หุ้นเทคร่วงต่อเนื่อง ทองคำฟื้นไม่สุด นักลงทุนทั่วโลกจับตาพาวเวลล์และท่าทีเฟด ปรับลดดอกเบี้ย หลังกรรมการโหวตเสียงแตกครั้งแรกในรอบ 30 ปี
21 ส.ค. 2025 - ตลาดการเงินโลกเผชิญแรงกดดันต่อเนื่องหลังหุ้นสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ปิดลบ จากแรงขายทำกำไรหุ้นเทคโนโลยีและเซมิคอนดักเตอร์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ขณะที่ราคาทองคำแม้ฟื้นตัวเล็กน้อยจากจุดต่ำสุดรอบ 3 สัปดาห์ แต่ยังไร้แรงหนุนชัดเจน นักลงทุนจึงจับตาบันทึกการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และถ้อยแถลงของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยและการลงทุนระยะถัดไป
ดัชนี S&P 500 ร่วง 0.24% ปิดที่ 6,395.78 จุด ส่วน Nasdaq Composite ลดลง 0.67% ปิดที่ 21,172.86 จุด โดยเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันวันที่ 4 ของ S&P 500 และวันที่ 2 ของ Nasdaq ขณะที่ Dow Jones Industrial Average สวนทางเล็กน้อย เพิ่มขึ้น 16.04 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ 44,938.31 จุด
แรงขายทำกำไรเกิดขึ้นในหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่และหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ โดย Nvidia ปิดลบเล็กน้อย, AMD และ Broadcom ร่วงราว 1%, Palantir ลดลง 1% และ Intel ร่วงหนักกว่า 7% นอกจากนี้ เมกะแคปอย่าง Apple, Amazon, Alphabet และ Meta Platforms ก็ปิดลบทั้งหมด
นักวิเคราะห์ชี้ว่าแรงขายครั้งนี้ไม่น่าแปลกใจ เนื่องจากหุ้นเทควิ่งขึ้นแรงตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา โดยบางตัวบวกมากกว่า 80% จากจุดต่ำสุดเมื่อต้นเดือนเมษายน ขณะที่ปริมาณการซื้อขายในช่วงปลายเดือนสิงหาคมมักเบาบาง ทำให้การแกว่งตัวของตลาดรุนแรงกว่าปัจจัยพื้นฐาน
ฝั่งหุ้นค้าปลีก Target ร่วงแรง 6% หลังรายงานยอดขายลดลงต่อเนื่อง พร้อมประกาศแต่งตั้งซีอีโอคนใหม่ที่จะเริ่มงาน 1 กุมภาพันธ์ปีหน้า ตรงกันข้ามกับ Lowe’s ผู้ค้าปลีกสินค้ารีโนเวทบ้าน ที่ราคาหุ้นขยับขึ้นเล็กน้อยหลังผลประกอบการออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด
บันทึกการประชุมเฟดเดือนกรกฎาคมชี้ว่า เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ยังเห็นว่าการรีบลดดอกเบี้ยเป็นเรื่องก่อนเวลาเกินไป แม้แสดงความกังวลทั้งแรงกดดันเงินเฟ้อและความเสี่ยงต่อการจ้างงาน โดยมีกรรมการ 2 คน ได้แก่ คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ และมิเชล โบว์แมน โหวตค้าน ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1993 ที่มีกรรมการเฟดสองคนโหวตต่างเสียง
ในบันทึกระบุว่า “ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่เห็นว่า ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อมีน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยงด้านการจ้างงาน” แต่ก็มีบางรายมองว่าความเสี่ยงต่อการจ้างงานเป็นประเด็นที่ควรกังวลมากกว่า ข้อมูลดังกล่าวเพิ่มแรงจับตาไปที่ถ้อยแถลงของพาวเวลล์ในวันศุกร์นี้ ซึ่งจะเป็นสัญญาณสำคัญถึงทิศทางดอกเบี้ย
ในตลาดยุโรปช่วงครึ่งแรกวันพุธ ราคาทองคำเคลื่อนไหวในแดนบวกเล็กน้อย หลังจากหลุดลงไปแตะระดับต่ำสุดรอบ 3 สัปดาห์ก่อนหน้า แต่การฟื้นตัวครั้งนี้ยังขาดแรงซื้อชัดเจน และนักลงทุนเลือกชะลอการเข้าซื้อเพื่อรอดูบันทึกประชุมเฟด
หากราคาทองคำหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน (100-day SMA) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ธันวาคม 2024 จะเป็นสัญญาณให้นักลงทุนฝั่งหมีเข้ามากดดันต่อ โดยอาจพาราคาลงต่ำกว่า 3,300 ดอลลาร์ และไปทดสอบแนวรับสำคัญบริเวณ 3,270–3,265 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นกรอบล่างของการเคลื่อนไหวช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
ในทางกลับกัน หากราคาสามารถทะลุแนวต้าน 3,335 ดอลลาร์ และต่อเนื่องไปถึงระดับสูงสุดรายสัปดาห์ที่ 3,358 ดอลลาร์ได้ ก็มีโอกาสเกิดแรงซื้อปิดสถานะขาย (short covering) ดันราคาขึ้นไปทดสอบกรอบ 3,375–3,400 ดอลลาร์ และหากผ่านได้อาจไปถึงโซน 3,434 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นกรอบบนของการเคลื่อนไหวหลายเดือน
แรงหนุนของทองคำยังถูกจำกัดจากดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่า หลังตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐเดือนกรกฎาคมออกมาร้อนแรงที่สุดตั้งแต่ปี 2022 ลดความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่ โดยดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบกว่าหนึ่งสัปดาห์ ส่งผลให้ทองคำถูกกดดันลง
ขณะเดียวกัน ความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพยูเครน–รัสเซียยิ่งลดความน่าสนใจของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย โดยทำเนียบขาวยืนยันว่ามีการเตรียมการประชุมระหว่างประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน และโวโลดีมีร์ เซเลนสกี หลังจากก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นเจ้าภาพหารือร่วมกับผู้นำยูเครน สหภาพยุโรป และอังกฤษ
เซเลนสกีระบุว่าการประชุมดังกล่าวถือเป็น “ก้าวสำคัญ” ในการยุติสงครามที่รุนแรงที่สุดในยุโรปในรอบ 80 ปี ขณะที่ทรัมป์ยืนยันว่าจะไม่ส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าร่วม แต่เปิดทางสนับสนุนทางอากาศเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลง ขณะเดียวกัน รัสเซียยังเดินหน้าโจมตีด้วยโดรนกว่า 270 ลำและขีปนาวุธ 10 ลูก
นักลงทุนทั่วโลกชะลอการเคลื่อนไหว รอทั้งบันทึกการประชุมเฟดและถ้อยแถลงของพาวเวลล์ที่ Jackson Hole ซึ่งคาดว่าจะให้สัญญาณชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ย โดยเครื่องมือ CME FedWatch สะท้อนว่า ตลาดให้น้ำหนักกว่า 80% ที่เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยเดือนกันยายน และอาจลดอีกครั้งในสิ้นปี
ด้านทรัมป์ยังคงกดดันเฟดอย่างหนัก โดยกล่าวหาว่าพาวเวลล์ชะลอการลดดอกเบี้ยมากเกินไปจนทำร้ายตลาดที่อยู่อาศัย พร้อมเรียกร้องให้ปรับลดทันที แต่พาวเวลล์ยังไม่ให้คำมั่นต่อการลดดอกเบี้ยรอบใหม่ ท่ามกลางแรงกดดันทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น
ทั้งตลาดหุ้นและทองคำต่างสะท้อนถึงภาวะไร้ทิศทางชัดเจน นักลงทุนขาดความมั่นใจในการลงทุนระยะสั้น โดยหุ้นเทคถูกเทขายหลังวิ่งแรงหลายเดือน ขณะที่ทองคำแม้ฟื้นตัวแต่ยังติดเพดานจากดอลลาร์แข็งค่าและความคืบหน้าสันติภาพยูเครน
ในระยะใกล้ สายตานักลงทุนทั่วโลกจึงจับจ้องไปที่ถ้อยแถลงของพาวเวลล์ ซึ่งอาจสร้างแรงกระเพื่อมได้ทั้งตลาดทุนและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ หากเฟดส่งสัญญาณ “เข้มงวด” หุ้นเทคและทองอาจเผชิญแรงกดดันรอบใหม่ แต่หากเฟดเปิดโอกาสผ่อนคลายเร็วกว่าคาด ตลาดอาจกลับมาฟื้นตัวพร้อมกันทั้งสองฝั่ง
ท้ายที่สุด ความผันผวนที่เกิดขึ้นในสัปดาห์นี้สะท้อนว่า เฟดคือศูนย์กลางการตัดสินใจลงทุน ไม่ว่าฝั่งเสี่ยง (หุ้นเทค) หรือฝั่งปลอดภัย (ทองคำ) ต่างก็ขึ้นอยู่กับ “น้ำหนักคำพูด” จากเจอโรม พาวเวลล์ ที่จะส่งสัญญาณชี้นำโลกการเงินในพรุ่งนี้
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
หุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ร่วงลง ส่งผลให้ดัชนีร่วงลง เนื่องจากผู้ซื้อขายพยายามป้องกันความผันผวนเพิ่มเติมในภาคส่วนนี้
2025-08-21ทองคำ XAU/USD แนวโน้มอ่อนค่า หลัง Fed เข้มงวด ดอลลาร์แข็งค่า และความหวังสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน
2025-08-21ดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้นในวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ หลังจากที่ทรัมป์โจมตีพาวเวลล่าสุด ซึ่งพาวเวลจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่ Jackson Hole
2025-08-21