เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-16
หุ้น NuScale Power (SMR) ปรับตัวลงอีกครั้ง โดยล่าสุดซื้อขายอยู่แถว 17.41 ดอลลาร์ หลังจากร่วงลงประมาณ 5% ในช่วงการซื้อขายล่าสุด การปรับตัวลงครั้งนี้ทำให้ราคากลับเข้าสู่โซนชี้ชะตาอีกครั้ง ซึ่งเป็นบริเวณที่ฝั่งผู้ซื้อจะต้องตัดสินใจว่าจะเข้ามาป้องกันแนวรับ หรือถอยออกจากตลาด
แรงขายที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเรื่องบังเอิญ แต่สะท้อนแรงกดดันสองด้านที่เข้ามาพร้อมกัน ด้านแรก ตลาดกำลังปรับมุมมองต่อความเป็นไปได้ของการเพิ่มจำนวนหุ้นในระบบ ซึ่งโดยปกติจะกดดันราคาล่วงหน้า แม้หุ้นใหม่ยังไม่ถูกออกมาจริง ส่วนด้านที่สอง กราฟราคาหลุดระดับแนวโน้มสำคัญ ส่งผลให้พฤติกรรมของนักเทรดจำนวนมากเปลี่ยนไป
เมื่อหุ้นหลุดแนวรับ การรีบาวด์มักจะไม่ยั่งยืนจนกว่าจะมีการสร้างฐานราคาใหม่ นี่จึงเป็นเหตุผลที่แนวรับของหุ้น SMR กลายเป็นระดับสำคัญที่สุดที่ต้องจับตาในตอนนี้
ปัจจัยหลักที่กดดันราคาหุ้น NuScale Power มาจากความเสี่ยงของการเพิ่มทุน แรงกดดันจากการระดมเงินทุน และการเสียโครงสร้างทางเทคนิคหลังจากราคาปรับขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้า บริษัทได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าต้องการความยืดหยุ่นในการออกหุ้นเพิ่ม ซึ่งนักเทรดมักจะนำปัจจัยนี้มาคิดในราคาล่วงหน้า โดยเฉพาะหลังจากราคาหุ้นปรับขึ้นมามากแล้ว
ปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการปรับตัวลงของหุ้น SMR ได้แก่
ปริมาณหุ้นล้นตลาด: ผู้ถือหุ้นถูกขอให้ลงมติอนุมัติการเพิ่มจำนวนหุ้น Class A ที่ได้รับอนุญาตจาก 332,000,000 หุ้น เป็น 662,000,000 หุ้น
การระดมทุนด้วยการออกหุ้น: บริษัทรายงานว่าได้ขายหุ้น 13.2 ล้านหุ้นผ่านโครงการ ATM ในไตรมาสที่ 3 ระดมทุนได้ 475.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ผลประกอบการที่น่าจับตามอง: ไตรมาสที่ 3 มีรายการสำคัญมูลค่า 495 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับความสำเร็จตามข้อตกลงความร่วมมือ ซึ่งส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายในการบริหารและทั่วไป (G&A) และทำให้ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานในระยะสั้นลดลง
ความเสียหายทางเทคนิค: ดัชนี SMR อยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สำคัญ ขณะที่ RSI อยู่ใกล้ระดับขายมากเกินไป และตัวชี้วัดหลายตัวยังคงชี้ลง
ก่อนที่จะเจาะลึกไปกว่านี้ การดูเส้นทางที่นำพา SMR มาถึงจุดนี้จะเป็นประโยชน์
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้น SMR ลดลงประมาณ -19.25% (จาก 21.56 ดอลลาร์ในวันที่ 8 ธันวาคม เหลือ 17.41 ดอลลาร์ในวันที่ 15 ธันวาคม)
การปรับตัวลงไม่ได้เกิดขึ้นอย่างราบรื่น แต่มีความผันผวนแรงระหว่างวันหลายครั้ง และปริมาณการซื้อขายหนาแน่นในวันที่ราคาปรับลงหนักที่สุด ลักษณะนี้สอดคล้องกับแรงขายที่เกิดจากการบังคับขาย รวมถึงนักเทรดที่ทยอยออกจากสถานะตามโมเมนตัม
ในช่วงเวลาประมาณหนึ่งเดือน ราคาหุ้น SMR ลดลงประมาณ -22.45% (จาก 22.45 ดอลลาร์ในวันที่ 14 พฤศจิกายน เหลือ 17.41 ดอลลาร์ในวันที่ 15 ธันวาคม)

ช่วงเวลาดังกล่าวสะท้อนรูปแบบที่ชัดเจน คือการรีบาวด์ที่ไม่ผ่าน การทำจุดสูงสุดที่ต่ำลงเรื่อย ๆ และการหลุดแนวรับระยะสั้นซ้ำ ๆ เป็นลักษณะของกราฟที่เมื่อราคาดีดขึ้น มักจะถูกขายทำกำไรออกมา จนกว่าราคาจะแสดงให้เห็นสัญญาณกลับตัวที่ชัดเจน
ในภาพใหญ่ ความเคลื่อนไหวของราคาถือว่าน่าตกใจยิ่งกว่า โดยหุ้น SMR เคยทำจุดสูงสุดที่ 57.42 ดอลลาร์ ภายในช่วง 52 สัปดาห์ และเคยลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 11.08 ดอลลาร์ จากจุดสูงสุดดังกล่าวจนถึงราคาปิดล่าสุด หุ้นปรับตัวลงไปแล้วประมาณ 69.7%

แม้ราคาจะปรับตัวลงมาแรง แต่หุ้น SMR ยังซื้อขายอยู่สูงกว่าจุดต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ากรอบการแกว่งของหุ้นตัวนี้กว้างมาก เป็นหุ้นที่มีความผันผวนสูง ดังนั้นการบริหารความเสี่ยงจึงสำคัญกว่าความเห็นหรือมุมมองส่วนตัว
เมื่อบริษัทขออนุมัติเพิ่มจำนวนหุ้นที่สามารถออกได้จำนวนมาก นักเทรดมักตีความเป็นสัญญาณว่าบริษัทมีทางเลือกในการออกหุ้นเพิ่มเมื่อใดก็ได้ ซึ่งมักจะจำกัดอัพไซด์ของราคาหุ้นในระยะสั้น
NuScale เรียกประชุมผู้ถือหุ้นเป็นกรณีพิเศษในวันที่ 16 ธันวาคม 2025 โดยมีวาระเสนอให้เพิ่มจำนวนหุ้น Class A ที่สามารถออกได้ จาก 332 ล้านหุ้น เป็น 662 ล้านหุ้น เอกสารประกอบการประชุมยังระบุเหตุผลอย่างชัดเจน คือเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการระดมทุน การทำธุรกรรมเชิงกลยุทธ์ และการจ่ายค่าตอบแทนด้วยหุ้น
แม้ว่าหุ้นใหม่อาจยังไม่ถูกออกมาในทันที แต่ตลาดมักจะสะท้อนความเสี่ยงด้านอุปทานนี้ล่วงหน้า เพราะเป็นปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
NuScale ปิดไตรมาส 3 ด้วยเงินสด เงินสดเทียบเท่า และเงินลงทุนรวม 753.8 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งสำหรับบริษัทในระยะเริ่มต้น
อย่างไรก็ตาม ฐานะเงินสดที่ดีขึ้นส่วนหนึ่งมาจากการออกหุ้นเพิ่ม โดยบริษัทระบุว่ามีการขายหุ้นจำนวน 13.2 ล้านหุ้น ผ่านโครงการ at-the-market ในไตรมาส 3 ทำให้ได้รับเงินสดรวม 475.2 ล้านดอลลาร์
ความกังวลของตลาดไม่ได้อยู่ที่การระดมทุน แต่เป็นรูปแบบที่เกิดขึ้น เมื่อหุ้นปรับขึ้นแรง โปรแกรม ATM มักกลายเป็นแหล่งอุปทานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในวันที่ราคาดีดขึ้น
สิ่งนี้ทำให้การรีบาวด์อ่อนแรง และบรรยากาศของกราฟเปลี่ยนจากตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยโมเมนตัม ไปสู่ลักษณะของการกระจายหุ้น
ในไตรมาส 3 บริษัทมีค่าใช้จ่ายด้านบริหารและจัดการเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่วนใหญ่เกิดจากการบันทึกรายการพิเศษมูลค่า 495.0 ล้านดอลลาร์ ที่เกี่ยวข้องกับความคืบหน้าภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือ
รายการทางบัญชีขนาดใหญ่มักทำให้ภาพรวมงบการเงินดูบิดเบือนในสายตาตลาด แม้นักเทรดจะเข้าใจรายละเอียด แต่ตัวเลขพาดหัวยังคงส่งผลต่อการวางสถานะ เพราะมันย้ำเตือนว่าบริษัทยังอยู่ในช่วงลงทุนหนัก และผลประกอบการอาจผันผวนเป็นช่วง ๆ
พูดง่าย ๆ คือ งบดุลดูแข็งแรงขึ้น แต่ภาพกำไรยังเป็นธุรกิจระยะเริ่มต้น และเมื่อหุ้นถูกตีมูลค่าไว้กับความหวังในอนาคตสูง ความไม่แน่นอนเพียงเล็กน้อยก็สามารถกดดันราคาได้แรง
เมื่อหุ้น SMR หลุดเส้นค่าเฉลี่ยสำคัญหลายเส้น การปรับตัวลงจึงกลายเป็นวงจรที่ยิ่งขายก็ยิ่งกดราคา การหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 20 วัน 50 วัน และ 200 วัน มักกระตุ้นคำสั่งตัดขาดทุน การขายตามระบบ และการเปลี่ยนฝั่งของนักเทรดระยะสั้น
ในปัจจุบัน สัญญาณรายวันส่วนใหญ่ยังคงชี้ลง แม้ออสซิลเลเตอร์บางตัวจะเข้าใกล้เขตขายมากเกินไปแล้วก็ตาม นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคำว่า “ขายมากเกินไป” ไม่ได้หมายความว่าจะเป็น “จุดต่ำสุด” เสมอไป เพราะในแนวโน้มขาลงที่แข็งแรง ภาวะขายมากเกินไปสามารถคงอยู่ได้นานกว่าที่หลายคนคาดไว้
จากมุมมองการวิเคราะห์ทางเทคนิค หุ้น SMR อยู่ในแนวโน้มขาลงในกรอบเวลาประจำวัน โดยโมเมนตัมยังคงอ่อนแอ
RSI (14): ~32 ซึ่งใกล้ระดับขายมากเกินไปแต่ยังคงบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลง
MACD: -0.859 ยังคงติดลบ แสดงถึงโมเมนตัมขาลง
ADX: ประมาณ 38 ซึ่งบ่งชี้ว่าแนวโน้มมีความแข็งแกร่ง (และทิศทางแนวโน้มเป็นขาลง)
ATR (14): ~0.598 ซึ่งหมายถึงการเคลื่อนไหวรายวันโดยทั่วไปประมาณ 0.60 ดอลลาร์ (ประมาณ 3% ถึง 4% ที่ราคาปัจจุบัน)
| ตัวชี้วัด (รายวัน) | มูลค่า | ความหมายเชิงเทคนิค |
|---|---|---|
| ปิดครั้งล่าสุด | 17.41 เหรียญสหรัฐ | การเทขายอย่างรุนแรงเข้าสู่โซนแนวรับ |
| RSI (14) | 32.026 | โมเมนตัมอ่อนตัว ใกล้ภาวะขายมากเกินไป |
| Stochastic (9,6) | 13.609 | สภาวะขายเกินจำนวน |
| MACD (12,26) | -0.859 | โมเมนตัมขาลง |
| ADX (14) | 38.198 | แนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่ง |
| ATR (14) | 0.598 | โดยทั่วไปราคาจะผันผวนประมาณ 0.60 ดอลลาร์ต่อวัน |
| MA 5 | 17.693 | ราคาต่ำกว่าแนวโน้มระยะสั้น |
| MA 10 | 18.095 | แรงดันเหนือศีรษะ |
| MA 20 | 19.075 | เส้นแบ่งสำคัญสำหรับการรีบาวน์ |
| MA 50 | 20.351 | แนวโน้มขาลงระยะกลางยังคงอยู่ |
| MA 200 | 22.871 | แนวต้านระยะยาวสูงกว่าราคาปัจจุบันมาก |
$17.35 ถึง $17.45: ช่วงราคาปัจจุบันที่อยู่ในโซนการต่อสู้รอบจุดต่ำสุดล่าสุดและแนวรับสำคัญใกล้เคียง
ราคา 16.90 ถึง 17.00 ดอลลาร์: ช่วงราคาต่ำสุดก่อนหน้านี้จากปลายเดือนพฤศจิกายน
11.08 ดอลลาร์: ราคาต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ และเป็น "เส้น" ที่นักลงทุนระยะยาวจะจดจำไว้ หากการเทขายกลายเป็นภาวะขาดทุนที่รุนแรงกว่านี้
ราคา 18.10 ถึง 19.10 ดอลลาร์: อยู่ในช่วงราคาใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 วันและ 20 วัน ซึ่งเป็นบริเวณที่แนวโน้มขาลงมักไม่เกิดการดีดตัวขึ้น
20.35 ดอลลาร์: ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน ซึ่งมักเป็นบททดสอบสำคัญสำหรับการพยายามฟื้นตัวใดๆ
22.87 ถึง 23.00 ดอลลาร์: บริเวณค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน และเป็นโซนที่เคยปรับตัวลงมาก่อน
โดยทั่วไปแล้ว ราคาจะเปลี่ยนแปลงในแต่ละวันประมาณ 16.81 ถึง 18.01 ดอลลาร์ (ขึ้นหรือลงประมาณ 0.60 ดอลลาร์)
การคาดการณ์คร่าวๆ ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ (ATR × √5) ชี้ให้เห็นว่าราคาจะอยู่ที่ประมาณ 16.07 ถึง 18.75 ดอลลาร์สหรัฐ
นี่ไม่ใช่การพยากรณ์ แต่เป็นการกำหนดความคาดหวังว่า SMR จะเปลี่ยนแปลงไปได้ไกลแค่ไหนโดยปราศจากปัจจัยกระตุ้นใหม่ใดๆ
ราคาสามารถยืนเหนือโซน 17.35–17.45 ดอลลาร์ได้อย่างชัดเจน และดีดกลับขึ้นไปผ่านระดับ 19.07 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ย 20 วัน
การรีบาวด์ควรทำจุดต่ำที่สูงขึ้น ไม่ใช่แค่ดีดขึ้นเร็วแล้วถูกขายลงมาอีก
หากราคาปรับตัวลงและปิดต่ำกว่าระดับ 16.90 ถึง 17.00 ดอลลาร์ จะทำให้รูปแบบการทำจุดต่ำสุดที่ต่ำลงยังคงอยู่ต่อไป
การดีดตัวขึ้นต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วันและ 50 วันไม่สำเร็จ
การปรับตัวลงล่าสุดของหุ้น SMR สอดคล้องกับแนวโน้มขาลงโดยรวม แรงขายยังคงแข็งแกร่ง และราคายังอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยสำคัญ เมื่อหุ้นหลุดแนวรับหลัก นักเทรดระยะสั้นมักลดความเสี่ยงอย่างรวดเร็ว ซึ่งยิ่งเร่งให้การปรับตัวลงในแต่ละวันรุนแรงขึ้น
ความเสี่ยงจากการลดสัดส่วนการถือหุ้นเป็นปัจจัยสำคัญ NuScale ได้ขอให้ผู้ถือหุ้นอนุมัติการเพิ่มจำนวนหุ้น Class A ที่ได้รับอนุญาตจำนวนมาก และบริษัทได้ใช้โปรแกรม ATM (การขายหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นรายย่อย) เพื่อขายหุ้นไปแล้ว ตลาดมักจะประเมินความเสี่ยงจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นล่วงหน้าอยู่แล้ว
การฟื้นตัวเป็นไปได้ แต่โดยปกติแล้วต้องอาศัยสองสิ่งคือ ความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นและโครงสร้างราคาที่ดีขึ้น บนกราฟ นักลงทุนมักมองหา SMR ที่จะกลับมาอยู่เหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วันและ 50 วัน และหยุดการสร้างจุดสูงสุดที่ต่ำลงเรื่อยๆ
SMR มีความเสี่ยงสูงเพราะเคลื่อนไหวเร็ว ตัวชี้วัดแสดงให้เห็นถึงแรงกดดันของแนวโน้มที่แข็งแกร่งและการแกว่งตัวรายวันที่กว้าง สำหรับเทรดเดอร์หลายคน นั่นหมายถึงขนาดการเทรดที่เล็กลง การตั้งจุดหยุดขาดทุนที่กว้างขึ้น (ขึ้นอยู่กับความผันผวน) และการเทรดที่น้อยลงจนกว่ากราฟจะทรงตัว
การที่ราคาหุ้น NuScale Power ร่วงลงไม่ใช่แค่เรื่อง "วันที่แย่" เท่านั้น แต่เป็นการปรับตัวครั้งใหญ่หลังจากช่วงที่หุ้นพุ่งขึ้นมาอย่างหนักหน่วง โดยมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ความกังวลเรื่องการลดสัดส่วนการถือหุ้น การระดมทุนอย่างแข็งขัน และกราฟราคาที่ทะลุแนวโน้มสำคัญหลายเส้น
สำหรับ นักลงทุน คำถามที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือ: หุ้น SMR จะสามารถรักษาระดับราคาประมาณ 17 ดอลลาร์และสร้างฐานใหม่ได้หรือไม่ หรือหุ้นจะยังคงร่วงลงไปแตะระดับแนวรับที่ต่ำกว่า? ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ก็สามารถซื้อขายได้ แต่ต้องอาศัยวินัย
ข้อสงวนสิทธิ์: เนื้อหานี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนาให้เป็น (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรนำไปใช้เป็นหลักในการตัดสินใจ ความเห็นใดๆ ที่ปรากฏในเนื้อหานี้ไม่ได้เป็นการแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่าการลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือกลยุทธ์การลงทุนใดๆ เหมาะสมสำหรับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ