ค้นพบ 5 กลยุทธ์สำคัญสำหรับการเทรดแบบ Position Trading ตั้งแต่การตามแนวโน้มไปจนถึงการเทรดเบรกเอาต์ เหมาะสำหรับนักเทรดที่มีวินัยและเน้นการถือครองระยะกลางถึงยาว
ในขณะที่นักเทรดรายวันมุ่งล่าจังหวะจากโมเมนตัม และนักเก็งกำไรระยะสั้นอาศัยความผันผวนในการทำกำไร การเทรดแบบ Position Trading จึงกลายเป็นทางสายกลางสำหรับผู้ที่ต้องการเทรดอย่างมั่นใจในจำนวนครั้งที่น้อยลง แต่มีคุณภาพมากขึ้น โดยถือครองสถานะต่อเนื่องหลายวัน หลายสัปดาห์ หรืออาจยาวนานถึงหลายเดือน กลยุทธ์นี้ไม่ได้เน้นการตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ ของตลาดในทุกช่วงเวลา แต่เน้นการมองเห็นโอกาสสำคัญที่กำลังก่อตัว และมีความอดทนพอที่จะปล่อยให้ตลาดแสดงศักยภาพออกมาเต็มที่
นักเทรดสาย Position มักมองหาการเคลื่อนไหวที่ชัดเจน เช่น แนวโน้มที่มั่นคง การเบรกเอาต์ที่แข็งแรง หรือการพักตัวที่เกิดขึ้นในจังหวะเหมาะสม ซึ่งบ่งชี้ถึงการเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่อง กลยุทธ์นี้ต้องการความแม่นยำในการเปิดสถานะ ความมีวินัยในการบริหารความเสี่ยง และระบบที่ชัดเจนในการอยู่ในทิศทางที่ถูกต้องของตลาด โดยไม่ถูกรบกวนจากสัญญาณรบกวนระยะสั้น สำหรับนักเทรดที่ให้คุณค่ากับความเป็นระบบ การบริหารพอร์ตอย่างมีวินัย และมองหาผลตอบแทนแบบ swing โดยไม่ต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา Position Trading อาจเป็นกลยุทธ์ที่ให้ความได้เปรียบอย่างแท้จริง
การตามแนวโน้มเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมสูงและได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถใช้ได้ผลจริงในระยะยาวสำหรับการเทรดแบบ Position Trading หลักการนั้นง่าย ๆ คือเพียงระบุทิศทางของแนวโน้มในตลาด ไม่ว่าจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง แล้วเปิดสถานะในทิศทางเดียวกับแนวโน้มนั้น
วิธีการใช้งาน:
โดยทั่วไปแล้ว นักเทรดมักใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาว (เช่น SMA หรือ EMA 50 วัน และ 200 วัน) เพื่อช่วยวิเคราะห์ทิศทางของแนวโน้ม
หากราคาซื้อขายอยู่เหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างต่อเนื่อง แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้น แต่หากราคาต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ แสดงถึงแนวโน้มขาลง
เป้าหมายของกลยุทธ์นี้คือการเข้าเทรดหลังจากแนวโน้มชัดเจนแล้ว และออกเมื่อเริ่มเห็นสัญญาณการกลับตัว
ทำไมจึงมีประสิทธิภาพ:
ช่วยให้นักเทรดสามารถถือสถานะที่กำลังมีกำไรได้ยาวนาน
ลดผลกระทบจากความผันผวนระยะสั้น
ใช้ได้กับสินทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น หุ้น สกุลเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนี
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้ต้องการความมีวินัยสูง เพราะการเบรกเอาต์หลอกหรือการย่อตัวชั่วคราวอาจทำให้นักเทรดที่ไม่มีแผนที่ชัดเจนหลุดจากสถานะได้ง่าย การมีกฎการเทรดที่ชัดเจนควบคู่กับแผนบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
การเทรดเบรกเอาต์ คือการเปิดสถานะเมื่อตัวราคาแตกผ่านระดับแนวต้านหรือแนวรับที่ชัดเจน ซึ่งมักจะมาพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น สัญญาณนี้บ่งบอกว่ามีผู้เล่นรายใหม่เข้าสู่ตลาด ส่งผลให้ราคาก้าวเข้าสู่ช่วงการเคลื่อนไหวใหม่
วิธีการใช้งาน:
นักเทรดจะติดตามโซนที่ราคาควบรวมตัว หรือรูปแบบกราฟ เช่น รูปสามเหลี่ยม (triangle) ธง (flag) หรือสี่เหลี่ยม (rectangle)
การเบรกเอาต์ผ่านแนวต้าน บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นในตลาดขาขึ้น ส่วนการหลุดลงต่ำกว่าแนวรับ แสดงถึงความกังวลในตลาดขาลง
ปริมาณการซื้อขายมีบทบาทสำคัญในการยืนยันว่าเบรกเอาต์นั้นเป็นของจริงหรือเป็นเบรกเอาต์หลอก
ทำไมจึงมีประสิทธิภาพ:
ช่วยให้นักเทรดได้เข้าสู่ตลาดในช่วงต้นของการเคลื่อนไหวราคาครั้งใหญ่
ให้สัดส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่ดี โดยตั้งจุดตัดขาดทุน (stop-loss) ใกล้ระดับเบรกเอาต์
เหมาะกับตลาดที่มีความผันผวนสูง ซึ่งมักจะมีการเคลื่อนไหวรุนแรงหลังช่วงรวมตัว
แม้จะมีประโยชน์ แต่ก็ต้องระวังเบรกเอาต์หลอก (ที่เรียกกันว่า "กับดักกระทิง" หรือ "กับดักหมี") ซึ่งเครื่องมือยืนยัน เช่น RSI, MACD หรืออินดิเคเตอร์ปริมาณการซื้อขาย จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับการตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น
แทนที่จะไล่ตามราคาตอนเบรกเอาต์ นักเทรดแบบพักตัวจะรอให้ตลาด “พักตัว” หรือปรับลดชั่วคราวทวนทิศทางแนวโน้มหลัก ก่อนค่อยเข้าสถานะในราคาที่ได้เปรียบกว่า
วิธีการใช้งาน:
นักเทรดจะระบุแนวโน้มที่แข็งแกร่ง แล้วรอการพักตัวของราคา (ซึ่งมักเกิดที่โซนแนวรับหรือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่)
โดยทั่วไปจะใช้ระดับ Fibonacci retracement เช่น 38.2%, 50%, และ 61.8% เพื่อหาจุดเข้าเทรดที่สำคัญ
สัญญาณเข้าเทรดอาจยืนยันด้วยรูปแบบแท่งเทียนดัชนีโมเมนตัมหรือสัญญาณจากพฤติกรรมราคาช่วยเพิ่มความมั่นใจ
ทำไมจึงมีประสิทธิภาพ:
ช่วยให้เข้าซื้อในแนวโน้มที่มีอยู่เดิมด้วยราคาที่ถูกกว่าปกติ
ลดความเสี่ยงจากการเข้าตลาดในช่วงราคาสูงเกินไป
สามารถประสานกับกลยุทธ์บริหารความเสี่ยงเพื่อลดการขาดทุนได้ดี
ความอดทนจึงเป็นหัวใจสำคัญ เพราะการเข้าเร็วเกินไปในช่วงพักตัวอาจทำให้นักเทรดเผชิญกับแรงกดดันราคาลงเพิ่มเติมก่อนที่แนวโน้มจะกลับมาเดินหน้าต่อ
นักเทรดสาย Position Trading มักใช้การวิเคราะห์หลายกรอบเวลาเพื่อให้แน่ใจว่าการเปิดสถานะของตนสอดคล้องกับแนวโน้มหลักของตลาด วิธีนี้คือการวิเคราะห์สินทรัพย์เดียวกันบนกราฟหลายช่วงเวลา เช่น รายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน
วิธีการใช้งาน:
กรอบเวลาสูง เช่น รายสัปดาห์ หรือรายเดือน ใช้กำหนดแนวโน้มหลัก
กรอบเวลาระดับกลาง เช่น รายวัน ใช้ยืนยันแนวโน้ม
กรอบเวลาต่ำ เช่น 4 ชั่วโมง หรือรายชั่วโมง ใช้ระบุจุดเข้าและออกอย่างแม่นยำ
ทำไมจึงมีประสิทธิภาพ:
ทำให้การเทรดอยู่ในทิศทางเดียวกับแนวโน้มหลักของตลาด
ช่วยกรองสัญญาณรบกวนจากกรอบเวลาสั้นที่อาจขัดแย้งกับแนวโน้มใหญ่
เพิ่มความมั่นใจและความแม่นยำในการเข้าออกสถานะ
มุมมองที่ซ้อนกันของตลาดนี้ช่วยให้นักเทรดหลีกเลี่ยงการเข้าเทรดสวนแนวโน้มใหญ่เพียงเพราะเห็นการกลับตัวระยะสั้นที่หลอกตา
แม้การเทรดแบบPositionมักเน้นการวิเคราะห์ทางเทคนิคจากกราฟราคา แต่นักเทรดที่มีประสบการณ์หลายคนเลือกที่จะผสมผสานการวิเคราะห์ทางเทคนิคเข้ากับข้อมูลปัจจัยพื้นฐานหรือมุมมองเศรษฐกิจมหภาค เพื่อให้เข้าใจคุณค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์และเหตุผลเบื้องหลังการเคลื่อนไหว
วิธีการใช้งาน:
ใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเพื่อคัดเลือกหุ้นหรือกลุ่มอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง เช่น รายได้เติบโต หนี้ต่ำ แนวโน้มผลประกอบการดี
ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคในการหาจังหวะเข้าออกในหุ้นที่มีพื้นฐานดี
ติดตามตัวชี้วัดเศรษฐกิจ นโยบายธนาคารกลาง รายงานผลประกอบการ และข่าวเฉพาะกลุ่ม
ทำไมจึงมีประสิทธิภาพ:
ให้ภาพรวมที่ครอบคลุม ลดความเสี่ยงจากการอ่านกราฟผิด
เปิดโอกาสให้จับเทรนด์เติบโตระยะยาวและวัฏจักรเศรษฐกิจ
เหมาะอย่างยิ่งกับตลาดหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ และการเทรดเชิงมหภาค
ตัวอย่างเช่น หุ้นเทคโนโลยีที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็นตามปัจจัยพื้นฐาน และขณะเดียวกันเกิดสัญญาณเบรกเอาต์เชิงบวกบนกราฟ นี่คือโอกาสที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเปิดสถานะถือยาว
การเทรดแบบ Position Trading ไม่ใช่แนวทางสำหรับผู้ที่ต้องการกำไรแบบรวดเร็ว หากแต่เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการมองเห็นแนวโน้มใหญ่ของตลาด และมีความอดทนเพียงพอในการถือสถานะเพื่อให้ผลลัพธ์ค่อย ๆ เติบโต ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบการตามแนวโน้ม (trend-following) การเทรดเบรกเอาต์ หรือแนวทางผสมระหว่างเทคนิคกับพื้นฐาน สิ่งที่กลยุทธ์เหล่านี้มีร่วมกันคือ ความมีวินัย การวางแผนล่วงหน้า และการควบคุมอารมณ์อย่างมีสติ
สำหรับนักลงทุนหรือนักเทรดที่พร้อมรอคอยโอกาสคุณภาพสูง และไม่ต้องการเผชิญความเครียดจากความผันผวนรายวัน การเทรดแบบ Position ถือเป็นแนวทางที่ให้ผลตอบแทนที่ยั่งยืนและสม่ำเสมอ หากมีเครื่องมือ การวิเคราะห์ และการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม คุณสามารถเปลี่ยนกลยุทธ์ “ช้าแต่มั่นคง” ให้กลายเป็นเส้นทางสร้างความมั่งคั่งที่ทรงพลังได้อย่างแท้จริง
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
เทรดเดอร์มือใหม่อ่านด่วน รู้จัก Position Sizing กุญแจสำคัญในการเทรด Forex แบบยั่งยืน พร้อมเจาะลึกสูตรคำนวณเอาตัวรอดในคลาดฟอเร็กซ์
2025-07-08เรียนรู้วิธีใช้ Market Mood Index เพื่ออ่านการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ในตลาด ระบุแนวโน้ม และปรับปรุงจุดเข้าและจุดออก
2025-07-08อัปเดตล่าสุดเดือนกรกฎาคม 2568: ยังไม่มีกำหนดเปิดตัวสกุลเงิน BRICS การประชุมสุดยอดย้ำจุดเน้นที่การค้าสกุลเงินท้องถิ่นและระบบการจ่ายเงิน BRICS ประเด็นสำคัญสำหรับผู้ค้า
2025-07-08