เผยแพร่เมื่อ: 2025-06-24
ในปี 2025 อัตราแลกเปลี่ยนระหว่าง Yen vs Dollar (USD/JPY) หรือเงินเยนเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่ภายใต้การจับตามองอย่างใกล้ชิดจากทั้งนักวิเคราะห์และนักเทรด โดยมีสองปัจจัยหลักที่ทรงอิทธิพลอย่างยิ่งในปีนี้ ได้แก่ การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันทั่วโลก และนโยบายการเงินที่ยังคงผ่อนคลายอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)
ทั้งสองปัจจัยนี้ล้วนมีส่วนทำให้เงินเยนอ่อนค่าลง แต่สถานการณ์ดังกล่าวมีความซับซ้อนและส่งผลกระทบหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น ภาคการส่งออก และผู้ที่ซื้อขายในคู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากเป็นอันดับสามของโลก
ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก โดยพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศเกือบทั้งหมดในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ดังนั้น เมื่อราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น เช่นที่เกิดขึ้นจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง ดุลการค้าของญี่ปุ่นจึงได้รับผลกระทบต้นทุนการนำเข้าพลังงานที่สูงขึ้นส่งผลให้เกิดการขาดดุลการค้าที่กว้างขึ้น และสร้างแรงกดดันให้เงินเยนอ่อนค่าลง
เหตุการณ์ล่าสุดในตะวันออกกลางได้ผลักดันราคาน้ำมันดิบให้เพิ่มขึ้นมากกว่า 25% ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2024 และส่งผลให้เงินเยนลดค่าลงอย่างเห็นได้ชัด โดยในเดือนมิถุนายนเพียงเดือนเดียว เงินเยนอ่อนค่าลงถึง 2.4% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ นักวิเคราะห์จาก Citi ประเมินว่า การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน 10% อาจทำให้เงินเยนอ่อนค่าลง 3–4 เยนต่อดอลลาร์ เหตุผลก็สามารถเข้าใจได้ง่าย โดยเมื่อต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้น ความต้องการขายเงินเยนเพื่อแลกกับดอลลาร์ก็จะเพิ่มขึ้น ทำให้ค่าเงินเยนลดลงตามไปด้วย
ในขณะที่ธนาคารกลางอื่น ๆ ทั่วโลกได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงดำเนินนโยบายด้วยความระมัดระวัง โดยแม้จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียว 25 จุดพื้นฐานสู่ระดับ 0.5% ในเดือนมกราคม แต่ BOJ ก็หยุดการเข้มงวดเพิ่มเติม โดยให้เหตุผลว่าอัตราการเติบโตของค่าจ้างยังซบเซา ความไม่แน่นอนในภาคการค้าต่างประเทศยังมีอยู่และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังเปราะบาง การประชุมในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนของ BOJ ยิ่งเน้นย้ำจุดยืนที่ผ่อนคลายกว่าที่คาดไว้ โดยมีการปรับลดประมาณการ GDP และเงินเฟ้อ และส่งสัญญาณว่าจะยังไม่รีบขึ้นดอกเบี้ยในปี 2025
ความแตกต่างของนโยบายการเงินระหว่าง BOJ และธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จึงเห็นได้อย่างชัดเจน โดยแม้ Fed จะเริ่มส่งสัญญาณผ่อนคลายบางส่วน แต่ก็ยังคงมีจุดยืนที่ "เข้มงวด" มากกว่า BOJ ส่งผลให้ส่วนต่างของอัตราผลตอบแทนระหว่างพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และญี่ปุ่นขยายกว้างขึ้น ทำให้เงินดอลลาร์ดูน่าดึงดูดยิ่งขึ้น และสร้างแรงกดดันเพิ่มเติมต่อค่าเงินเยน
โดยทั่วไปแล้วเงินเยนมักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe-Haven) แต่ในปี 2025 แม้จะมีความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น เงินเยนกลับไม่ได้รับแรงหนุนอย่างที่เคยเป็น ความแตกต่างของผลตอบแทนพันธบัตรและท่าทีผ่อนคลายของ BOJ ยังคงมีอิทธิพลมากกว่าการไหลเข้าของเงินลงทุนเพื่อความปลอดภัย ส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมากยิ่งมั่นใจในแนวโน้มที่เงินเยนจะอ่อนค่าลงต่อไป
การอ่อนค่าของเงินเยนส่งผลกระทบทั้งด้านบวกและลบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น ดังนี้:
ผู้ส่งออกได้รับประโยชน์: ผู้ส่งออกของญี่ปุ่นสามารถทำกำไรจากตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น เมื่อแปลงรายได้กลับมาเป็นเงินเยนส่งผลให้ตลาดหุ้นได้รับแรงหนุน
ต้นทุนที่สูงขึ้น: ในทางกลับกัน ผู้ผลิตและผู้บริโภคต้องเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในสินค้าจำเป็นอย่างพลังงานและอาหาร ทำให้เกิดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ข้าวและสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ มีราคาสูงขึ้น ซึ่งกลายเป็นปัญหาทางการเมืองสำหรับรัฐบาลญี่ปุ่น โดยเฉพาะก่อนการเลือกตั้งสำคัญที่กำลังจะมาถึง
ดุลการค้า: การขาดดุลการค้ายิ่งรุนแรงขึ้นเมื่อค่าการนำเข้าเพิ่มสูง ส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่าลงอีก และก่อให้เกิดวัฏจักรสะท้อนกลับซึ่งยิ่งตอกย้ำความอ่อนแอของค่าเงิน
ณ ปลายเดือนมิถุนายน 2025 คู่สกุลเงิน USD/JPY เคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 145–147 หลังจากฟื้นตัวขึ้นจากการปรับตัวลงต่ำกว่า 140 ในเดือนเมษายน การคาดการณ์สำหรับช่วงที่เหลือของปีมีความหลากหลายดังนี้
มุมมองเงินเยนอ่อนค่า: นักวิเคราะห์บางรายคาดว่า เงินเยนอาจอ่อนค่าถึง 150 เยนต่อดอลลาร์ภายในเดือนกันยายน หากราคาน้ำมันยังคงสูง และ BOJ ยังคงไม่ปรับนโยบาย
โอกาสฟื้นตัว: ในขณะเดียวกัน มีบางฝ่ายเห็นว่าเงินเยนอาจฟื้นตัวได้ในช่วงปลายปี 2025 หาก Fed ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเข้มงวดมากขึ้น หรือ BOJ ส่งสัญญาณเปลี่ยนท่าทีเข้าสู่นโยบายเข้มงวด อย่างไรก็ตาม ความเห็นส่วนใหญ่เห็นว่าเส้นทางที่ง่ายที่สุดในตอนนี้คือเงินเยนอ่อนค่าต่อไป โดยเฉพาะถ้าราคาน้ำมันยังคงอยู่ในระดับสูงและ BOJ ยังคงมีท่าทีผ่อนคลาย
ติดตามราคาน้ำมัน: ความผันผวนในตลาดน้ำมันดิบจะส่งผลโดยตรงต่อทิศทางของเงินเยน
จับตาสัญญาณจาก BOJ: การเปลี่ยนแปลงท่าทีหรือนโยบายของ BOJ อาจทำให้ USD/JPY เคลื่อนไหวอย่างรุนแรง
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง: อย่าพึ่งพาความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์เพียงอย่างเดียวที่จะทำให้ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น
ผู้ส่งออกกับผู้บริโภค: เข้าใจความสมดุลระหว่างผลประโยชน์จากการส่งออกและแรงกดดันเงินเฟ้อภายในประเทศ
ในปี 2025 ชะตากรรมของเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ถูกกำหนดโดยปัจจัยสองประการสำคัญ ได้แก่ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น และนโยบายผ่อนคลายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) สำหรับนักเทรด นั่นหมายถึงความผันผวนที่เพิ่มขึ้นและโอกาสในการทำกำไร แต่ก็มาพร้อมกับความจำเป็นในการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเหตุการณ์โลกและนโยบายของธนาคารกลางยังคงเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
โปรดติดตามความเคลื่อนไหวในตลาดพลังงานและสัญญาณจาก BOJ อย่างใกล้ชิด เนื่องจากจะเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนคู่สกุลเงิน USD/JPY ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
