Chaikin Money Flow (CMF) คืออะไร?
简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

Chaikin Money Flow (CMF) คืออะไร?

ผู้เขียน: Charon N.

เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-11

Chaikin Money Flow (CMF) เป็นอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคที่ใช้วัดว่ากระแสเงินกำลังไหลเข้า หรือออกจากตลาด โดยผสมผสานข้อมูลราคาและปริมาณการซื้อขายเข้าด้วยกันเพื่อประเมินแรงซื้อและแรงขาย เมื่อค่า CMF อยู่เหนือศูนย์ แสดงว่าแรงซื้อมีความได้เปรียบ


เมื่อค่า CMF อยู่ต่ำกว่าศูนย์ แสดงว่าแรงขายมีความได้เปรียบ เทรดเดอร์ให้ความสำคัญกับ CMF เพราะมันช่วยยืนยันแนวโน้ม ตรวจจับการอ่อนแรงของการเคลื่อนไหวของราคา และบ่งชี้จุดที่อุปสงค์หรืออุปทานอาจกำลังเปลี่ยนทิศทาง


คำนิยาม

ในการเทรด CMF ใช้วัดว่าราคาปิดอยู่ใกล้จุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดของช่วงเวลานั้นบ่อยเพียงใด และมีปริมาณการซื้อขายมากน้อยแค่ไหน หากราคาปิดใกล้จุดสูงสุดพร้อมปริมาณมากแสดงถึงแรงซื้อ หากราคาปิดใกล้จุดต่ำสุด พร้อมปริมาณมากแสดงถึงแรงขาย อินดิเคเตอร์นี้จะรวบค่าที่คำนวณได้ในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ (มักใช้ 20 หรือ 21 ช่วงเวลา) แล้วนำไปหารด้วยปริมาณการซื้อขายรวม


อินดิเคเตอร์นี้จะรวบค่าที่คำนวณได้ในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ (มักใช้ 20 หรือ 21 ช่วงเวลา) แล้วนำไปหารด้วยปริมาณการซื้อขายรวม


บนแพลตฟอร์มกราฟส่วนใหญ่ เทรดเดอร์จะเห็น CMF เป็นเส้นที่เคลื่อนไหวเหนือหรือใต้วงศูนย์ ซึ่งนักเทรดระยะสั้นและระยะกลางใช้บ่อยที่สุด เพราะช่วยยืนยันการเบรกเอาต์ แนวโน้ม และสัญญาณกลับตัว นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในการดู Divergence เมื่อราคาทำจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดใหม่ แต่กระแสเงินไม่สอดคล้องกัน


สูตร Chaikin Money Flow (CMF)

CMF คำนวณจาก Money Flow Multiplier และ Money Flow Volume ภายในช่วงเวลา N ช่วง

ความหมายของค่า CMF

ค่า CMF ที่เป็นบวกหมายถึงแรงซื้อเด่น ค่า CMF ที่เป็นลบหมายถึงแรงขายเด่น


ปัจจัยใดบ้างที่ทำให้ค่า Chaikin Money Flow เปลี่ยนไปในแต่ละวัน?

ปัจจัยที่ขับเคลื่อนอินดิเคเตอร์ CMF มีหลายอย่าง ได้แก่:


  • ตำแหน่งราคาภายในแท่งเทียน เมื่อราคาปิดใกล้จุดสูงสุด CMF มักจะปรับตัวสูงขึ้น การปิดใกล้จุดต่ำสุดจะทำให้ CMF ปรับตัวลง

  • ระดับปริมาณการซื้อขาย ปริมาณการซื้อขายที่สูงจะทำให้แต่ละแท่งเทียนมีผลกระทบมากขึ้น ปริมาณการซื้อขายที่ต่ำจะลดความสำคัญของการเคลื่อนไหวของราคาลง

  • ความแข็งแกร่งของแนวโน้ม แนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งมักจะทำให้ CMF อยู่เหนือศูนย์ แนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่งมักจะทำให้ CMF อยู่ต่ำกว่าศูนย์

  • เหตุการณ์ข่าวสาร ข่าวเศรษฐกิจหรือการประกาศข้อมูลสำคัญสามารถทำให้ราคาเคลื่อนไหวแรงพร้อมปริมาณสูง ซึ่งอาจทำให้ค่า CMF แกว่งรวดเร็ว

  • สัญญาณผิดปกติ บางครั้งปริมาณซื้อขายพุ่งขึ้นชั่วคราวโดยไม่มีการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง ทำให้ CMF กระโดดขึ้น–ลงในระยะสั้น


Chaikin Money Flow ส่งผลต่อการเทรดอย่างไร?

Chaikin Money Flow ส่งผลต่อการเทรดอย่างไร

CMF ช่วยเรื่องจังหวะการเข้า–ออกออเดอร์ โดยบอกได้ว่าการเคลื่อนไหวของราคานั้นมีแรงสนับสนุนจริงหรือไม่ เมื่อ CMF แข็งแรงและเป็นบวก การเปิดสถานะ ซื้อ (Long) มักมีโอกาสเดินหน้าต่อได้ดี เมื่อ CMF อ่อนหรือเป็นลบ การเทรดฝั่งซื้ออาจเจอแรงต้านหรือมีโอกาสไปต่อยาก


สำหรับการปิดออเดอร์ ค่า CMF ที่เริ่มอ่อนตัวลงสามารถเตือนว่าแนวโน้มกำลังสูญเสียแรงผลักดัน นอกจากนี้ยังช่วยหลีกเลี่ยงการเทรดในตลาดที่ปริมาณการซื้อขายไม่สนับสนุนทิศทางราคา


ค่า CMF ที่สูงในแนวโน้มขาขึ้นมักบ่งชี้สภาวะการเทรดที่ดีขึ้น ส่วนค่า CMF ติดลบลึกในแนวโน้มขาลงมักสนับสนุนการเปิดสถานะขาย (Short) ขณะที่ค่า CMF ที่สับสนหรือไม่นิ่งแปลว่าความเสี่ยงเพิ่มขึ้น


สัญญาณบวก

  • CMF อยู่เหนือศูนย์ในช่วงที่ราคาเป็นขาขึ้น

  • CMF เพิ่มขึ้นก่อนเกิดการเบรกเอาต์

  • CMF แสดง Divergence เชิงบวกในแนวโน้มขาลง


สัญญาณความเสี่ยง

  • CMF ลดลงขณะที่ราคากำลังปรับขึ้น

  • CMF ค้างอยู่ใกล้ศูนย์ ไม่มีทิศทางชัดเจน

  • CMF สวิงขึ้น–ลงเร็ว เนื่องจากปริมาณการซื้อขายบาง (thin volume)


ตัวอย่าง

สมมติว่าสินค้าชนิดหนึ่งมีราคาสูงสุด 105 ราคาต่ำสุด 95 และราคาปิด 103 ในวันที่มีปริมาณการซื้อขาย 1 ล้านหน่วย ราคาปิดอยู่ใกล้จุดสูงสุดของช่วงราคา ในการหาค่า Money Flow Multiplier ของแท่งนี้:

ตัวอย่าง Chaikin Money Flow

  • นั่นหมายความว่า 60% ของปริมาณการซื้อขายในวันนั้นถือเป็นกระแสเงินไหลเข้าบวก หากค่าดังกล่าวยังคงสูงต่อเนื่องหลายวันและปริมาณยังแข็งแรง ค่า CMF ก็มีแนวโน้มขยับขึ้นเหนือศูนย์ ซึ่งเทรดเดอร์มักมองว่าเป็นแรงซื้อที่แข็งแรง และสนับสนุนการเปิดสถานะ Long

  • แต่ถ้าราคาปิดใกล้จุดต่ำสุด ค่ามัลติพลายเออร์จะเป็นลบ และจะดึงค่า CMF ลงแทน


วิธีเช็ก Chaikin Money Flow ก่อนกด Buy หรือ Sell

  • ดูก่อนว่า CMF อยู่เหนือหรือใต้วงศูนย์ หากอยู่เหนือศูนย์แปลว่าแรงซื้อเด่น

  • เทียบ CMF กับจุดสูง–ต่ำล่าสุด โดยค่า CMF สูงขึ้นพร้อมราคาที่สูงขึ้นช่วยสนับสนุนการเทรดตามเทรนด์

  • มองหา Divergence หากราคาทำจุดสูงใหม่แต่ CMF ไม่ตาม แปลว่าความต้องการซื้ออาจเริ่มอ่อน

  • ตรวจสอบปริมาณ CMF ทำงานดีที่สุดเมื่อปริมาณคงที่หรือเพิ่มขึ้น

  • ดูการตั้งค่าการมองย้อนกลับ การตั้งค่าแบบสั้นจะตอบสนองเร็ว ค่ายาวจะให้สัญญาณที่เรียบและเสถียรกว่า


เคล็ดลับ: ตรวจสอบ CMF อย่างน้อย 1 ครั้งต่อรอบการเทรด และทุกครั้งที่มีรูปแบบกำลังก่อตัวใกล้ระดับราคาสำคัญ


ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยเมื่อใช้ Chaikin Money Flow

  • ใช้ CMF เพียงอย่างเดียวในการเข้าออเดอร์ — CMF คือเครื่องมือยืนยัน ไม่ใช่ระบบเทรดเดี่ยว

  • มองข้ามช่วงที่ปริมาณการซื้อขายต่ำ — CMF จะหมดความหมายเมื่อปริมาณบาง

  • ฝืนหาสัญญาณในตลาด Sideway — ช่วงกรอบแคบ CMF มักค้างใกล้ศูนย์และไม่ให้ข้อมูลชัดเจน

  • ไม่เช็ก Divergence — หลายคนพลาดสัญญาณเตือนก่อนกลับตัวเพราะ CMF ไม่สอดคล้องกับราคา

  • การเปลี่ยนค่าตั้งบ่อยเกินไป — ทำให้สัญญาณไม่นิ่งและตีความยาก


คำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง

  • Accumulation Distribution Line: แนวคิดพื้นฐานที่ CMF นำไปต่อยอด โดยใช้ราคาและปริมาณ

  • On Balance Volume (OBV): อินดิเคเตอร์วัดแรงซื้อขายจากปริมาณอีกแบบหนึ่ง

  • ปริมาณการซื้อขาย: แสดงพื้นที่ที่มีการซื้อขายหนาแน่นในระดับราคา

  • ดัชนี RSI: ช่วย Divergence ร่วมกับ CMF ได้ดี

  • MACD: นิยมจับคู่กับ CMF เพื่อยืนยันแนวโน้ม

  • Breakout Setups: มีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อ CMF เพิ่มขึ้นก่อนการเบรก


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. การที่ค่า CMF อยู่เหนือศูนย์เป็นเวลานานหลายรอบ หมายความว่าอย่างไร?

หมายความว่าแรงซื้อค่อนข้างสม่ำเสมอ ราคาในแต่ละแท่งมักปิดใกล้โซนบนของช่วงราคา และมีปริมาณการซื้อขายเพียงพอรองรับการเคลื่อนไหวเหล่านั้น แม้จะไม่ใช่การยืนยันแนวโน้มโดยตรง แต่แสดงให้เห็นว่าอุปสงค์แข็งแกร่งกว่าอุปทานในช่วงเวลาดังกล่าว


2. ทำไมบางครั้ง CMF จึงไม่สอดคล้องกับทิศทางราคา?

ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า Divergence เกิดขึ้นเมื่อราคาทำจุดสูงใหม่หรือจุดต่ำใหม่ แต่แรงซื้อหรือแรงขายไม่สอดคล้องตาม ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าแนวโน้มเริ่มชะลอ หรือการเบรกเอาต์อาจไม่แข็งแรง


3. ทำไม CMF จึงทำงานได้ดีขึ้นเมื่อปริมาณการซื้อขายนิ่ง?

เพราะ CMF วัดความสัมพันธ์ระหว่างราคาและปริมาณ เมื่อปริมาณคงที่ สัญญาณจะชัดเจนขึ้น แต่ถ้าปริมาณบาง แม้แต่คำสั่งเล็ก ๆ ก็สามารถบิดเบือนค่าของอินดิเคเตอร์ได้ ทำให้เกิดสัญญาณอ่อนหรือสัญญาณหลอก


4. ค่า CMF ติดลบหมายความว่าตลาดจะตกเสมอไปหรือไม่?

ไม่เสมอไป ค่า CMF ติดลบเพียงบอกว่าแรงขายเหนือกว่าในช่วงเวลาที่เลือก ราคายังอาจปรับขึ้นได้ แต่การขึ้นนั้นอาจมีแรงสนับสนุนน้อยกว่า จึงควรพิจารณาความแข็งแรงของแนวโน้มและระดับราคาสำคัญร่วมด้วย


5. CMF ช่วยยืนยันการเบรกเอาต์ได้หรือไม่?

ได้ เมื่อ CMF ปรับตัวเพิ่มขึ้นก่อนหรือระหว่างการเบรกเอาต์ แปลว่าปริมาณกำลังสนับสนุนการเคลื่อนไหว แต่ถ้าระหว่างเบรกค่า CMF ยังอ่อน การเคลื่อนไหวอาจไปต่อได้ยาก


6. CMF มีประโยชน์สำหรับมือใหม่หรือไม่?

มีประโยชน์มาก เพราะอ่านง่าย ค่าที่เหนือศูนย์คือแรงซื้อเด่น ใต้วงศูนย์คือแรงขายเด่น ช่วยให้มือใหม่เข้าใจว่าปริมาณการซื้อขายสนับสนุนทิศทางราคาอย่างไร ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการเทรด


สรุป

Chaikin Money Flow ช่วยบอกว่าปริมาณการซื้อขายจริงสนับสนุนทิศทางราคาในตลาดหรือไม่ และอ่านได้ว่าผู้ซื้อหรือผู้ขายมีอิทธิพลมากกว่ากัน


เมื่อนำไปใช้ร่วมกับระดับราคาสำคัญและเครื่องมือวัดแนวโน้ม สามารถช่วยยืนยันการเคลื่อนไหวที่แข็งแรงและเตือนเมื่อโมเมนตัมเริ่มอ่อนแรง แต่ถ้าใช้เดี่ยว ๆ หรือใช้ในตลาดที่ปริมาณบาง อาจให้สัญญาณไม่ชัดเจนได้


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ