ดัชนี CPI สหรัฐ กรกฎาคม โต 0.2% ตามคาด แต่ Core CPI พุ่งแรงสุดในรอบ 6 เดือน ต้นทุนบริการสูงขึ้น เช่น ตั๋วเครื่องบิน ทันตกรรม และรักษาพยาบาล
12 ส.ค. 2025 - แม้ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ เดือนกรกฎาคมจะขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเพียง 0.2% ตามคาด แต่ตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) กลับพุ่งแรงสุดในรอบ 6 เดือน จากต้นทุนบริการที่เพิ่มสูง ทั้งค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าทันตกรรม ไปจนถึงค่ารักษาพยาบาล ขณะที่สินค้าที่ได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าบางประเภท เช่น เฟอร์นิเจอร์ในบ้าน ก็ปรับตัวแพงขึ้นเช่นกัน
นักวิเคราะห์เตือนว่า สัญญาณนี้อาจทำให้เฟด (Fed) ชะลอการตัดสินใจลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 16-17 กันยายน เพราะ Fed ให้ความสำคัญกับเงินเฟ้อในภาคบริการมากเป็นพิเศษ และตอนนี้แรงกดดันก็ชัดเจนขึ้น แม้ตลาดแรงงานจะเริ่มแผ่วก็ตาม
CPI รวม เดือนกรกฎาคม +0.2% จากเดือนก่อน (มิถุนายน +0.3%) และ +2.7% เมื่อเทียบปีก่อน
ราคาน้ำมันเบนซินลดลง 2.2% ช่วยกด CPI โดยรวม
ราคาสินค้าอาหารทรงตัว หลังขึ้นต่อเนื่อง 2 เดือนติด
Core CPI (ตัดอาหารและพลังงาน) +0.3% สูงสุดตั้งแต่เดือนมกราคม จากบริการที่ราคาพุ่ง : ค่าตั๋วเครื่องบินเด้งแรง 4.0%, ค่ารักษาพยาบาล +0.7% สูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี, ค่าทันตกรรมทำสถิติพุ่ง +2.6%
สินค้าครัวเรือนและอุปกรณ์บ้าน +0.7% จากแรงกดดันภาษีนำเข้า
ราคายางรถยนต์ +1.0% และรองเท้า +1.4% (สูงสุดตั้งแต่ เม.ย. 2021)
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้ตัวเลข CPI ที่ไม่ร้อนแรงเกินไปเพื่อหนุนมุมมองว่า ภาษีนำเข้าไม่ได้สร้างภาระเงินเฟ้อ พร้อมพุ่งเป้าโจมตีการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ Goldman Sachs ว่าประเมินผลกระทบของภาษีผิดพลาด อย่างไรก็ตาม ด้านโครงสร้างข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มถูกตั้งคำถาม หลังสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ (BLS) ถูกตัดงบและบุคลากร ส่งผลให้บางพื้นที่หยุดเก็บข้อมูล CPI ไปเลย และต้องใช้วิธีคำนวณแทน (imputation) ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์กังว่าว่าความแม่นยำของข้อมูลอาจลดลง
นอกจากนี้ ความกังวลยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อทรัมป์เสนอชื่อ E.J. Antoni นักเศรษฐศาสตร์สายอนุรักษ์นิยมและผู้มีบทบาทในแผน “Project 2025” ขึ้นเป็นหัวหน้า BLS คนใหม่
หลังตัวเลข CPI ออกมาตามคาดแต่ Core CPI ร้อนแรงขึ้น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวบวกทันทีในวันอังคาร ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก นักลงทุนมองว่าตัวเลขเงินเฟ้อโดยรวมยังอยู่ในกรอบควบคุม แม้ภาคบริการจะเป็นตัวกดดันให้เฟดต้องคิดหนัก ส่วนตลาดพันธบัตรก็มีแรงขายในฝั่งระยะยาว ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุยาวขยับขึ้น สะท้อนความคาดหวังว่าดอกเบี้ยอาจจะยังไม่ถูกลดลงในทันที
อย่างไรก็ดี มีนักวิเคราะห์บางส่วนเห็นต่างกันอย่างชัดเจนว่าข้อมูลเงินเฟ้อรอบนี้เพียงพอให้เฟดปรับลดดอกเบี้ยหรือไม่ ฝั่งที่อยาก “รอดู” ชี้ว่าเงินเฟ้อบริการยังทรงตัวในระดับสูง และเฟดควรรอข้อมูลเดือนสิงหาคมทั้งการจ้างงานและเงินเฟ้อก่อนตัดสินใจ แต่ฝั่งที่ “อยากลดดอก” เห็นว่าภาษีนำเข้าเป็นแรงกดดันชั่วคราว และความเสี่ยงจากตลาดแรงงานที่อ่อนแรงอาจต้องการมาตรการผ่อนคลายเพิ่ม ขณะเดียวกัน Core CPI รายปีในเดือนกรกฎาคมที่แตะ 3.1% และการคาดการณ์ Core PCE ขยับขึ้นสู่ 3.0% ก็ทำให้เฟดอยู่ในจุดที่ต้องชั่งน้ำหนักระหว่างคุมเงินเฟ้อกับพยุงเศรษฐกิจอย่างระมัดระวัง
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใด ๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใด ๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
ดัชนี PPI สหรัฐพุ่งแรงในรอบ 3 ปี หุ้นสหรัฐแกว่ง ดอลลาร์แข็ง ฉุดทองคำร่วง นักลงทุนจับตาเฟดและเจรจาสหรัฐ-รัสเซียเขย่าตลาดทั่วโลก
2025-08-15แม้ความต้องการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงจะฟื้นตัว แต่ค่าเงินฟรังก์สวิสยังคงปรับขึ้นกว่า 10% และมีความสัมพันธ์กับทองคำ ทำให้เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่นักลงทุนเลือกเป็นอันดับต้นๆ
2025-08-14ตัวเลขดัชนี PPI มีความสำคัญสูง เนื่องจากจะส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์และความคาดหวังอัตราดอกเบี้ยของ Fed ที่อาจปรับเปลี่ยนได้
2025-08-14