หุ้น AMD ปี 2025–2030 จะแซงหน้า Nvidia ได้หรือไม่?

บริษัท Advanced Micro Devices (AMD) ถือเป็นผู้เล่นสำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ โดยได้ท้าทายยักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia ด้วยโปรเซสเซอร์ที่ล้ำสมัยของตนเอง เมื่อความต้องการด้าน AI เกม และศูนย์ข้อมูลเพิ่มสูงขึ้น นักลงทุนจึงจับตามองศักยภาพการเติบโตของ AMD อย่างใกล้ชิดไปจนถึงปี 2025 และต่อเนื่องถึงปี 2030

ในการคาดการณ์หุ้น AMD ครั้งนี้ เราจะวิเคราะห์ว่า AMD จะสามารถทำผลงานได้เหนือกว่า Nvidia ในระยะยาวหรือไม่ โดยวิเคราะห์ผ่านการศึกษาทิศทางทางการเงิน ข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขัน ส่วนแบ่งตลาด และการคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญ

นวัตกรรมของ AMD และพันธมิตรทางกลยุทธ์จะช่วยผลักดันราคาหุ้นให้เหนือกว่าอิทธิพลของ Nvidia ได้หรือไม่? มาดูกันว่าในอีก 5 ปีข้างหน้านี้ นักลงทุนของหุ้น AMD จะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง

สถานะของหุ้น AMD ในปี 2025

ณ วันที่ 17 มิถุนายน 2025 หุ้นของ AMD (NASDAQ: AMD) ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 126.39 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเกือบ 60% จากจุดต่ำสุดในเดือนเมษายน 2025 โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในกลุ่มศูนย์ข้อมูลและแอปพลิเคชันด้าน AI

อย่างไรก็ตาม AMD ยังตามหลัง NVIDIA ในหลายด้าน โดยเฉพาะความพร้อมของแพลตฟอร์มและซอฟต์แวร์เฉพาะทาง ซึ่งเป็นประเด็นที่ทำให้เกิดข้อถกเถียงว่า AMD จะสามารถแซงคู่แข่งรายนี้ได้หรือไม่

เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น Nvidia ครองส่วนแบ่งตลาด GPU สำหรับศูนย์ข้อมูลด้าน AI ประมาณ 80–90% โดยอาศัยระบบนิเวศ CUDA ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง ขณะที่ AMD มีส่วนแบ่งประมาณ 11% แต่กำลังเร่งเครื่องอย่างรวดเร็วด้วยกลยุทธ์ AI

ความเป็นไปได้ที่ AMD อาจแซง Nvidia ได้กลายเป็นประเด็นถกเถียงอย่างร้อนแรง เนื่องจากการประเมินมูลค่าที่ต่ำของ AMD ได้รับความสนใจจากนักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก

ปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของหุ้น AMD

1. การเร่งตัวของ AI ผ่านชิปตระกูล MI300, MI350 และ MI400

• ชิป MI300 ได้รับกระแสตอบรับอย่างดี

• ในงาน "Advancing AI" เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน AMD ได้เปิดตัวชิป MI350 และ MI400 ซึ่งจะขับเคลื่อนเซิร์ฟเวอร์ Helios AI ที่เตรียมเปิดตัวในปี 2026 โดยใช้มาตรฐานแบบเปิดซึ่งต่างจาก NVLink ของ Nvidia ที่เป็นแบบปิด

• บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง OpenAI, Meta, Oracle และ xAI ต่างยืนยันจะใช้ชิป MI-series ขณะที่ Crusoe มีแผนซื้อ MI355X มูลค่า 400 ล้านดอลลาร์สำหรับงาน inference

• AMD อ้างว่า MI355X สามารถประมวลผลได้มากกว่าชิป B200 ของ Nvidia ถึง ~40% เมื่อคิดต่อมูลค่าเงินที่ใช้

หาก AMD สามารถดำเนินกลยุทธ์ด้าน AI ได้ตามแผน รายได้จากกลุ่ม AI ของบริษัทมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นจากราว 5.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ไปแตะระดับกว่า 7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 ขณะที่รายได้จากศูนย์ข้อมูลของ Nvidia จะยังคงสูงกว่าอย่างมาก (คาดการณ์อยู่ที่ 177 พันล้านดอลลาร์)

2. ปัจจัยหนุนการประเมินมูลค่า

AMD ซื้อขายที่อัตราส่วน P/E ล่วงหน้าประมาณ 25.6 เท่า เทียบกับ Nvidia ที่ประมาณ 34 เท่า และ P/B ของ AMD อยู่ที่ประมาณ 3.9 เท่า ขณะที่ Nvidia สูงถึงประมาณ 51 เท่า โดย AMD มีการคาดการณ์ EPS ว่าจะเติบโต +53.2% ในปี 2025 และ +38% ในปี 2026 ซึ่งชี้ว่า AMD ยังมีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น

สถาบันการเงินรายใหญ่หลายแห่งได้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย เช่น จาก 100 ดอลลาร์ เป็น 120 ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเฉลี่ยโดยรวมจากนักวิเคราะห์อยู่ที่ประมาณ 184 ดอลลาร์ ซึ่งหมายถึง upside ประมาณ 42% จากราคาปัจจุบัน

ผลประกอบการของ AMD vs NVIDIA

แม้ว่า AMD จะมีแนวโน้มเติบโตที่แข็งแกร่ง แต่ Nvidia (NASDAQ: NVDA) ยังคงยืนหนึ่งในตลาด โดยมีราคาหุ้นอยู่ที่ประมาณ 144 ดอลลาร์ และครองส่วนแบ่ง GPU สำหรับเซิร์ฟเวอร์ AI ราว 80–90% พร้อมระบบ CUDA ที่แข็งแกร่ง ซึ่งถือเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับคู่แข่ง

• การเปิดตัวสถาปัตยกรรม Blackwell (B200/HGX NVL72) และการ์ดจอ RTX 50-series ยังยิ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำ

• ขณะเดียวกันยุโรปเองก็กำลังเร่งขยายโครงสร้างพื้นฐานด้าน GPU ซึ่ง Nvidia เป็นเสาหลัก

ทั้งนี้ Nvidia มีการคาดการณ์รายได้จากศูนย์ข้อมูลที่จะอยู่ในระดับหลายแสนล้านดอลลาร์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

การคาดการณ์ราคาหุ้น AMD ปี2025–2030

มุมมองเชิงบวก (Bullish Case)

• TipRanks คาด EPS เติบโตประมาณ 53% ในปี 2025 และประมาณ 39% ในปี 2026 สำหรับ AMD ซึ่งสูงกว่า Nvidia โดยตั้งเป้าราคาเฉลี่ยไว้ที่ 148 ดอลลาร์ หรือ upside~42%

• Nasdaq ประเมินว่าหาก AMD ครองตลาด AI GPU ได้เพียง 10% จากมูลค่า 400 พันล้านดอลลาร์ ก็มีโอกาสที่ราคาหุ้นจะไปถึง 427 ดอลลาร์ ภายในปี 2030

• รายงานยังระบุว่า AMD มีพื้นฐานแข็งแกร่ง รายได้ทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง อัตรากำไรดีขึ้น และราคาต่ำเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

มุมมองระมัดระวัง (Cautious Voices)

• Bank of America เน้นว่าระบบนิเวศของ Nvidia ยังมีความได้เปรียบ การยอมรับ AI GPU นอกจีนยังมีข้อจำกัด และตลาดพีซียังอ่อนแอ จึงลดอันดับ AMD เหลือ "Neutral" พร้อมกรอบราคาเป้าหมาย 110–155 ดอลลาร์

• KeyBanc ระบุแรงกดดันจากอัตรากำไร ปัญหาใบอนุญาตในบางภูมิภาค และการแข่งขันจาก Intel แต่ยังคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 140 ดอลลาร์พร้อมเรตติ้ง "Sector Weight"

• HSBC ปรับลด AMD เป็น "Reduce" (ราคาเป้าหมาย 110 ดอลลาร์) เนื่องจากการเปิดตัว AI rack ล่าช้า และความต้องการ MI325 ที่ยังไม่ชัดเจน

กลยุทธ์การลงทุน

สำหรับนักลงทุนระยะยาว AMD ถือเป็นหนึ่งในหุ้นที่มีความสมดุลระหว่าง “มูลค่า” และ “ศักยภาพการเติบโต” ได้อย่างน่าสนใจ เนื่องจากยังซื้อขายอยู่ที่อัตรา P/E ล่วงหน้าที่ไม่สูงนัก เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม หุ้น AMD ก็มีความผันผวนไม่น้อย เพราะอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านจากบริษัทที่เน้นเพียง CPU ไปสู่การเป็นผู้ท้าชิงรายสำคัญของ Nvidia ในหลากหลายด้านของงานประมวลผล AI เส้นทางราคาหุ้นจึงมีแนวโน้มขึ้นลงแรง โดยเฉพาะในช่วงที่มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ รายงานผลประกอบการ หรือมีการเปลี่ยนแปลงเชิงมหภาคในอุปสงค์ของตลาดเซมิคอนดักเตอร์

สำหรับนักลงทุนที่เน้นความปลอดภัยหรือไม่ถนัดการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีที่มีความเสี่ยงสูง Nvidia อาจดูเป็นตัวเลือกที่มั่นคงกว่า เนื่องจากมีความเป็นผู้นำที่ชัดเจนและขนาดธุรกิจที่ใหญ่โต แต่สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้มากกว่า และมีมุมมองการลงทุนในช่วงเวลา 5–7 ปีข้างหน้า AMD คือหนึ่งในหุ้นที่มีศักยภาพสูงและน่าจับตามองในฐานะ “ม้ามืด” แห่งวงการ AI และฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์

กลยุทธ์ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนทั่วไป คือ การกระจายความเสี่ยงโดยถือครองทั้งหุ้น AMD และ Nvidia ควบคู่กัน ซึ่งจะช่วยให้สามารถเก็บเกี่ยวประโยชน์จากการเติบโตของ AI โดยไม่ต้องพึ่งพาความสำเร็จของบริษัทใดบริษัทหนึ่งมากเกินไป

สรุป

โดยสรุป AMD กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วจากความต้องการชิป AI และ CPU สำหรับเซิร์ฟเวอร์ แม้ในระยะสั้นจะยังไม่สามารถแซงหน้าคู่แข่งอย่าง Nvidia ในเรื่องมูลค่าตลาดและความเป็นผู้นำได้ แต่ด้วยศักยภาพในการขยายส่วนแบ่งตลาดและมูลค่าหุ้นที่ยังมีโอกาสเติบโต AMD จึงถือเป็นคู่แข่งที่น่าจับตามองไปจนถึงปี 2030

หาก AMD สามารถทำตามแผนเปิดตัวชิป MI300, MI350 และ MI400 ได้อย่างราบรื่น พร้อมกับพัฒนาซอฟต์แวร์ให้ทำงานเข้ากันได้ดีขึ้น และสามารถครองส่วนแบ่งตลาด AI GPU ได้ถึง 10% ราคาหุ้นในช่วง 300–400 ดอลลาร์ ภายในปี 2030 ก็เป็นไปได้อย่างสมเหตุสมผล อย่างไรก็ตาม Nvidia ยังมีความได้เปรียบด้านระบบนิเวศ ประสิทธิภาพ และขนาดธุรกิจซึ่งเป็นความท้าทายที่ AMD ต้องเผชิญต่อไป

คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ