต่อสุขภาพตลาด หรือเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการถูกปรับมูลค่าลงในระดับลึกกว่าเดิม

ณ ช่วงปิดตลาดสหรัฐฯ วันที่ 4 ธันวาคม หุ้น Cloudflare (NYSE: NET) ปิดที่ประมาณ $204.15
ข้อมูลราคาช่วงก่อนเปิดตลาด (Pre-market) วันที่ 5 ธันวาคมบ่งชี้ว่าหุ้นปรับตัวลงต่อเนื่องสู่บริเวณ $198.50 ลดลงราว 2.8% จากราคาปิดวันก่อน ท่ามกลางกระแสข่าวเหตุระบบล่มล่าสุดที่ถูกเผยแพร่ออกมา
ประเด็นสำคัญที่ต้องรู้:
ราคาหุ้น NET ขณะนี้ลดลงมากกว่า 20% จากจุดสูงสุดในรอบ 12 เดือนแถว ๆ $260
แม้จะปรับฐานลง แต่ราคาหุ้นยังคงเพิ่มขึ้นประมาณ 80–120% ในรอบปีที่ผ่านมา ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ใช้เทียบ
แรงขายเริ่มเร่งตัวหลังเหตุระบบล่มเมื่อ 18 พฤศจิกายน และยิ่งรุนแรงขึ้นอีกครั้งหลังเหตุการณ์วันที่ 5 ธันวาคม
กล่าวอีกนัยหนึ่ง นี่ไม่ใช่การพังทลายของราคาย แต่เป็นการรีเซ็ตอย่างแรงจากระดับที่ยืดสูงเกินไป หลังตลาดถูกกระทบด้วยเหตุการณ์ที่บั่นทอนความเชื่อมั่นถึงสองครั้งติดต่อกัน

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 Cloudflare ประสบเหตุระบบล่มครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2019 ความผิดพลาดในไฟล์ตั้งค่าของฟีเจอร์ Bot Management ทำให้เกิดข้อผิดพลาด HTTP 5xx เป็นวงกว้าง ส่งผลให้แพลตฟอร์มใหญ่หลายแห่ง เช่น X, ChatGPT, Canva และอื่น ๆ ไม่สามารถใช้งานได้
ปฏิกิริยาของตลาดเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน:
หุ้น Cloudflare ร่วงลงประมาณ 4–5% ในช่วง Pre-market ทำให้ราคาลงไปใกล้โซน $190 ต้น ๆ
มีการประเมินว่ามูลค่าตลาดของบริษัทหายไปประมาณ 1.8 พันล้านดอลลาร์ เมื่อราคาหุ้นลดจากเกือบ $200 เหลือราว $193
แรงขายนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องจากการร่วงลงก่อนหน้า 13–14% ในสัปดาห์ก่อน แม้ว่า NET ยังปรับขึ้นมากกว่า 100% ในรอบ 12 เดือน
จากฝั่งเทคนิค นักวิเคราะห์ชี้ว่าแรงขายได้กดให้หุ้นหลุดเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน ซึ่งเป็นระดับที่นักเทรดระยะกลางจำนวนมากใช้เป็นแนวรับสำคัญ
สำหรับหุ้นที่ถูกตั้งราคาไว้สูงลิบและถูกมองว่าเติบโต “ไร้ที่ติ” เหตุระบบล่มที่ส่งผลกระทบต่อแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตสำคัญจำนวนมาก เป็นชนิดเหตุการณ์ที่ทำให้นักลงทุนเริ่มขายทำกำไรและเปลี่ยนมุมมองจาก “หุ้นเติบโตไร้ข้อบกพร่อง” → “ธุรกิจดี แต่มีความเสี่ยงด้านปฏิบัติการจริง”
วันที่ 5 ธันวาคม 2025 Cloudflare เผชิญเหตุระบบล่มอีกครั้ง รายงานจากหลายสำนักระบุว่าเกิดความขัดข้องทั่วโลก ส่งผลให้เว็บไซต์และบริการต่าง ๆ เช่น Investopedia, LinkedIn, Canva, Fortnite, Coinbase และแม้แต่เว็บไซต์ติดตามเหตุล่มอย่าง Downdetector เอง ใช้งานได้ล่าช้าหรือหยุดทำงานช่วงหนึ่ง
จากรายงานของสื่อและระบบมอนิเตอร์:
เหตุขัดข้องเกิดขึ้นในช่วงที่ Cloudflare มีกำหนดการซ่อมบำรุงพอดี ขณะที่ผู้ใช้เห็นข้อความ 500 Internal Server Error บนเว็บไซต์ที่ใช้การป้องกันของ Cloudflare
ผู้ใช้จำนวนมากในหลายประเทศ รวมถึงแอปผู้บริโภครายใหญ่ แพลตฟอร์มฟินเทค และโบรกเกอร์ท้องถิ่น โดยเฉพาะในอินเดีย รายงานว่าไม่สามารถเข้าถึงบริการได้
นี่เป็นเหตุระบบล่มครั้งใหญ่อีกครั้งในรอบประมาณสามสัปดาห์ ทำให้ตลาดกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของการพึ่งพาผู้ให้บริการรายเดียวที่รองรับทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตทั่วโลกประมาณ 20%
แม้เหตุการณ์ในเดือนธันวาคมจะสั้นกว่าครั้งในเดือนพฤศจิกายน แต่นักเทรดมองเห็น “รูปแบบ” ซ้ำซ้อน ความเสถียรจึงกลายเป็นประเด็นหลักในทุกการสนทนาเกี่ยวกับ Cloudflare โดยเฉพาะสำหรับโบรกเกอร์ บริษัทชำระเงิน และแพลตฟอร์มเทรดที่ต้องพึ่งพาเครือข่ายของบริษัทเพื่อให้ระบบออนไลน์ได้ตลอดเวลา
ด้านล่างคือภาพสรุประดับราคาสำคัญที่นักเทรดกำลังติดตาม:
| อินดิเคเตอร์ / ระดับราคา | มูลค่าโดยประมาณ* | สัญญาณวันนี้ | มุมมองของนักเทรด |
|---|---|---|---|
| ราคาปิดล่าสุด (4 ธ.ค.) | 204.15 ดอลลาร์ | - | เด้งขึ้นจากจุดต่ำสุดหลังเหตุระบบล่ม |
| ราคาช่วง Pre-market (5 ธ.ค.) | 198.50 ดอลลาร์ | เชิงลบในระยะสั้น | แรงขายใหม่หลังเหตุระบบล่มครั้งที่สอง |
| SMA 21 วัน | 210.0 ดอลลาร์ | ต่ำกว่าเส้น | เทรนด์ระยะสั้นเริ่มถูกกดดัน |
| SMA 50 วัน | 215.95 ดอลลาร์ | ต่ำกว่าเส้น | เทรนด์ระยะกลางเสียรูป |
| SMA 100 วัน | 210.91 ดอลลาร์ | ต่ำกว่าเส้น | แนวรับเดิมเปลี่ยนเป็นแนวต้าน |
| SMA 200 วัน | 177.71 ดอลลาร์ | สูงกว่าเส้น | เทรนด์ระยะยาวยังเป็นขาขึ้น |
| RSI 14 วัน | ~54 | เป็นกลาง | ไม่บ่งชี้ซื้อมาก/ขายมาก |
| MACD (12,26,9) | ติดลบ | โมเมนตัมขาลง | ระยะปรับฐานยังไม่จบสมบูรณ์ |
| จุดสูงสุด / ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ | 260 ดอลลาร์ / 89 ดอลลาร์ | - | ราคายังอยู่ใกล้โซนบนมากกว่า |
* ระดับราคาจากข้อมูลเทคนิค ณ วันที่ 5 ธันวาคม 2025
สรุปง่าย ๆ คือ:
เทรนด์หลัก (เหนือเส้น 200 วัน) ยังเป็นขาขึ้น
เทรนด์ระยะกลาง (21-, 50-, 100-day SMA) ถูกกดดันชัดเจน
โมเมนตัมกำลังเย็นลง แต่ยังไม่ถึงขั้นพังทลาย
นักเทรดระยะสั้นจะจับตาโซนแนวรับสำคัญที่ $190–195 (จุดต่ำสุดช่วงเหตุระบบล่มล่าสุด) และโซน $175–180 แถวเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน
เหตุระบบล่มเกิดขึ้นหลังจากหุ้นพุ่งแรงต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งส่งผลอย่างมากต่อพฤติกรรมการถือครองของตลาด
ก่อนเหตุการณ์ในเดือนพฤศจิกายน หุ้น Cloudflare เพิ่งทำจุดสูงสุดใหม่แถว $260 หลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ที่เหนือคาด
สำนักข่าวหลายแห่งระบุว่า แม้หุ้นจะร่วงลงราว 14% ในสัปดาห์ที่มีเหตุขัดข้อง แต่ราคายังคงเพิ่มขึ้นประมาณ 119% YoY
นักวิเคราะห์มองว่า Cloudflare เป็นหนึ่งในหุ้นเทคโนโลยีที่ทำผลงานดีที่สุดในปี 2025 เพียงแต่ปัจจุบันมีความผันผวนสูงขึ้น และนักเทรดมีท่าทีระมัดระวังมากกว่าเดิม
ฝั่งนักลงทุนรายย่อยเองก็คึกคักขึ้นด้วย ข้อมูลจาก Stocktwits พบว่าปริมาณข้อความเกี่ยวกับ Cloudflare เพิ่มขึ้นกว่า 2,000% ภายใน 24 ชั่วโมงหลังเหตุระบบล่มเดือนพฤศจิกายน และความเชื่อมั่นของรายย่อยกลับตาลปัตรจาก “มุมมองลบ” เป็น “บวกมากเป็นพิเศษ” เพราะบางคนมองว่าเป็นโอกาสซื้อจังหวะย่อตัว (buy the dip)
ในอีกด้าน ข้อมูลธุรกรรมภายในองค์กรเผยให้เห็นว่า มีการขายหุ้นโดยผู้บริหารจำนวนมากในเดือนตุลาคม–พฤศจิกายน รวมถึง CEO และ CFO ที่ขายหุ้นในช่วงราคาตั้งแต่ $190–$250 แม้ไม่จำเป็นต้องหมายถึงว่าผู้บริหารคาดว่าหุ้นจะร่วงแรง แต่ก็เพิ่มความรู้สึกว่าฝ่ายบริหารมองว่าการขึ้นรอบก่อนหน้าเป็นจังหวะเหมาะสมสำหรับการทำกำไร
ยิ่งไปกว่านั้น ตลาดไอทีโดยรวมกำลังอยู่ในภาวะปรับตัว ความกังวลเกี่ยวกับมูลค่าหุ้น AI และหุ้นซอฟต์แวร์ที่มี P/E สูง ทำให้ดัชนีเทคโนโลยีอ่อนแรงตลอดเดือนพฤศจิกายน ส่งผลให้ข่าวลบใด ๆ มีผลกระทบต่อราคาหุ้นรุนแรงยิ่งขึ้น
การดำเนินการด้านราคา : NET ลดลงมากกว่า 20% จากจุดสูงสุดล่าสุดและกำลังเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น–กลาง แต่ยังยืนเหนือเส้น 200 วัน
ตัวเร่งปฏิกิริยา : ระบบล่มสองครั้งในรอบสามสัปดาห์ทำให้ “ความเสถียรของบริการ” กลายเป็นตัวกำหนดทิศทางความเชื่อมั่นในระยะสั้น แม้ธุรกิจหลักยังแข็งแรง
ปัจจัยพื้นฐาน : การเติบโตของรายได้มากกว่า 30%, กำไรที่ปรับตัวดีขึ้น และงบดุลแข็งแกร่งยังอยู่ครบ แต่ตลาดกำลังทบทวนว่าควรให้มูลค่าหุ้นสูงแค่ไหนสำหรับโปรไฟล์แบบนี้
ปัจจัยเสี่ยง : การประเมินมูลค่าที่สูง ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวในโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก และความเป็นไปได้ของเหตุการณ์การให้บริการเพิ่มเติม ล้วนอยู่ในด้านความเสี่ยงของบัญชีแยกประเภท
สำหรับนักเทรดที่เล่นระยะสั้น ช่วงราคา $190–210 จะเป็นโซนสำคัญในรอบไม่กี่เซสชันข้างหน้า สำหรับนักลงทุนระยะยาว คำถามใหญ่คือ “เหตุระบบล่มเป็นเพียงสะดุดชั่วคราว…หรือเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘ส่วนลดความเชื่อใจ’ ในมูลค่าหุ้น?”
ราคาหุ้น Cloudflare ถูกกดดันจากแรงขาย เนื่องจากนักเทรดกำลังรับข่าวเหตุระบบล่มครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังเหตุขัดข้องครั้งใหญ่เมื่อ 18 พฤศจิกายน ที่ส่งผลกระทบต่อบริการอย่าง X และ ChatGPT
แม้ราคาจะปรับฐานลง แต่หุ้น NET ยังคงซื้อขายที่ระดับ มากกว่า 30 เท่า ของคาดการณ์รายได้ปี 2025 และแบบจำลองประเมินมูลค่าจากหลายสำนักวิจัยอิสระยังคงจัดให้หุ้นนี้มีราคาสูงเกินมูลค่ายุติธรรมอย่างมีนัยสำคัญ
นักเทรดระยะสั้นจำนวนมากกำลังมองโซน $190–195 เป็นแนวรับใกล้ ๆ ขณะที่เส้นค่าเฉลี่ย 200 วันบริเวณ $178 ทำหน้าที่เป็นแนวรับเชิงโครงสร้างที่สำคัญกว่า
การปรับตัวลงของหุ้น Cloudflare ครั้งนี้ ไม่ได้สะท้อนปัญหาในเรื่องศักยภาพระยะยาวของบริษัทโดยตรง แต่สะท้อนถึง ปฏิกิริยาตลาด เมื่อหุ้นเติบโตที่มีราคาแพงสูงแสดง “จุดอ่อน” ให้เห็น
เหตุระบบล่มสองครั้งในเวลาห่างกันไม่นาน ทำให้จุดสนใจของตลาดเปลี่ยนจากการเติบโตของรายได้ ไปสู่ประเด็นที่เข้มข้นกว่าเดิม ได้แก่ ความเสถียรของบริการ ความสามารถในการบริหารระบบ และระดับมูลค่าหุ้น นักเทรดกำลังจับตาว่า ผู้บริหารจะสามารถกู้คืนความเชื่อมั่นได้เฉียบคมเหมือนที่ส่งมอบผลประกอบการหรือไม่
ในเชิงเทคนิค NET ยังคงอยู่ในเทรนด์ขาขึ้นระยะยาว แต่การหลุดเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นและระยะกลางบ่งชี้ว่าโมเมนตัมได้ชะลอลงแล้ว โซนราคา $190–210 จึงกลายเป็น “สมรภูมิหลัก” ในระยะนี้
หากราคายืนเหนือแนวรับได้ พร้อมกระแสข่าวที่สงบลง อาจดึงดูดนักเทรดสาย “Buy the Dip”แต่หากหลุดลงอย่างชัดเจน จะเป็นสัญญาณว่า รอบการปรับมูลค่า (de-rating) ยังไม่จบ
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ