สรุป
ตลาดการเงินโลกปั่นป่วน หลังทรัมป์ปลดผู้ว่าการเฟดครั้งประวัติศาสตร์ สะเทือนดอลลาร์ ทองคำ หุ้น และความเชื่อมั่นนักลงทุน
26 ส.ค. 2025 - ตลาดการเงินโลกปั่นป่วนหนัก หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศปลดลิซ่า คุก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ หรือ FED ซึ่งรับการเสนอชื่อโดยอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในปี 2022 โดยรัฐบาลทรัมป์อ้างว่าลิซ่าได้กระทำการฉ้อโกงสินเชื่อที่อยู่อาศัย ด้วยการใช้ชื่ออสังหาริมทรัพย์สองแห่งที่แตกต่างกันเป็นที่อยู่อาศัยหลักในเวลาเดียวกัน ทำให้กลายเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 111 ปีที่ประธานาธิบดีลงดาบผู้ว่าการเฟด
ขณะที่ฝั่งลิซ่าได้ตอบโต้ทันทีว่า “ประธานาธิบดีไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะปลดฉันออกจากตำแหน่ง และฉันจะไม่ลาออก” พร้อมย้ำว่าจะเดินหน้าทำหน้าที่เพื่อพยุงเศรษฐกิจสหรัฐต่อไป
ซึ่งการตัดสินใจปลดลิซ่าครั้งนี้ ไม่เพียงสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อความสัมพันธ์ระหว่างทำเนียบขาวกับเฟด แต่ยังสะท้อนความขัดแย้งที่ลุกลามมาพักใหญ่ เมื่อทรัมป์โจมตีเฟดอย่างต่อเนื่องว่าลดดอกเบี้ยช้าเกินไป
อย่างไรก็ดี กฎหมายสหรัฐระบุเพียงว่าประธานาธิบดีสามารถปลดผู้ว่าการเฟดได้หากมี “เหตุผลอันควร” แต่ไม่เคยมีการตีความชัดเจนว่าอะไรคือเหตุผลนั้น ด้านทีมทนายความของคุกจึงประกาศจะต่อสู้ในทุกช่องทาง รวมถึงการนำคดีขึ้นสู่ศาลสูงสุดต่อไป
อดีตผู้บริหารเฟดและนักเศรษฐศาสตร์เตือนตรงกันว่าหากการเมืองเข้ามาครอบงำ เฟดจะไม่สามารถดำเนินนโยบายการเงินบนฐานข้อมูลเศรษฐกิจได้อีกต่อไป และหากสหรัฐสูญเสียความน่าเชื่อถือด้านนโยบาย นักลงทุนทั่วโลกอาจเรียกร้องผลตอบแทนสูงขึ้นในการปล่อยกู้ให้รัฐบาล ซึ่งจะซ้ำเติมทั้งตลาดหุ้น ค่าเงินดอลลาร์ และพันธบัตร
วุฒิสมาชิกเอลิซาเบธ วอร์เรน ออกแถลงการณ์เดือด ชี้ว่านี่คือ “การยึดอำนาจแบบเผด็จการที่ละเมิดกฎหมายเฟดอย่างโจ่งแจ้ง” ส่วนคณะกรรมาธิการธนาคารของวุฒิสภาที่นำโดยพรรครีพับลิกันยังคงเงียบเสียง
จากนั้นก็เกิดผลสะเทือนในตลาดเกิดขึ้นทันที ดัชนีดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.3% ราคาทองคำดีดขึ้น 0.45% ขณะที่ฟิวเจอร์สดัชนีหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงพร้อมกัน
แรงสั่นสะเทือนจากฝั่งสหรัฐส่งต่อถึงเอเชียในวันอังคาร เมื่อบวกเข้ากับวาทกรรมกีดกันทางการค้าของทรัมป์ที่ขู่จะเก็บภาษีนำเข้าจากจีนสูงถึง “200% หรือมากกว่านั้น” หากจีนไม่ส่งออกแม่เหล็กแร่หายากมายังสหรัฐ พร้อมขู่เก็บภาษีประเทศที่ยังคงใช้ “ภาษีดิจิทัล”
บรรยากาศดังกล่าวฉุดตลาดหุ้นเอเชียให้ร่วงถ้วนหน้า Nikkei 225 ของญี่ปุ่นปิดลบ 1.01% ขณะที่ Topix ลดลง 0.94% ด้าน Kospi เกาหลีใต้ปรับตัวลง 0.78% มีเพียง Kosdaq ที่ขยับบวกเล็กน้อย 0.34%
ฝั่งออสเตรเลีย S&P/ASX 200 ร่วง 0.41% ฮ่องกง Hang Seng ลดลง 0.44% ส่วน CSI 300 ของจีนแผ่นดินใหญ่ดิ่ง 0.68% เสี่ยงหลุดจากการบวกติดต่อกัน 4 วัน
ในภาวะตลาดผันผวน นักลงทุนเร่งหาที่หลบภัย ค่าเงินเยนแข็งขึ้น 0.3% แตะ 147.32 เยนต่อดอลลาร์ ดัชนีดอลลาร์สหรัฐอ่อน 0.16% หลังข่าวปลดคุก ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีขยับขึ้นใกล้ 4.29% และราคาทองคำปรับเพิ่มอีก 0.17% สู่ระดับ 3,372 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นักลงทุนยังจับตาการหารือด้านการค้าระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้ รวมถึงผลประกอบการของ Nvidia และตัวเลขเงินเฟ้อที่เฟดใช้เป็นเครื่องชี้วัดสำคัญ
ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนก่อนปิดลบทั้งกระดาน Dow Jones ร่วงกว่า 349 จุด หรือ 0.77% S&P 500 ลดลง 0.43% และ Nasdaq อ่อนตัว 0.22%
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใด ๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใด ๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
วิเคราะห์ดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) อ่อนค่าหลังทรัมป์ปลด Lisa Cook จุดชนวนความกังวล Fed และแนวโน้มลดดอกเบี้ย วิเคราะห์ความเสี่ยงการเมืองต่อทิศทาง USD และตลาดโลก
2025-08-26
หุ้น PDD ยังคงทำกำไรแข็งแกร่ง แม้ว่าการเติบโตของรายได้จะชะลอลงเหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่รับความเสี่ยงได้
2025-08-26
ในวันจันทร์ ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงหนัก หลัง “ทรัมป์” ขู่ปลดผู้ว่าการ Fed, Lisa Cook ยกระดับการโจมตีต่อความเป็นอิสระของธนาคารกลาง
2025-08-26
