เรียนรู้วิธีระบุและเทรด Inverse Fair Value Gaps (FVG) ด้วยแนวคิด Smart Money Concepts (SMC) เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเข้าออเดอร์ ทั้งในตลาด Forex และหุ้น
แนวคิด Smart Money Concepts (SMC) ได้กลายเป็นหนึ่งในกรอบการวิเคราะห์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางที่สุด สำหรับการทำความเข้าใจพฤติกรรมการซื้อขายของสถาบันในตลาดการเงิน
ภายใต้โครงสร้างและเครื่องมือที่หลากหลายของ SMC แนวคิดของ Fair Value Gaps (FVG) ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการช่วยเทรดเดอร์ระบุจุดเสียสมดุลของราคาและบริเวณที่มีสภาพคล่องสูง อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหนึ่งรูปแบบที่พบได้น้อยกว่าแต่มีศักยภาพในการสร้างโอกาสในการเทรดที่น่าสนใจ นั่นคือ Inverse Fair Value Gap
บทความนี้จะอธิบายความสำคัญของ Inverse Fair Value Gaps ความสัมพันธ์กับหลักการของ SMC แบบดั้งเดิม และกลยุทธ์การเทรดที่สามารถนำไปใช้ในสถานการณ์จริงของตลาด
แนวคิด Fair Value Gap (FVG) ในระบบ Smart Money Concepts (SMC) คือช่วงเวลาที่ราคาขยับเร็วมากในทิศทางใดทิศทางหนึ่งจนเกิดช่องว่างของราคา ที่เรียกว่าช่องว่างนี้เกิดจากตลาดเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนไม่มีการซื้อขายในราคาบางช่วง มักเกิดขึ้นตอนที่มีข่าวสำคัญ การซื้อขายของสถาบันใหญ่ หรือเวลาที่ราคาทะลุแนวต้านหรือแนวรับด้วยแรงซื้อ-ขายสูง
FVG จะถูกระบุจากแท่งเทียน 3 แท่งที่มีลักษณะดังนี้:
แท่งเทียนกลางมีการเคลื่อนไหวแรงทั้งแบบขาขึ้นหรือขาลง
แท่งเทียนก่อนหน้าและหลังไม่ทับซ้อนกับไส้แท่งเทียนกลาง
เกิดช่องว่าง (gap) ของราคาในบริเวณที่มีสภาพคล่องน้อยหรือไม่มีเลย
นักเทรดสถาบันมักจะกลับมาเทรดในพื้นที่นี้ เพื่อเติมเต็มช่องว่างและเก็บคำสั่งที่ยังไม่ถูกดำเนินการ ซึ่งจุดนี้จึงเป็นโอกาสดีสำหรับนักเทรดรายย่อยที่ติดตามพฤติกรรมของ Smart Money ในการหาโอกาสเข้าเทรดตามรอยสถาบันใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Inverse Fair Value Gap (IFVG) แตกต่างจาก Fair Value Gap ปกติตรงที่ IFVG เน้นเรื่องกับดักสภาพคล่องและการหลอกให้เกิดการเบรกเอาต์ปลอม แทนที่จะเป็นช่องว่างราคาที่เกิดจากการเคลื่อนไหวรวดเร็วแบบใน FVG ทั่วไป
โดยปกติ FVG จะเกิดเมื่อราคาวิ่งเร็วแล้วทิ้งช่องว่างไว้ แต่ IFVG คือช่วงที่ราคากลับไปยังบริเวณเดิมที่เคยเกิดความไม่สมดุล แต่กลับพลิกตัวไปในทิศทางตรงข้ามแทน
สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการชักจูงของตลาดที่ Smart Money ดึงนักเทรดเข้าไปในจุดที่ดูเหมือนเป็นโอกาส เพื่อดักจับนักเทรดเหล่านั้น
ลักษณะสำคัญของ IFVG ได้แก่:
เกิดขึ้นในทิศทางตรงกันข้ามกับแนวโน้มที่กำลังดำเนินอยู่
มักสัมพันธ์กับการกวาดสภาพคล่องหรือการล่าหยุด (stop hunts)
ทำหน้าที่เป็นการเติมช่องว่างแบบหลอก (false fill) ของ FVG เพื่อดักจับนักเทรดที่ตามเบรกเอาต์หรือการดีดตัวกลับ
เหมาะสำหรับการตั้งค่า reversal เมื่อราคาหลอกเติมช่องว่าง FVG
สรุปง่าย ๆ คือ IFVG คือการกลับไปเติมช่องว่าง FVG แบบที่ถูกควบคุม (manipulated revisit) เพื่อหลอกให้นักเทรดส่วนใหญ่คิดว่าราคาจะไปต่อ แต่จริง ๆ แล้วกำลังจะกลับตัว
1. เกิดหลังจากมี Fair Value Gap แบบปกติ
ตลาดอาจทิ้ง FVG ชัดเจนหลังจากการเคลื่อนที่แบบแรง เมื่อราคากลับไปยังโซนนั้น การตั้งค่า IFVG จะเริ่มเกิดขึ้น
2. การปฏิเสธโซนอย่างรวดเร็ว
แทนที่จะรวมตัวและเดินหน้าต่อในทิศทางเดิม ตลาดจะปฏิเสธโซนอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นว่า Smart Money ได้เก็บสภาพคล่องที่ต้องการแล้วและพร้อมจะเคลื่อนตลาดต่อ
3. หลอกดักนักเทรด
จุดเด่นของ IFVG คือการหลอกนักเทรดเบรกเอาต์ให้เข้าออเดอร์ในทิศทางผิด Smart Money จะกลับมาโซนนี้เพื่อสร้างภาพลวงของการต่อเนื่องแนวรับ-แนวต้าน
4. เกิดพร้อมหรือนำหน้าการกวาดสภาพคล่อง
IFVG ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการล่าหยุด ตลาดอาจกวาดราคาสูงสุดหรือต่ำสุดของโครงสร้างก่อนหน้าก่อนกลับตัวอย่างแรง
5. เกิดใกล้โซนสำคัญของ SMC
ให้สังเกต IFVG ใกล้กับโซนดังนี้:
FVG ก่อนหน้า
Breaker blocks
CHOCH zones
Premium/discount arrays (ในแนวคิด SMC)
พื้นที่ที่มีการรวมกันของหลายปัจจัยเหล่านี้ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้สัญญาณ IFVG มากขึ้น
ขั้นตอนที่ 1: ระบุ FVG ดั้งเดิม
เริ่มจากการมองหาแท่งเทียน 3 แท่งที่สร้าง FVG ซึ่งมักเกิดหลังจากการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรง ให้ทำเครื่องหมายบริเวณนั้นไว้เพื่อรอจังหวะที่ราคาจะกลับมาแตะอีกครั้งในอนาคต
ขั้นตอนที่ 2: รอให้ราคากลับมาแตะโซน FVG
เมื่อราคากลับเข้ามาทดสอบโซน FVG อย่าเพิ่งรีบเข้าออเดอร์ ให้สังเกตพฤติกรรมของราคาในบริเวณช่องว่างนั้นก่อน
ขั้นตอนที่ 3: ยืนยันลักษณะของ IFVG
เมื่อราคากลับมาแตะโซน FVG ให้มองหาสัญญาณการปฏิเสธบริเวณนั้น เช่น
มีไส้เทียนยาวสะท้อนการถูกปฏิเสธ (wick rejection)
เกิดแท่งเทียน engulfing กลับทิศ (bullish หรือ bearish engulfing)
มีการกวาดสภาพคล่องจากจุดสูงหรือต่ำที่เท่ากัน (equal highs/lows)
ปริมาณการซื้อขายลดลง หรือเกิดรูปแบบเบรกเอาต์ที่ล้มเหลว
ขั้นตอนที่ 4: มองหาการเปลี่ยนโครงสร้าง CHOCH หรือ BOS
ยืนยันว่าราคาเริ่มเปลี่ยนแนวโน้มในกรอบเวลาที่สั้นลง (เช่น 15 นาที หรือ 5 นาที) การเกิด Change of Character (CHOCH) หรือ Break of Structure (BOS) จะช่วยเพิ่มความมั่นใจว่า IFVG นั้นมีความน่าเชื่อถือและการกลับทิศของราคากำลังจะเกิดขึ้นจริง
ขั้นตอนที่ 5: ข้าออเดอร์พร้อมตั้ง Stop-Loss อย่างรัดกุม
เมื่อได้รับการยืนยันแล้ว ให้เข้าออเดอร์ในทิศทางตรงข้ามกับกับดัก และวางจุดหยุดขาดทุน (Stop-Loss) ไว้เลยจากไส้เทียนเล็กน้อย หรือสูง/ต่ำของโครงสร้าง เพื่อป้องกันการกวาดราคาที่ขยายออกและลดความเสี่ยง
ขั้นตอนที่ 6: ตั้งเป้าหมายทำกำไรอย่างสมเหตุสมผล
กำหนดจุดทำกำไร (Take-Profit) ได้จาก:
โครงสร้างราคาสำคัญถัดไป
จุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวก่อนหน้า
ระดับ Fibonacci เช่น 50% หรือ 61.8%
บริเวณ Order Block เดิม
ควรระวังข่าวเศรษฐกิจที่อาจเพิ่มความผันผวน และปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมหากมีเหตุการณ์สำคัญใกล้ถึง
ลองจินตนาการว่า ราคาวิ่งทะลุแนวต้านขึ้นไป และเกิด FVG ขาขึ้น หลังจากนั้นไม่กี่ช่วงราคาได้กลับมาทดสอบโซน FVG อีกครั้ง นักเทรดหลายคนรีบเปิดคำสั่งซื้อ (Long) คาดหวังว่าราคาจะเดินหน้าต่อไป
แต่แทนที่จะขึ้นต่อ ราคากลับพุ่งเข้าไปในโซนอย่างรวดเร็ว แตะจุดสูงเดิมด้วยไส้เทียนแล้วพลิกกลับลงอย่างรุนแรง
นี่คือตัวอย่างของ IFVG อย่างชัดเจน:
ราคาหลอกให้ดูเหมือนว่าจะไปต่อด้วยการกลับมาแตะโซน FVG
มีการกวาดสภาพคล่องเหนือจุดสูงเดิม เพื่อดึงคำสั่งซื้อของนักเทรดรายย่อย
จากนั้นกลับตัวลงแรงพร้อมกับเปลี่ยนโครงสร้างตลาด (CHOCH) และเริ่มเป็นเทรนด์ขาลง
ถ้าคุณรอให้เห็นสัญญาณการปฏิเสธราคา และมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตลาดชัดเจนก่อนเข้าออเดอร์ คุณก็จะสามารถเข้าเทรดฝั่งตรงข้าม (เช่น Short) ได้อย่างมั่นใจ ด้วยความเสี่ยงต่ำและมีโอกาสทำกำไรสูง
เข้าใจผิดระหว่างการเติม FVG จริงกับกับดัก IFVG
ไม่ใช่ทุกครั้งที่ราคากลับมาโซน FVG จะเป็นกับดัก บางครั้งราคากลับมาเพื่อใช้บริเวณนั้นเป็นแนวรับหรือแนวต้านจริง ควรเข้าเทรดเฉพาะเมื่อมีสัญญาณที่ชัดเจนของการปฏิเสธและพฤติกรรมตลาดที่แสดงการชักนำ (manipulation)
มองข้ามโครงสร้างในกรอบเวลาที่ใหญ่กว่า
ควรจัดแนวทางการเทรดให้สอดคล้องการเทรดกับแนวโน้มหลักของกรอบเวลาใหญ่ แม้ IFVG ที่ตรงกับแนวโน้มหลักจะมีโอกาสสำเร็จ แต่หากสวนเทรนด์หลัก ความเสี่ยงก็จะเพิ่มขึ้นมาก
เข้าตลาดเร็วเกินไป
ความอดทนเป็นสิ่งสำคัญ ปล่อยให้ตลาดแสดงพฤติกรรมออกมาก่อน อย่ารีบเข้าออเดอร์โดยไม่เห็นสัญญาณยืนยัน เช่น CHOCH หรือ BOS เพราะจะเพิ่มโอกาสในการถูกหลอกและขาดทุน
Inverse Fair Value Gap (IFVG) เป็นแนวคิดที่ละเอียดอ่อนแต่ทรงพลังในระบบ Smart Money Concepts (SMC) ซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถจับจังหวะการหลอกเบรกเอาต์ (fakeout) และเข้าออเดอร์ก่อนที่การเคลื่อนไหวจริงจะเริ่มต้นได้ ต่างจาก FVG แบบดั้งเดิมที่มักบ่งบอกถึงแนวโน้มต่อเนื่อง IFVG กลับส่งสัญญาณกลับตัวผ่านการชักนำสภาพคล่องและกับดักทางจิตวิทยา
หากต้องการเทรด IFVG อย่างมีประสิทธิภาพ ควรทำความเข้าใจโครงสร้างของมันและบริบทภายใต้ระบบ SMC ใช้ปัจจัยสนับสนุนร่วม (confluence) เช่น CHOCH, BOS และการกวาดสภาพคล่อง ตรวจสอบความถูกต้องของรูปแบบด้วยการเข้าออเดอร์จากกรอบเวลาย่อย กำหนดจุดยกเลิกแผนเทรดอย่างชัดเจน และหลีกเลี่ยงการเทรด IFVG แบบโดดเดี่ยวหรือสวนแนวโน้มใหญ่ของตลาด
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
กองทุน SPDR Gold Shares (GLD) คือ ETF ทองคำสะท้อนราคาทองแท่งแบบเรียลไทม์ พร้อมกลยุทธ์ลงทุนและปัจจัยที่มีผลต่อผลตอบแทน
2025-08-18เรียนรู้ วิธีเทรดหุ้น อย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การวางแผน วิเคราะห์หุ้น บริหารความเสี่ยง และใช้จิตวิทยาเพิ่มโอกาสทำกำไรอย่างมั่นคง
2025-08-18ซื้อขายอย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้นด้วยกลยุทธ์สเปรดแบบกำหนดความเสี่ยงสำหรับสถานการณ์ตลาดขาขึ้น ตลาดขาลง และตลาดเป็นกลาง
2025-08-18