เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-10
Order Block คือพื้นที่ราคาพิเศษบนกราฟที่ผู้เล่นรายใหญ่ เช่น ธนาคารหรือกองทุน เคยวางคำสั่งซื้อ–ขายขนาดใหญ่ไว้ในอดีต
พื้นที่เหล่านี้มักเป็นจุดที่ทำให้ราคาเคลื่อนไหวรุนแรง ไม่ว่าจะพุ่งขึ้นหรือร่วงลงก็ตาม และเมื่อราคาเคลื่อนกลับมาแตะบริเวณเดิมอีกครั้ง ก็มักจะเกิดปฏิกิริยาอีกครั้ง เพราะอาจยังมีความสนใจในการซื้อหรือขายหลงเหลืออยู่ พูดง่าย ๆ Order Blocks คือบริเวณที่ “Smart Money” เคยทำธุรกรรม และมีโอกาสจะกลับมาทำอีก
สำหรับนักเทรดจริงจัง สิ่งนี้สำคัญมากเพราะพื้นที่เหล่านี้สามารถทำหน้าที่เป็นแนวรับ–แนวต้านที่แข็งแรง และช่วยกำหนดจุดเข้าออก รวมถึงตำแหน่งวางจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ได้อย่างชัดเจน
Order Block คือพื้นที่ราคาบนกราฟที่เทรดเดอร์สถาบันรายใหญ่ เช่น ธนาคารหรือเฮดจ์ฟันด์ เคยวางคำสั่งซื้อหรือขายจำนวนมากไว้ มักปรากฏในช่วงที่ราคาขยับในกรอบแคบช่วงสั้น ๆ ก่อนจะเกิดการเคลื่อนไหวแรงในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง คำสั่งจำนวนมากในพื้นที่นี้สร้างสภาพคล่องสูง และมักทำหน้าที่เป็นโซนแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ
เทรดเดอร์สาย Smart Money Concepts (SMC) จำนวนมากจะให้นิยามออเดอร์บล็อกแบบเฉพาะเจาะจงกว่านั้น คือ แท่งเทียนสุดท้ายที่สวนทิศทาง (เช่น แท่งแดงก่อนการขึ้นแรง หรือแท่งเขียวก่อนการลงแรง) ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้โครงสร้างราคา (Structure) ถูกทะลุอย่างชัดเจน แท่งเทียนนี้และกรอบราคาที่แคบของมันคือแกนหลักของพื้นที่ Order Block

เทรดเดอร์จะทำการมาร์กโซนนี้ไว้บนกราฟ และรอให้ราคากลับมาแตะอีกครั้ง เพื่อจับสัญญาณปฏิกิริยา เช่น การดีดกลับ (Bounce), การปฏิเสธราคา (Rejection) หรือรูปแบบกลับตัว (Reversal Pattern)
ออเดอร์บล็อกมักถูกจับตาโดยเทรดเดอร์สาย Price Action, SMC และผู้ที่ให้ความสำคัญกับ Institutional Order Flow ในตลาด Forex, ดัชนี (Indices) และคริปโต
ลองจินตนาการถึงผู้ค้าส่งผลไม้ที่ซื้อของจำนวนมากทุกสัปดาห์ ผู้ขายจะรู้ว่าผู้ค้ารายนี้มักซื้อภายในช่วงราคาหนึ่งเสมอ หากราคาสูงขึ้นเล็กน้อย ผู้ค้าก็จะรอ แต่ถ้าราคาลดกลับมาสู่ช่วงเดิม ผู้ค้าจะกลับมาซื้อจำนวนมากทันที
สิ่งนี้สร้าง “โซนความทรงจำ” ของตลาด
ทุกครั้งที่ราคาลดลงกลับเข้ามาในกรอบเดิม ความต้องการก็จะพุ่งขึ้นอีกครั้ง เพราะผู้ซื้อรายใหญ่กลับเข้าตลาด ออเดอร์บล็อกก็ทำงานแบบเดียวกันบนกราฟ ผู้เล่นรายใหญ่เคยวางออเดอร์หนักในโซนหนึ่ง
เมื่อราคากลับเข้าสู่โซนนั้น ตลาดจึงมักเกิดการตอบสนองแรง เพราะมีโอกาสที่แรงซื้อหรือขายแบบเดิมจะกลับมาอีกครั้ง
สถาบันการเงินต้องแบ่งออเดอร์ออกเป็นหลายส่วนในการซื้อขาย ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ ในช่วงราคาเดิม ส่งผลให้พื้นที่นั้นกลายเป็นโซนสำคัญของตลาด
ธนาคารและผู้เล่นรายใหญ่ใช้พื้นที่เหล่านี้ในการเปิดสถานะ เมื่อพวกเขาเข้าซื้อหรือขายบริเวณดังกล่าว แท่งเทียนที่เกิดขึ้นจะสร้างโครงสร้างราคาที่เห็นได้ชัดบนกราฟ
ออเดอร์บล็อกมักปรากฏก่อนการเบรกเอาต์แรง ๆ เพราะผู้เล่นรายใหญ่กำลังสะสม (Accumulate) หรือกระจาย (Distribute) สถานะในโซนนั้น

1. Bullish Order Block
เกิดขึ้นเมื่อราคาอยู่ในช่วงขาลง จากนั้นชะลอตัวในโซนแคบ ๆ ก่อนจะกลับตัวขึ้นอย่างรุนแรง โซนนี้แสดงถึงบริเวณที่ฝั่งซื้อดูดซับแรงขายทั้งหมดจนหมด
เกิดขึ้นเมื่อราคาเคลื่อนตัวขึ้น แล้วหยุดพักในช่วงราคาที่ค่อนข้างแคบ ก่อนจะกลับตัวลงอย่างแรง แสดงถึงความสนใจของฝั่งขายที่มีปริมาณมากในบริเวณนั้น
บางครั้งออเดอร์บล็อกสามารถเกิดขึ้นภายในแนวโน้มเดิม โดยไม่ได้ทำให้ราคาเปลี่ยนทิศทาง แต่ช่วยสร้างโมเมนตัมเพื่อผลักดันราคาให้เคลื่อนไหวต่อในทิศทางของเทรนด์เดิม

| ตรวจสอบ | เป็น Order Block จริง | ไม่ใช่ Order Block |
|---|---|---|
| 1. ความแรงของการเคลื่อนตัวหลังออกจากโซน | ราคาเด้งหรือพุ่งออกจากโซนอย่างรวดเร็ว | ราคาขยับออกช้า ๆ โมเมนตัมอ่อน |
| 2. การเลือกแท่งเทียน | เป็นแท่งเทียนสวนทิศทางแท่งสุดท้ายก่อนการเคลื่อนไหวแรง | เป็นกลุ่มแท่งเทียนสุ่ม ๆ ไม่มีรูปแบบชัดเจน |
| 3. การ Break of Structure (BOS) | ราคาทำจุดสูงใหม่หรือจุดต่ำใหม่หลังออกจากโซน | ราคาไม่เปลี่ยนโครงสร้างสำคัญหลังออกจากโซน |
| 4. การทดสอบซ้ำ (Retests) | ราคาอาจกลับมาทดสอบได้ 1–2 ครั้ง | ทดสอบหลายครั้งจน Supply/Demand ถูกใช้หมด |
| 5. การสอดคล้องกับเทรนด์หลัก | โซนสอดคล้องกับเทรนด์ไทม์เฟรมใหญ่ | สวนเทรนด์หลัก ความน่าจะเป็นต่ำ |
มองหาแท่งเทียนสุดท้ายหรือกลุ่มแท่งเทียนขนาดเล็กก่อนการเคลื่อนไหวแรงของราคา
สามารถใช้เฉพาะตัวแท่งเทียน (Candle Body) หรือใช้กรอบราคาทั้งช่วง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดของคุณ
Order Block ทำงานดีที่สุดบนการทดสอบซ้ำ ไม่ใช่ตอนที่ราคาเบรกออกไปครั้งแรก
เช่น ไส้เทียนยาว การปฏิเสธราคา (Rejection) หรือการเปลี่ยนโมเมนตัม เพื่อยืนยันว่ามีแรงซื้อหรือขายจริงในโซน
Order Block ที่สอดคล้องกับเทรนด์หลักมีโอกาสสำเร็จสูงกว่า
ตรวจสอบ Order Block ใหม่ทุกครั้งเมื่อเริ่มเทรด เพราะราคาอาจเคลื่อนเข้าใกล้โซนเร็วกว่าที่คาดในช่วงที่ตลาดมีความเคลื่อนไหวสูง
ลองจินตนาการว่า EUR/USD กำลังปรับตัวลง และเกิด Bullish Order Block ที่ช่วงราคา 1.0800–1.0820 หลังจากนั้นราคาดีดขึ้นไปที่ 1.0900 ต่อมา ราคาได้ย่อตัวกลับมาที่โซนเดิม

เมื่อถึงจุดนี้ เทรดเดอร์ตัดสินใจซื้อที่ 1.0820 โดยตั้ง Stop Loss ไว้ที่ 1.0790 และตั้งเป้าหมายกำไรที่ 1.0900 อีกครั้ง หากราคาเคารพโซนดังกล่าว คู่เงินนี้อาจดีดกลับและขึ้นไปทดสอบเป้าหมายได้ การขึ้นจาก 1.0820 → 1.0900 เป็นระยะ 80 pips หากถือขนาดสถานะที่ 1 ดอลลาร์ต่อ pip จะเท่ากับกำไร 80 ดอลลาร์
ในทางกลับกัน หาก Order Block ไม่ทำงานและราคาหลุดลงไป จุดตัดขาดทุน 30 pips จะจำกัดความเสียหายให้ไม่เกิน 30 ดอลลาร์ ตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของโซนราคาที่แคบและระดับโครงสร้างที่ชัดเจนในการจัดการความเสี่ยงและวางแผนการเทรด
Order Block ส่งผลต่อเกือบทุกส่วนของแผนการเทรด สำหรับจุดเข้า (Entry) เทรดเดอร์จำนวนมากจะรอให้ราคาย่อลงกลับมาสู่ Bullish Order Block เพื่อมองหาโอกาสเปิดฝั่งซื้อ หรือรอให้ราคาขึ้นทดสอบ Bearish Order Block เพื่อมองหาโอกาสเปิดฝั่งขาย
สิ่งนี้ช่วยให้หลีกเลี่ยงการไล่ราคาในจุดที่ไม่ดี และเข้าเทรดในบริเวณที่สถาบันเคยทำธุรกรรมมาก่อน ซึ่งมักเป็นโซนที่มีความได้เปรียบมากกว่า
สำหรับจุดออกและการจัดการความเสี่ยง เทรดเดอร์มักวาง Stop Loss ไว้ด้านนอก Order Block เล็กน้อย โดยมีสมมติฐานว่าหากราคาทะลุและปิดนอกโซน แปลว่าไอเดียนั้นผิดแล้ว ส่วนระดับทำกำไร (Take Profit) มักตั้งไว้ที่โครงสร้างสำคัญถัดไป หรือออเดอร์บล็อกอีกฝั่งหนึ่ง
Order Block ยังส่งผลต่อต้นทุนและความเสี่ยง เพราะสเปรดและสลิปเพจอาจกว้างขึ้นเมื่อราคาเกิดปฏิกิริยาแรง หรือในช่วงข่าวสำคัญที่ราคาเข้าแตะโซน
สถานการณ์ที่ดี: ราคาวิ่งออกจากโซนแรงและชัดเจน เป็นโซนที่ยังใหม่ ไม่ถูกทดสอบหลายครั้ง เป็นการทดสอบครั้งแรกหรือครั้งที่สอง (ดีที่สุด) สอดคล้องกับแนวโน้มและโครงสร้างในกรอบเวลาที่สูงกว่า
สถานการณ์แย่: Order Block เก่าที่ถูกทดสอบหลายครั้ง ราคาวิ่งออกอ่อน ๆ ไม่ได้มีโมเมนตัม อยู่ในโซนอยู่ใกล้เวลาประกาศข่าวแรง หรือสวนทางกับแนวโน้มหลัก
การกำหนดโซนคำสั่งซื้อมากเกินไป: เทรดเดอร์บางคนระบุออเดอร์บล็อกหลายจุดเกินความจำเป็น โดยไม่คำนึงถึงบริบทของเทรนด์หรือปริมาณการซื้อขาย ทำให้สับสนและเลือกจุดเข้าออกได้ไม่ดี
การละเลยความผันผวน: ความผันผวนสูงสามารถทำให้ OB แคบ ๆ ใช้ไม่ได้ผล หรือเกิดไส้เทียนลึกจนทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นสัญญาณเข้าเทรด
การซื้อขายโดยปราศจากความสอดคล้อง: Order Block จะให้ความน่าเชื่อถือสูงที่สุดเมื่อใช้ร่วมกับโครงสร้างราคา (Structure), รูปแบบสภาพคล่อง (Liquidity), หรืออินดิเคเตอร์โมเมนตัม
การกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายในช่วงที่มีข่าวสำคัญ: การประกาศสำคัญสามารถทำให้ราคาวิ่งทะลุ OB เลย หรือบางครั้งข้ามโซนไปโดยไม่แตะ ทำให้แผนการเทรดผิดพลาดได้ง่าย
เขตอุปสงค์และอุปทาน: โซนกว้าง ๆ ที่บ่งบอกแรงซื้อหรือขายจากสถาบัน
การเคลื่อนไหว: การเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรงในทิศทางเดียว ใช้ยืนยันเจตนาของ Market Maker หรือ Smart Money
การทะลุแนวรับแนวต้านสำคัญ (Market Structure Break: MSB): จุดสูงหรือจุดต่ำสำคัญที่ถูกทำลายระหว่างการเคลื่อนตัวของราคาที่มีแรงผลักดัน (Impulsive Move)
ไม่ใช่ Order Block สามารถปรากฏได้ในทุกตลาดที่มีสภาพคล่องสูง ไม่ว่าจะเป็นฟอเร็กซ์ ดัชนี หุ้น หรือคริปโต แนวคิดเหมือนกันเสมอ คือแสดงให้เห็นจุดที่ผู้เล่นรายใหญ่เคยวางออเดอร์จำนวนมากจนทำให้ราคาขยับแรง และเป็นโซนที่ราคาอาจตอบสนองอีกครั้งในอนาคต
เทรดเดอร์ส่วนมากจะมองหา Order Block ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง (H4) หรือรายวัน (D1) ก่อน แล้วค่อยลงไปหาจุดเข้าในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง (H1) หรือ 15 นาที (M15) กรอบเวลาใหญ่ให้โซนที่แข็งแรงและชัดเจนกว่า ส่วนกรอบเวลาเล็กมาก ๆ มักสร้าง OB จำนวนมากที่คุณภาพต่ำ ทำให้เทรดเกินความจำเป็นได้ง่าย
ไม่มีช่วงราคาใดที่ได้ผลทุกครั้ง Order Block ก็สามารถล้มเหลวได้ หากสภาพตลาดเปลี่ยน ข่าวแรงออกมา หรือผู้เล่นรายใหญ่ปิดหรือกลับสถานะ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมี Stop Loss การกำหนดขนาดสถานะที่เหมาะสม และกฎชัดเจนในการยกเลิกไอเดียเทรด แม้จะเจอโซนที่ดูดีมากก็ตาม
สามารถช่วยได้ หากใช้แบบเรียบง่าย มือใหม่ควรเริ่มจากการเข้าใจแนวรับ–แนวต้าน เทรนด์ และการจัดการความเสี่ยงก่อน จากนั้นจึงค่อยเพิ่มออเดอร์บล็อกในไทม์เฟรมใหญ่เพื่อช่วยเลือกจุดเข้าออกที่ดีขึ้น แต่อย่าใช้ OB เป็นสัญญาณ “วิเศษ” แบบตัวเดียวในการตัดสินใจเทรด
Order Block เป็นแนวคิดสำคัญบนกราฟที่ช่วยเปิดเผยบริเวณที่ผู้เล่นสถาบันเคยวางออเดอร์จำนวนมาก จนก่อให้เกิดโซนที่มีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต
การเข้าใจว่า Order Block เกิดขึ้นได้อย่างไร มีความสัมพันธ์กับสภาพคล่อง (Liquidity) และโครงสร้างตลาด (Market Structure) อย่างไร รวมถึงการมองบทบาทของมันภายในบริบทของเทรนด์ จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถปรับกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
เมื่อใช้ Order Block ร่วมกับปัจจัยยืนยันอื่น ๆ (Confluence) และการบริหารความเสี่ยงที่มีวินัย มันจะกลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการตีความเจตนาของผู้เล่นรายใหญ่ และช่วยนำทางท่ามกลางความผันผวนของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ