หุ้นทองคำน่าจับตาแห่งปี 2025 สำหรับนักลงทุน

2025-07-21

ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาค ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงหลักในพอร์ตของนักเทรดจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม การถือครองทองคำจริงอาจไม่ใช่วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดเสมอไป สำหรับผู้ที่มองหาสภาพคล่อง อำนาจในการใช้เลเวอเรจ และโอกาสจากสัญญาณทางเทคนิค การเทรดหุ้นทองคำสามารถเป็นทางเลือกที่คล่องตัวและมีศักยภาพในการเก็งกำไรมากกว่าในตลาดโลหะมีค่าที่มีความผันผวนสูง


บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจหุ้นทองคำที่น่าจับตาในปัจจุบัน โดยเน้นไปที่หุ้นที่มีแนวโน้มเด่น ราคายังต่ำกว่ามูลค่าเหมาะสม หรือกำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนทางเทคนิค ไม่ว่าจะเป็นหุ้นเหมืองทองคำขนาดใหญ่ หุ้นรับค่าลิขสิทธิ์ หรือหุ้นที่มีโมเมนตัมสูง บทความนี้คือแผนที่เชิงกลยุทธ์สำหรับนักลงทุนที่ต้องการคว้าโอกาสในตลาดหุ้นทองคำช่วงกลางปี 2025


หุ้นคุณค่าและราคายังไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง: เน้นปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง

หุ้นทองคำที่ดีที่สุดที่จะซื้อ

นักเทรดบางรายเลือกวางกลยุทธ์ตามมูลค่าแท้จริง โดยเข้าเทรดเมื่อราคาหุ้นเบี่ยงเบนจากปัจจัยพื้นฐานอย่างมีนัยสำคัญ ในแง่นี้ Barrick Gold (NYSE: GOLD) ถือเป็นหุ้นที่โดดเด่น


แม้เป็นหนึ่งในบริษัทเหมืองทองคำรายใหญ่ของโลก แต่ราคาหุ้นของ Barrick ยังเติบโตช้ากว่าคู่แข่ง ทำให้เกิดช่องทางในการลงทุนตามมูลค่า ด้วยการควบคุมต้นทุนที่เข้มงวด กระแสเงินสดอิสระที่แข็งแกร่ง และอัตราผลตอบแทนจากเงินทุนที่ปรับตัวดีขึ้น Barrick จึงเหมาะสำหรับการถือครองระยะยาวในเชิงรับ และยังมีโอกาสเกิดการฟื้นตัวหากมุมมองของตลาดกลับมาเป็นบวก

  • สัญญาณทางเทคนิค: Barrick ดีดตัวจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน และกำลังเข้าสู่รูปแบบ "wedge" ซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ของการเบรกเอาท์ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า


หุ้นที่มีกำไรแข็งแกร่งและโมเมนตัมสูง

Newmont Corporation (NYSE: NEM)

นักเทรดที่เน้นโมเมนตัมมักเลือกหุ้นที่มีกำไรเติบโตต่อเนื่อง และในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา หุ้นที่โดดเด่นได้แก่ Newmont Corporation (NYSE: NEM) และ Agnico Eagle Mines (NYSE: AEM)


Newmont (NEM):

แม้จะมีแรงขายชั่วคราวจากข่าว CFO ลาออกกะทันหัน แต่บริษัทมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง การปรับฐานครั้งนี้จึงเปิดโอกาส “ซื้อช่วงราคาตก” สำหรับนักเทรดสาย contrarian ที่คาดการณ์การฟื้นตัวหลังโครงสร้างบริหารนิ่ง

  • RSI ล่าสุดลดต่ำกว่า 30 จุด ควรจับตาการกลับตัวด้วยสัญญาณ MACD และการยืนได้ที่ระดับแนวรับ


Agnico Eagle (AEM):

หุ้นนี้มีการเติบโตของกำไรระดับสามหลัก และได้รับแรงหนุนจากสถาบันอย่างต่อเนื่อง การติดอันดับใน IBD 50 ยิ่งตอกย้ำคุณภาพของหุ้นในเชิงโมเมนตัม

  • ราคากำลังทำ "higher highs" และ "higher lows" พร้อมปริมาณซื้อขายสูง เหมาะสำหรับนักเทรดสายเทรนด์และสวิงเทรด


หุ้นลิขสิทธิ์และสตรีมมิ่ง: ทางเลือกที่เสถียรและผันผวนน้อย


การลงทุนในหุ้นทองคำไม่จำเป็นต้องมาจากบริษัทเหมืองโดยตรง บริษัทสตรีมมิ่งหรือรับค่าลิขสิทธิ์ เช่น Franco-Nevada (NYSE: FNV) และ Royal Gold (NASDAQ: RGLD) มอบข้อได้เปรียบในการเทรดที่แตกต่างออกไป


บริษัทเหล่านี้ดำเนินงานโดยมีความเสี่ยงด้านปฏิบัติการต่ำกว่า เนื่องจากไม่ได้ขุดทองคำโดยตรง แต่ให้ทุนแก่คนงานเหมืองเพื่อแลกกับส่วนแบ่งผลผลิตหรือรายได้ในอนาคต สำหรับนักเทรดแล้ว บริษัทเหล่านี้มีการเคลื่อนไหวของราคาที่ราบรื่นกว่าและมีความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับราคาทองคำ โดยไม่มีความผันผวนที่เกิดจากการหยุดชะงักของเหมืองโดยเฉพาะ


Franco-Nevada (FNV):

FNV มีงบดุลแข็งแกร่ง และถูกยกให้เป็น "หุ้นทองคำในหมู่หุ้นทองคำ" สำหรับนักเทรดระยะสั้น หุ้นนี้สามารถทำหน้าที่เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดทองคำผันผวน หรือใช้สำหรับเล่นรอบเมื่อเกิดการหมุนเวียนในภาวะตลาดไม่ชัดเจน

  • มักจะทำผลตอบแทนดีกว่าในช่วงราคาทองคำพุ่ง และทำผลตอบแทนน้อยกว่าเมื่อเกิดกระแสหุ้นเสี่ยง เหมาะสำหรับกลยุทธ์ pair trading


หุ้นเหมืองขนาดกลางที่มีโมเมนตัมสูง: โอกาสในระยะสั้น


สำหรับนักเทรดที่ชื่นชอบการเก็งกำไรระยะสั้นจากความผันผวนสูง หุ้นเหมืองขนาดกลางถือเป็นเป้าหมายหลัก โดยในปี 2025 มี 2 ตัวเด่น ได้แก่:


SSR Mining (NASDAQ: SSRM):

ทำผลตอบแทนกว่า 119% ภายในปีเดียว หุ้นนี้เคลื่อนไหวสัมพันธ์กับราคาทองคำอย่างใกล้ชิดและด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่มาก จึงมักตอบสนองเกินจริงต่อข่าวสารเศรษฐกิจมหภาค

  • จับตารูปแบบ flag หรือ pennant บนกราฟรายวัน โดย SSRM มักตอบสนองเชิงบวกหลังการพักฐานด้วยปริมาณเบาบาง


Kinross Gold (NYSE: KGC):

ปรับตัวขึ้นมากกว่า 67% ภายใน 1 ปี เป็นการกลับมาอย่างแข็งแกร่งหลังจากภาวะตกต่ำหลายปี ด้วยการปรับโครงสร้างและควบคุมต้นทุนที่ดีขึ้น ทำให้ผลกำไรดีขึ้น และเริ่มได้รับความสนใจจากนักเทรด

  • ระวังแนวต้านทางจิตวิทยา (เช่น ราคากลม ๆ) และแนวต้านทางเทคนิคบริเวณจุดสูงสุดของปี 2022


ETF และการกระจายความเสี่ยง: เครื่องมือสำหรับหมุนเวียนในภาคส่วนทองคำ


หากคุณไม่ต้องการเลือกหุ้นรายตัว หรือมองหาเครื่องมือสำหรับการบริหารพอร์ตแบบยืดหยุ่น ETF ทองคำคือทางเลือกที่ตอบโจทย์


SPDR Gold Shares (GLD):

แม้ GLD จะติดตามราคาทองคำจริง ไม่ใช่หุ้นเหมือง แต่ก็เป็นเครื่องมือยอดนิยมของนักเทรดเพราะมีสภาพคล่องสูง มีออปชันรองรับ และเหมาะสำหรับการเทรดตามเหตุการณ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจหรือการเมือง

  • เหมาะกับการเทรดระยะสั้น ช่วงประกาศตัวเลข CPI การประชุม Fed หรือวิกฤตทางภูมิรัฐศาสตร์


VanEck Gold Miners ETF (GDX):

หากต้องการเทรดภาคเหมืองทองทั้งกลุ่ม GDX คือเครื่องมือที่เหมาะสม ETF นี้รวมหุ้นเหมืองทองรายใหญ่ไว้ในพอร์ต จึงสะท้อนความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอของกลุ่มได้อย่างชัดเจน

  • เหมาะสำหรับนักเทรด breakout โดยใช้สัญญาณ breadth หรือยืนยันด้วยปริมาณซื้อขาย


บทสรุป: เทรดอย่างชาญฉลาด พร้อมรับมือความผันผวน


ตลาดหุ้นทองคำในปี 2025 กำลังแสดงให้เห็นถึงจังหวะพิเศษที่เกิดจากแรงขับเคลื่อนระดับมหภาค ปัจจัยเฉพาะบริษัท และสัญญาณทางเทคนิค สำหรับนักเทรดแล้ว นี่ไม่ใช่แค่โอกาส แต่คือสนามที่เต็มไปด้วยความผันผวนและโอกาสในการทำกำไร


ไม่ว่าคุณจะชอบหุ้นคุณค่า หุ้นโมเมนตัม หุ้นลิขสิทธิ์ หรือหุ้นขนาดกลางที่เคลื่อนไหวแรง ตลาดทองคำปีนี้มีเครื่องมือที่ตอบโจทย์กลยุทธ์ของคุณ แต่อย่าลืมว่า ความผันผวนมีสองด้าน จงบริหารความเสี่ยงอย่างเข้มงวด กำหนดขนาดสถานะให้รอบคอบ และรักษาวินัยตามจุดตัดขาดทุนเสมอ


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
เดวิด บาร์เร็ตต์ ซีอีโอของ EBC Financial Group UK (Ltd) และ EBC Financial Group (Cayman) Limited วิเคราะห์ความผันผวนของตลาดและกลยุทธ์การหลบเลี่ยงที่ปลอดภัยในปี 2024
ดอลลาร์สหรัฐฯจะล่มหรือไม่? จับตาสัญญาณเศรษฐกิจ
การกลับมาของทรัมป์: คู่มือสำหรับผู้ค้าเพื่อปรับสมดุลความเสี่ยงระหว่างทองคำและหุ้น
จัดพอร์ตให้ปัง ด้วย 8 หุ้นทองคำน่าซื้อ
แพลทินัมมาแรง! เทียบทองคำอะไรคุ้มกว่าปี 2025