กลยุทธ์ Breaker Block: เทรดอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

ตลาด Forex เป็นสภาพแวดล้อมที่รวดเร็วซึ่งการเคลื่อนไหวของสถาบันมักเป็นตัวกำหนดทิศทางราคาหนึ่งในกลยุทธ์ที่ใช้เพื่อค้นหาร่องรอยที่ซ่อนอยู่เหล่านี้คือกลยุทธ์ Breaker Block

Breaker Block คือแนวคิดสำคัญใน Smart Money Concepts (SMC) ซึ่งช่วยให้นักเทรดเข้าใจโครงสร้างตลาด การเปลี่ยนแปลงของสภาพคล่อง และจุดกลับตัวของราคา คู่มือนี้จะอธิบายว่า Breaker Block คืออะไร วิธีการระบุ และวิธีการนำไปใช้ในระบบการเทรดของคุณในปี 2025

Breaker Block ในการเทรด Forex คืออะไร?

Breaker Block คือระดับราคาที่เกิดขึ้นจากการที่ Order Block เดิมล้มเหลว มักจะอยู่ใกล้กับจุด Swing High หรือ Swing Low สำคัญ โดยแตกต่างจาก Order Block แบบดั้งเดิมซึ่งเป็นโซนที่คาดว่าราคาจะกลับตัวเนื่องจากการสั่งซื้อของสถาบัน Breaker Block กลับบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่สภาพคล่องถูกกวาดออกไป และแนวโน้มใหม่อาจเริ่มต้นขึ้น

Breaker Block เกิดขึ้นเมื่อ:

• ราคาทะลุผ่าน Order Block ก่อนหน้า

• ระดับที่ถูกทะลุนั้นกลายเป็นแนวรับหรือแนวต้านใหม่

• Smart Money น่าจะใช้ Breaker Block นี้ดักจับนักเทรดรายย่อยและเปลี่ยนแรงส่งของราคา

กลยุทธ์นี้ช่วยให้นักเทรดคาดการณ์การกลับตัวของแนวโน้มหรือการต่อเนื่องที่แข็งแกร่ง โดยเน้นไปที่ผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด แทนที่จะพึ่งพาตัวชี้วัดที่ล่าช้า

Breaker Block แบบ Bullish vs Bearish

1) Bullish Breaker Block

เกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุผ่าน Order Block แบบ Bearish (ซึ่งมักเกิดจากแนวโน้มขาลงก่อนหน้า) จากนั้นราคาย้อนกลับมาทดสอบและยอมรับโซนนั้นเป็นแนวรับใหม่ สัญญาณนี้บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงจากแนวโน้มขาลงเป็นขาขึ้น

ตัวอย่าง: ราคาทะลุขึ้นเหนือจุด Swing High ย้อนกลับมาทดสอบ Order Block ที่ถูกทำลาย และดีดตัวขึ้นสูงกว่าเดิม

2) Bearish Breaker Block

เกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุผ่าน Order Block แบบ Bullish แล้วราคาย้อนกลับขึ้นมาทดสอบและปฏิเสธระดับนั้นจากด้านล่าง สัญญาณนี้บ่งบอกถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้นและการกลับตัวจากแนวโน้มขาขึ้น

ตัวอย่าง: ราคาทะลุผ่านจุด Swing Low ลงมา แล้วย้อนกลับขึ้นมาทดสอบ Block ที่ถูกทำลาย และกลับตัวลงต่ำกว่าเดิม

กลยุทธ์ Breaker Block กับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบดั้งเดิม

แม้ว่าเครื่องมือวิเคราะห์แบบดั้งเดิมจะเข้าใจง่ายกว่า แต่กลยุทธ์ Breaker Block จะช่วยให้เห็นภาพลึกซึ้งถึงพฤติกรรมการเทรดของสถาบันมากกว่า

วิธีการระบุบนกราฟ

ในการระบุ Breaker Block ที่ถูกต้อง เทรดเดอร์ควรสังเกตส่วนสำคัญดังนี้:

1. โครงสร้างที่ถูกทำลาย (Structure Break): ราคาทะลุจุดสูงสุดหรือต่ำสุดสำคัญ ทำให้ Order Block ก่อนหน้าถูกยกเลิก

2. แท่งเทียนกลืนราคา (Engulfing Candles): แท่งเทียนขาขึ้นหรือขาลงที่แข็งแกร่ง กลืนราคาล่าสุด แสดงถึงการเข้ามาของสถาบันอย่างเข้มข้น

3. การทดสอบซ้ำ (Retest Zone): หลังจากราคาทะลุ จะมีการกลับมาทดสอบโซนของ Order Block ที่ล้มเหลว

4. ยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขาย (Volume Confirmation): ปริมาณการซื้อขายหรือความผันผวนที่พุ่งสูงใกล้ Breaker Block ช่วยยืนยันสัญญาณ

การตั้งค่า Breaker Block ที่มีโอกาสสำเร็จสูงมักสอดคล้องกับการเปลี่ยนทิศทางตลาด โดยเฉพาะเมื่อตรงกับแนวคิด Smart Money เช่น การกวาดสภาพคล่อง (liquidity sweeps) หรือจุดสูงสุด/ต่ำสุดเท่ากัน (equal highs/lows)

Breaker Block กับ Order Block

ทั้ง Breaker Block และ Order Block ต่างก็เป็นพื้นที่ที่มีการทำกิจกรรมของสถาบันการเงิน แต่มีวัตถุประสงค์และการตีความที่แตกต่างกัน

Order Block คือ:

• โซนการรวมตัวของราคา ที่สถาบันการเงินสะสมหรือกระจายตำแหน่ง

• โดยทั่วไป มักนำไปสู่การกลับตัวของราคา หรือการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่ง

Breaker Block คือ:

• Order Block ที่ล้มเหลวและถูกราคาทะลุผ่านไปแล้ว

• ราคากลับมาทดสอบโซนนั้นจากทางตรงกันข้าม

• สัญญาณของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตลาดอย่างมีนัยสำคัญ

การเข้าใจความแตกต่างนี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเข้าเทรดอย่างแม่นยำ และการตั้งจุด stop loss และ take profit ที่สมเหตุสมผล

วิธีเทรดด้วยกลยุทธ์ Breaker Block

ขั้นตอนที่ 1: ระบุแนวโน้มและโครงสร้างตลาด

เริ่มต้นด้วยการกำหนดแนวโน้มโดยรวมว่าเป็นขาขึ้น (bullish) หรือขาลง (bearish) ใช้โครงสร้างตลาดเพื่อยืนยันว่าตลาดกำลังทำจุดสูงสุดสูงขึ้นและจุดต่ำสุดสูงขึ้น หรือจุดสูงสุดต่ำลงและจุดต่ำสุดต่ำลง

รอสัญญาณ CHOCH (Change of Character) เพื่อบ่งชี้การกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น

ขั้นตอนที่ 2: หาตำแหน่ง Order Block และรอการเบรก

ทำเครื่องหมายบริเวณ order block ล่าสุดใกล้กับจุด swing high หรือ swing low เฝ้าดูราคาว่าจะทะลุผ่านระดับนี้หรือไม่ เมื่อตลาดทะลุผ่าน แสดงว่า order block นั้นถูกทำลาย และจะกลายเป็นโซน breaker block ที่เป็นไปได้ของคุณ

ขั้นตอนที่ 3: รอการทดสอบราคา (Retest)

ความอดทนเป็นสิ่งสำคัญ รอให้ราคากลับมายังโซน breaker block ซึ่งเป็นจุดที่คุณอาจจะเข้าทำรายการ ใช้กรอบเวลาที่เล็กลงเพื่อปรับจุดเข้าซื้อขายให้แม่นยำภายในโซนนี้

ราคาสามารถวิ่งผ่านโซนนี้เล็กน้อยก่อนที่จะเดินหน้าตามแนวโน้มใหม่ได้

ขั้นตอนที่ 4: เข้าทำรายการ

เมื่อราคามีปฏิกิริยาในโซน breaker block เช่น มีการเด้งกลับของราคา (rejection wicks) หรือเกิดแท่งเทียนแบบ engulfing ขาขึ้นหรือลง ให้ทำการเข้าซื้อขาย

ตั้งจุด stop-loss ไว้เหนือหรือต่ำกว่า breaker block เล็กน้อย เพื่อควบคุมความเสี่ยงในการเทรดของคุณ

ขั้นตอนที่ 5: ตั้งเป้าหมายทำกำไร (Take-Profit)

ตั้งเป้าหมายกำไรที่จุดสวิงหลักถัดไป เช่น จุดสูงสุดหรือต่ำสุดของตลาด, โซนความไม่สมดุล (imbalance zones) หรือพื้นที่ที่มีสภาพคล่องสูง (liquidity areas)

ถ้าคุณเทรดหลายตำแหน่ง สามารถตั้งหลายระดับทำกำไรได้ อย่าลืมว่าควรรักษาสัดส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (risk-to-reward ratio) อย่างน้อย 1:2 หรือดีกว่า

ตัวอย่างจริง

การตั้งค่า :

• ตลาด: EUR/USD

• กรอบเวลา: 1 ชั่วโมง (1H)

• โครงสร้างตลาด: แนวโน้มขาลง (downtrend) โดยมี bullish order block อยู่ใกล้ระดับแนวรับ (support level)

การเคลื่อนไหวของราคา:

• ราคาทะลุต่ำกว่าบล็อกคำสั่งขาขึ้น (bullish order block) และทำจุดต่ำสุดใหม่ (swing low)

• ราคาย้อนกลับมาทดสอบบล็อกคำสั่งที่ถูกทำลาย (ซึ่งตอนนี้กลายเป็น breaker block ขาลง)

• เกิดแท่งเทียน Bearish Engulfing ที่บริเวณ breaker block

การเทรด :

• จุดเข้า: ที่ breaker block

• จุดตัดขาดทุน (Stop Loss): เหนือบริเวณบล็อก

• จุดทำกำไร (Take Profit): โซนดีมานด์ถัดไปหรือต่ำสุดหลักของราคา

• ผลลัพธ์ (Outcome): ราคายังคงปรับตัวลงต่อเนื่อง ทำกำไรได้ 3 เท่าของความเสี่ยง (3R)

ข้อดีและความเสี่ยง

บทสรุป

โดยสรุปแล้ว Breaker Block คือหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในกลยุทธ์ Smart Money Concepts ช่วยชี้จุดระดับราคาที่สถาบันใช้ เปิดเผยสัญญาณกลับตัวสำคัญของตลาด และให้จุดเข้าเทรดที่แม่นยำสำหรับเทรดเดอร์ที่มีวินัย

การเชี่ยวชาญ Breaker Block ไม่ได้เกิดขึ้นในทันที ต้องใช้เวลาในการดูกราฟ ทดสอบย้อนหลัง และมีความอดทน แต่สำหรับผู้ที่พร้อมลงทุนเวลาและความพยายาม Breaker Block จะช่วยเปลี่ยนเกมในการเทรดฟอเร็กซ์ ให้คุณเทรดได้อย่างชัดเจนและมั่นใจมากขึ้น

คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ