2025-09-03
ในโลกการเงินระหว่างประเทศ สกุลเงินที่ใช้มากที่สุดในโลก มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจและตลาดทุนทั่วโลก ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ และความผันผวนในตลาดทุนได้อย่างชัดเจน บทความนี้จึงขอเปิดลิสต์ 5 อันดับสกุลเงินที่ใช้มากที่สุดในโลกว่าจะมีอะไรบ้าง เหตุผลที่ทำให้ได้รับความนิยม รวมถึงเทคนิคและกลยุทธ์ในการเทรด Forex ด้วยสกุลเงินเหล่านี้
ในระบบเศรษฐกิจ สกุลเงินที่ใช้มากที่สุดในโลก มีบทบาทเป็นตัวกลางสำคัญในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ ทั้งยังทำหน้าที่เป็นมาตรวัดมูลค่าและสื่อกลางในการเก็บออม การถือครองสกุลเงินหลักช่วยสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพให้กับทั้งธุรกิจและการลงทุนระหว่างประเทศ
ธนาคารกลางและรัฐบาลใช้สกุลเงินหลักเหล่านี้ในการกำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจ เช่น การปรับอัตราดอกเบี้ย การควบคุมปริมาณเงิน หรือการซื้อขายเงินตราต่างประเทศเพื่อรักษาเสถียรภาพค่าเงิน การเคลื่อนไหวของสกุลเงินหลักจึงมีผลโดยตรงต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ การลงทุน และการตัดสินใจของนักลงทุนทั่วโลก
เป็นเงินสำรองระหว่างประเทศ - สกุลเงินที่ใช้มากที่สุดในโลก มักถูกธนาคารกลางหลายประเทศถือครองเป็นเงินสำรองหลัก เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงิน และสนับสนุนความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
ตัวกลางในการค้าระหว่างประเทศ - สกุลเงินหลักใช้ในการชำระค่าสินค้าและบริการระหว่างประเทศ ตัวอย่างเช่น ดอลลาร์สหรัฐและยูโรเป็นสกุลเงินยอดนิยมในตลาดน้ำมันและสินค้าพลังงาน ทำให้ช่วยอำนวยความสะดวกและลดต้นทุนการแลกเปลี่ยน
สื่อกลางวัดมูลค่าและอัตราแลกเปลี่ยน - การใช้สกุลเงินที่แข็งแกร่งช่วยกำหนดราคาสินค้าโภคภัณฑ์ การลงทุน และสินทรัพย์อื่น ๆ ทำให้ตลาดมีมาตรฐานและโปร่งใสมากขึ้น นักลงทุนสามารถเปรียบเทียบมูลค่าและประเมินความเสี่ยงได้ชัดเจน
ปัจจัยสะท้อนสุขภาพเศรษฐกิจ - การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินหลักสามารถสะท้อนแรงกดดันทางเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นของนักลงทุน และศักยภาพการแข่งขันของประเทศ ทำให้เป็นเครื่องมือวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญ
ก่อนที่จะลงลึกถึงสกุลเงินแต่ละสกุล เราต้องเข้าใจว่าการจัดอันดับ สกุลเงินที่ใช้มากที่สุดในโลก ไม่ได้ขึ้นอยู่เพียงแค่ปริมาณการถือครอง แต่ยังเกี่ยวข้องกับบทบาทในตลาดการค้า การลงทุนระหว่างประเทศ และความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ ต่อไปจึงจะขอเปิด 5 อันดับสกุลเงินหลัก พร้อมวิเคราะห์บทบาท และเหตุผลที่ทำให้สกุลเงินเหล่านี้เป็นที่นิยมในตลาดโลก
ดอลลาร์สหรัฐยังคงเป็นสกุลเงินที่มีบทบาทสูงสุดในตลาดโลก เนื่องจากเป็น เงินสำรองหลักของธนาคารกลางหลายประเทศ และใช้ในการค้าระหว่างประเทศอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน ทองคำ และสินค้าพลังงานอื่น ๆ การถือครอง USD ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินและสร้างเสถียรภาพให้กับพอร์ตการลงทุน
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังเป็นเครื่องมือสำคัญใน การกำหนดนโยบายการเงินระหว่างประเทศ การเคลื่อนไหวของ USD ส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินอื่นและมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนทั้งในตลาดทุนและตลาด Forex ความเชื่อมั่นต่อ USD ยังสะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและเสถียรภาพของเศรษฐกิจสหรัฐ
ยูโรเป็นสกุลเงินหลักของกลุ่มยูโรโซน และถือเป็น เงินสำรองรองลงมาจากดอลลาร์ การใช้งาน EUR ขยายไปยังการชำระค่าสินค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ทำให้สกุลเงินนี้มีบทบาทสำคัญต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของยุโรปและตลาดโลก
ยูโรมีความสำคัญในด้าน การจัดพอร์ตการลงทุนระหว่างประเทศ นักลงทุนและธนาคารกลางมักถือ EUR เพื่อกระจายความเสี่ยงทางภูมิภาค การเปลี่ยนแปลงค่าเงินยูโรสะท้อนทั้งนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคของประเทศสมาชิก ทำให้ EUR เป็นสกุลเงินที่วิเคราะห์เชิงลึกได้หลายมิติ
เยนญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่นักลงทุนมักใช้เป็น safe-haven asset โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดโลกมีความผันผวนสูง นักลงทุนมักถือ JPY เพื่อลดความเสี่ยงและรักษามูลค่าพอร์ตในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ JPY ยังมีบทบาทใน Carry Trade นักลงทุนกู้ยืมเยนด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำแล้วไปลงทุนในสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เชื่อมโยงกับตลาดอัตราดอกเบี้ยและสภาพคล่องโลก การวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของเยนจึงต้องพิจารณาปัจจัยทั้งนโยบายธนาคารกลางญี่ปุ่นและเศรษฐกิจโลกร่วมกัน
ปอนด์อังกฤษยังคงเป็นหนึ่งในสกุลเงินสำคัญในตลาดโลก เนื่องจาก ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจที่มั่นคงและความแข็งแกร่งของตลาดการเงินลอนดอน การถือครอง GBP จึงสร้างความมั่นใจในด้านความเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือในการลงทุนระหว่างประเทศ
GBP ยังมีบทบาทใน การวิเคราะห์นโยบายเศรษฐกิจและการเงินของอังกฤษ นักลงทุนต้องติดตามอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ การเจรจาทางการเมืองระหว่างประเทศ และปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคเพื่อประเมินค่าเงิน การเคลื่อนไหวของปอนด์จึงมักสะท้อนทั้งแรงกดดันทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของตลาด
ดอลลาร์ออสเตรเลียมีบทบาทสำคัญใน ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์และการลงทุนในเอเชีย-แปซิฟิก เนื่องจากออสเตรเลียเป็นผู้ส่งออกวัตถุดิบ เช่น ทองแดง เหล็ก และถ่านหิน การถือครอง AUD มักสัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก
นอกจากนี้ AUD ยังใช้เป็น สกุลเงินทางเลือกในการจัดพอร์ตระหว่างประเทศ นักลงทุนมักใช้ดอลลาร์ออสเตรเลียเพื่อลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง การวิเคราะห์ค่าเงิน AUD จึงต้องพิจารณาปัจจัยทั้งด้านนโยบายการเงิน ธุรกิจการค้า และราคาสินค้าโภคภัณฑ์อย่างละเอียด
ในตลาด Forex การเลือกใช้ สกุลเงินที่ใช้มากที่สุดในโลก สามารถกำหนดกลยุทธ์การเทรดและโอกาสทำกำไรได้อย่างชัดเจน ซึ่งเทคนิคแต่ละแบบ ต่างมีวิธีการและแนวทางบริหารความเสี่ยงเฉพาะตัว ในเนื้อหาต่อไปเราจะเจาะลึกแต่ละกลยุทธ์ พร้อมอธิบายวิธีประยุกต์ใช้สกุลเงินหลักเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดและตัดสินใจทางการเงิน
Carry Trade เป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุนกู้ยืมสกุลเงินที่มี อัตราดอกเบี้ยต่ำ เช่น JPY หรือ CHF และนำไปลงทุนในสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง เช่น AUD หรือ NZD เพื่อสร้างกำไรจากส่วนต่างดอกเบี้ย การใช้สกุลเงินที่ใช้มากที่สุดในโลกช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถลดความเสี่ยงจากความผันผวนและเพิ่มสภาพคล่องในการเปิด-ปิดตำแหน่ง
การวิเคราะห์ Carry Trade ต้องพิจารณาทั้งอัตราดอกเบี้ยระหว่างประเทศ ความผันผวนของค่าเงิน และปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค เช่น GDP, การส่งออก และนโยบายการเงินของธนาคารกลาง การเข้าใจปัจจัยเหล่านี้ช่วยให้นักลงทุนสามารถเลือกคู่สกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดโดยคงความเสี่ยงในระดับที่เหมาะสม
Trend Following เป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุน ติดตามแนวโน้มราคาของสกุลเงินหลัก เช่น USD/EUR หรือ GBP/JPY เพื่อตัดสินใจเปิดหรือปิดตำแหน่งตามทิศทางตลาด การใช้เทคนิคนี้กับสกุลเงินที่มีสภาพคล่องสูงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดสเปรดกว้างและให้ความแม่นยำในการวิเคราะห์ทางเทคนิค
กลยุทธ์นี้ต้องอาศัยตัวชี้วัดเชิงเทคนิค เช่น Moving Average, MACD, และ RSI รวมถึงการวิเคราะห์กราฟราคาในกรอบเวลาต่าง ๆ นักลงทุนต้องประเมินความแข็งแรงของแนวโน้มและปัจจัยพื้นฐานที่มีผลต่อสกุลเงิน เช่น ข่าวเศรษฐกิจและนโยบายการเงิน เพื่อให้สามารถจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Safe-Haven Strategy เป็นการถือครองสกุลเงินที่ มีความปลอดภัยสูง เช่น JPY, CHF หรือ USD ในช่วงที่ตลาดโลกมีความผันผวนสูง นักลงทุนใช้กลยุทธ์นี้เพื่อลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง และรักษามูลค่าพอร์ตการลงทุนให้มั่นคง
การใช้ Safe-Haven Strategy ต้องพิจารณาสภาพเศรษฐกิจโลก ปัจจัยการเมือง และความเชื่อมั่นของนักลงทุน การเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นสำคัญ เช่น S&P 500, Nikkei 225 หรือราคาสินค้าโภคภัณฑ์ สามารถเป็นตัวชี้วัดว่าความต้องการถือครองสกุลเงินปลอดภัยเพิ่มขึ้นหรือลดลง ทำให้นักลงทุนสามารถปรับตำแหน่งเงินลงทุนได้ทันเวลา
Correlation Analysis เป็นการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างสกุลเงินหลักกับ สินทรัพย์อื่น ๆ หรือคู่สกุลเงินอื่น ตัวอย่างเช่น USD กับราคาทองคำ หรือ EUR กับราคาน้ำมัน การเข้าใจความสัมพันธ์เหล่านี้ช่วยให้นักลงทุนสร้างกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสมกับสภาพตลาดและลดความเสี่ยงจากความผันผวน
กลยุทธ์นี้ต้องใช้การวิเคราะห์เชิงสถิติ เช่น ค่า Correlation coefficient ระหว่างสกุลเงินกับสินทรัพย์ต่าง ๆ รวมถึงการประเมินปัจจัยพื้นฐาน เช่น ปริมาณอุปทานและความต้องการของสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงนโยบายการเงินของประเทศที่เกี่ยวข้อง การทำความเข้าใจความสัมพันธ์เหล่านี้ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและบริหารความเสี่ยงได้อย่างแม่นยำ
A: ค่าเงินหลักส่งผลต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ระหว่างประเทศ เช่น USD มีอิทธิพลต่อราคาน้ำมัน ทองคำ และวัตถุดิบอื่น ๆ
A: เพราะสหรัฐมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก ตลาดการเงินที่แข็งแกร่ง และเป็นเงินสำรองหลักของธนาคารกลางหลายประเทศ
A: ความเสี่ยงเกิดจากความผันผวนของค่าเงิน นโยบายธนาคารกลาง ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และปัจจัยการเมืองระหว่างประเทศ
สกุลเงินที่ใช้มากที่สุดในโลก เช่น USD, EUR, JPY, GBP และ AUD ยังคงเป็นตัวชี้วัดสำคัญของเศรษฐกิจโลก การถือครองและใช้งานสกุลเงินเหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของตลาดระหว่างประเทศและธนาคารกลาง การใช้สกุลเงินหลักในการค้าและลงทุนระหว่างประเทศช่วยสร้างเสถียรภาพทางการเงินและลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงิน การเปลี่ยนแปลงค่าเงินหลักยังสะท้อนความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจประเทศเจ้าของสกุลเงินและศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลก
รวมถึงยังมีความเชื่อมโยงกับสินทรัพย์ทางการเงินและสินค้าโภคภัณฑ์ การเคลื่อนไหวของ USD หรือ EUR ส่งผลต่อราคาน้ำมัน ทองคำ และดัชนีหุ้นสำคัญทั่วโลก การเปลี่ยนแปลงค่าเงินหลักสามารถสะท้อนแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และสภาพคล่องในตลาดโลก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคและการจัดพอร์ตของสถาบันการเงิน
การวิเคราะห์แนวโน้มของสกุลเงินดังกล่าวจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการประเมินความเสี่ยงและโอกาสทางเศรษฐกิจ การเคลื่อนไหวของสกุลเงินหลักมักสะท้อนปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค นโยบายธนาคารกลาง และเหตุการณ์ทางการเมืองที่มีผลต่อการค้าระหว่างประเทศ
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ