พื้นฐาน Forex คืออะไร และทำงานอย่างไรในการซื้อขาย

2025-09-03

หลักพื้นฐาน Forex เป็นแนวคิดหลักของการซื้อขายสกุลเงิน โดยผู้ซื้อขายจะซื้อสกุลเงินหนึ่งและขายอีกสกุลเงินหนึ่งเพื่อทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน


Forex คืออะไร และเหตุใดจึงสำคัญ?


โดยพื้นฐานแล้ว การซื้อขายฟอเร็กซ์เกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนสกุลเงินหนึ่งเป็นอีกสกุลเงินหนึ่ง ไม่ว่านักท่องเที่ยวจะแลกเงินปอนด์เป็นเงินยูโรที่สนามบิน หรือบริษัทข้ามชาติที่ป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของสกุลเงิน ฟอเร็กซ์ก็มีส่วนช่วยสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่ในปัจจุบัน


สิ่งที่ทำให้ฟอเร็กซ์มีความโดดเด่นคือขนาดอันมหึมาของมัน ฟอเร็กซ์เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดและมีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลก ด้วยปริมาณการซื้อขายรายวันสูงกว่า 6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าทั้งตลาดหุ้นและพันธบัตรอย่างมาก


ต่างจากตลาดหลักทรัพย์รวมศูนย์เช่นตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ตลาดฟอเร็กซ์ทำหน้าที่เป็นตลาดแบบกระจายอำนาจนอกตลาดหลักทรัพย์ (OTC) ซึ่งธนาคาร นายหน้า บริษัทต่างๆ รัฐบาล และผู้ค้าปลีกต่างเข้าร่วม


ผู้เข้าร่วมได้แก่:

  • ธนาคารกลาง: การมีอิทธิพลต่อมูลค่าสกุลเงินผ่านนโยบายการเงิน

  • ธนาคารพาณิชย์และการลงทุน: อำนวยความสะดวกด้านการค้าและการเก็งกำไร

  • องค์กร: ป้องกันความเสี่ยงจากธุรกิจระหว่างประเทศ

  • กองทุนป้องกันความเสี่ยงและสถาบัน: การเก็งกำไรตามแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค

  • ผู้ค้าปลีก: บุคคลที่ต้องการแสวงหาผลกำไรจากความผันผวนของราคา


การถอดรหัสคู่สกุลเงิน, Pips และศัพท์แสงการซื้อขายใน Forex เบื้องต้น

Forex Basics

คู่สกุลเงิน

ในตลาดฟอเร็กซ์ สกุลเงินต่างๆ จะถูกเสนอราคาเป็นคู่ (เช่น GBP/USD) โดยสกุลเงินแรกคือสกุลเงินฐาน และสกุลเงินที่สองคือสกุลเงินอ้างอิง ราคาที่เสนอราคาจะบอกคุณว่าต้องใช้สกุลเงินอ้างอิงเท่าใดในการซื้อสกุลเงินฐานหนึ่งหน่วย


ตัวอย่างเช่น หาก GBP/USD ซื้อขายที่ 1.2700 แสดงว่า 1 ปอนด์เท่ากับ 1.27 ดอลลาร์สหรัฐ


ขนาดจุดและขนาดล็อต

Pip (เปอร์เซ็นต์เป็นจุด) คือหน่วยที่เล็กที่สุดของการเคลื่อนไหวของราคา โดยปกติแล้วจะอยู่ในตำแหน่งทศนิยมที่สี่ (0.0001) ในคู่สกุลเงินส่วนใหญ่ ยกเว้นสกุลเงินเยนของญี่ปุ่น ซึ่งจะเคลื่อนตัวไปยังตำแหน่งทศนิยมที่สอง


การซื้อขายจะดำเนินการเป็นล็อต โดยล็อตมาตรฐานแทนค่าเงิน 100,000 หน่วย ล็อตมินิ 10,000 หน่วย และล็อตไมโคร 1,000 หน่วย สำหรับผู้เริ่มต้น ล็อตไมโครเป็นวิธีเริ่มต้นที่สมเหตุสมผล ช่วยจำกัดความเสี่ยง


สเปรด

สเปรดคือส่วนต่างระหว่างราคาซื้อ (Ask) และราคาขาย (Bid) โดยพื้นฐานแล้วคือค่าธรรมเนียมของโบรกเกอร์ และสเปรดที่แคบกว่ามักบ่งชี้ถึงสภาพคล่องที่สูงกว่า


เลเวอเรจและมาร์จิ้น

เลเวอเรจช่วยให้เทรดเดอร์สามารถควบคุมตำแหน่งขนาดใหญ่ด้วยเงินฝาก (มาร์จิ้น) ที่ค่อนข้างน้อย


ยกตัวอย่างเช่น เลเวอเรจ 30:1 ช่วยให้สามารถควบคุมสถานะมูลค่า 30,000 ปอนด์ด้วยเงินเพียง 1,000 ปอนด์ แม้ว่าวิธีนี้จะช่วยเพิ่มผลกำไรที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นดาบสองคมที่ต้องระมัดระวัง



ขี่คลื่นตลาด 24 ชั่วโมง

Riding the 24-Hour Market Wave

ตลาดฟอเร็กซ์เปิดตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ครอบคลุมศูนย์กลางการเงินหลักของโลก:


  • เซสชั่นเอเชีย (โตเกียว สิงคโปร์ ฮ่องกง)

  • เซสชั่นยุโรป (ลอนดอน แฟรงก์เฟิร์ต)

  • เซสชั่นอเมริกาเหนือ (นิวยอร์ก โตรอนโต)


เมื่อเซสชันทับซ้อนกัน เช่น ลอนดอนและนิวยอร์ก ปริมาณการซื้อขายจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งมักจะสร้างความผันผวนสูงและโอกาสสำหรับผู้ซื้อขายระยะสั้น


ลักษณะการกระจายอำนาจแบบ OTC ของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หมายความว่าไม่มีการแลกเปลี่ยนแบบเดียว ธุรกรรมจะเกิดขึ้นทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างธนาคารและโบรกเกอร์ ทำให้เกิดตลาดที่ต่อเนื่องและราบรื่น


เหตุใดนักเทรดจึงแห่เข้าสู่ตลาด FX


1)สภาพคล่องและการเข้าถึง:

ปริมาณการซื้อขายที่มหาศาลช่วยให้มั่นใจได้ว่าการซื้อขายจะดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว โดยมีการลื่นไถลน้อยที่สุด ปัจจุบันแพลตฟอร์มต่างๆ ช่วยให้บุคคลทั่วไปเข้าถึงตลาดได้อย่างง่ายดายด้วยเงินฝากเริ่มต้นจำนวนเล็กน้อย


2)ศักยภาพกำไร:

เนื่องจากสกุลเงินมีการผันผวนทุกวัน ผู้ค้าจึงสามารถเก็งกำไรจากตลาดขาขึ้นและขาลงได้


3) การใช้การป้องกันความเสี่ยง:

ธุรกิจที่มีการดำเนินการหรือต้องนำเข้าในต่างประเทศ มักใช้เงินตราต่างประเทศเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ลดผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน


4) โอกาสที่หลากหลาย:

ด้วยคู่สกุลเงินหลัก คู่รอง และคู่สกุลเงินพิเศษนับสิบคู่ เทรดเดอร์สามารถเลือกสกุลเงินที่สอดคล้องกับกลยุทธ์และความเสี่ยงที่ยอมรับได้


เชี่ยวชาญเครื่องมือการซื้อขาย การซื้อขาย Forex ขั้นพื้นฐาน

Mastering the Tools of the Trading Trade in Forex Basics

1)การวิเคราะห์พื้นฐาน

ซึ่งเกี่ยวข้องกับการศึกษาตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ เช่น การเติบโตของ GDP อัตราเงินเฟ้อ การจ้างงาน และการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง ยกตัวอย่างเช่น การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหราชอาณาจักรมักทำให้ค่าเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น เนื่องจากนักลงทุนต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้น


2) การวิเคราะห์ทางเทคนิค

กราฟ รูปแบบราคา และตัวบ่งชี้ต่างๆ เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ หรือ RSI (Relative Strength Index) ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถระบุแนวโน้มและจุดเปลี่ยนที่เป็นไปได้ การวิเคราะห์ทางเทคนิคมักเสริมปัจจัยพื้นฐาน โดยให้สัญญาณว่าควรเข้าหรือออกจากการซื้อขายเมื่อใด


3)จิตวิทยาการซื้อขาย

จิตวิทยาการเทรด อาจเป็นปัจจัยที่ถูกประเมินต่ำที่สุด เป็นตัวกำหนดการตัดสินใจภายใต้แรงกดดัน ความกลัวและความโลภเป็นพลังที่ทรงพลัง ซึ่งมักนำไปสู่การจัดการความเสี่ยงที่ไม่ดี เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จจะยังคงมีวินัยและพึ่งพากลยุทธ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้ามากกว่าอารมณ์


4)การบันทึกประจำวัน

การจัดทำสมุดบันทึกการซื้อขายจะช่วยให้ทบทวนการตัดสินใจในอดีต ติดตามข้อผิดพลาด และปรับปรุงกลยุทธ์ในอนาคต ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่แนะนำอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้น


การนำทางความเสี่ยงในการซื้อขาย Forex อย่างมืออาชีพ


การเทรดฟอเร็กซ์มีความเสี่ยง ความผันผวน เลเวอเรจ และลักษณะการกระจายอำนาจของตลาดอาจส่งผลเสียต่อผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ ดังนั้น การบริหารความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง:

  • ใช้คำสั่ง Stop Loss เสมอ

  • เสี่ยงเพียงเปอร์เซ็นต์เล็กน้อยของเงินทุนต่อการซื้อขายหนึ่งครั้ง (บ่อยครั้ง 1–2%)

  • หลีกเลี่ยงการใช้เลเวอเรจมากเกินไป


เมื่อเลือกโบรกเกอร์ ผู้เริ่มต้นควรให้ความสำคัญกับ:

  • กฎระเบียบ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโบรกเกอร์ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับ เช่น Financial Conduct Authority (FCA) ของสหราชอาณาจักร

  • ความโปร่งใส: มองหาข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับสเปรด ค่าธรรมเนียม และเลเวอเรจ

  • บัญชีสาธิต: บัญชีประเภทนี้ช่วยให้สามารถฝึกฝนได้โดยไม่มีความเสี่ยงทางการเงิน ช่วยสร้างความมั่นใจก่อนที่จะลงทุนเงินจริง


แผนที่สำหรับผู้เริ่มต้นสู่การซื้อขายอย่างมั่นใจ


  1. เรียนรู้คำศัพท์ที่จำเป็น (pips, lots, leverage, spread)

  2. เปิดบัญชีทดลองเพื่อฝึกฝนโดยไม่มีความเสี่ยง

  3. ทำความคุ้นเคยกับคู่สกุลเงินหลักเช่น EUR/USD หรือ GBP/USD

  4. เรียนรู้เทคนิคการวิเคราะห์ทั้งเชิงพื้นฐานและเชิงเทคนิค

  5. พัฒนาแผนการซื้อขายที่ชัดเจนพร้อมกฎการเข้า/ออกและพารามิเตอร์ความเสี่ยง

  6. เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ ประเมินผลลัพธ์ และปรับกลยุทธ์ผ่านการเขียนบันทึก


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)


1. Pip ใน Forex คืออะไร?

Pip คือหน่วยที่เล็กที่สุดของการเปลี่ยนแปลงราคาในคู่สกุลเงิน โดยปกติจะเป็นตำแหน่งทศนิยมที่สี่ (0.0001) หรือตำแหน่งที่สอง (0.01) สำหรับคู่สกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับเงินเยนของญี่ปุ่น


2. ฉันต้องมีเงินทุนเท่าไหร่ในการเริ่มต้น?

โบรกเกอร์หลายแห่งอนุญาตให้เปิดบัญชีด้วยวงเงินเพียง 50–100 ปอนด์ อย่างไรก็ตาม การเริ่มต้นด้วยวงเงินสำรองที่มากขึ้น เช่น 500–1,000 ปอนด์ จะให้ความยืดหยุ่นและตัวเลือกในการบริหารความเสี่ยงที่มากขึ้น


3. ฟอเร็กซ์แตกต่างจากการซื้อขายหุ้นอย่างไร?

ตลาดฟอเร็กซ์เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ในขณะที่ตลาดหุ้นมีเวลาซื้อขายที่แน่นอน ตลาดฟอเร็กซ์ซื้อขายเป็นคู่สกุลเงิน โดยซื้อสกุลเงินหนึ่งและขายอีกสกุลเงินหนึ่งเสมอ ต่างจากหุ้นที่ซื้อขายสินทรัพย์เดี่ยวๆ


4. ฉันจะจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร?

ใช้จุดตัดขาดทุน จำกัดเลเวอเรจ กระจายความเสี่ยงในการเทรด และอย่าเสี่ยงเงินทุนเกินกว่าส่วนเล็กน้อยในสถานะเดียว แผนการเทรดและบันทึกการเทรดสามารถช่วยรักษาวินัยได้


บทสรุป


Forex นั้นน่าตื่นเต้นแต่ก็ท้าทาย ขนาดและการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องของตลาดดึงดูดเทรดเดอร์หลายล้านคน แต่กำไรก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สำคัญ ผู้เริ่มต้นจะประสบความสำเร็จได้ด้วยการศึกษา การฝึกฝน และวินัย โดยการเรียนรู้พื้นฐาน การเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ และการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็น (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
เครื่องมือ forex ที่เทรดเดอร์ควรรู้
Forex คืออะไร ประวัติและวิวัฒนาการที่เข้าใจง่ายใน 5 นาที
การเทรดเงินตราต่างประเทศคืออะไร? เรียนรู้พื้นฐาน Forex วันนี้
คำจำกัดความและความสำคัญของผู้ทำตลาด
เจาะลึก PFF ETF ตัวช่วยสร้างรายได้ปันผลอย่างมั่นคง