กำลังมองหาวิธีการเทรดแบบ Breakout อยู่หรือไม่? มาทำความรู้จักกับ 5 กลยุทธ์ทรงพลังที่นักเทรดมืออาชีพใช้ทำกำไรจากการเบรกของราคาในทุกตลาดกัน
Breakout Trading ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ทรงพลังที่สุดในวิเคราะห์ทางเทคนิค เพราะช่วยให้นักเทรดสามารถจับจังหวะการเคลื่อนไหวของราคาที่สำคัญได้เมื่อสินทรัพย์ทะลุออกจากกรอบราคาที่ชัดเจน
ไม่ว่าคุณจะเทรด Forex หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ หรือดัชนี กลยุทธ์เบรกสามารถมอบโอกาสสร้างกำไรที่มีสัดส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่น่าสนใจได้
ในบทความนี้ เราจะพาไปเรียนรู้ 5 กลยุทธ์เบรกที่ได้ผลจริง วิธีการระบุเบรกที่แท้จริง และวิธีหลีกเลี่ยงสัญญาณปลอม เทคนิคเหล่านี้เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และนักเทรดที่มีประสบการณ์ในปี 2025
Breakout Trading คือการเข้าเทรดเมื่อราคาของสินทรัพย์ทะลุผ่านจุดแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ พร้อมกับมีปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น การเคลื่อนไหวนี้มักเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นเทรนด์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง
เหตุผลเบื้องหลังนั้นง่ายมาก เมื่อราคาทะลุผ่านแนวต้านหรือหลุดต่ำกว่าแนวรับ จะบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงความเชื่อมั่นในตลาดและมักนำไปสู่การเคลื่อนไหวในทิศทางที่ชัดเจน นักเทรดจึงต้องการเข้าสู่ตลาดตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อเกาะกระแสแรงซื้อหรือแรงขายนี้
ความสำคัญของการเบรกอยู่ที่โอกาสทำกำไรที่มากในตลาดเชิงเทคนิค เหตุการณ์ข่าวใหญ่ รายงานผลประกอบการ ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค หรือการเปลี่ยนแปลงทัศนคติในตลาด มักเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเบรก เมื่อราคาทะลุกรอบราคา มักจะเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง ทำให้นักเทรดสามารถทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว
การเบรกยังมีความยืดหยุ่นสูง เพราะสามารถนำไปใช้ได้ในหลายช่วงเวลาและสภาวะตลาดต่าง ๆ ตั้งแต่กราฟรายวันจนถึงแท่งเทียน 5 นาที หลักการสำคัญคือเข้าเทรดเมื่อราคาหลุดออกจากกรอบราคา
ในตลาด Forex การเบรกมักเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีการซื้อขายคึกคัก เช่น ช่วงเปิดตลาดลอนดอนหรือเปิดตลาดนิวยอร์ก ซึ่งเป็นช่วงที่ความผันผวนและสภาพคล่องสูง ทำให้เหมาะแก่การเกิดการเบรกนักเทรดมักจะเทรดจากการย่อราคาหรือรวมตัวกันในช่วงตลาดเอเชีย
ส่วนในตลาดหุ้น การเบรกมักได้รับอิทธิพลจากรายงานผลประกอบการ แนวโน้มของกลุ่มอุตสาหกรรม และความเชื่อมั่นโดยรวมของตลาด ปริมาณการซื้อขายมีบทบาทสำคัญมากกว่าในForex
ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์ประเภทใด หลักการสำคัญยังคงเหมือนเดิม คือ ค้นหาจุดรวมตัวของราคา ระบุระดับสำคัญ ยืนยันการเบรก และเข้าเทรดอย่างมีแผนการณ์
กลยุทธ์ที่ 1: การเบรกแนวรับ-แนวต้านแนวนอน
หนึ่งในกลยุทธ์เบรกแบบคลาสสิกที่สุด โดยอาศัยการระบุแนวรับหรือแนวต้านที่เป็นแนวนอนแล้วรอให้ราคาทะลุขึ้นหรือลงผ่านระดับนั้น
ตัวอย่างเช่น หากหุ้นตัวหนึ่งพยายามทะลุระดับราคา 100 ดอลลาร์หลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ ระดับนี้ก็จะกลายเป็นแนวต้าน หากวันหนึ่งหุ้นสามารถทะลุ 100 ดอลลาร์ขึ้นไปได้พร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น จะถือเป็นสัญญาณของการเบรกขาขึ้น
นักเทรดมักตั้งจุดเข้าไว้เหนือระดับเบรกเล็กน้อย และตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop-loss) ไว้ต่ำกว่าจุดต่ำสุดก่อนหน้า ส่วนเป้าหมายกำไร (Target) อาจอิงจากความสูงของกรอบราคาเดิม หรือแนวต้านถัดไป
เพื่อเพิ่มความแม่นยำ นักเทรดบางคนจะรอให้แท่งเทียนปิดเหนือระดับการเบรก และใช้การยืนยันจากปริมาณการซื้อขาย หากปริมาณเพิ่มขึ้นในขณะการเบรก จะบ่งชี้ว่าตลาดมีแรงเข้าร่วมสูงและมีโอกาสที่ราคาจะเคลื่อนไหวต่อเนื่อง
กลยุทธ์ที่ 2: การเบรกจากรูปแบบสามเหลี่ยม(AscendingและDescending Triangle)
รูปแบบสามเหลี่ยมถือเป็นแพทเทิร์นต่อเนื่อง (Continuation Pattern) ที่มักบ่งบอกถึงการเบรกที่จะเกิดขึ้น โดยรูปแบบสามเหลี่ยมแบบ Ascending ราคาเคลื่อนไหวสร้าง “จุดต่ำที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ” ขณะที่ติดอยู่กับแนวต้านแนวนอน บ่งชี้ว่าแรงซื้อกำลังสะสมอยู่ หากสามารถทะลุแนวต้านได้ ก็มีแนวโน้มจะเกิดการเคลื่อนไหวที่รุนแรงในทิศทางขาขึ้น
ในทางกลับกัน รูปแบบ Descending Triangle ราคาจะสร้าง “จุดสูงที่ต่ำลงเรื่อย ๆ” ขณะที่ยืนอยู่บนแนวรับแนวนอน เป็นสัญญาณของแรงขายที่มากขึ้น หากราคาหลุดแนวรับลงมาได้ ก็มีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ขาลงอย่างต่อเนื่อง
การเทรดรูปแบบนี้เริ่มจากการระบุรูปสามเหลี่ยมบนกราฟ รอให้เกิดการเบรกพร้อมปริมาณซื้อขายที่เพิ่มขึ้น แล้วจึงเข้าเทรดตามทิศทางของการทะลุ ตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ใต้จุดต่ำสุดก่อนหน้า (กรณีขาขึ้น) หรือเหนือจุดสูงสุดสุดท้าย (กรณีขาลง)
กลยุทธ์นี้ให้ผลดีเป็นพิเศษในตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน เพราะการเบรกมักจะเคลื่อนที่ต่อไปตามทิศทางเดิมของแนวโน้ม
กลยุทธ์ที่ 3: การเบรกจากการตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) ก็สามารถช่วยในการจับสัญญาณเบรกได้ โดยเฉพาะเมื่อราคาทะลุผ่านเส้นค่าเฉลี่ยสำคัญ หรือเมื่อเส้นค่าเฉลี่ย 2 เส้นเกิดการตัดกัน
เส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน และ 200 วัน เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยการเบรกขาขึ้นจะเกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุเหนือเส้น 200 วัน หรือเมื่อเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน ตัดขึ้นเหนือเส้น 200 วัน ซึ่งเรียกกันว่า “Golden Cross” ส่วนเบรกขาลงจะเกิดขึ้นเมื่อราคาต่ำกว่าเส้น 200 วันหรือเกิด “Death Cross ”คือเส้น 50 วันตัดลงใต้เส้น 200 วัน
กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับการยืนยันการเปลี่ยนแนวโน้ม แม้จะให้สัญญาณช้ากว่ากลยุทธ์เบรกแบบอื่น แต่ถือว่ามีความแม่นยำสูง และเหมาะอย่างยิ่งกับนักเทรดสาย Swing Trade และ Position Trade ที่เน้นการเกาะแนวโน้มระยะยาว
กลยุทธ์ที่ 4: การเบรกจาก Bollinger Band Squeeze
Bollinger Bands คืออินดิเคเตอร์ที่ใช้วัดความผันผวนของราคา โดยเมื่อแถบ Bollinger หดแคบลงและราคาขยับในกรอบแคบ จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า “Bollinger Band Squeeze” ซึ่งมักเป็นสัญญาณว่าอาจมีการเบรกเกิดขึ้นในไม่ช้า
ในช่วงที่ความผันผวนต่ำลง ตลาดมักจะสะสมพลังรอการเคลื่อนไหวที่รุนแรง เมื่อราคาทะลุแถบบนหรือแถบล่างของ Bollinger Bands พร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น มักบ่งชี้ถึงการเบรคเอาท์ที่มีความแข็งแรง
วิธีการเทรดกลยุทธ์นี้คือ รอให้เกิดช่วงที่ Bollinger Bands หดแคบและความผันผวนลดลงจากนั้นเมื่อราคาทะลุกรอบออกไปและปิดแท่งเทียนนอกแถบ พร้อมแรงส่งที่ชัดเจน ให้เปิดออเดอร์ตามทิศทางการทะลุ ตั้งจุดตัดขาดทุนใกล้แถบฝั่งตรงข้าม และเลื่อนจุดตามเทรนด์ที่กำลังพัฒนา
กลยุทธ์ที่ 5: Break and Retest (ทะลุแล้วกลับมาทดสอบ)
อีกหนึ่งกลยุทธ์เบรกที่มีความน่าเชื่อถือสูงคือการรอ “การกลับมาทดสอบ (Retest)” หลังจากเกิดการเบรกในครั้งแรก เพราะบ่อยครั้งที่การเบรกล้มเหลวในการทะลุอย่างแท้จริง เนื่องจากสัญญาณปลอมหรือปริมาณการซื้อขายที่ยังไม่มากพอ
ตัวอย่างเช่น หากราคาทะลุแนวต้านขึ้นไปได้ในครั้งแรก ต่อมาอาจมีการกลับลงมาแตะบริเวณเดิมซึ่งเคยเป็นแนวต้าน เพื่อทดสอบว่าแนวระดับดังกล่าวกลายเป็นแนวรับหรือไม่ หากระดับนี้ยังคงรับราคาไว้ได้และเริ่มมีแรงซื้ออีกครั้ง แสดงว่าการเบรกได้รับการยืนยัน นั่นคือจังหวะที่ควรเข้าเทรด
กลยุทธ์นี้ช่วยเสริมความมั่นใจและการบริหารความเสี่ยงได้ดี เพราะสามารถตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ต่ำกว่าระดับที่ทดสอบ ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงการหลงเข้าเทรดจากสัญญาณปลอมหรือการเบรกที่ยังไม่ชัดเจน
การเบรกสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกกรอบเวลา แต่แต่ละกรอบเวลาก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน:
กราฟระยะสั้น (5 นาที, 15 นาที): เหมาะกับสาย Day Trade ให้ผลตอบแทนเร็วแต่มีสัญญาณรบกวนมาก
กราฟรายชั่วโมง (1 ชั่วโมง) : สมดุลระหว่างความเร็วและความชัดเจนเหมาะกับการเทรดเบรกในตลาด Forex
กราฟรายวัน: เหมาะกับนักเทรดแบบ Swing Trade การเบรกมีความน่าเชื่อถือสูงและง่ายต่อการยืนยัน
โดยสรุปแล้ว Breakout Trading เป็นกลยุทธ์ที่มีโอกาสสำเร็จสูง หากดำเนินการด้วยความมีวินัยและแผนการที่ชัดเจน กลยุทธ์ทั้ง 5 แบบที่กล่าวถึงในบทความนี้ ล้วนเป็นแนวทางที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถนำไปใช้ได้จริงในปี 2025
หากคุณต้องการจับจังหวะการเคลื่อนไหวของตลาดที่ชัดเจนและรวดเร็ว โดยมีสัญญาณล่าช้าน้อย การเรียนรู้และฝึกฝนกลยุทธ์การเบรกถือว่าคุ้มค่า เริ่มจากการเลือกใช้เพียงหนึ่งกลยุทธ์ทดสอบอย่างจริงจัง และค่อย ๆ เพิ่มขนาดการเทรดเมื่อมีความมั่นใจมากขึ้น
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
เรียนรู้วิธีดาวน์โหลด ติดตั้ง และเริ่มการซื้อขายบน MetaTrader 5 (MT5) ด้วยคู่มือทีละขั้นตอนที่เป็นมิตรต่อผู้เริ่มต้นนี้
2025-08-15ค้นพบกลยุทธ์การซื้อขายอันเป็นตำนานของทาคาชิ โคเทกาวะ ที่เปลี่ยนการลงทุนเล็กๆ ให้กลายเป็นเงินล้าน รับข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำแนวทางของเขาไปปรับใช้เพื่อความสำเร็จในยุคปัจจุบัน
2025-08-15เรียนรู้วิธีใช้ Analyst Views ของ Trading Central บนเว็บและ MT4/MT5 เพื่อเข้าถึงกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ สัญญาณ และข้อมูลเชิงลึกของตลาด
2025-08-15