简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

FED หั่นดอกเบี้ย 0.25% เปิดเกม Insurance Cut ตลาดจับตาทิศทางหุ้น

เผยแพร่เมื่อ: 2025-09-18

18 ก.ย. 2025 - ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเป้าหมายลง 0.25% สู่กรอบ 4.00% – 4.25% ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนธันวาคม 2024 โดยมติที่ออกมา 11 ต่อ 1 สะท้อนการถกเถียงภายในคณะกรรมการที่แม้ไม่ถึงขั้นแตกแยก แต่ก็เผยให้เห็นความไม่เป็นเอกภาพ ขณะที่ผู้ว่าการ Miran เสนอให้ลดแรงกว่านี้ถึง 0.50%

ประธาน Jerome Powell เรียกการตัดสินใจครั้งนี้ว่า “insurance cut” หรือการปรับเชิงป้องกันความเสี่ยง ไม่ใช่การเริ่มวงจรผ่อนคลายแบบเต็มรูปแบบ แต่เป็นการส่งสัญญาณว่าความเสี่ยงต่อ ตลาดแรงงาน กำลังถูกให้ความสำคัญเหนือกว่าเงินเฟ้อแล้ว คำว่า “solid” ที่เคยใช้บรรยายภาวะการจ้างงานถูกถอดออก และแทนที่ด้วยการเตือนว่ามี “downside risk” ต่อการจ้างงาน

เฟดส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับลดอีก 2 ครั้งในปีนี้ และรวมทั้งหมด 4 ครั้งจนถึงปี 2026 ซึ่งช้ากว่าที่ตลาดฟิวเจอร์สคาดไว้ (ตลาดมองว่าดอกเบี้ยจะลงใกล้ 3% ภายในปลายปี 2026) ความต่างนี้คือแรงขับเคลื่อนที่จะกำหนดทิศทางดอลลาร์ในช่วงต่อไป


ตลาดตอบสนองแบบระวังตัว ไม่คึกคักเต็มที่


แม้การลดดอกเบี้ยจะเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แต่ปฏิกิริยากลับไม่ใช่การดีดตัวแรง ดัชนี Dow ปิดบวก 259 จุด ขณะที่ S&P 500 แทบไม่ขยับ และ Nasdaq ติดลบ 0.5% มีเพียง Russell 2000 ที่โดดเด่นขึ้น เนื่องจากหุ้นขนาดเล็กพึ่งพาต้นทุนทางการเงินแปรผันมากกว่า


ฝั่งตลาดพันธบัตร อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเกือบหลุดระดับ 4% ก่อนรีบาวด์ขึ้นหลัง Powell แถลง เส้นอัตราผลตอบแทนชันขึ้นเล็กน้อย ภาพรวมสะท้อนตลาดที่ยังโน้มเอียงไปทางผลตอบแทนต่ำ แต่ยังไม่พร้อมจะเปิดรับความเสี่ยงเงินเฟ้อใหม่ ๆ ขณะที่โครงการ Roll-off พันธบัตรรัฐบาลและ MBS ไม่เปลี่ยนแปลง


สำหรับค่าเงินดอลลาร์ แม้จะอ่อนลงทันทีหลังประกาศ แต่ก็รีบาวด์ตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตร การที่เฟดหันมาให้น้ำหนักตลาดแรงงานมากขึ้นถือเป็นปัจจัยลบโครงสร้างต่อดอลลาร์ แต่ระยะสั้นแรงเก็งกำไรฝั่ง Short Dollar ที่สะสมมาก่อนหน้าทำให้การอ่อนค่าอาจหยุดพักรอปัจจัยใหม่ โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงาน (NFP) ที่จะเป็นตัวกำหนดจังหวะครั้งต่อไป


FED ลดดอกเบี้ย - EBC


FED ไม่เป็นเอกภาพ? จุดไฟ Nightmare Playbook


สิ่งที่ตลาดกังวลมากกว่าคือภาพ “การถกเถียงที่ไม่เป็นเอกภาพ” ภายในเฟด นักวิเคราะห์บางรายเปรียบเทียบการตัดสินใจครั้งนี้ว่าเป็นจุดเริ่มของ “The Nightmare Before Christmas Playbook” เพราะแม้จะดูเหมือนเฟดมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่ในความจริงกลับเต็มไปด้วยความเห็นที่แตกต่างและแรงกดดันจากการเมือง โดยเฉพาะเสียงเรียกร้องให้ลดแรงกว่านี้มาก


ความเสี่ยงคือ หากนักลงทุนตีความว่าเฟดขาดเอกภาพ ความเชื่อมั่นอาจสั่นคลอน และหากความเชื่อมั่นต่อเฟดแตกหัก ผลที่ตามมาคือความคาดหวังเงินเฟ้อจะ “หลุดกรอบ” ซึ่งจะสร้างความเสียหายรุนแรงต่อเศรษฐกิจจริง


S&P 500 กับจุดตัดสินสำคัญ: ขึ้นต่อหรือพักฐาน


ในเชิงเทคนิค S&P 500 พุ่งขึ้นมาทดสอบขอบบนของ rising channel บริเวณ 6,600 จุด และอยู่ในจุดชี้ชะตา


  • Scenario A – ถูกปฏิเสธที่แนวต้าน: หากไม่ผ่าน แนวรับแรกอยู่ที่เส้นกลาง ~6,480 จุด และแนวล่าง ~6,300 จุด ซึ่งจะสอดคล้องกับการที่ตลาดมองการลดดอกเบี้ยเป็น “สัญญาณเศรษฐกิจอ่อนแรง”

  • Scenario B – เบรกทะลุขึ้นต่อ: หากฝ่าได้ จะมีแรงซื้อเชิงโมเมนตัมจากระบบอัตโนมัติและกองทุนแนว Trend Following ดันดัชนีสู่ 6,700 จุดขึ้นไป

  • Scenario C – ไหลขึ้นต่อเนื่องแบบไม่แคร์ข้อมูล: ตลาดอาจเพิกเฉยต่อปัจจัยพื้นฐาน แล้วปรับขึ้นต่อด้วยสภาพคล่องล้วน ๆ แม้เศรษฐกิจจริงชะลอ เสี่ยงต่อการ “melt-up” ที่อาจพังลงแรงในอนาคต


FED ลดดอกเบี้ย กันยายน 2568 - EBC


สรุป


การลดดอกเบี้ยครั้งนี้คือสัญญาณว่าเฟดหันมาโฟกัส เสถียรภาพการจ้างงาน แทนที่จะต่อสู้กับเงินเฟ้อเพียงอย่างเดียว แม้จะเป็นบรรยากาศที่เอื้อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง แต่ก็เป็นเพราะแรงกังวลเศรษฐกิจที่ซ่อนอยู่ นักลงทุนจึงต้องจับตาข้อมูลแรงงานและกำไรบริษัทในไตรมาสถัดไปอย่างใกล้ชิด


ในภาพรวม อัตราดอกเบี้ยยังสูงกว่าระดับ “neutral” กว่าหนึ่งเปอร์เซ็นต์ ขณะที่ตลาดแรงงานเริ่มอ่อนตัวชัดเจน การคงกรอบ “dot plot” ของเฟดจึงเป็นแผนที่นำทางสำคัญที่สุดไปจนถึงสิ้นปีนี้ — แม้ไม่ใช่พระคัมภีร์ แต่ก็เป็นเลนไกด์ที่ Powell และทีมพยายามขับเคลื่อนไปตามมันอย่างรอบคอบ


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
เจาะลึกสกุลเงินเกิดใหม่ (Emerging Currency) vs สกุลหลัก (Major Currency)
ส่องแนวโน้มค่าเงินเยนในอนาคต วิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงทุกมิติ
รู้จัก IEI ETF ตัวชี้วัดพันธบัตรกลางเทอมของสหรัฐฯ
เส้นทางนักเทรดบิทคอยน์ CFD ปี 2025 สู่กำไรยั่งยืน
เปิดสัญญาณอารมณ์นักลงทุนผ่านดัชนี VIX  (Volatility Index)