简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

เริ่มต้นเทรด CFD กลยุทธ์ เคล็ดลับ และความเสี่ยงที่ควรรู้

2025-08-11

หากคุณต้องการเริ่มต้นเทรด CFD ขั้นตอนแรกคือการทำความเข้าใจว่า CFD คืออะไร และทำงานอย่างไร เริ่มจากการเรียนรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเลเวอเรจ มาร์จิ้น และการเคลื่อนไหวของตลาด จากนั้นเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแล เปิดและเติมเงินในบัญชี และเริ่มฝึกฝนผ่านบัญชีเดโมเพื่อทดสอบการเทรดโดยไม่ต้องเสี่ยงเงินจริง


เมื่อคุณมีความมั่นใจแล้ว ให้ใช้กลยุทธ์การเทรดที่ผ่านการทดสอบ พร้อมใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยงอย่างเข้มงวด เช่น คำสั่ง Stop Loss และเน้นเทรดในตลาดที่คุณมีความเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นฟอเร็กซ์ สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนี หรือหุ้น


ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทีละขั้นตอน อธิบายกลยุทธ์ที่พิสูจน์แล้ว และชี้ให้เห็นความเสี่ยง เพื่อให้คุณสามารถเริ่มต้นเทรด CFD ได้อย่างมั่นใจ


เริ่มต้นเทรด CFD แบบ Step by Step

วิธีเริ่มต้นเทรด CFD

1) ทำความเข้าใจว่าการเทรด CFD คืออะไร

สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (Contract for Difference: CFD) คือเครื่องมือทางการเงินประเภทอนุพันธ์ ที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในสินทรัพย์ต่าง ๆ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้นจริง


เมื่อคุณเปิดสถานะ CFD คุณตกลงที่จะชำระส่วนต่างของราคาสินทรัพย์ระหว่างช่วงที่เปิดสัญญากับปิดสัญญา

  • หากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คุณต้องการ คุณจะได้รับกำไร

  • หากราคาเคลื่อนไหวสวนทางกับคุณ คุณจะขาดทุน


CFD ครอบคลุมสินทรัพย์หลายประเภท เช่น

  • คู่เงินฟอเร็กซ์

  • โลหะมีค่า เช่น ทองคำและเงิน

  • ดัชนีหุ้น เช่น S&P 500 หรือ FTSE 100

  • สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ

  • สกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin

  • หุ้นจากตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก


2) เรียนรู้หลักการทำงานของการเทรด CFD

การเทรด CFD คือการเก็งกำไรทิศทางของตลาด โดยคุณสามารถเลือกได้ว่า

  • เปิดสถานะซื้อ (Go Long) หากคาดว่าราคาจะขึ้น

  • เปิดสถานะขาย (Go Short) หากคาดว่าราคาจะลง


การเทรด CFD ใช้เลเวอเรจ หมายความว่าคุณเพียงวางเงินประกัน (มาร์จิ้น) เพียงบางส่วนของมูลค่าการซื้อขายจริง แม้เลเวอเรจจะช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไร แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงที่จะขาดทุนมากขึ้นด้วย


ตัวอย่าง :

หากคุณซื้อ CFD หุ้น 1,000 หน่วย ราคาหน่วยละ 200 บาท ด้วยมาร์จิ้น 10% คุณต้องใช้เงินเพียง 20,000 บาทเพื่อเปิดสถานะ หากราคาขึ้นเป็น 210 บาท คุณจะได้กำไร 10 บาทต่อหน่วย รวม 10,000 บาท แต่หากราคาลดลง การขาดทุนก็จะขยายในอัตราเดียวกัน


3) เลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลและมีสินทรัพย์ CFD หลากหลาย

โบรกเกอร์ CFD ที่ดีที่สุด

หลังจากเรียนรู้พื้นฐานแล้ว ควรเลือกโบรกเกอร์ CFD ที่ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เชื่อถือได้ มีแพลตฟอร์มเทรดที่เสถียร การส่งคำสั่งซื้อขายรวดเร็ว และโครงสร้างค่าธรรมเนียมโปร่งใส เช่น EBC Financial Group


EBC มีจุดเด่นด้านความเร็วในการส่งคำสั่ง สเปรดแคบ และมี CFD ให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นฟอเร็กซ์ สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนีหุ้น และอีกมากมาย


พร้อมด้วยแพลตฟอร์มขั้นสูง การกำกับดูแลที่เข้มงวด และเลเวอเรจที่แข่งขันได้ จึงเหมาะกับเทรดเดอร์ที่ต้องการความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส


หลังจากเลือกโบรกเกอร์แล้วให้ดำเนินการยืนยันตัวตน (KYC) และฝากเงินเข้าบัญชีเทรด หากต้องการฝึกก่อน สามารถใช้บัญชีเดโมเพื่อทดสอบกลยุทธ์โดยไม่เสี่ยงใช้เงินจริง


4) ฝึกฝนกลยุทธ์การเทรด CFD ยอดนิยม


กลยุทธ์การติดตามแนวโน้ม

ใช้อินดิเคเตอร์ เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ หรือ MACD เพื่อติดตามทิศทางหลักของตลาด


การเทรดแบบ Breakout

เข้าซื้อหรือขายเมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านสำคัญ เพื่อเก็งกำไรจากแรงโมเมนตัม


การเทรดแบบ Scalping

ทำการเทรดหลายครั้งในหนึ่งวัน เพื่อเก็บกำไรจากการเคลื่อนไหวเล็กๆ  ของราคา


การเทรดแบบ Swing

ถือสถานะไว้หลายวันเพื่อจับการเคลื่อนไหวของราคาในระยะกลาง


การป้องกันความเสี่ยงด้วย CFD

ใช้ CFD เพื่อลดความเสี่ยงขาดทุนในสินทรัพย์อื่น เช่น หุ้น หรือสินค้าโภคภัณฑ์จริง


5) การบริหารความเสี่ยงในการเทรด CFD

Risk Management in CFD Trading

สุดท้ายนี้ การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญต่อความสำเร็จในระยะยาว เทรดเดอร์ควร:

  • ตั้งคำสั่ง Stop Loss เพื่อจำกัดการขาดทุน

  • หลีกเลี่ยงการใช้เลเวอเรจมากเกินไป

  • เสี่ยงเพียงสัดส่วนเล็ก ๆ ของเงินทุนต่อการเทรดหนึ่งครั้ง

  • กระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์ แทนที่จะเทรดเพียงตลาดเดียว


เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อความสำเร็จในการเทรด CFD


  • ควบคุมอารมณ์: ยึดตามแผนการเทรด และหลีกเลี่ยงการตัดสินใจแบบหุนหันพลันแล่น

  • ติดตามข่าวสารตลาด: การประกาศข้อมูลเศรษฐกิจ การประชุมธนาคารกลาง และเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์สามารถส่งผลต่อราคา

  • ทดสอบกลยุทธ์ของคุณ: ทำการทดสอบย้อนหลัง (Backtest) และฝึกเทรดในบัญชีทดลองก่อนใช้เงินจริง

  • ควบคุมเลเวอเรจ: ใช้เลเวอเรจในระดับต่ำที่สุดที่เพียงพอต่อการบรรลุเป้าหมาย

  • ทบทวนการเทรดเป็นประจำ: เรียนรู้จากการเทรดที่ผ่านมาเพื่อปรับปรุงแนวทางให้ดีขึ้น


คำถามที่พบบ่อย


Q1: การเทรด CFD เหมาะกับมือใหม่หรือไม่?

คำตอบ: การเทรด CFD อาจเหมาะกับมือใหม่หากใช้เวลาเรียนรู้ เริ่มจากบัญชีเดโม และใช้การบริหารความเสี่ยงอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตาม CFD เป็นสินค้าที่ใช้เลเวอเรจ ทำให้ความเสี่ยงขาดทุนมีมากหากไม่จัดการอย่างรอบคอบ


Q2: ต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการเริ่มเทรด CFD?

คำตอบ: โบรกเกอร์หลายแห่งอนุญาตให้เริ่มได้ด้วยเงินเพียง 100–500 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ควรเริ่มด้วยจำนวนเงินที่สามารถยอมรับการขาดทุนได้ ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ เลเวอเรจที่ให้ และตลาดที่คุณเลือกเทรด


Q3: ต้องมีซอฟต์แวร์พิเศษสำหรับเทรดCFDหรือไม่?

คำตอบ: ต้องมีแพลตฟอร์มการเทรด ซึ่งมักได้รับจากโบรกเกอร์แพลตฟอร์มยอดนิยม ได้แก่ MetaTrader 4 (MT4), MetaTrader 5 (MT5) และแพลตฟอร์มออนไลน์เฉพาะที่ออกแบบมาสำหรับการเทรด CFD


สรุป


โดยสรุป การเทรด CFD เป็นวิธีที่ทรงพลังในการเข้าถึงตลาดทั่วโลกและกระจายพอร์ตการลงทุน แต่ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน การเริ่มจากขนาดเล็ก ใช้กลยุทธ์ที่วางแผนไว้อย่างรอบคอบ และบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จ


ไม่ว่าคุณจะต้องการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของตลาดระยะสั้น หรือป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนเดิม CFD มอบความยืดหยุ่นที่การลงทุนแบบดั้งเดิมไม่สามารถเทียบได้


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) คืออะไร? เข้าใจวิธีทำงานก่อนเริ่มเทรด
เปิดโลกเทรด CFD สำหรับมือใหม่ เข้าใจได้ทันที!
CFD ทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลงหรือไม่?
เริ่มลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์ ฉบับเข้าใจง่าย ได้ผลจริง
เทรดทองคำ มือใหม่ เริ่มต้นง่าย สร้างกำไรมั่นคง